สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้เล่ารีวิวการท่องเที่ยวของเราครั้งแรกใน pantip ถ้าขาดตกบกพร่องยังไง ช่วยแนะนำได้เลยนะคะ
พวกเราเป็นคนชอบเที่ยวค่ะ ทั้งไปกับทัวร์และเที่ยวเอง เที่ยวงงๆกันเองมาหลายครั้งแล้ว
แต่ละครั้งก็แพลนทริปเอง หรือคุณแฟนแพลนให้บ้าง ไปกันถูกๆผิดๆ หลงบ้าง สั่งอาหารมาแปลกๆบ้าง แต่ก็สนุกดีค่ะ ไปกันเองชิลๆ
การเดินทางไปไต้หวันครั้งนี้ เริ่มต้นจาก การที่รู้มาจาก อาแปะ ARPAE ว่าตั๋วไปไต้หวันราคาถูก ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่รู้จักประเทศนี้เลย
รู้จักแต่ซีรี่ย์ F4 นานมาแล้ว แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามีอะไรน่าสนใจให้เที่ยวบ้าง
ซึ่งก็พึ่งมารู้ที่หลังว่า ประเทศไต้หวันนี่ต้องใช้วีซ่าด้วยนะ
เซอร์ไพรส์เล็กๆ เพราะปกติเดินทางไปประเทศแถวบ้านเรานี้นึกว่าไม่ต้องใช้กันหมดละ แถมค่าวีซ่าก็ไม่ได้ถูกเท่าไหร่นะคะเนี่ย
อ่ะๆ อย่างน้อยเราก็ว่าตั๋วไม่แพงมากค่ะ
เราเปิดมาเจอข้อมูลการขอวีซ่าที่ดีมาๆจากเวบนี้ค่ะ ซึ่ง update ไว้ดีมากๆ
https://chilljourney.wordpress.com/2014/12/06/taiwanvisadec14/
หรือจะเข้าไปอ่านเวบของสถานทูตไต้หวันเองก็ได้นะคะ แต่เราว่าทาง คุณ chill journey เขียนละเอียดกว่าค่ะ
http://www.taiwanembassy.org/TH/ct.asp?xItem=424412&ctNode=1813&mp=232
เรามาไล่เตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องมีกันเลยนะคะ
1) แบบฟอร์มวีซ่า ที่กรอก ข้อมูล ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งต้องกรอกออนไลน์เท่านั้นนะคะ กดที่ไอคอนบนทางซ้ายได้เลยค่ะ
https://visawebapp.boca.gov.tw
อย่าหาโหลดฟอรม์ pdf มากรอกเองนะคะ เพราะในเวบระบบจะต้องออกรหัส barcode มาในเอกสารให้ค่ะ
ย้ำว่า **ต้องกรอกออนไลน์เท่านั้น*** พอเสร็จแล้วต้องปริ้นออกมาด้วยค่ะ เราปริ้นมาสองชุดเผื่อๆ
อ่านวิธีกรอกอย่างละเอียดได้ที่นี่ค่ะ
https://chilljourney.wordpress.com/2014/12/06/taiwanvisadec14/
2) Passport ตัวจริง ( ถ้ามีเล่มเก่าให้เอาไปด้วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ )
การขอวีซ่าต้องทิ้งเล่มไว้กับเค้า 3-4 วันเพื่อรอแปะวีซ่าในเล่ม ก่อนไปขอก็ต้องดูก่อนนะคะว่าช่วงนั้นเราต้องใช้พาสปอรต์ไหมค่ะ
3) รูปถ่ายสี 2 x 2 นิ้ว (ฉากหลังขาว) จำนวน 2 รูป เท่าที่เราอ่านมาต้องเป็นฉากหลังสีขาวนะคะ
