ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทย และไม่ได้หวังให้คุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯในครั้งแรก แต่ได้มีโอกาสติดตามการบริหารราชการแผ่นดินของคุณยิ่งลักษณ์ ผมกลับเป็นคนอีกคนหนึ่ง ที่เชื่อว่า คุณยิ่งลักษณ์คนของพรรคการเมืองที่ผมเคยมีความเห็นตรงข้ามนั้น ไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา และไม่ควรมีการลงโทษด้วยกฎหมายอาญา หรือกฎหมายใดๆ
เพราะหากคุณยิ่งลักษณ์กระทำผิดจริง ก็เป็นเพียงการทำผิดที่ไม่สามารถบริหารนโยบายที่ได้รับฉันทานุมัติมาจากประชาชนมาจากการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพ จึงควรเป็นหน้าที่ของประชาชน ที่จะลงโทษเธอ ผ่านกระบวนการการเลือกตั้งหากเห็นว่าเธอผิด
ด้วยความเคารพในรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และไม่คิดจะละเมิดกฎหมายกฎกิตกาของบ้านเมืองที่มีใช้อยู่ทุกฉบับ รวมไปถึงคำสั่งคสช ฉบับต่างๆและกฎกติกาของบอร์ดพันทิพ ผมขออนุญาตให้ความเห็นโดยสุจริต ต่อเรื่องที่กำลังดำเนินไป คือที่มีพยายามจะฟ้องร้องคุณยิ่งลักษณ์ ดังนี้
ความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวนั้นมี 2 ส่วน
ส่วนที่หนึ่ง เสียหายจากการกระทำทุจริตของโรงสีและเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้กระทำต้องรับผิดทางอาญา อันได้แก่ การขึ้นทะเบียนพื้นที่ปลูกข้าวมากเกินความเป็นจริง การแจ้งผลผลิตข้าวเกินความเป็นจริง การขายสิทธิใบรับรองเกษตรกรให้โรงสี โกงคุณภาพข้าวเปลือก โกงความชื้น หรือที่กล่าวหาว่า โกงขายข้าว จีทูจี บังหน้า เป็นต้น
ส่วนที่สอง จากการที่รัฐบาลคาดการณ์ตลาดผิดพลาด ให้ราคาจำนำสูง แต่ไม่สามารถขายข้าวที่รับจำนำมาให้ได้ราคาที่คุ้มและไม่ขาดทุน และยังมีภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าว ค่าเสื่อมราคาของข้าวที่ถูกเก็บไว้ ซึ่งตรงส่วนที่สองนี้ประชาชนจะต้องเป็นผู้ลงโทษ แต่ตรงนี้มันไม่ใช่ความผิดอาญาที่การยุติธรรมจะเข้ามาลงโทษได้
ความเสียหายส่วนที่หนึ่ง
ตรงนี้มีคนไม่เชื่อมากครับ ดังนั้น หากมีหลักฐานที่ชัดเจน ว่าคุณยิ่งลักษณ์ไปสั่งการให้โรงสีใดกระทำการโกง คุณยิ่งลักษณ์ไปมีส่วนได้เสียในการนั้นอย่างไร คุณยิ่งลักษณ์ไปสั่งการให้เจ้าหน้าที่คนไหน ชื่ออะไร ตำแหน่งอะไรโกง ต้องแถลงระบุมาให้ชัด จึงจะเป็นธรรมทั้งต่อคุณยิ่งลักษณ์และต่อประชาชน
มีการพยายามตั้งข้อกล่าวหาว่า คุณยิ่งลักษณ์ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหาย ก็อยากให้ปปช.ชี้แจงต่อประชาชนให้ชัดว่า ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตรงไหนอย่างไรครับ ที่กล่าวหาว่า โกงขายข้าว จีทูจี บังหน้า โดยอ้างว่านายกฯ เป็นประธานนโยบายข้าวแห่งชาติต้องรู้เรื่องทุจริตนี้ แล้วกรรมการคนอื่นในคณะนี้มีใครรู้บ้าง
เพราะหากเขาจะโกงเขาก็ต้องปกปิดไว้ไม่ให้นายกฯหรือกรรมการคนอื่นรู้อยู่ดี มีหลักฐานตรงไหนว่าตัวนายกฯรู้แล้ว จะอาศัยเพียงความเชื่อของปปช.ว่าเชื่อว่าตัวนายกฯต้องรู้ เพียงแค่นี้จะมาเอาผิดทางอาญาคงไม่ได้ และทำไมปปช.จึงไม่ฟ้องตัวรัฐมนตรีให้ศาลพิพากษาว่ามีความผิดมีการกระทำผิดเสียก่อน แล้วค่อยมาดำเนินการฟ้องตัวนายกฯ หากวันหนึ่งข้างหน้า ฟ้องตัวรัฐมนตรีแล้วศาลพิพากษาว่ารัฐมนตรีไม่ผิดเพราะหลักฐานอ่อน แล้วแบบนี้ก็เท่ากับว่าตัวนายกฯไม่เคยละเว้นปฏิบัติหน้าที่สิครับ
