องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/33145515
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/33149824
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/33154416
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/33158811
"เป็นหญิงหรือชาย" สตรีสูงวัยและสูงด้วยศักดิ์ถามพลางก้าวเดินพลางโดยไม่ชายตามอง "ตอนนี้ศิษย์ยังไม่ทราบ น้องเล็กเพิ่งให้กำเนิดทารก เกรงว่าจะวุ่นวายเลอะเทอะไปบ้าง" อาจารย์หญิงนั้นยังไม่มีทีท่าหยุดยั้งฝีเท้าลง กลับมุ่งตรงไปยังห้องที่ใช้ทำคลอด "ท่านไม่อาจ..." ศิษย์สตรีนั้นงดงามอย่างยิ่ง นับเป็นโฉมสะคราญอันดับต้นๆ ในแผ่นดินก็มิเกินเลยไป มือขาวผ่องแต่แฝงรัศมีสีม่วงอ่อนๆ ยื้อยุดมือท่านไว้ "เจ้ากล้า" ฝ่ามือสีเขียวเข้มทึบฟาดออกอย่างไม่ยั้งรั้งมือแม้แต่น้อย เห็นชัดว่าสัมผัสถูกชายโครงซ้ายแน่ๆ ดรุณีในชุดขาวถูกพลังฝ่ามือฟาดลอยละลิ่วข้ามกำแพงตึกชั้นในออกไป อาจารย์สแยะยิ้ม ด้วยทราบว่าฝ่ามือนั้นมิได้กระทบถูกศิษย์รักแม้แต่น้อย "วิชาฝีมือมิได้ร่ำเรียนไปมากเท่าไร ความกลอกกลิ้งกลับลอกเลียนจนหมดสิ้น"
ไป่หยุนโคจรพลังเป็นซ้ายขวาผลักออกครึ่งชั่วยาม อีกครึ่งชั่วยามรั้งเข้าทั้งสองข้าง สำหรับบุรุษผู้นี้แล้ว การฝึกฝีมือสร้างความสุขสงบได้ดีกว่าการกระทำอย่างอื่น อย่างน้อยก็ช่วยไม่ให้คิดฟุ้งซ่านเรื่องอื่น ควรทราบว่าผู้ฝึกกำลังภายในหากมีใจเข้าถึงสมาธิปรับอารมณ์ไม่ให้ฟุ้งซ่านย่อมรวมรั้งพลังภายในได้มาก ยิ่งกิจวัตรประจำวันไม่สูญเสียกำลังไปในเรื่องราวไร้สาระ เช่น ดื่มสุรา เที่ยวเตร่ย่อมได้ผลดีเป็นพิเสษ สำหรับเด็กหนุ่มท่าทางโง่งมผู้นี้ฝึกหนึ่งเดือน กลับเหมือนผู้อื่นฝึกหนึ่งปี
วันนี้เป็นวันแรกในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่หยวนจินโผล่หน้ามาที่ลานฝึกวิชาบู๊ "อาจารย์เรียกหาข้าพเจ้า?" ท่าทางคุณชายผู้นี้ซูบเซียวเหมือนผู้หมกมุ่นในสุรานารี หาได้คึกคักแจ่มใสเช่นเมื่อก่อน "คุณชาย เพื่อเป็นการกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูล ตลอดจนสำนักอาจารย์ เห็นควรว่าควรจะได้จัดประลองกับสำนักเมฆวายุ เพื่อเป็นการแก้มืออีกครั้ง" คำสำนักเมฆวายุสะกิดให้หวนนึกถึงบุตรตรีเจ้าสำนัก หยวนจินที่ก่อนนี้ลุ่มหลงในชู้รักกระดังงาลนไฟจนลืมทุกเรื่องราว เริ่มได้สติมาบ้าง "แล้วแต่อาจารย์จะเห็นสมควรเถิด" หวงถู่ซานกล่าวอีกหลายคำถึงกำหนดนัดและกำหนดกลยุทธ์ในการเอาชัย
