สวัสดีครับ
ผมได้ลองสอบความเชื่อของผมแล้ว ปรากฏว่าได้ผลดี
ผมจึงคิดว่าน่าจะแบ่งปันประสบการณ์ให้ท่านได้รับฟังบ้าง เพราะที่ความเชื่อจะได้เจริญงอกงามในใจท่าน
----------------------
นานมาแล้วเมื่อครั้งที่ผมเริ่มจับพระคัมภีร์ใหม่ ๆ ผมได้อ่านบทความจากเว็บนี้
http://www.gotquestions.org/Thai/Thai-what-Christian.html
ผมช่างสงสัยข้อความที่ว่า “การเป็นคนดี ไม่ได้ทำให้คุณเป็นคริสเตียน”
------------------
จนกระทั่งผมเจอคำเทศนาจากเว็บนี้
https://www.youtube.com/watch?v=ng-yG07KGc8
ในนาทีที่ 1.30
“เราไม่ได้ชอบธรรมเพราะเราทำดีพอ เราชอบธรรมเพราะเราเชื่อ”
-------
สำหรับศาสนาพุทธ ผมเชื่อในหลักปฏิบัติว่าดีจริง
แต่ผมไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเดิน 7 ก้าวทันที่หลังจากประสูติ
ในพระคัมภีร์ไบเบิลก็เช่นกัน หลักปฏิบัติหลายอย่างนั้นผมเชื่อว่าดีจริง
แต่ผมก็ไม่เชื่อว่ามนุษย์เกิดขึ้นจากดิน และมีหลายอย่างที่ผมอ่านแล้วไม่เชื่อ
หากพิจารณาจากคำว่า “เราไม่ได้ชอบธรรมเพราะเราทำดีพอ เราชอบธรรมเพราะเราเชื่อ”
อาจจะหมายความว่าผมไม่ใช่คนที่ชอบธรรมก็เป็นได้
-----------------
ท่านเคยรอดพ้นจากอุปสรรค, แก้ปัญหาต่าง ๆ หรือได้คำตอบในเวลาที่เหมาะเจาะพอดีอย่างเหลือเชื่อไหมครับ
สำหรับผมนั้นหลายครั้งมาก
ผมเคยคิดว่าเรื่องของโชคดีใคร ๆ ก็มีกันได้
แต่โชคดีของผมนั้น มันเรียงกันในช่วงจังหวะเวลาที่พอดิบพอดีอย่างน่าแปลกใจจนผมอธิบายไม่ถูก
ซึ่งมันอาจจะตรงกับ นาทีที่ 26.50 ในวีดีโอที่กล่าวว่า
“พระเจ้าจะจัดเตรียมสิ่งสารพัดที่ข้าพเจ้ายังขาดอยู่”
--------------
แต่บางครั้งผมก็ร้อนใจกับปัญหาที่ยังไม่รู้หนทางแก้ไข
เคยอธิษฐานไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่พบคำตอบ
เหมือนดังนาทีที่ 22.57 ของวีดีโอที่กล่าวว่า “คริสเตียนมากมายอธิษฐานแล้ว แต่ยังเครียดอยู่”
------------------
เมื่อผมได้ตั้งใจฟังเรื่องราวของพระเยซูในวีดีโอนาทีที่ 11.30
โดยเฉพาะช่วงนาทีที่ 12.15 ในคำกล่าวที่ว่า
“พระองค์ไม่เคยที่จะต้องกระวนกระวายกับสิ่งที่พระองค์ขาดอยู่”
ผมเฝ้าสงสัยว่า “แค่เชื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลืออย่างแน่นอน ก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างแน่นอน ไม่ต้องเป็นกังวลกับสิ่งใดเลยหรือ ?”
