[บทความผีแดง 2015-03-15] เปรียบเทียบความเหมือนและต่างระหว่างมอยส์กับ LVG & จุดยืนของผมเกี่ยวกับแมนฯยูและ LVG

ปกติบทความผีแดง จะเป็นบทความที่ผมได้จากแหล่ง website ต่างๆ โดยจะมีตอนท้ายว่าให้เครติต web ไหนบ้าง  แต่ครั้งนี้ได้มาจากความเห็นของผมเอง


เมื่อแพ้ : มอยส์ บอกว่าลิเวอร์พูลเป็นทีมที่ดีกว่าเรา  เมื่อโดนซิตี้เริ่มแสดงว่าได้ถล่มแมนฯยูเละ มอยส์ก็นั่งก้มหน้าข้างสนาม ไม่มีการแก้เกมหรือแสดงความรู้สึกอื่น

LVG นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ผู้จัดการมองตรงมาที่สนามจนหมดเวลา ไม่ว่าชนะหรือแพ้ ก็เป็นอย่างเดียวกัน คือแทบไม่เคยออกมากระตุ้นนักเตะที่ข้างสนาม (จำได้ว่ามีออกมาครั้งเดียว)


Rotation : มอยส์เปลี่ยนนักเตะทุกครั้งหลังจากที่ทีมชนะ ‘Never Change the Winning Team’ ไม่ใช่ concept ของเขา

LVG rotation ทั้งระบบทั้งนักเตะ เริ่มระบบด้วย 5-3-2 มาเป็น 4-4-2 แบบไดอามอนด์ แล้วก็มาเป็น 4-2-3-1 จนถึงปัจจุบัน  
ส่วนนักเตะ 11 ตัวจริงแทบไม่มีนัดต่อไปที่ LVG จะไม่เปลี่ยนนักเตะอย่างน้อยคนหนึ่ง ทั้งที่นักเตะก็หายจากอาการบาดเจ็บมาเกือบหมดตั้งแต่ต้นมกรามาแล้ว
ซึ่งผม comment ว่าเป็น Mr.Rotaion แทบไม่ต่างอะไรจากราฟา  การจัดตัวนักเตะแต่นัดก็ตามฟอร์มนัดก่อนและการซ้อมล่าสุด ส่งไปคลุกๆ กับระบบที่คิดว่าดีที่สุดในตอนนั้น

หมายเหตุ : คุณกระบี่ฯ เคยบอกว่า ทำให้ผู้จัดการคนใหม่ต้องใช้เวลา 2-3 ปีในการทำให้ระบบและความสามารถของนักเตะลงตัว (ส่วน comment ผม จะยกเว้นได้ ด้วยการทุ่มซื้อนักเตะระดับ 150 ล้านปอนด์อีกระลอก)

นอกจากนั้น LVG ยังจัดตัวนักเตะไม่เข้ากับความถนัด เอาคาริกไปเป็นเซ็นเตอร์ทั้งที่แก่ตัวและช้าลงมาก จับรูนีย์เป็นกองกลาง  เออร์ไรร่าโดนดร๊อปนาน  ใช้เฟไลนี่ทั้งที่เป็นเทรนเนอร์ภาคพื้นยุโรปที่ควรจะใช้มาต้ามากกว่า (คือใช้ส่งเฟไลนี่เป็นตัวพลิกเกมยามคับขัน)
ให้ดิมาเรียเล่นเป็นกองหน้า ทั้งที่เขาเป็น play maker หรือปีกมาตลอด  หรือยืนยันให้คงเล่นเป็นปีกขวา ทั้งที่ด้วยการถนัดเท้าซ้าย น่าจะโยกข้างบ้าง เพื่อเปลี่ยนแผนและทำให้คู่แข่งสับสน
copept ‘Put the Right Man at the Right Job’ ที่ผมเรียนเป็นวิชาพิเศษตั้งแต่ปี 3 ที่ถือเป็นมาตรฐานในการบริหารคน ไม่เคยอยู่ในหัว LVG