หยุนเซียงที่หายเป็นปกติ กลับมาร่าเริงสดใส เล่นประลองกระบี่กับพี่สาว ใบหน้าแดงสดใสด้วยเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ดูน่ารัก ฝีมือด้านวิชาอาวุธของนางแทบไม่ก้าวหน้ามาแต่ไหนแต่ไร จะมีก็แต่ฝีมือแม่นเกาทันฑ์ที่หาผู้ใดในสำนักเทียบเทียมไม่ได้ ผิดจากผู้พี่ ที่ฝึกฝนเจ็ดสิบสองกระบี่เมฆวายุจนเจนจบ บวกกับบิดาคิดค้นวิชาอาวุธให้แก่นางเป็นพิเศษอีกด้วย ระหว่างนี้ซุนเมิ่งหยุนจมอยู่แต่ในห้องหนังสือครุ่นคิด วางแผนอยู่คนเดียว บางคราวเคร่งเครียด บางครั้งถึงกับนอนหลับอยู่ในห้องนั้น
ทารกนั้นเป็นชาย เมื่อถือกำเนิดขึ้น เสียงร้องมิได้ดังเท่าไร ดูไปท่าทางขี้โรคร่างก็เล็กกระจ้อยร่อย ประตูถูกเปิดออกแล้ว หญิงท่าทางสูงศักดิ์นั้นพุ่งปราดมาด้วยความเร็วจนถึงข้างเตียง สองมือเตรียมโอบอุ้มทารกนั้นขึ้นมา ทันใดนั้นหญิงสาวที่เพิ่งให้กำเนิดบุตรก็คว้าจับมือหญิงวัยกลางคนนั้นไว้ "พี่หลันฮัวรีบนำมันไป" ศิษย์ที่เป็นหญิงรับใช้โอบอุ้มทารกแนบอกพุ่งทะยานออกจากห้องไปโดยไว มือขาวผ่องที่จับมือหญิงสูงวัยทั้งสองข้างไว้ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำน่ากลัวยิ่งนัก สีเขียวช้ำนั้นไล่ขึ้นไปตามช่วงแขนอย่างรวดเร็ว หากลามถึงหัวใจคงต้องเสียชีวิตทันที สตรีที่ให้กำเนิดบุตรนั้นยิ่งงดงามหมดจดสดใส ไม่แฝงรัศมีน่ากลัวเช่นคนอื่นๆ ในสำนัก นางเป็นศิษย์โปรดคนเล็กที่สุด แม้ไม่ใช่บุตรีแท้ๆ แต่อาจารย์กลับให้ความรักและเอ็นดูอย่างที่ศิษย์อื่นๆ ไม่มีทางได้รับ คนในสำนักบ้างก็ว่านางเป็นบุตรีของเจ้าสำนักเอง บ้างก็ว่านางเป็นบุตรสาวของคนรักเก่าอาจารย์ สองแขนเรียวงามนั้นตกลงแล้ว สำหรับสตรีที่เพิ่งให้กำเนิดบุตร การทุ่มเทใช้กำลังขนาดนี้ เป็นผลร้ายถึงแก่ชีวิตอยู่แล้ว ยังโดนซ้ำเติมด้วยฝ่ามือพิษประจุพลังฝึกปรือกว่าสี่สิบปี เจ้าสำนักหญิงทุ่มเทวิชาตัวเบาออก เพียงไม่ถึงสิบก้าวก็ทันเห็นหลังหญิงรับใช้นั้น ฝ่ามือใช้ออกแล้ว หากแต่เป็นฝ่ายติดตามอยู่หลัง หนำซ้ำพิษได้ถูกถ่ายทอดออกไปก่อนหน้านี้แล้ว พลังฝ่ามือจึงลดลงกว่าครึ่งค่อน หญิงชุดเขียวนั้นสะท้านขึ้น แต่ยังทุ่มเทฝีเท้าต่อไปตลอดทั้งคืนไม่หยุดยั้ง จนใกล้รุ่งสางพบกระท่อมหลังหนึ่ง จึงอาเจียนโลหิตสีคล้ำออกมาเท่าชามข้าว แล้วสิ้นสติไป
สายลับนั้นถือดีในวิชาฝ่ามือจึงไม่พกพาอาวุธประจำกาย เกร็งกำลังขึ้นทั้งสองฝ่ามือ จู่โจมเข้าหาตัวประหลาดใบหน้าหนังนั้น พลังภายในของมันเป็นพลังร้อน ฝ่ามืออัคคีนั้นก่อให้บรรยากาศหนาวเย็นเปลี่ยนเป็นร้อนอ้าว บุรุษหน้ากากหนังนั้นเอาแต่ตั้งรับ จนผ่านไปร้อยกว่าฝ่ามือก็ยังไม่สามารถสะกิดถูก "รับไป" ฝ่ามือผอมแห้งนั้น ฟาดออกเห็นชัดๆ ว่าผลักออกไปตรงๆ หากแต่กลับวกย้อนมาอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ฝ่ามือนั้นกระแทกถูกศีรษะด้านขวาของจารชนจากนอกด่าน คลื่นร้อนจากฝ่ามือทะลักเข้าสู่ร่างกายซีกขวาทำให้กลับเป็นชาด้าน สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ทันที ได้แต่ทรุดลงในท่าคุกเข่า ปิศาจที่ผอมแห้งนั้น กระทั่งบัดนี้ยังไม่แสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า คว้าจับแขนสายลับที่เหมือนเป็นอัมพาตชั่วขณะ แล้วชักนำพลังภายในเข้าสู่ตัวเอง "วิชาที่ชั่วช้า ต่ำทรามยิ่งนัก" เสียงที่อ่อนแรงราวเสียงกระซิบจากปรโลกคือประโยคสุดท้ายในชีวิตของเหยื่อผู้นั้น