ข้อสงสัยนี้ทำให้ผมหวนคิดถึงเรื่องตลกที่ได้ฟังเมื่อนานมากจาก อาจารย์จตุพล ชมพูนิช
เป็นเรื่องที่สามีเครียดจนนอนไม่หลับเพราะไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้
ภรรยาจึงบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง
สามีจึงคลายกังวลนอนหลับลงได้
ฝ่ายภรรยาได้โทรไปหาเจ้าหนี้สามีแล้วบอกว่าไม่มีเงินจะจ่ายให้
ความเครียดจึงตกไปอยู่ที่ฝ่ายเจ้าหนี้แทน
ประเด็นของเรื่องนี้อยู่ที่ว่า
สามีสงบใจลงได้อย่างเหลือเชื่อ
เพียงแค่มอบภาระให้ภรรยา แล้วเชื่อว่าภรรยาจะแก้ไขให้ได้
ผมจึงสรุปเอาเองได้ว่า
“แค่เชื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลือ ก็จะได้ความช่วยเหลือ ห้ามเป็นกังวลซ้ำไปซ้ำมา”
------------------------------
ดังนั้นผมจึงทดลองนิยามใหม่ของผมที่ว่า
“แค่เชื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลือ ก็จะได้ความช่วยเหลือ ห้ามเป็นกังวลซ้ำไปซ้ำมา”
ซึ่งวันปีใหม่ที่ผ่านมาผมพบปัญหา 4 ปัญหารวดในวันเดียวกัน
ผมทดลองอธิษฐาน และทดลองเชื่อว่าจะได้รับการแก้ไขแน่ ๆ (ทั้งที่ดูจากสภาพแวดล้อมแล้วไม่เอื้ออำนวย)
รวมถึงทดลองด้วยการไม่ต้องไปสนใจมันอีกเลย คิดไว้ในใจว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะได้คำตอบเอง
ซึ่ง 4 ปัญหาทั้งหมดของผมนั้นผ่านพ้นในช่วงเวลาที่พอดิบพอดีเหมือนโชคดีครั้งก่อน ๆ ที่เคยได้รับ
------------
ช่วงสิ้นปีนี้มีจะงานใหญ่มาก ๆ ที่ต้องส่งให้เรียบร้อยทั้งสิ้น 4 งาน (ซึ่งดูจากสภาพแวดล้อมแล้ว แทบจะไม่เห็นทางรอด)
อันที่จริงผมควรจะเป็นกังวล ชักดิ้นชักงออย่างเป็นที่สุด
แต่ผมได้ทดลองอธิษฐานแล้วไปพักผ่อน ไม่กังวลกับมัน (อย่างน้อยผมก็แกล้งไม่เป็นกังวลกับมันได้บ้าง)
1 งานใหญ่นั้น ได้รับคำปรึกษาและแนะนำจากหลายฝ่ายในเวลาที่เหมาะสมก่อนจะถึงเส้นเวลาที่กำหนด
ส่วนอีก 3 งานใหญ่ที่รออยู่ คิดออกแล้วว่าจะแก้ไขได้อย่างไร
ผมจึงเริ่มจะเชื่อแล้วว่า “มอบภาระของท่านไว้กับพระเจ้า จะได้รับความช่วยเหลือแน่ ๆ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วทุกอย่างจะลงตัวเอง ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลไป ห้ามเป็นกังวล”
------------------
เมื่อถูกถามว่าเชื่อในพุทธประวัติไหม ?
ผมจะตอบว่า
“เชื่อในเรื่องของหลักธรรมว่าเอาไปใช้แล้วจะส่งผลดี
แต่ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเดิน 7 ก้าวหลังจากคลอดออกมา
รวมถึงอิทธิปาฏิหาริย์ เหาะเหินเดินอากาศและอื่น ๆ”
เมื่อถามว่าเชื่อพระเจ้าไหม ??
ผมจะตอบว่า “เชื่อในเรื่องที่จะได้รับการดูแลจากพระเจ้า
แต่ไม่เชื่อเรื่องมนุษย์เกิดจากดิน หรือโลกเกิดก่อนดวงอาทิตย์ หรืออะไรเหล่านี้อย่างแน่นอน”
สรุปแล้วเชื่อในพระเจ้าไหม ??