4) สำเนา Passport เซ็นรับรอง
5) สำเนาบัตรประชาชน เซ็นรับรอง
6) สำเนาทะเบียนบ้าน เซ็นรับรอง
7) ใบจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ
เราเลือกจองตั๋วไปในวันที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่จะพอจัดวันลาได้ จองตั๋วตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ปี 57 คือเน้นราคาไว้ก่อนค่ะ
สรุปมาได้สนนราคาคนละ 4,431.50 บาท ราคานี้รวมกระเป๋าแล้ว
เราซื้อแบบขาไป 25 Kg ขากลับ 30 Kg ค่ะ กะว่าช้อบเต็มที่ อิอิ (ตอนนั้นยังไม่ได้หาข้อมูลเลยว่าจะช้อปอะไรเร้ย 555)
เราจองกับ Tiger Air จ่ายบัตรเครดิต ซึ่งพอเราจองเสร็จ เค้าก็จะส่งเอกสารยืนยับ booking reference มาให้
ก็ใช้ตัวนั้นไปยื่นค่ะ เพราะจะมีชื่อpassenger ในเอกสารนั้นมาอยู่แล้ว
8) ใบจองที่พัก ( ปริ้นจาก Agoda , booking ได้เลย ) ซึ่งถ้าเรายังไม่แน่นอนกับแผนการเดินทาง
เราแนะนำให้จองกับเวบที่สามารถยกเลิกได้ก่อนค่ะ จะได้เอาเอกสารมายื่นไว้ก่อน หากจะไม่พักก็ยังเปลี่ยนได้ค่ะ
9) ข้อมูลหลักฐานทางการเงินที่พอเพียงกับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ถ่ายสมุดบัญชีที่อัพเดทล่าสุดก็พอไม่จำเป็นต้องถึงขั้นทำ Statement
- เอกสารรับรองอาชีพ
ถ้าเป็นพนักงานบริษัท > ใบรับรองการเป็นพนักงาน
ถ้าเป็นนักเรียน นักศึกษา > ใบรับรองการเป็นนักเรียนนักศึกษา
ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจ > ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทที่ระบุชื่อผู้ยื่นขอวีซ่า
เราเป็นพนักงานบริษัทก็ใช้หนังสือรับรองค่ะ โดยให้ทางบริษัทออกมาให้เป็นภาษาอังกฤษนะคะ และระบุวันลาที่ตรงกับวันเดินทางของเราค่ะ ส่วนแฟนเราเป็นทำงานอิสระ เล่นหุ้นลงทุน เลยไม่มีเอกสาร ทางพนักงานเลยให้เขียนเอกสารรับรองตรงนั้นเลยค่ะ แบบใช้กระดาษ A4 แล้วก็ยืนเขียนกันตรงนั้นเลยเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อรับรองตัวองว่าทำอาชีพอะไรน่ะค่ะ ทั้งนี้เราเอา statement ของธนาคารไปเผื่อด้วยค่ะ ให้เห็นว่าก็พอมีตังค์นะ ไม่หายแน่ไรงี้ ตอนนั้นมีเงินในแบ๊งค20,000 บาทค่ะ ก็พอๆได้ค่ะ
เขียนกันตรงนี้เรยค่ะ
10) แผนเที่ยวในไต้หวัน ถ้ามี
หลายๆคนเห็นว่า ไม่ยื่นตรงนี้ก็ผ่านนะคะ แต่เราขอชัวร์ดีกว่า เพราะกลัวว่าจะไม่ทัน ถ้าต้องมาขออีกรอบ เพราะเวลาใกล้มากแล้ว
