วันนี้จะพาไปดูบรรยากาศในเมือง Venice กันนะครับ เผื่อใครอยากจะมากัน(ค่าเงิน Euro กำลังตก)
แต่จะเป็นบรรยากาศแบบขาวดำครับ อาจจะแปลกตากันซักหน่อย
ทริปนี้ผมไปมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เลยอาจจะไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมากนะครับเพราะส่วนใหญ่ก็ลืมไปบ้างแล้ว
แต่ถ้ามีอะไรอยากสอบถาม ก็ลองถามไว้ได้นะครับ จะพยายามตอบให้ครับผม
ผมออกเดินทางจาก Milan ไป Venice โดยใช้รถไฟ จะใช้เวลาเดือนทางประมาณ 2ชั่วโมงครึ่งไม่ค่อยนานมากครับ
ส่วนการเดินทางในตัวเมือง Venice เองจะเน้นหลักไปที่การใช้เรือ และเดินครับ (ส่วนใหญ่จะเป็นการเดิน)
ตั๋วเรือที่ผมใช้เป็นตั๋วที่สามารถใช้ได้ทั้งวัน หาซื้อไม่ยากเลยคับแค่โผล่ออกมาจากสถานีรถไฟเดินไปตรงท่าเรือ(คนเยอะมากไม่หลงแน่นอน)ก็จะเจอบริเวณขายตั๋วครับ สำหรับคนที่ไม่มีแผนที่แนะนำให้ซื้อแผนที่ไว้ด้วยนะครับ จะได้ไปเที่ยวได้ทั่วๆ
ปล.สิ่งที่ต้องเตรียมไปสำหรับคนที่จะไปอิตาลีในช่วงฤดูร้อนแบบผมนะครับ
1) ครีมกันแดด
2) แว่นกันแดด
3) ร่มกันแดด(สำหรับคนที่กลัวดำมากๆ)
4) อะไรก้ได้ที่มีคำว่ากันแดดครับ ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
5) มีพัดลมพกพา จะพกไปด้วยก็ได้นะครับ ผมว่าได้ใช้แน่ๆ
โอเคครับ ลองไปดูบรรยากาศรอบๆกันนะครับ ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มีแต่น้ำจริงๆ
แม้แต่การขนกระเป๋าของนักท่องเที่ยว ก็ยังใช้เรือครับ
มีเรือดำน้ำด้วย
สัญลักษณ์ของ Venice ต้องเป็นเรือ Gondola สินะครับ
ส่วนตัวผมไม่ได้ขึ้นครับ เพราะราคาค่อนข้างสูง คงไม่เหมาะกับนักศึกษาแบบผมเท่าไหร่
แต่ถ้าใครมีทุนทรัพย์เพียงพอ ก็ลองไปนั่งกันดูนะครับ บางลำคนพายจะร้องเพลงให้ฟังด้วย (แล้วแต่โชคนะครับ)
ปล. ถ้าจองออนไลน์อาจจะได้ถูกกว่าซักหน่อยนะครับ ราคาที่เห็นใน internet มีตั้งแต่ 29-50Euro
อันนี้เป็นท่าขึ้นเรือ Gondola คับ ผมถามราคาตรงนี้ตอนแรกเค้าว่า 60 Euro แต่คุยไปคุยมาก็ได้ 50 Euro แต่ก็ยังไม่ไหวอยู่ดีครับ แหะๆ
เรือ Gondola จะมีให้เห็นตลอดการเดินใน Venice ครับ เรียกได้ว่าเยอะพอกับวินมอเตอร์ไชต์ที่บ้านเราเลย
ส่วนของกินก็นี่เลยครับ
ใครจะมากินข้าวหรือซื้อของ ต้องดูราคาตอนสั่งและตอนเรียกเก็บเงินกันดีๆหน่อยนะครับ เพราะอย่างจานนี้
ในเมนูเขียนว่า 14Euro แต่พอคิดเงินมาราคา 41Euro
ผมคิดว่าแปลกๆเลยต้องไปคุยหน่อย ทางร้านบอกว่าเขียนบิลผิด
ซึ่งน่าแปลกนะครับ คนอื่นได้บิลที่ปริ้นออกจากเครื่อง ส่วนผมได้เป็นบิลเขียนมือ
ส่วนซื้อของฝากอย่ารีบซื้อตั้งแต่ร้านแรกนะครับ เดินดูหลายๆร้าน เดินให้ทั่วๆเลย เพราะมีร้านของฝากเกือบทุกซอกทุกมุม
จะยกตัวอย่างง่ายๆที่เจอครับ
ร้านแรก 6ชิ้น 5Euro ผ่านไปเจอร้านอื่นจำนวนชิ้นค่อยๆเพิ่มขึ้น
ร้านสุดท้าย 10ชิ้น 5Euro แบบว่า...... ก็ตามนั้นครับ ยังไงก็ไม่ได้กินเงินผมอยู่ดี 555
ก็ประมาณนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะมาลงรูปเพิ่มให้ดูอีก