กรณีรัฐมนตรีทุจริตในอดีต
ในอดีต นายรักเกียรติ สุขธนะ เมื่อปี พ.ศ. 2541 ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยาและมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ จนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑/๒๕๔๖ ในปี พ.ศ. 2546 ให้จำคุกและยึดทรัพย์ เท่ากับว่าได้ทำการทุจริต ทำไมนายกฯชวนไม่ต้องรับผิดในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่
รัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์โดยพิพากษาทุจริต จำคุก นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นคือ ก็ไม่มีการลงโทษคุณชวน นายกรัฐมนตรีในเวลานั้นในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่
แต่เวลานี้ศาลยังไม่พิพากษาให้รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ทุจริตแม้แต่สักคนเดียว แม้แต่รัฐมนตรีพาณิชย์ที่ถูกกล่าวหาเรื่องโกงขายข้าว จีทูจี บังหน้าก็ยังไม่มีการฟ้องร้อง หากจะมาลงโทษคุณยิ่งลักษณ์ข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่เสียแล้ว
ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนเข้าใจได้ยากเหลือเกิน
บทสรุป
ดังนั้น ประชาชนธรรมดาอย่างพวกเราก็คงไม่สามารถจะคิดอะไรที่มันแปลกพิสดาร ผิดปกติเหนือธรรมดามากไปกว่าเหตุผลอันเป็นธรรมดาที่มนุษย์ทั่วไปควรจะใช้กันได้ ก็คงได้แต่อยู่ในความสงบ และแสดงออกอย่างสันติตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในความเห็นของผม หากมีการเร่งรัดเรื่องนี้ให้เสร็จอย่างรวดเร็ว หรือตัดสินกันก่อนจะมีการยกเลิกกฎอัยการศึก ก็อยากขอร้องให้ผู้เกี่ยวข้อง ช่วยพิจารณาพิทักษ์รักษาศักดิ์ศรีของผู้ที่เราเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์ ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นการแสดงออกอย่างสงบและสันติอย่างแท้จริง และเป็นไปตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ไม่ว่าจะเป็นจดหมายเหตุ หรือแม้กระทั่งการก่อสร้างอนุสรณ์รำลึกถึงเรื่องนี้ในเวลาที่ยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว ดำเนินการโดยใช้ชื่อว่า “อนุสาวรีย์แห่งความเชื่อและความสงบ” ที่สร้างด้วยความเชื่อศรัทธาของประชาชน ให้แก่ผู้ที่ต้องรับเคราะห์กรรมจากเหตุต่างๆ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ที่ได้กระทำการไปด้วยความเชื่อมั่นในความดี ในระบอบประชาธิปไตย ในเสรีของประชาชนนั้นเอง เพื่อพยุงรักษาศักดิ์ศรีและความดีของบุคคลเหล่านั้น มิให้ต้องหมองลงด้วยเคราะห์กรรมที่ได้กระหนำซัดเข้ามา
ก็ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์คงไม่ดำเนินไปถึงขั้นที่ว่าประชาชนต้องออกมาอย่างสงบเพื่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งความเชื่อและความสงบด้วยกำลังของประชาชนเองครับ
ปล.