ก็เลยทำมาคร่าวๆค่ะ ลอกๆจากในเน็ตมาค่ะ ทำง่ายๆเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ทำมาใช้ขอวีซ่าโดยเฉพาะ
11) เงินค่าธรรมเนียม Single = 1,500. บาท เราขอไปเที่ยวค่ะ หนเดียวพอก็เลยขอแบบนี้ ถ้าเร่งด่วน ( 2 วันทำการ) Single จะมีราคาเพิ่ม 800 บาทค่ะ
พอเตรียมเอกสารครบแล้ว ก็เดินทางไปขอวีซ่ากันได้เลยค่ะ
สถานที่คือสถานที่ยื่นคือ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป
ที่ชั้น 20 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ 195 ถ.สาทรใต้ กทม. 10120 โทร. 02-670-0200-9
ถ้ามา BTS ก็ลงสถานีช่องนนทรี เดิน Sky Walk ไปทางตึกเอ็มไพร์ตามรูปได้เลยนะคะ
ขอบคุณภาพจาก chilljourney ค่ะ
มาถึงอาคารก็แลกบัตรแล้วขึ้นลิพท์ไปที่ชั้น 20 ค่ะ น่าจะเป็นตรงช่องกลางๆนะคะ
เค้าจะมีป้ายบอกว่าขึ้นลิฟท์ตัวไหนได้ (27,28,31,32) ซึ่งต้องเดินไปข้างหลังอีกนิดค่ะ ป้ายชัดเจนค่ะ
แสงสะท้อนเลยไปม่ชัด ขอโทษด้วยนะคะ
เวลาทำการในการขอยื่นวีซ่า 9.00-11.30 / เวลาทำการในการรับวีซ่า 13.30-15.00
เราแนะนำว่าควรไปแต่เช้านะคะ เพราะแม้ยังไม่เปิดดี แต่จะมีลุงยามที่คอยตรวจเอกสารให้เราและกดบัตรคิวให้เราค่ะ
เราไปถึง 9.30 ก็มีคนมารอเยอะเลยค่ะ ที่นั่งเกือบๆเต็ม
ตรวจกระเป๋าตามปกติ
พอลุงยามช่วยตรวจเอกสารเสร็จว่าเรียบร้อย ก็จะให้บัตรคิวมาค่ะ
คนรอเกือบ 40 คนแล้ว
เราเห็นว่าบางคนลุงยามบอกว่าเอกสารไม่ผ่าน เพราะไม่มี barcode ประมาณว่าน่าะไม่ได้พิมพ์ออนไลน์มาเลยใช้ไม่ได้
ลุงยามก็ออกบัตรคิวให้นะคะ คือให้เวลาไปแก้ไขเอกสาร ซึ่งจะมีศูนย์ที่รับทำอยู่ชั้น 15 ของอาคารนั้นพอดี
สามารถลงลิฟท์ไปได้เลยค่ะ คือมีสำนักงาน stand by ไว้เลยสำหรับที่คนที่เอกสารวีซ่าไต้หวันไม่ผ่าน
เช่น ต้องไปกรอกออนไลน์ ถ่ายรูปใหม่ ถ่ายเอกสาร อะไรแบบนี้ค่ะ ซึงค่าบริการพิมพ์ใบขอวีซ่าออนไลน์อยู่ที่คนละ 300 บาทค่ะ
เราว่าแพงมากๆนะคะ เพราะเค้าก็เอาข้อมูลเราไปกรอกให้นั่นแหล่ะ ทำเองประหยัดกว่ามากๆค่ะ
พอคิวต้องรอนานขนาดนี้ เราก็เลยลงไปหาร้านอาหารทานก่อนค่ะ ที่ชั้นล่างมีร้านเยอะแยะ
เราไปร้าน กับข้าวกับปลาค่ะ ไม่มีคนเลย เพราะคงไปทำงานกันหมดแล้ว
ลงไปประมาณ 40 นาทีก็ขึ้นมาค่ะ กลัวจะเลยคิว
เราต้องไปแลกบัตร visitor มาใหม่ค่ะ ตึกนี้จะให้บัตรมาเป็นแบบใช้ครั้งเดียว พอเราลงผ่านประตูมาชั้นล่าง
บัตรจะกินไปเลยค่ะ ต้องไปแลกขึ้นมาใหม่ พอขึ้นมาก็นั่งรออีกประมาณ 15 นาทีก็ถึงคิวพอดีเลยค่ะ