ไม่เชื่อเรื่องมนุษย์เกิดจากดิน หรือโลกเกิดก่อนดวงอาทิตย์อะไรเหล่านี้
**** แต่เชื่อในเรื่องที่จะได้รับการดูแลจากพระเจ้าอย่างแน่นอน ****
ขอบพระคุณพระเจ้า
ทดสอบความเชื่อ ผมลองแล้วได้ผลดีครับ (ผู้ที่เชื่อในพระเจ้าจะต้องอ่าน และต้องลองทำ)
ผมได้ลองสอบความเชื่อของผมแล้ว ปรากฏว่าได้ผลดี
ผมจึงคิดว่าน่าจะแบ่งปันประสบการณ์ให้ท่านได้รับฟังบ้าง เพราะที่ความเชื่อจะได้เจริญงอกงามในใจท่าน
----------------------
นานมาแล้วเมื่อครั้งที่ผมเริ่มจับพระคัมภีร์ใหม่ ๆ ผมได้อ่านบทความจากเว็บนี้
http://www.gotquestions.org/Thai/Thai-what-Christian.html
ผมช่างสงสัยข้อความที่ว่า “การเป็นคนดี ไม่ได้ทำให้คุณเป็นคริสเตียน”
------------------
จนกระทั่งผมเจอคำเทศนาจากเว็บนี้
https://www.youtube.com/watch?v=ng-yG07KGc8
ในนาทีที่ 1.30
“เราไม่ได้ชอบธรรมเพราะเราทำดีพอ เราชอบธรรมเพราะเราเชื่อ”
-------
สำหรับศาสนาพุทธ ผมเชื่อในหลักปฏิบัติว่าดีจริง
แต่ผมไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเดิน 7 ก้าวทันที่หลังจากประสูติ
ในพระคัมภีร์ไบเบิลก็เช่นกัน หลักปฏิบัติหลายอย่างนั้นผมเชื่อว่าดีจริง
แต่ผมก็ไม่เชื่อว่ามนุษย์เกิดขึ้นจากดิน และมีหลายอย่างที่ผมอ่านแล้วไม่เชื่อ
หากพิจารณาจากคำว่า “เราไม่ได้ชอบธรรมเพราะเราทำดีพอ เราชอบธรรมเพราะเราเชื่อ”
อาจจะหมายความว่าผมไม่ใช่คนที่ชอบธรรมก็เป็นได้
-----------------
ท่านเคยรอดพ้นจากอุปสรรค, แก้ปัญหาต่าง ๆ หรือได้คำตอบในเวลาที่เหมาะเจาะพอดีอย่างเหลือเชื่อไหมครับ
สำหรับผมนั้นหลายครั้งมาก
ผมเคยคิดว่าเรื่องของโชคดีใคร ๆ ก็มีกันได้
แต่โชคดีของผมนั้น มันเรียงกันในช่วงจังหวะเวลาที่พอดิบพอดีอย่างน่าแปลกใจจนผมอธิบายไม่ถูก
ซึ่งมันอาจจะตรงกับ นาทีที่ 26.50 ในวีดีโอที่กล่าวว่า
“พระเจ้าจะจัดเตรียมสิ่งสารพัดที่ข้าพเจ้ายังขาดอยู่”
--------------
แต่บางครั้งผมก็ร้อนใจกับปัญหาที่ยังไม่รู้หนทางแก้ไข
เคยอธิษฐานไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่พบคำตอบ
เหมือนดังนาทีที่ 22.57 ของวีดีโอที่กล่าวว่า “คริสเตียนมากมายอธิษฐานแล้ว แต่ยังเครียดอยู่”
------------------
เมื่อผมได้ตั้งใจฟังเรื่องราวของพระเยซูในวีดีโอนาทีที่ 11.30
โดยเฉพาะช่วงนาทีที่ 12.15 ในคำกล่าวที่ว่า
“พระองค์ไม่เคยที่จะต้องกระวนกระวายกับสิ่งที่พระองค์ขาดอยู่”
ผมเฝ้าสงสัยว่า “แค่เชื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลืออย่างแน่นอน ก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างแน่นอน ไม่ต้องเป็นกังวลกับสิ่งใดเลยหรือ ?”