"อาจารย์เรียกเจ้ามาทดสอบก่อนกำหนด เนื่องจากตระกูลหยวนขอนัดประลองเพื่อแก้มือ" ซุนไป่หยุน ยังคงรักษาอาการนิ่งเฉยไม่ยินดียินร้าย "เอาล่ะ เจ้านั่งลงและผลักฝ่ามือทั้งสองข้างออก" ผู้เป็นอาจารย์ประฝ่ามือทั้งสองข้างกับผู้เป็นศิษย์ "จงโคจรพลังตามที่อาจารย์บอก" เมิ่งหยุนตรวจสอบวิถีการโคจรพลังรวมทั้งกำลังภายในของศิษย์ที่เพิ่งสอนการโคจรพลังได้เพียงหนึ่งเดือน อาจารย์ถึงกับขนลุกชันด้วยความตื่นเต้น ด้วยความที่ไป่หยุนสามารถบังคับพลังภายในได้อย่างคล่องแคล่ว โดยสามารถแบ่งการโคจรเป็นซีกซ้ายและขวา รวมทั้งสามารถผลักออกและรั้งเข้าได้อย่างใจ ผู้ฝึกฝีมือบางคนไม่สามารถฝึกโคจรให้พลังผลักออกและดูดเข้าได้ ต้องเลือกฝึกอย่างใดอย่างหนึ่ง อย่าว่าแต่โคจรได้พร้อมกันทั้งสองซีกของร่างกาย และสามารถควบคุมทิศทางการโคจรผลังได้อย่างอิสระ "นี่นับว่าพยัคฆ์ไม่กำเนิดบุตรสุนัขจริงๆ" ซุนเมิ่งหยุนพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 5
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33149824
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33154416
องครักษ์ดาบทอง ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33158811
"เป็นหญิงหรือชาย" สตรีสูงวัยและสูงด้วยศักดิ์ถามพลางก้าวเดินพลางโดยไม่ชายตามอง "ตอนนี้ศิษย์ยังไม่ทราบ น้องเล็กเพิ่งให้กำเนิดทารก เกรงว่าจะวุ่นวายเลอะเทอะไปบ้าง" อาจารย์หญิงนั้นยังไม่มีทีท่าหยุดยั้งฝีเท้าลง กลับมุ่งตรงไปยังห้องที่ใช้ทำคลอด "ท่านไม่อาจ..." ศิษย์สตรีนั้นงดงามอย่างยิ่ง นับเป็นโฉมสะคราญอันดับต้นๆ ในแผ่นดินก็มิเกินเลยไป มือขาวผ่องแต่แฝงรัศมีสีม่วงอ่อนๆ ยื้อยุดมือท่านไว้ "เจ้ากล้า" ฝ่ามือสีเขียวเข้มทึบฟาดออกอย่างไม่ยั้งรั้งมือแม้แต่น้อย เห็นชัดว่าสัมผัสถูกชายโครงซ้ายแน่ๆ ดรุณีในชุดขาวถูกพลังฝ่ามือฟาดลอยละลิ่วข้ามกำแพงตึกชั้นในออกไป อาจารย์สแยะยิ้ม ด้วยทราบว่าฝ่ามือนั้นมิได้กระทบถูกศิษย์รักแม้แต่น้อย "วิชาฝีมือมิได้ร่ำเรียนไปมากเท่าไร ความกลอกกลิ้งกลับลอกเลียนจนหมดสิ้น"