เราได้ช่องซ้าย เป็นน้องพนักงานคนไทยค่ะ ก็ตรวจเอกสารเรียบร้อยดี ของเราและน้องสาวไม่ติดอะไรค่ะ
มีแต่คุณแฟนที่ต้องเขียนเอกสารรับรองตัวเองเพิ่มตามที่บอกไปค่ะ
พอเรียบร้อยก็จ่ายเงินค่ะ คนละ 1,500บาท พยายามเอาไปพอดีนะคะ เค้าไม่มีทอนค่ะ
จ่ายปุ๊ปก็ได้ใบนัดรับมาค่ะ อีกสามวันหลังจากนี้ เรามาขอวันที่ 20 ก็ได้วันที่ 24 ค่ะ
โดยที่เราให้คนมารับแทนได้โดยที่ไม่ต้อวมอบฉันทะอะไร แค่ให้คนที่มารับเค้าเอาใบนี้มาด้วยค่ะ
การมาขอวีซ่านี้ ถ้าไม่สะดวกมาเอง เราฝากมาทำได้นะคะ ไม่ต้องมาเอง เพียงแต่เตรียมเอกสารมาให้ครบเท่านั้นเอง แล้วระบุในใบขอวีซ่าด้วยว่า ฝากใครมาค่ะ
ง่ายๆค่ะ พอวันมารับก็ได้พาสปอรต์ที่แปะวีซ่ามาข้างในเรียบร้อยพร้อมเดินทางค่ะ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนนักเดินางนะคะ เดี๋ยวจะมารีวิวทริปกันต่อค่ะ
อ่านตอนอื่นๆของทริปไต้หวันได้ที่นี่นะคะ
[CR]หมีอ้วนตื่นสาย รีวิวเที่ยวไต้หวัน 5-10 มี.ค. 58_ตอนที่ 2 : taxi จากสนามบินเถาหยวนเข้าไทเปตอนเที่ยงคืน
http://pantip.com/topic/33459230
[CR]หมีอ้วนตื่นสาย รีวิวเที่ยวไต้หวัน 5-10 มี.ค. 58_ตอนที่ 3 : โรงแรม Diary of Taipei Hotel Wanguo
http://pantip.com/topic/33459576
หมีอ้วนตื่นสาย รีวิวเที่ยวไต้หวัน 5-10 มี.ค. 58_ตอนที่ 1 : ขอวีซ่า
พวกเราเป็นคนชอบเที่ยวค่ะ ทั้งไปกับทัวร์และเที่ยวเอง เที่ยวงงๆกันเองมาหลายครั้งแล้ว
แต่ละครั้งก็แพลนทริปเอง หรือคุณแฟนแพลนให้บ้าง ไปกันถูกๆผิดๆ หลงบ้าง สั่งอาหารมาแปลกๆบ้าง แต่ก็สนุกดีค่ะ ไปกันเองชิลๆ
การเดินทางไปไต้หวันครั้งนี้ เริ่มต้นจาก การที่รู้มาจาก อาแปะ ARPAE ว่าตั๋วไปไต้หวันราคาถูก ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่รู้จักประเทศนี้เลย
รู้จักแต่ซีรี่ย์ F4 นานมาแล้ว แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามีอะไรน่าสนใจให้เที่ยวบ้าง
ซึ่งก็พึ่งมารู้ที่หลังว่า ประเทศไต้หวันนี่ต้องใช้วีซ่าด้วยนะ
เซอร์ไพรส์เล็กๆ เพราะปกติเดินทางไปประเทศแถวบ้านเรานี้นึกว่าไม่ต้องใช้กันหมดละ แถมค่าวีซ่าก็ไม่ได้ถูกเท่าไหร่นะคะเนี่ย
อ่ะๆ อย่างน้อยเราก็ว่าตั๋วไม่แพงมากค่ะ
เราเปิดมาเจอข้อมูลการขอวีซ่าที่ดีมาๆจากเวบนี้ค่ะ ซึ่ง update ไว้ดีมากๆ
https://chilljourney.wordpress.com/2014/12/06/taiwanvisadec14/
หรือจะเข้าไปอ่านเวบของสถานทูตไต้หวันเองก็ได้นะคะ แต่เราว่าทาง คุณ chill journey เขียนละเอียดกว่าค่ะ