ข้อสงสัยนี้ทำให้ผมหวนคิดถึงเรื่องตลกที่ได้ฟังเมื่อนานมากจาก อาจารย์จตุพล ชมพูนิช
เป็นเรื่องที่สามีเครียดจนนอนไม่หลับเพราะไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้
ภรรยาจึงบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง
สามีจึงคลายกังวลนอนหลับลงได้
ฝ่ายภรรยาได้โทรไปหาเจ้าหนี้สามีแล้วบอกว่าไม่มีเงินจะจ่ายให้
ความเครียดจึงตกไปอยู่ที่ฝ่ายเจ้าหนี้แทน
ประเด็นของเรื่องนี้อยู่ที่ว่า
สามีสงบใจลงได้อย่างเหลือเชื่อ
เพียงแค่มอบภาระให้ภรรยา แล้วเชื่อว่าภรรยาจะแก้ไขให้ได้
ผมจึงสรุปเอาเองได้ว่า
“แค่เชื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลือ ก็จะได้ความช่วยเหลือ ห้ามเป็นกังวลซ้ำไปซ้ำมา”
------------------------------
ดังนั้นผมจึงทดลองนิยามใหม่ของผมที่ว่า
“แค่เชื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลือ ก็จะได้ความช่วยเหลือ ห้ามเป็นกังวลซ้ำไปซ้ำมา”
ซึ่งวันปีใหม่ที่ผ่านมาผมพบปัญหา 4 ปัญหารวดในวันเดียวกัน
ผมทดลองอธิษฐาน และทดลองเชื่อว่าจะได้รับการแก้ไขแน่ ๆ (ทั้งที่ดูจากสภาพแวดล้อมแล้วไม่เอื้ออำนวย)
รวมถึงทดลองด้วยการไม่ต้องไปสนใจมันอีกเลย คิดไว้ในใจว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะได้คำตอบเอง
ซึ่ง 4 ปัญหาทั้งหมดของผมนั้นผ่านพ้นในช่วงเวลาที่พอดิบพอดีเหมือนโชคดีครั้งก่อน ๆ ที่เคยได้รับ
------------
ช่วงสิ้นปีนี้มีจะงานใหญ่มาก ๆ ที่ต้องส่งให้เรียบร้อยทั้งสิ้น 4 งาน (ซึ่งดูจากสภาพแวดล้อมแล้ว แทบจะไม่เห็นทางรอด)
อันที่จริงผมควรจะเป็นกังวล ชักดิ้นชักงออย่างเป็นที่สุด
แต่ผมได้ทดลองอธิษฐานแล้วไปพักผ่อน ไม่กังวลกับมัน (อย่างน้อยผมก็แกล้งไม่เป็นกังวลกับมันได้บ้าง)
1 งานใหญ่นั้น ได้รับคำปรึกษาและแนะนำจากหลายฝ่ายในเวลาที่เหมาะสมก่อนจะถึงเส้นเวลาที่กำหนด
ส่วนอีก 3 งานใหญ่ที่รออยู่ คิดออกแล้วว่าจะแก้ไขได้อย่างไร
ผมจึงเริ่มจะเชื่อแล้วว่า “มอบภาระของท่านไว้กับพระเจ้า จะได้รับความช่วยเหลือแน่ ๆ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วทุกอย่างจะลงตัวเอง ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลไป ห้ามเป็นกังวล”
------------------
เมื่อถูกถามว่าเชื่อในพุทธประวัติไหม ?
ผมจะตอบว่า
“เชื่อในเรื่องของหลักธรรมว่าเอาไปใช้แล้วจะส่งผลดี
แต่ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเดิน 7 ก้าวหลังจากคลอดออกมา
รวมถึงอิทธิปาฏิหาริย์ เหาะเหินเดินอากาศและอื่น ๆ”
เมื่อถามว่าเชื่อพระเจ้าไหม ??
ผมจะตอบว่า “เชื่อในเรื่องที่จะได้รับการดูแลจากพระเจ้า
แต่ไม่เชื่อเรื่องมนุษย์เกิดจากดิน หรือโลกเกิดก่อนดวงอาทิตย์ หรืออะไรเหล่านี้อย่างแน่นอน”
สรุปแล้วเชื่อในพระเจ้าไหม ??
ไม่เชื่อเรื่องมนุษย์เกิดจากดิน หรือโลกเกิดก่อนดวงอาทิตย์อะไรเหล่านี้
**** แต่เชื่อในเรื่องที่จะได้รับการดูแลจากพระเจ้าอย่างแน่นอน ****
ขอบพระคุณพระเจ้า