ไป่หยุนโคจรพลังเป็นซ้ายขวาผลักออกครึ่งชั่วยาม อีกครึ่งชั่วยามรั้งเข้าทั้งสองข้าง สำหรับบุรุษผู้นี้แล้ว การฝึกฝีมือสร้างความสุขสงบได้ดีกว่าการกระทำอย่างอื่น อย่างน้อยก็ช่วยไม่ให้คิดฟุ้งซ่านเรื่องอื่น ควรทราบว่าผู้ฝึกกำลังภายในหากมีใจเข้าถึงสมาธิปรับอารมณ์ไม่ให้ฟุ้งซ่านย่อมรวมรั้งพลังภายในได้มาก ยิ่งกิจวัตรประจำวันไม่สูญเสียกำลังไปในเรื่องราวไร้สาระ เช่น ดื่มสุรา เที่ยวเตร่ย่อมได้ผลดีเป็นพิเสษ สำหรับเด็กหนุ่มท่าทางโง่งมผู้นี้ฝึกหนึ่งเดือน กลับเหมือนผู้อื่นฝึกหนึ่งปี
วันนี้เป็นวันแรกในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่หยวนจินโผล่หน้ามาที่ลานฝึกวิชาบู๊ "อาจารย์เรียกหาข้าพเจ้า?" ท่าทางคุณชายผู้นี้ซูบเซียวเหมือนผู้หมกมุ่นในสุรานารี หาได้คึกคักแจ่มใสเช่นเมื่อก่อน "คุณชาย เพื่อเป็นการกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูล ตลอดจนสำนักอาจารย์ เห็นควรว่าควรจะได้จัดประลองกับสำนักเมฆวายุ เพื่อเป็นการแก้มืออีกครั้ง" คำสำนักเมฆวายุสะกิดให้หวนนึกถึงบุตรตรีเจ้าสำนัก หยวนจินที่ก่อนนี้ลุ่มหลงในชู้รักกระดังงาลนไฟจนลืมทุกเรื่องราว เริ่มได้สติมาบ้าง "แล้วแต่อาจารย์จะเห็นสมควรเถิด" หวงถู่ซานกล่าวอีกหลายคำถึงกำหนดนัดและกำหนดกลยุทธ์ในการเอาชัย
หยุนเซียงที่หายเป็นปกติ กลับมาร่าเริงสดใส เล่นประลองกระบี่กับพี่สาว ใบหน้าแดงสดใสด้วยเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ดูน่ารัก ฝีมือด้านวิชาอาวุธของนางแทบไม่ก้าวหน้ามาแต่ไหนแต่ไร จะมีก็แต่ฝีมือแม่นเกาทันฑ์ที่หาผู้ใดในสำนักเทียบเทียมไม่ได้ ผิดจากผู้พี่ ที่ฝึกฝนเจ็ดสิบสองกระบี่เมฆวายุจนเจนจบ บวกกับบิดาคิดค้นวิชาอาวุธให้แก่นางเป็นพิเศษอีกด้วย ระหว่างนี้ซุนเมิ่งหยุนจมอยู่แต่ในห้องหนังสือครุ่นคิด วางแผนอยู่คนเดียว บางคราวเคร่งเครียด บางครั้งถึงกับนอนหลับอยู่ในห้องนั้น
ทารกนั้นเป็นชาย เมื่อถือกำเนิดขึ้น เสียงร้องมิได้ดังเท่าไร ดูไปท่าทางขี้โรคร่างก็เล็กกระจ้อยร่อย ประตูถูกเปิดออกแล้ว หญิงท่าทางสูงศักดิ์นั้นพุ่งปราดมาด้วยความเร็วจนถึงข้างเตียง สองมือเตรียมโอบอุ้มทารกนั้นขึ้นมา ทันใดนั้นหญิงสาวที่เพิ่งให้กำเนิดบุตรก็คว้าจับมือหญิงวัยกลางคนนั้นไว้ "พี่หลันฮัวรีบนำมันไป" ศิษย์ที่เป็นหญิงรับใช้โอบอุ้มทารกแนบอกพุ่งทะยานออกจากห้องไปโดยไว มือขาวผ่องที่จับมือหญิงสูงวัยทั้งสองข้างไว้ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำน่ากลัวยิ่งนัก สีเขียวช้ำนั้นไล่ขึ้นไปตามช่วงแขนอย่างรวดเร็ว หากลามถึงหัวใจคงต้องเสียชีวิตทันที สตรีที่ให้กำเนิดบุตรนั้นยิ่งงดงามหมดจดสดใส ไม่แฝงรัศมีน่ากลัวเช่นคนอื่นๆ ในสำนัก นางเป็นศิษย์โปรดคนเล็กที่สุด แม้ไม่ใช่บุตรีแท้ๆ แต่อาจารย์กลับให้ความรักและเอ็นดูอย่างที่ศิษย์อื่นๆ ไม่มีทางได้รับ คนในสำนักบ้างก็ว่านางเป็นบุตรีของเจ้าสำนักเอง บ้างก็ว่านางเป็นบุตรสาวของคนรักเก่าอาจารย์ สองแขนเรียวงามนั้นตกลงแล้ว สำหรับสตรีที่เพิ่งให้กำเนิดบุตร การทุ่มเทใช้กำลังขนาดนี้ เป็นผลร้ายถึงแก่ชีวิตอยู่แล้ว ยังโดนซ้ำเติมด้วยฝ่ามือพิษประจุพลังฝึกปรือกว่าสี่สิบปี เจ้าสำนักหญิงทุ่มเทวิชาตัวเบาออก เพียงไม่ถึงสิบก้าวก็ทันเห็นหลังหญิงรับใช้นั้น ฝ่ามือใช้ออกแล้ว หากแต่เป็นฝ่ายติดตามอยู่หลัง หนำซ้ำพิษได้ถูกถ่ายทอดออกไปก่อนหน้านี้แล้ว พลังฝ่ามือจึงลดลงกว่าครึ่งค่อน หญิงชุดเขียวนั้นสะท้านขึ้น แต่ยังทุ่มเทฝีเท้าต่อไปตลอดทั้งคืนไม่หยุดยั้ง จนใกล้รุ่งสางพบกระท่อมหลังหนึ่ง จึงอาเจียนโลหิตสีคล้ำออกมาเท่าชามข้าว แล้วสิ้นสติไป
สายลับนั้นถือดีในวิชาฝ่ามือจึงไม่พกพาอาวุธประจำกาย เกร็งกำลังขึ้นทั้งสองฝ่ามือ จู่โจมเข้าหาตัวประหลาดใบหน้าหนังนั้น พลังภายในของมันเป็นพลังร้อน ฝ่ามืออัคคีนั้นก่อให้บรรยากาศหนาวเย็นเปลี่ยนเป็นร้อนอ้าว บุรุษหน้ากากหนังนั้นเอาแต่ตั้งรับ จนผ่านไปร้อยกว่าฝ่ามือก็ยังไม่สามารถสะกิดถูก "รับไป" ฝ่ามือผอมแห้งนั้น ฟาดออกเห็นชัดๆ ว่าผลักออกไปตรงๆ หากแต่กลับวกย้อนมาอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ฝ่ามือนั้นกระแทกถูกศีรษะด้านขวาของจารชนจากนอกด่าน คลื่นร้อนจากฝ่ามือทะลักเข้าสู่ร่างกายซีกขวาทำให้กลับเป็นชาด้าน สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ทันที ได้แต่ทรุดลงในท่าคุกเข่า ปิศาจที่ผอมแห้งนั้น กระทั่งบัดนี้ยังไม่แสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า คว้าจับแขนสายลับที่เหมือนเป็นอัมพาตชั่วขณะ แล้วชักนำพลังภายในเข้าสู่ตัวเอง "วิชาที่ชั่วช้า ต่ำทรามยิ่งนัก" เสียงที่อ่อนแรงราวเสียงกระซิบจากปรโลกคือประโยคสุดท้ายในชีวิตของเหยื่อผู้นั้น
"อาจารย์เรียกเจ้ามาทดสอบก่อนกำหนด เนื่องจากตระกูลหยวนขอนัดประลองเพื่อแก้มือ" ซุนไป่หยุน ยังคงรักษาอาการนิ่งเฉยไม่ยินดียินร้าย "เอาล่ะ เจ้านั่งลงและผลักฝ่ามือทั้งสองข้างออก" ผู้เป็นอาจารย์ประฝ่ามือทั้งสองข้างกับผู้เป็นศิษย์ "จงโคจรพลังตามที่อาจารย์บอก" เมิ่งหยุนตรวจสอบวิถีการโคจรพลังรวมทั้งกำลังภายในของศิษย์ที่เพิ่งสอนการโคจรพลังได้เพียงหนึ่งเดือน อาจารย์ถึงกับขนลุกชันด้วยความตื่นเต้น ด้วยความที่ไป่หยุนสามารถบังคับพลังภายในได้อย่างคล่องแคล่ว โดยสามารถแบ่งการโคจรเป็นซีกซ้ายและขวา รวมทั้งสามารถผลักออกและรั้งเข้าได้อย่างใจ ผู้ฝึกฝีมือบางคนไม่สามารถฝึกโคจรให้พลังผลักออกและดูดเข้าได้ ต้องเลือกฝึกอย่างใดอย่างหนึ่ง อย่าว่าแต่โคจรได้พร้อมกันทั้งสองซีกของร่างกาย และสามารถควบคุมทิศทางการโคจรผลังได้อย่างอิสระ "นี่นับว่าพยัคฆ์ไม่กำเนิดบุตรสุนัขจริงๆ" ซุนเมิ่งหยุนพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