http://www.taiwanembassy.org/TH/ct.asp?xItem=424412&ctNode=1813&mp=232
เรามาไล่เตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องมีกันเลยนะคะ
1) แบบฟอร์มวีซ่า ที่กรอก ข้อมูล ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งต้องกรอกออนไลน์เท่านั้นนะคะ กดที่ไอคอนบนทางซ้ายได้เลยค่ะ
https://visawebapp.boca.gov.tw
อย่าหาโหลดฟอรม์ pdf มากรอกเองนะคะ เพราะในเวบระบบจะต้องออกรหัส barcode มาในเอกสารให้ค่ะ
ย้ำว่า **ต้องกรอกออนไลน์เท่านั้น*** พอเสร็จแล้วต้องปริ้นออกมาด้วยค่ะ เราปริ้นมาสองชุดเผื่อๆ
อ่านวิธีกรอกอย่างละเอียดได้ที่นี่ค่ะ https://chilljourney.wordpress.com/2014/12/06/taiwanvisadec14/
2) Passport ตัวจริง ( ถ้ามีเล่มเก่าให้เอาไปด้วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ )
การขอวีซ่าต้องทิ้งเล่มไว้กับเค้า 3-4 วันเพื่อรอแปะวีซ่าในเล่ม ก่อนไปขอก็ต้องดูก่อนนะคะว่าช่วงนั้นเราต้องใช้พาสปอรต์ไหมค่ะ
3) รูปถ่ายสี 2 x 2 นิ้ว (ฉากหลังขาว) จำนวน 2 รูป เท่าที่เราอ่านมาต้องเป็นฉากหลังสีขาวนะคะ
4) สำเนา Passport เซ็นรับรอง
5) สำเนาบัตรประชาชน เซ็นรับรอง
6) สำเนาทะเบียนบ้าน เซ็นรับรอง
7) ใบจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ
เราเลือกจองตั๋วไปในวันที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่จะพอจัดวันลาได้ จองตั๋วตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ปี 57 คือเน้นราคาไว้ก่อนค่ะ
สรุปมาได้สนนราคาคนละ 4,431.50 บาท ราคานี้รวมกระเป๋าแล้ว
เราซื้อแบบขาไป 25 Kg ขากลับ 30 Kg ค่ะ กะว่าช้อบเต็มที่ อิอิ (ตอนนั้นยังไม่ได้หาข้อมูลเลยว่าจะช้อปอะไรเร้ย 555)
เราจองกับ Tiger Air จ่ายบัตรเครดิต ซึ่งพอเราจองเสร็จ เค้าก็จะส่งเอกสารยืนยับ booking reference มาให้
ก็ใช้ตัวนั้นไปยื่นค่ะ เพราะจะมีชื่อpassenger ในเอกสารนั้นมาอยู่แล้ว
8) ใบจองที่พัก ( ปริ้นจาก Agoda , booking ได้เลย ) ซึ่งถ้าเรายังไม่แน่นอนกับแผนการเดินทาง
เราแนะนำให้จองกับเวบที่สามารถยกเลิกได้ก่อนค่ะ จะได้เอาเอกสารมายื่นไว้ก่อน หากจะไม่พักก็ยังเปลี่ยนได้ค่ะ
9) ข้อมูลหลักฐานทางการเงินที่พอเพียงกับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ถ่ายสมุดบัญชีที่อัพเดทล่าสุดก็พอไม่จำเป็นต้องถึงขั้นทำ Statement