1. หวังว่าการนำเสนออย่างสงบและสันติเช่นนี้คงไม่ผิดกฎเกณท์ของห้องราชดำเนินนะครับ
2. ขออภัยที่เรื่องอาจจะยังดูห่างไกลข้อสรุปของคดี เพียงแต่หวั่นว่าจะมีการดำเนินการที่รวดเร็ว และออกมาซ้ำรอยกับกรณีเดิมๆที่เคยมีออกมา
۞۞-۞۞ ::: อนุสาวรีย์แห่งความเชื่อและความสงบ ::: ۞۞-۞۞
เพราะหากคุณยิ่งลักษณ์กระทำผิดจริง ก็เป็นเพียงการทำผิดที่ไม่สามารถบริหารนโยบายที่ได้รับฉันทานุมัติมาจากประชาชนมาจากการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพ จึงควรเป็นหน้าที่ของประชาชน ที่จะลงโทษเธอ ผ่านกระบวนการการเลือกตั้งหากเห็นว่าเธอผิด
ด้วยความเคารพในรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และไม่คิดจะละเมิดกฎหมายกฎกิตกาของบ้านเมืองที่มีใช้อยู่ทุกฉบับ รวมไปถึงคำสั่งคสช ฉบับต่างๆและกฎกติกาของบอร์ดพันทิพ ผมขออนุญาตให้ความเห็นโดยสุจริต ต่อเรื่องที่กำลังดำเนินไป คือที่มีพยายามจะฟ้องร้องคุณยิ่งลักษณ์ ดังนี้
ความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวนั้นมี 2 ส่วน
ส่วนที่หนึ่ง เสียหายจากการกระทำทุจริตของโรงสีและเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้กระทำต้องรับผิดทางอาญา อันได้แก่ การขึ้นทะเบียนพื้นที่ปลูกข้าวมากเกินความเป็นจริง การแจ้งผลผลิตข้าวเกินความเป็นจริง การขายสิทธิใบรับรองเกษตรกรให้โรงสี โกงคุณภาพข้าวเปลือก โกงความชื้น หรือที่กล่าวหาว่า โกงขายข้าว จีทูจี บังหน้า เป็นต้น
ส่วนที่สอง จากการที่รัฐบาลคาดการณ์ตลาดผิดพลาด ให้ราคาจำนำสูง แต่ไม่สามารถขายข้าวที่รับจำนำมาให้ได้ราคาที่คุ้มและไม่ขาดทุน และยังมีภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าว ค่าเสื่อมราคาของข้าวที่ถูกเก็บไว้ ซึ่งตรงส่วนที่สองนี้ประชาชนจะต้องเป็นผู้ลงโทษ แต่ตรงนี้มันไม่ใช่ความผิดอาญาที่การยุติธรรมจะเข้ามาลงโทษได้
ความเสียหายส่วนที่หนึ่ง
ตรงนี้มีคนไม่เชื่อมากครับ ดังนั้น หากมีหลักฐานที่ชัดเจน ว่าคุณยิ่งลักษณ์ไปสั่งการให้โรงสีใดกระทำการโกง คุณยิ่งลักษณ์ไปมีส่วนได้เสียในการนั้นอย่างไร คุณยิ่งลักษณ์ไปสั่งการให้เจ้าหน้าที่คนไหน ชื่ออะไร ตำแหน่งอะไรโกง ต้องแถลงระบุมาให้ชัด จึงจะเป็นธรรมทั้งต่อคุณยิ่งลักษณ์และต่อประชาชน
มีการพยายามตั้งข้อกล่าวหาว่า คุณยิ่งลักษณ์ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหาย ก็อยากให้ปปช.ชี้แจงต่อประชาชนให้ชัดว่า ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตรงไหนอย่างไรครับ ที่กล่าวหาว่า โกงขายข้าว จีทูจี บังหน้า โดยอ้างว่านายกฯ เป็นประธานนโยบายข้าวแห่งชาติต้องรู้เรื่องทุจริตนี้ แล้วกรรมการคนอื่นในคณะนี้มีใครรู้บ้าง
เพราะหากเขาจะโกงเขาก็ต้องปกปิดไว้ไม่ให้นายกฯหรือกรรมการคนอื่นรู้อยู่ดี มีหลักฐานตรงไหนว่าตัวนายกฯรู้แล้ว จะอาศัยเพียงความเชื่อของปปช.ว่าเชื่อว่าตัวนายกฯต้องรู้ เพียงแค่นี้จะมาเอาผิดทางอาญาคงไม่ได้ และทำไมปปช.จึงไม่ฟ้องตัวรัฐมนตรีให้ศาลพิพากษาว่ามีความผิดมีการกระทำผิดเสียก่อน แล้วค่อยมาดำเนินการฟ้องตัวนายกฯ หากวันหนึ่งข้างหน้า ฟ้องตัวรัฐมนตรีแล้วศาลพิพากษาว่ารัฐมนตรีไม่ผิดเพราะหลักฐานอ่อน แล้วแบบนี้ก็เท่ากับว่าตัวนายกฯไม่เคยละเว้นปฏิบัติหน้าที่สิครับ