ปรัญชาในการทำทีม : มอยส์ไม่มี ปรัชญาที่ชัดเจน

LVG : เน้นความสมดุลย์ ยอมรับว่าระบบหลัง 4 ชนะมากกว่าหลัง 5 แต่ไม่อยากลุ้นจนต้อง ‘เกร็งขมิบก้น’ และระบบหลัง 5 สมดุลย์กว่า แต่ตอนนี้ก็ใช้หลัง 4 มาระยะใหญ่ๆ แล้ว คิดว่าตอนนี้แกคงเกร็งก้นน่าดู


การแก้เกม : เมื่อนำ มอยส์จะให้ลูกทีมกลับมาตั้งรับทันที  ส่วนเมื่อตามหลัง กลับไม่มีแนวทางที่แน่นอน เรียกได้ว่าถ้าถูกนำไป แทบจะผูกปีแพ้ได้เลย

เมื่อนำ LVG จะมีการเปลี่ยนตัวกองหลังเพื่อถ่วงเวลาหรือกลางรับเพื่อรักษา ‘สมดุลย์’  ส่วนเมื่อตามหลัง LVG จะส่งเฟไลนี่หรือถ้ามีในสนามแล้ว ก็จะสั่งให้ลูกทีมบอมม์ใส่ให้เฟไลนี่โหม่งชง  ซึ่งตอนนี้ใช้ไม่ได้ผลแล้วกับทีมที่มีอันดับเป็นเลขตัวเดียว


โชค : มอยส์ไม่ค่อยมีโชคเท่าไหร่

แต่ LVG แม้หลายเกมจะเล่นได้ย่ำแย่ แต่ก็ชนะได้จากลูกพิเศษของนักเตะหลายๆ คน  แต่เชื่อว่า กับ Top ทีมที่จะเจอกันใน 33 วันอันตราย ไม่น่าจะเกิดปาฏิหาริย์ได้อีก  อ้อ LVG ดีกว่ามอยส์อยู่บ้างที่ได้เดเกอาซุปเปอร์เซฟช่วยทีมมีสกอร์นับครั้งไม่ถ้วน


ฝีปาก : มอยส์ ไม่ค่อยต่อล้อต่อถียงกับผู้จัดการทีมคู่แข่ง

LVG : ทะเลาะแม้กับแซม อัลคาไดซ์เรื่องโดนกล่าวหาว่าเป็นบอลโยน จนสโคลส์ต้องมาเบรคว่า ไม่ใช่ระดับลิเวอร์พูล, เชลซี, แมนฯซิ ไม่จำเป็นต้องต่อปากต่อคำ จึงเงียบไปได้
ต้นฤดูกาลบอกว่าจะทำทีมเป็นแชมป์ แต่นักเตะบาดเจ็บมาก ไม่ว่ากัน  
แต่ต้นธันวา พอนักเตะหายเจ็บมาเกือบหมด ก็บอกว่า ทีมจะได้แชมป์ EPL
หลังจากนั้นไม่นาน บอกว่าต้องชิงอันดับไป UCL จนถึงนัดท้ายๆ  เมื่อชนะ FA Cup รอบ 32 ทีมสุดท้าย ก็บอกว่าทีมจะได้แชมป์ FA Cup  แต่พอจับฉลากเจออาร์เซน่อล ก็บอกว่า ได้ไป UCL สำคัญกว่า  
สุดท้าย เมื่อวานซืนมาบอกว่า ทีมมีโอกาสเป็นอันดับ 2 แต่เมื่อวานกลับมาบอกว่า ได้ Top 4 แน่ๆ
(คาดว่าในสัญญามีแบบทำกับมอยส์ คือ ถ้าไม่ได้ไป UCL จะถูกไล่ออกด้วยราคาถูกๆ)