- เอกสารรับรองอาชีพ
ถ้าเป็นพนักงานบริษัท > ใบรับรองการเป็นพนักงาน
ถ้าเป็นนักเรียน นักศึกษา > ใบรับรองการเป็นนักเรียนนักศึกษา
ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจ > ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทที่ระบุชื่อผู้ยื่นขอวีซ่า
เราเป็นพนักงานบริษัทก็ใช้หนังสือรับรองค่ะ โดยให้ทางบริษัทออกมาให้เป็นภาษาอังกฤษนะคะ และระบุวันลาที่ตรงกับวันเดินทางของเราค่ะ ส่วนแฟนเราเป็นทำงานอิสระ เล่นหุ้นลงทุน เลยไม่มีเอกสาร ทางพนักงานเลยให้เขียนเอกสารรับรองตรงนั้นเลยค่ะ แบบใช้กระดาษ A4 แล้วก็ยืนเขียนกันตรงนั้นเลยเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อรับรองตัวองว่าทำอาชีพอะไรน่ะค่ะ ทั้งนี้เราเอา statement ของธนาคารไปเผื่อด้วยค่ะ ให้เห็นว่าก็พอมีตังค์นะ ไม่หายแน่ไรงี้ ตอนนั้นมีเงินในแบ๊งค20,000 บาทค่ะ ก็พอๆได้ค่ะ
เขียนกันตรงนี้เรยค่ะ
10) แผนเที่ยวในไต้หวัน ถ้ามี
หลายๆคนเห็นว่า ไม่ยื่นตรงนี้ก็ผ่านนะคะ แต่เราขอชัวร์ดีกว่า เพราะกลัวว่าจะไม่ทัน ถ้าต้องมาขออีกรอบ เพราะเวลาใกล้มากแล้ว
ก็เลยทำมาคร่าวๆค่ะ ลอกๆจากในเน็ตมาค่ะ ทำง่ายๆเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ทำมาใช้ขอวีซ่าโดยเฉพาะ
11) เงินค่าธรรมเนียม Single = 1,500. บาท เราขอไปเที่ยวค่ะ หนเดียวพอก็เลยขอแบบนี้ ถ้าเร่งด่วน ( 2 วันทำการ) Single จะมีราคาเพิ่ม 800 บาทค่ะ
พอเตรียมเอกสารครบแล้ว ก็เดินทางไปขอวีซ่ากันได้เลยค่ะ
สถานที่คือสถานที่ยื่นคือ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป
ที่ชั้น 20 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ 195 ถ.สาทรใต้ กทม. 10120 โทร. 02-670-0200-9
ถ้ามา BTS ก็ลงสถานีช่องนนทรี เดิน Sky Walk ไปทางตึกเอ็มไพร์ตามรูปได้เลยนะคะ
ขอบคุณภาพจาก chilljourney ค่ะ
มาถึงอาคารก็แลกบัตรแล้วขึ้นลิพท์ไปที่ชั้น 20 ค่ะ น่าจะเป็นตรงช่องกลางๆนะคะ
เค้าจะมีป้ายบอกว่าขึ้นลิฟท์ตัวไหนได้ (27,28,31,32) ซึ่งต้องเดินไปข้างหลังอีกนิดค่ะ ป้ายชัดเจนค่ะ
แสงสะท้อนเลยไปม่ชัด ขอโทษด้วยนะคะ
เวลาทำการในการขอยื่นวีซ่า 9.00-11.30 / เวลาทำการในการรับวีซ่า 13.30-15.00
เราแนะนำว่าควรไปแต่เช้านะคะ เพราะแม้ยังไม่เปิดดี แต่จะมีลุงยามที่คอยตรวจเอกสารให้เราและกดบัตรคิวให้เราค่ะ
เราไปถึง 9.30 ก็มีคนมารอเยอะเลยค่ะ ที่นั่งเกือบๆเต็ม
ตรวจกระเป๋าตามปกติ
