สวัสดีคะ เราชื่อบิวนะคะ อยากจะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวสอบ TOPIK ไม่รู้จะมีใครอ่านหรืออยากรู้รึเปล่า แต่เราอยากจะลองเล่าให้เพื่อนๆที่อยากลองสอบดู 5555

คือเรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นคนที่ชอบนักร้องเกาหลีมากมาตั้งแต่ ม.ต้น 55555 วันนึงช่วงก่อนปิดเทอมขึ้น ม.5 เรากับเพื่อนก็เลยคุยกันว่า เออแบบ เฮ้ย! อยากเรียนภาษาเกาหลีไรงี้อ่ะ อยากจะฟังเพลงให้ออก ฟังซีรีย์ให้รู้เรื่อง ก็เลยตัดสินใจกันสมัครเรียนภาษาเกาหลีช่วงปิดเทอมไปกับโรงเรียนกวดวิชาแห่งนึงในชลบุรีแถวๆตึกน้ำ โดยเราเรียนวันละ 2 ชั่วโมง ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ สำหรับหนังสือเรียนเราใช้ของมหาลัยยอนเซ ถึงแม้จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งเล่ม แต่สอนเข้าใจง่ายมากคะ รูปหนังสือข้างล่างเลยคะ

ก่อนอื่นเราขอแบ่งช่วงเวลาการเรียนของเราออกเป็น 2 ส่วนก่อนนะคะ
              
                  1. 60 ชั่วโมงแรก เรียนเกี่ยวกับอักษร ตัวเลข คำศัพท์ ไวทยากรณ์ วัฒนธรรม ฯลฯ
                  2. 20 ชั่วโมงหลัง ติวข้อสอบโทปิดระดับต้น 10 ชั่วโมง เรียนการแปล(เพลง)อีก 10 ชั่วโมง

ก่อนอื่นเลยเราตั้งใจไว้ก่อนเลยว่าใน 60 ชั่วโมงเราต้องพูดได้ ยังไงก็ต้องพูดให้ได้! เราปรับวงจรชีวิตของเราให้อยู่กับภาษาเกาหลีให้มากที่สุด ตั้งแต่ตื่นเช้า ยันเข้านอน เราปรับทุกอย่างในไอโฟนให้เป็นภาษาเกาหลี แปะโพสอิทคำศัพท์ไว้รอบห้อง เวลาคุยกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันเราจะพยายามคุยแต่ภาษาเกาหลี อะไรไม่รู้เรื่องค่อยคุยกันเป็นภาษาไทย แล้วค่อยคุยกันเป็นภาษาเกาหลีต่อ (ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เรื่อง 5555) พยายามอ่านข่าวสั้นๆในเว็บ Naver ของเกาหลี นอกจากนี้เวลากลับมาถึงบ้าน เราจะแบ่งเวลาอ่านหนังสือทบทวน อ่านนิทานของเด็กเกาหลี ฯลฯ อีกมากมาย

ซึ่งก่อนที่เราจะเริ่มเรียนนั้น เราลองฝึกอ่านตัวอักษรเกาหลีคร่าวๆไปก่อน ซึ่งตัวอักษรของเกาหลีหรือฮันกึลนั้นไม่ยากคะ เพราะมีไม่เยอะ พยัญชนะแค่ 19 ตัวเอง มีสระอีกแค่ 21 ตัวเอง วันเดียวเราก็จำได้แล้วคะ ในช่วงแรกที่เรียนสนุกมากคะ เพราะไม่ยาก แต่พอเริ่มเข้าสู่บทเรียนแล้วมึนมากคะ เพราะเราต้องเรียนการผันกริยา ซึ่งมีทั้งรูปอดีต ปัจจุบัน อนาคต แถมยังมีแบ่งระดับความสุภาพอีกมากมาย เยอะมากกกกกก (ก.ไก่อีกพันตัว 55555) ไหนจะต้องเรียนผันไวทยากรณ์ ซึ่งไวทยากรณ์ส่วนใหญ่ก็ผันไม่เหมือนกันอีก แต่พอผ่านความยากของจุดนี้มาได้ เราก็จะเริ่มสนุกกับมันแล้วละคะ

พอหลังจากที่เราเรียนจบ 60 ชั่วโมงสำหรับการเรียนในหนังสือแล้ว เราก็จะมาลุยเตรียมสอบ TOPIK กันเลยคะ! สำหรับข้อสอบ TOPIK แบบใหม่นี้ ได้ปรับเปลี่ยนใหม่แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ

                    TOPIK 1 แบ่งออกเป็น 2 ระดับคือ ระดับ 1 และ 2
                                 มีทั้งหมด 70 ข้อแบ่งออกเป็น 2 พาทคือ พาทการฟัง 30 ข้อ และพาทการอ่าน 40 ข้อ รวมทั้งหมด 200 คะแนน
                    TOPIK 2 แบ่งออกเป็น 4 ระดับคือ ระดับ 3 4 5 และ 6
                                 มีทั้งหมด 104 ข้อแบ่งออกเป็น 3 พาทคือ พาทการฟัง 50 ข้อ พาทการอ่าน 50 ข้อ และพาทการเขียน 4 ข้อ  
                                 (ให้เลือกทำแค่ 2    ข้อ) ทั้งหมด 300 คะแนน                      

โดยเราเลือกสอบ TOPIK 1 ไป เพราะความรู้มีแค่นี้คะ 555555 เนื่องจาก TOPIK ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอบใหม่ตอนปี 2014 ทำให้มีข้อสอบแบบใหม่ให้เราได้ลองฝึกทำเพียงแค่ 2 ชุดเท่านั้น โดยใน 20 ชั่วโมงหลังที่เราเริ่มติวข้อสอบ TOPIK นั้นเราติวกับพาทการอ่านไป 4 ชั่วโมง และติวกับพาทการฟังอีก 6 ชั่วโมง ในช่วงที่ติวพาทการฟัง คุณครูให้ซีดีเรามาลองฟังคนเกาหลีคุยกันหลายร้อยประโยคมาก ให้เราฟังแล้วแปลมาให้ได้มากที่สุด ฟังกันจนเอียนกันเลยทีเดียว 555555 หลังจากที่ติวตัวเนื้อหาข้อสอบ TOPIK จบไปคุณครูเลยหาเพลงเกาหลีมาให้เราลองแปลดูเป็น 10 เพลงเลย เพราะว่าในพาทการอ่านนั้นจะมีข้อสอบการอ่านบทความให้เราแปลอยู่ด้วย อย่างน้อยๆพอเราได้ลองแปลเพลง เลยทำให้เราคล่องกับการแปลมากขึ้น แถมได้ศัพท์ใหม่อีกเพียบเลย ขออนุญาตแทรกลิ้งค์รวมข้อสอบ TOPIK ให้สำหรับคนที่ต้องการลองทำข้อสอบเก่าๆนะคะ

http://www.topikguide.com/previous-papers

พอถึงวันสอบจริงเราไม่ต้องเตรียมปากกา ลิควิดไปนะคะ เพราะที่โรงเรียนเค้าจะมีปากกาเฉพาะไว้ให้ใช้คะ แค่เตรียมตัวกับใจและความรู้ไปให้มากที่สุดก็พอ 555555 แล้วมุ่งหน้าสู่โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพเกาหลี สำหรับพาทการฟัง เนื่องจากเรากับเพื่อนนั่งใกล้ลำโพงเลยได้ยินชัดมากคะ ตั้งสติดีๆ ข้อไหนไม่ได้ คิดไม่ออก ช่างมันไปเลยคะ ถ้าเรามัวกังวลอยู่กับมัน เราจะฟังข้ออื่นๆไม่รู้เรื่องเลยคะ แต่พาทการอ่านนี้ง่ายคะ ช่วงแรกๆก็จะมีพวกคำศัพท์มาแล้วถามว่าอะไรไม่เข้าพวก ช่วงข้อแรกๆตั้งสติแล้วรีบทำเลยคะ เพราะข้อหลังๆจะเป็นบทความให้เราอ่านจะเสียเวลามาก

สำหรับคะแนนสอบของเรา เราก็พอใจอยู่นะคะ เพราะใน 80 ชั่วโมงที่เสียเงินเรียนไป เราตั้งใจที่สุดแล้ว ได้คะแนนพาทการฟัง 84/100 ส่วนพาทการอ่านได้ 78/100 ผ่านระดับ 2 สำหรับปีนี้เราว่าจะฟิตไปสอบอีกครั้งให้คะแนนดีกว่าเดิม ใครจะไปสอบปีนี้เจอกันในสนามสอบนะคะ 5555555

ขอบคุณทุกคนที่อ่านมานะคะ หวังว่าจะแนวทางให้คนอยากเรียนภาษาเกาหลีบ้าง เอาโอป้ากับอนนี่เป็นแรงบันดาลใจนี่แหละคะ เป็นแรงฮึดให้เราเรียนขยันเรียนขยันทบทวน กล้าเข้าไว้คะ เจอคนเกาหลีมาเที่ยวแล้วมีปัญหาก็พุ่งไปช่วยเหลือเค้าเลย เพียงแค่เราตั้งใจอะไรก็ไม่อยากเกินความสามารถหรอกคะ มีอะไรสงสัยถามเราได้นะคะ สู้ๆคะ!