กรณีรัฐมนตรีทุจริตในอดีต
ในอดีต นายรักเกียรติ สุขธนะ เมื่อปี พ.ศ. 2541 ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยาและมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ จนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑/๒๕๔๖ ในปี พ.ศ. 2546 ให้จำคุกและยึดทรัพย์ เท่ากับว่าได้ทำการทุจริต ทำไมนายกฯชวนไม่ต้องรับผิดในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่
รัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์โดยพิพากษาทุจริต จำคุก นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นคือ ก็ไม่มีการลงโทษคุณชวน นายกรัฐมนตรีในเวลานั้นในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่
แต่เวลานี้ศาลยังไม่พิพากษาให้รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ทุจริตแม้แต่สักคนเดียว แม้แต่รัฐมนตรีพาณิชย์ที่ถูกกล่าวหาเรื่องโกงขายข้าว จีทูจี บังหน้าก็ยังไม่มีการฟ้องร้อง หากจะมาลงโทษคุณยิ่งลักษณ์ข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่เสียแล้ว
ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนเข้าใจได้ยากเหลือเกิน
บทสรุป
ดังนั้น ประชาชนธรรมดาอย่างพวกเราก็คงไม่สามารถจะคิดอะไรที่มันแปลกพิสดาร ผิดปกติเหนือธรรมดามากไปกว่าเหตุผลอันเป็นธรรมดาที่มนุษย์ทั่วไปควรจะใช้กันได้ ก็คงได้แต่อยู่ในความสงบ และแสดงออกอย่างสันติตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในความเห็นของผม หากมีการเร่งรัดเรื่องนี้ให้เสร็จอย่างรวดเร็ว หรือตัดสินกันก่อนจะมีการยกเลิกกฎอัยการศึก ก็อยากขอร้องให้ผู้เกี่ยวข้อง ช่วยพิจารณาพิทักษ์รักษาศักดิ์ศรีของผู้ที่เราเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์ ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นการแสดงออกอย่างสงบและสันติอย่างแท้จริง และเป็นไปตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ไม่ว่าจะเป็นจดหมายเหตุ หรือแม้กระทั่งการก่อสร้างอนุสรณ์รำลึกถึงเรื่องนี้ในเวลาที่ยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว ดำเนินการโดยใช้ชื่อว่า “อนุสาวรีย์แห่งความเชื่อและความสงบ” ที่สร้างด้วยความเชื่อศรัทธาของประชาชน ให้แก่ผู้ที่ต้องรับเคราะห์กรรมจากเหตุต่างๆ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ที่ได้กระทำการไปด้วยความเชื่อมั่นในความดี ในระบอบประชาธิปไตย ในเสรีของประชาชนนั้นเอง เพื่อพยุงรักษาศักดิ์ศรีและความดีของบุคคลเหล่านั้น มิให้ต้องหมองลงด้วยเคราะห์กรรมที่ได้กระหนำซัดเข้ามา
ก็ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์คงไม่ดำเนินไปถึงขั้นที่ว่าประชาชนต้องออกมาอย่างสงบเพื่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งความเชื่อและความสงบด้วยกำลังของประชาชนเองครับ
ปล.
1. หวังว่าการนำเสนออย่างสงบและสันติเช่นนี้คงไม่ผิดกฎเกณท์ของห้องราชดำเนินนะครับ
2. ขออภัยที่เรื่องอาจจะยังดูห่างไกลข้อสรุปของคดี เพียงแต่หวั่นว่าจะมีการดำเนินการที่รวดเร็ว และออกมาซ้ำรอยกับกรณีเดิมๆที่เคยมีออกมา