ประสบการณ์และผลงานในอดีต : มอยส์นอกจากจะเป็นสก๊อตต์เหมือนเฟอร์กี้แล้ว เขาไม่เคยได้รางวัลใหญ่ไปครองเลย  ผู้จัดการยอดเยี่ยม LMA Manager of the Year 1 ครั้งและได้เป็น EPL Manager of the Month 2-3 ครั้ง

แต่มอยส์เป็นผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันใน EPL มายาวนาน มีประสบการณ์ในการซื้อตัวนักเตะมานับสิบปี ไม่เหมือน LVG ที่เป็นเทรนเนอร์แนวภาคพื้นยุโรป ที่แจ้งนักเตะที่ต้องการ ให้ผู้อำนวยการกีฬาดินเรื่องซื้อนักเตะ เมื่อมีเอ็ดทำหน้าที่นี้ (ประสบการณ์น้อยกว่ากิลล์มาก) การซื้อขายนักเตะก็จะเป็นไปอย่างมีปัญหาทีเดียว

LVG : ที่อาแจ็คส์ (ลีกดัทช์) LVG ได้แชมป์ลีก 3 สมัย ถ้วย KNVP 1 สมัย, UCL แชมป์ 1 สมัย, ยูฟ่าคัพ 1 สมัย, ยูฟ่าซุปเปอร์คัพอีก 1 สมัย
กับบาซ่าสามารถทำให้เป็นแชมป์ลาลีกาในปีแรกที่คุมทีม รวมเป็นแชมป์ลีก 2 สมัย โคปาเดอเรย์อีก 1 สมัย  UEFA Super Cup 1 สมัย แต่ก็มีปัญหาเมื่อ LVG บอกว่าเขาไม่สามารถ implement ปรัญชาของเขาได้ เพราะความแตกต่างทางวัฒนธรรม (แหมเมื่อไหร่จะพูดอย่างนี้กับแมนฯยูนะ)

หลังจากนั้น เขาก็ไปคุมทีมชาติฮอลแลนด์ แต่พาทีมเข้ารอบสุดท้ายบอลโลกไม่ได้

ผ่านไประยะหนึ่ง LVG ได้ไปคุมบาเยิร์นในปี 2009 หลังจากต้นฤดูกาล ที่ย่ำแย่ เขาพาทีมได้แชมป์บุนเดสลีกาในปีแรกที่เข้าคุมทีม ได้แชมป์ถ้วย DFB โพคาลอีก 1 สมัย ก่อนจะคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ได้อันดับ 3 ในบอลโลก 2014

หมายเหตุ : ถึง LVG จะประสบความสำเร็จกับอาเจ็คส์และบาเยิร์นในเวลาสั้นๆ แต่ต้องไม่ลืมว่า ลีกเหล่านี้มีคู่แข่งแย่งแชมป์เพียง 2 ทีม ไม่เหมือน EPL ที่มีคู่แข่งแย่งแชมป์ถึง 3-4 ทีม


การได้รับความสนับสนุนจากเฟอร์กี้ : เป็นที่ทราบดีว่า มอยส์เป็น The Choosen One และเซอร์อเล็กซ์ก็ออกมาปกป้องตลอด
LVG :  เพิ่งได้รับคำพูดสนับสนุนจากเฟอร์กี้เมื่อต้นเดือนมีนา … คาดว่าชะตากรรมคงไม่ต่างจากมอยส์

===========================================================================================

มาถึงสิ่งที่ผมอยากบอกพวกเราทุกคนเกี่ยวกับทัศนะคติของผมที่มีต่อ แมนฯยูไนเต็ด และ LVG

1. ผมเชียร์แมนฯยูไปตลอดกาลแน่ๆ แต่จะเชียร์ผู้จัดการทีมหรือไม่ นั่นต้องดูแนวทางในการทำทีมของเขา

