ขอบฟ้าไกล ใครว่าไปไม่ถึง : ตอน Galapagos, Ecuador ตอนที่ 2

ความตอนเดิม http://pantip.com/topic/33261698

           วันนี้เราตัดสินใจขี่จักรยานเล่นอยู่รอบเกาะ เพื่อสำรวจพื้นที่บนเกาะประเภทว่าอยากรู้อยากเห็นชนิดที่ว่าคราวหน้ามาแล้วจะไม่หลง แต่ฉันว่ายังไงก็หลง ก็แผนที่มีชื่อถนน แต่ที่ถนนไม่มีป้ายบอกชื่อถนนนิน๊า หรือว่ายังหาไม่เจอนะ. แต่ป้ายนะไม่ใช่เหรียญบาทจะได้ต้องคอยมองหาตามพื้นอ่ะ. เอาเถอะยังไงเราก็อาศัยแผนที่ไปตามที่ต่างๆได้อยู่ดีนั่นแหละ เพราะหมอพูดสเปนได้บ้าง ยังไง Key Word มาครบ ไม่อด ไม่หลงนาน
           ก่อนจะออกเดินทาง เราต้องศึกษาการใช้จักรยานก่อนเลย จักรยานที่เราเช่ามันมี 3 เกียร์หน้า 8 เกียร์หลัง  จริงๆแล้วไม่ต้องปรับเกียร์ก็ขี่ได้นะ แต่ตอนขึ้นเนินต้องเข็นเอา ซึ่งเนินที่นี่ก็เยอะมาก ระหว่างเข็นกับเรียนรู้การใช้จักรยาน เราเลือกที่จะเรียนรู้ อากู๋ช่วยได้ พออ่านและทดลองใช้แล้ว ขอบอกว่าง่ายมาก ขึ้นที่สูงใช้เฟืองหน้าวงเล็ก อยากขี่เร็วไม่เหนื่อยใช้เฟืองหลังวงเล็ก แต่อย่างใช้ประเภทเฟืองหน้าเล็กสุด เฟืองหลังใหญ่สุด เพราะโซ่มันจะบิดก็เท่านั้นเอง แค่นี้ก็ไม่ต้องมีจักรยานเป็นภาระแล้ว
           เราเริ่มออกเดินทางค่อนข้างสาย เราต้องการแสงแดดเพื่อถ่ายภาพ ระหว่างทางเราพบสัตว์จรจัดอีกแล้ว. โอ้!! เยอะมาก มันอยู่ตามริมฟุตบาตถนนใกล้ชายหาด รวมทั้งว่ายน้ำและนอนอาบแดดกับคนตามชายหาดด้วย  มันคือ อีกัวน่า หรือบ้านเราเรียกแบบบ้านๆว่าเซี้ยก็คงจะได้ มันน่าจะสายพันธุ์เดียวกัน หรือจะเปรียบเป็นกิ่งก่ายักษ์ดีนะ อันนี้แล้วแต่จินตนาการละกัน คือความรู้ด้านสายพันธุ์สัตว์ของฉัน ช่างต่ำต้อย อีกัวน่า มันมีหนังดูแหลมๆโผล่ขึ้นกลางหลัง ส่วนจะแหลมจริงรึเปล่า ขอเสียสละไม่พิสูจน์นะ เกรงใจมัน  ปากมันแหลมๆ น่าจะมีฟันที่แหลมคม ยังยืนยันตามเดิมว่าไม่ทดลองว่าจริงมั้ย
ขี่ไปอีกสักพัก ก็เจอท่านอีกัวน่าเฝ้าลูกระนาดอยู่ริมถนน เราผู้มาเยือนต้องรู้จักเจียมตัว ขี่หลบไปซะ รู้บ้างใครใหญ่ ค่ะท่าน ท่านอีกัวน่าใหญ่ค่ะ  
เราเห็นทางเข้าเล็กๆ มีรอยคนเดินและรอยจักรยาน ฉันกับหมอก็มองหน้ากัน แล้วตัดสินใจว่า รูนี้น่าสน มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย พอเข้าไปเราก็พบ... ชายหาด โธ่!!!  เกือบตื่นเต้น  แต่สิ่งที่เรายังเจออยู่ คือท่านเจ้าบ้านอีกัวน่า ท่านๆ กำลังว่ายน้ำ และนอนอาบแดดอยู่ รวมกับแขกผู้มาเยือนอย่างเราๆ ออกแนวต่างคนต่างว่าย ต่างคนต่างนอน เราแค่อาศัยชายหาดเดียวกัน สรุปมันดุมั้ยเนี่ย เราเสียเวลาแถวนั้นอยู่พักหนึ่ง ถ่ายรูปอีกัวน่าว่ายน้ำและอาบแดด