พอลุงยามช่วยตรวจเอกสารเสร็จว่าเรียบร้อย ก็จะให้บัตรคิวมาค่ะ
คนรอเกือบ 40 คนแล้ว
เราเห็นว่าบางคนลุงยามบอกว่าเอกสารไม่ผ่าน เพราะไม่มี barcode ประมาณว่าน่าะไม่ได้พิมพ์ออนไลน์มาเลยใช้ไม่ได้
ลุงยามก็ออกบัตรคิวให้นะคะ คือให้เวลาไปแก้ไขเอกสาร ซึ่งจะมีศูนย์ที่รับทำอยู่ชั้น 15 ของอาคารนั้นพอดี
สามารถลงลิฟท์ไปได้เลยค่ะ คือมีสำนักงาน stand by ไว้เลยสำหรับที่คนที่เอกสารวีซ่าไต้หวันไม่ผ่าน
เช่น ต้องไปกรอกออนไลน์ ถ่ายรูปใหม่ ถ่ายเอกสาร อะไรแบบนี้ค่ะ ซึงค่าบริการพิมพ์ใบขอวีซ่าออนไลน์อยู่ที่คนละ 300 บาทค่ะ
เราว่าแพงมากๆนะคะ เพราะเค้าก็เอาข้อมูลเราไปกรอกให้นั่นแหล่ะ ทำเองประหยัดกว่ามากๆค่ะ
พอคิวต้องรอนานขนาดนี้ เราก็เลยลงไปหาร้านอาหารทานก่อนค่ะ ที่ชั้นล่างมีร้านเยอะแยะ
เราไปร้าน กับข้าวกับปลาค่ะ ไม่มีคนเลย เพราะคงไปทำงานกันหมดแล้ว
ลงไปประมาณ 40 นาทีก็ขึ้นมาค่ะ กลัวจะเลยคิว
เราต้องไปแลกบัตร visitor มาใหม่ค่ะ ตึกนี้จะให้บัตรมาเป็นแบบใช้ครั้งเดียว พอเราลงผ่านประตูมาชั้นล่าง
บัตรจะกินไปเลยค่ะ ต้องไปแลกขึ้นมาใหม่ พอขึ้นมาก็นั่งรออีกประมาณ 15 นาทีก็ถึงคิวพอดีเลยค่ะ
เราได้ช่องซ้าย เป็นน้องพนักงานคนไทยค่ะ ก็ตรวจเอกสารเรียบร้อยดี ของเราและน้องสาวไม่ติดอะไรค่ะ
มีแต่คุณแฟนที่ต้องเขียนเอกสารรับรองตัวเองเพิ่มตามที่บอกไปค่ะ
พอเรียบร้อยก็จ่ายเงินค่ะ คนละ 1,500บาท พยายามเอาไปพอดีนะคะ เค้าไม่มีทอนค่ะ
จ่ายปุ๊ปก็ได้ใบนัดรับมาค่ะ อีกสามวันหลังจากนี้ เรามาขอวันที่ 20 ก็ได้วันที่ 24 ค่ะ
โดยที่เราให้คนมารับแทนได้โดยที่ไม่ต้อวมอบฉันทะอะไร แค่ให้คนที่มารับเค้าเอาใบนี้มาด้วยค่ะ
การมาขอวีซ่านี้ ถ้าไม่สะดวกมาเอง เราฝากมาทำได้นะคะ ไม่ต้องมาเอง เพียงแต่เตรียมเอกสารมาให้ครบเท่านั้นเอง แล้วระบุในใบขอวีซ่าด้วยว่า ฝากใครมาค่ะ
ง่ายๆค่ะ พอวันมารับก็ได้พาสปอรต์ที่แปะวีซ่ามาข้างในเรียบร้อยพร้อมเดินทางค่ะ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนนักเดินางนะคะ เดี๋ยวจะมารีวิวทริปกันต่อค่ะ
อ่านตอนอื่นๆของทริปไต้หวันได้ที่นี่นะคะ
[CR]หมีอ้วนตื่นสาย รีวิวเที่ยวไต้หวัน 5-10 มี.ค. 58_ตอนที่ 2 : taxi จากสนามบินเถาหยวนเข้าไทเปตอนเที่ยงคืน
http://pantip.com/topic/33459230
[CR]หมีอ้วนตื่นสาย รีวิวเที่ยวไต้หวัน 5-10 มี.ค. 58_ตอนที่ 3 : โรงแรม Diary of Taipei Hotel Wanguo
http://pantip.com/topic/33459576