2. ผมเชียร์สปิริตของทีมมากกว่าผลงานของทีม (มาก) ที่ผมเชียร์แมนฯยูตั้งแต่ปี 1985 เพราะใน FA Cup นัดชิงกับเอฟเวอร์ตัน แม้เควิน มอแรนจะโดนไล่ออก แต่การที่ทีมวิ่งสู้ฟัดและเอาชนะได้จากลูกยิงของนอร์แมน ไวท์ไซด์ในช่วงต่อเวลา ทำให้ผมถือว่า characteristics never say die คือ สปิริตของทีมที่สู้ไม่ท้อถอยจนกว่านกหวีดจะเป่าหมดเวลา

3. ถึงผมจะเริ่มเชียร์ทีมแค่ปี 1985 (ผมเริ่มดูบอลช้ากว่าเพื่อนๆ) แต่ก็ได้ศึกษาประวัติของทีม ได้ซื้อ DVD และดู clip ของนักเตะในอดีต รวมถึงการกอบกู้ทีมจากเซอร์แมทหลังโศกนาฤกรรมเมืองมิวนิค ทำให้ทราบว่า ปรัชญาของทีม ตั้งแต่ยุค 50 คือ never say die นี่แหล่ะ

4. edit เพิ่มเติม - ผมเชื่อว่า ผมทนทานต่อการที่ทีมไม่ประสบความสำเร็จได้มากกว่าหลายๆ คน  เพราะตั้งแต่ปี 1985 ต้องรอจนถึงปี 1990  5 ปีกว่าเฟอร์กี้จะทำทีมได้แชมป์เอฟเอคัพ (ระหว่างนั้น ผลงานทีมก็มีได้อันดับเลข 2 ตัวหลายต่อหลายครั้ง)
ดังนั้น ผมเป็นห่วงพวกเราที่เป็นคนรุ่นใหม่มากกว่า ที่ส่วนใหญ่ไม่เคยผ่านการที่ทีม 'ค่อนข้างล้มเหลว' มายาวถึง 2 ปีแล้ว

5. ดังนั้น สำหรับมอยส์และ LVG ที่กลัวความพ่ายแพ้  ไม่เคยกระตุ้นนักเตะให้เล่นจนถึงกรรมการเป่านกหวีด (ซึ่งอาจจะนานกว่าหมดเวลา)  ผมจึงไม่ปลื้มอย่างแรง  นอกจากนั้น จากการเปลี่ยนคำพูดกลับไปกลับมาเป็นว่าเล่น ทำให้ผม ‘ไว้สามารถวางใจให้เขาเป็นผู้จัดการทีมแมนฯยูอีกต่อไป’

6. สุดท้ายขอเปรียบเทียบ ถ้ามูริญโญ่มาคุมทีม ด้วยระบบรถบัส 2 ชั้น ผมก็ไม่ปลื้ม แต่ก็อาจจะเชียร์ตามหน้าที่ แม้จะการันตี ว่าทีมจะประสบความสำเร็จค่อนข้างแน่  
แต่ถ้าคนคุมทีมเป็นเจอร์เก้น คล๊อปป์ ที่มีสไตล์คล้ายเฟอร์กี้ ที่ให้ทีมเล่นเกมรุกเป็นหลัก ตะลุยอย่างเมามัน  ถึงทีมจะตกไปดิ้นรนท้ายตาราง ผมก็จะเชียร์จนสุดใจ


สุดท้าย หวังว่าเพื่อนๆ คงเข้าใจผมมากขึ้นนะครับ และในกระทู้สนทนาผีแดงหลังแมทช์ ก็สามารถแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เช่นเดิม แม้จะมองไม่เหมือนกัน ผมก็ยินดีสนทนากันด้วยเหตุด้วยผลครับ

ส่วนที่ไม่ตอบท่านใด ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะไม่อยากหาเรื่องทะเลาะด้วย ต้องนับ 1-10 ก่อนหาเหตุผลมาตอบ และถ้าคิดว่าตอบไปแล้ว จะทำให้เกิดข้อวิวาท ผมก็ขอสงวนปากคำนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่