[CR] Venice ที่ไร้สี
แต่จะเป็นบรรยากาศแบบขาวดำครับ อาจจะแปลกตากันซักหน่อย
ทริปนี้ผมไปมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เลยอาจจะไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมากนะครับเพราะส่วนใหญ่ก็ลืมไปบ้างแล้ว
แต่ถ้ามีอะไรอยากสอบถาม ก็ลองถามไว้ได้นะครับ จะพยายามตอบให้ครับผม
ผมออกเดินทางจาก Milan ไป Venice โดยใช้รถไฟ จะใช้เวลาเดือนทางประมาณ 2ชั่วโมงครึ่งไม่ค่อยนานมากครับ
ส่วนการเดินทางในตัวเมือง Venice เองจะเน้นหลักไปที่การใช้เรือ และเดินครับ (ส่วนใหญ่จะเป็นการเดิน)
ตั๋วเรือที่ผมใช้เป็นตั๋วที่สามารถใช้ได้ทั้งวัน หาซื้อไม่ยากเลยคับแค่โผล่ออกมาจากสถานีรถไฟเดินไปตรงท่าเรือ(คนเยอะมากไม่หลงแน่นอน)ก็จะเจอบริเวณขายตั๋วครับ สำหรับคนที่ไม่มีแผนที่แนะนำให้ซื้อแผนที่ไว้ด้วยนะครับ จะได้ไปเที่ยวได้ทั่วๆ
ปล.สิ่งที่ต้องเตรียมไปสำหรับคนที่จะไปอิตาลีในช่วงฤดูร้อนแบบผมนะครับ
1) ครีมกันแดด
2) แว่นกันแดด
3) ร่มกันแดด(สำหรับคนที่กลัวดำมากๆ)
4) อะไรก้ได้ที่มีคำว่ากันแดดครับ ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
5) มีพัดลมพกพา จะพกไปด้วยก็ได้นะครับ ผมว่าได้ใช้แน่ๆ
โอเคครับ ลองไปดูบรรยากาศรอบๆกันนะครับ ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มีแต่น้ำจริงๆ
แม้แต่การขนกระเป๋าของนักท่องเที่ยว ก็ยังใช้เรือครับ
มีเรือดำน้ำด้วย
สัญลักษณ์ของ Venice ต้องเป็นเรือ Gondola สินะครับ
ส่วนตัวผมไม่ได้ขึ้นครับ เพราะราคาค่อนข้างสูง คงไม่เหมาะกับนักศึกษาแบบผมเท่าไหร่
แต่ถ้าใครมีทุนทรัพย์เพียงพอ ก็ลองไปนั่งกันดูนะครับ บางลำคนพายจะร้องเพลงให้ฟังด้วย (แล้วแต่โชคนะครับ)
ปล. ถ้าจองออนไลน์อาจจะได้ถูกกว่าซักหน่อยนะครับ ราคาที่เห็นใน internet มีตั้งแต่ 29-50Euro
อันนี้เป็นท่าขึ้นเรือ Gondola คับ ผมถามราคาตรงนี้ตอนแรกเค้าว่า 60 Euro แต่คุยไปคุยมาก็ได้ 50 Euro แต่ก็ยังไม่ไหวอยู่ดีครับ แหะๆ
เรือ Gondola จะมีให้เห็นตลอดการเดินใน Venice ครับ เรียกได้ว่าเยอะพอกับวินมอเตอร์ไชต์ที่บ้านเราเลย
ส่วนของกินก็นี่เลยครับ
ใครจะมากินข้าวหรือซื้อของ ต้องดูราคาตอนสั่งและตอนเรียกเก็บเงินกันดีๆหน่อยนะครับ เพราะอย่างจานนี้
ในเมนูเขียนว่า 14Euro แต่พอคิดเงินมาราคา 41Euro
ผมคิดว่าแปลกๆเลยต้องไปคุยหน่อย ทางร้านบอกว่าเขียนบิลผิด
ซึ่งน่าแปลกนะครับ คนอื่นได้บิลที่ปริ้นออกจากเครื่อง ส่วนผมได้เป็นบิลเขียนมือ
ส่วนซื้อของฝากอย่ารีบซื้อตั้งแต่ร้านแรกนะครับ เดินดูหลายๆร้าน เดินให้ทั่วๆเลย เพราะมีร้านของฝากเกือบทุกซอกทุกมุม
จะยกตัวอย่างง่ายๆที่เจอครับ
ร้านแรก 6ชิ้น 5Euro ผ่านไปเจอร้านอื่นจำนวนชิ้นค่อยๆเพิ่มขึ้น
ร้านสุดท้าย 10ชิ้น 5Euro แบบว่า...... ก็ตามนั้นครับ ยังไงก็ไม่ได้กินเงินผมอยู่ดี 555
ก็ประมาณนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะมาลงรูปเพิ่มให้ดูอีก