           เสร็จภาระกิจอีกัวน่า เราก็ออกตามหาเต่าทะเล  จากที่เห็นรูปในห้องนอนตัวมันใหญ่ม๊ากกกกกก  พอเห็นป้ายทางไปดูเต่าทะเล ฉันกำลังจะขี่จักรยานเข้าไป หมอก็บอกว่า
          “พี่หิวน้ำ ไปซื้อน้ำกันเถอะ”
          “ได้ ไปๆ”
          เราขี่ย้อนกลับมาตามหาร้านขายน้ำ เราก็ยังพบท่านอีกัวน่าผู้เฝ้าลูกระนาดนอนอยู่กลางถนน คราวนี้ไม่เฝ้าริมถนนละ อ้าว ทุกคนหลบท่าน
ถึงร้านขายน้ำ หมอก็ซื้อน้ำ 3 ขวด ขวดละ 1 USD สรุปขวดละ 33 บาท แพงนรก! แต่ก็ซื้อ เสร็จจากการตามหาน้ำ เราก็ตามหาเต่าต่อ
ในที่สุดเราก็เจอทางเข้า แต่ห้ามขี่จักรยานอ่ะ มันต้องเดิน เราก็เลยเอาจักรยานล็อคไว้กับป้ายห้ามซะเลย ก็แถวนั้นมีแต่เสาห้ามหนิ ไม่มีเสาอื่นให้เลือกเลย เราเดินไปค่อนข้างช้า เพราะเราจะค่อยๆมองหานกเพื่อถ่ายรูปกัน เจอหลายตัวอยู่ ถ่ายนกตอนเล่นน้ำบ้าง ตอนเกาะอยู่บนกิ่งไม้บ้าง และที่ชอบสุดคือตอนมันหงายท้องเกาะดอกของต้นตะบองเพชรเพื่อดื่มน้ำจากดอกไม้

          เดินเข้าไปเรื่อยๆในที่สุด เราก็เจอเต่า พอเห็นปุ๊บ หมอกับฉันหันมามองหน้ากันและคิดตรงกันเลยว่า ตัวเท่านี้ ไปดูตามวัดบ้านเราก็ได้เพียบ รู้สึกผิดหวัง  แต่เราก็เดินต่อไปและแล้ว  และแล้ว  เราก็ได้เห็นเต่ายักษ์  ตัวมันใหญ่มากขนาดเอาหมอไปนอนขดบนตัวมันได้เลย ใหญ่สุดยอด ถ้าตัวฉันคงจะไปนั่งพับเพียบบนตัวมันพอดี แต่กระดองมันคงแตก หรือไม่เข่ามันคงทรุดเดินไม่ไหว 55555  ชอบมากเจ้าเต่าเอ๋ย

           ดูเต่าและถ่ายรูปจนหน่ำใจ เราก็ขี่จักรยานเข้าเมือง ด้วยความชอบกินไอติมจนฝังรากลึกเข้าไปในจิตใจของหมอ หมอก็ตะโกนเรียกฉันทันที
          “พี่เบญตรงนี้มีร้านไอติม นั่งกินได้ด้วย” นั่นไงข้าวไม่กิน วันๆกินแต่ไอติม
ไอติมร้านนี้ขายเป็นออนซ์ ออนซ์ละ 15 เซนต์ จะใส่อะไรก็ได้ มันไม่ใช่ไอติมตักนะ มันเป็นไอติมที่ไหลมาจากท่อ ให้นึกถึงไอติมในKFC หรือแดรี่ควีนนะ แบบเดียวกัน  มีหลายรสให้เลือก อร่อยดีเหมือนกินโยเกิร์ต เรานั่งกินและโม้กันอยู่ 1 ชม เราก็ขี่ไปเจอร้านขายของชำขนาดใหญ่ เราซื้อของกินไม่เยอะมาก  แต่หมดเงินเยอะมาก อะไรมันจะแพงขนาด ที่จ่ายออกไปเงินนะ ไม่ใช่เศษกระดาษ เงินมันปลิวออกจากกระเป๋าเร็วจริงๆ ตกใจอ่ะ สิ้นวันละ พระอาทิตย์ตกดิน เราก็ขี่จักรยานกลับที่พัก ส่วนล็อบเตอร์รอก่อนนะ  ยังไม่ลืม ฉันยังไม่ลืม

          ตื่นเช้ามาฉันกับหมอต่างคน ต่างทำกับข้าวกินกันเอง ส่วนนัทยังหลับอยู่ พอกินข้าวเสร็จภาระกิจที่เรายังไม่ลืมคือตามหาล๊อบสเตอร์ ฉันลงไปถามทางจากเจ้าของ Hostel ว่าจะซื้อได้ที่ไหน
           ในที่สุดเราก็ขี่จักรยานไปตามแผนที่ จนถึงสะพานปลา จริงๆแล้วมันเหมือนแผงในตลาดสด และมีอยู่แผงเดียวติดริมทะเล พอเรือประมงลำน้อย (มันลำสักขนาด Speed Boat 20-25 ที่นั่งได้) มาจอดเทียบ เค้าก็จะทยอยเอาปลาใส่กล่องแล้วส่งให้เจ้าของแผง แต่ถ้าตัวใหญ่เค้าจะยกขึ้นทีละตัว มันยัดใส่กล่องไม่ได้
          สิ่งที่น่าสนใจจริงๆไม่ใช่เรือลำน้อย แต่เป็น.....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่