ทริปนี้ เดินทางกัน 10 - 15 ธันวาคม 2014
เป็นทริปที่อยากไปตามใจ คือ อยากปั่นจักรยานในญี่ปุ่น อยากไปโดราเอม่อน อยากเห็นฟูจิ อยากนอนเรียวกัง และ อยากไปร้านโตเกียวไบค์ Tokyobike Gallery
เป้าหมายชัดเจน ทีนี้เราก็จัดทริปกันเลย
สิ่งสำคัญคือ งบประมาณ จะทำยังไงให้ประหยัดสุดเท่าที่ทำได้ แต่ไม่ลำบากมากเกินไป เพราะตั้งใจไปพักผ่อนกับคุณแฟน
ค่าใช้จ่ายหลักๆ ของการเที่ยวคือ ค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าที่พัก
พอได้ไปเที่ยวจริงและการศึกษาข้อมูลทำให้รู้ว่า เราประหยัดอะไรได้หลายอย่าง โดยเฉพาะค่าเดินทาง
เลยอยากแนะนำ tips ประมาณนี้ค่ะ
การซื้อบัตร Pass สำหรับการเดินทางในโตเกียว
- หลายคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น มักจะได้รับคำแนะนำว่า ให้ซื้อ
JR Pass ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ทุกคนหรือทุกทริปที่ต้องซื้อ JR Pass เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดมากๆ ขึ้น ชินคังเซง จะคุ้ม แต่ของเราไม่ได้ขึ้น ชินคังเซง เลย
- หากเดินทางแค่ในโตเกียวและไปต่างเมืองคือ Hakone เท่านั้น แบบเรา เราจึงใช้แค่
บัตร Suica และ Hakone free pass เท่านั้น สำหรับ Suica ใช้เป็นเหมือนบัตรเติมเงิน ไม่มีส่วนลด แต่สะดวก และ คุ้มค่ากว่าซื้อบัตรแบบเหมาแต่ใช้ไม่คุ้ม สำหรับ เดินทางโดยรถไฟ รถบัส ได้หมด ซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้ด้วย ตอนที่เราไป ซื้อและเติมเงินครั้งแรก 1,000 เยน และ เติมอีกที 2,000 เยน ใช้ไม่หมด เก็บกลับมา ไว้ไปต่อ เพราะญี่ปุ่น ไปได้หลายครั้งไม่มีเบื่อ Suica ซื้อได้ที่บู๊ทที่เค้ารับขายบัตรของ JR และเติมเงินได้ที่ตู้อัตโนมัติ ที่สถานีรถไฟ ใช้เข้าออกสถานี ติ๊ด ติ๊ด ได้ สะดวกมากมาย
- บัตร one day pass มีเห็นคนรีวิวมาบ้าง หากใครเดินทางเยอะๆ ขึ้นรถไปโน่นนี่มากกว่า 10 เที่ยวใน 1 วัน แนะนำให้ซื้อมาใช้ได้ค่า
การเดินทางเข้าโตเกียว จากสนามบินนาริตะ
- การเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองมีหลายวิธี ลองเลือกดู ทั้ง รถไฟ รถบัส และ แนะนำหลีกเลี่ยงรถ taxi ของเราใช้ รถไฟ เช็คเวลาให้ดีก่อนเดินทาง แล้วจากนั้นเราก็ทำตามแผนของเรา เราดูๆแล้ว เราต้องเร่งรีบ เลยเลือกใช้บริการ รถไฟ NEX ค่ะ
- การเดินทางกลับสนามบินนาริตะ ก็มีง่ายๆ แต่ที่แนะนำ สะดวก ก็คือ รถบัส Airport Limusine Bus ลองดูในเว็บ
https://www.limousinebus.co.jp/en/ ดูได้ว่ามีจอดที่ไหนบ้าง อย่างของเราตั้งใจไปขึ้นที่ Shinjuku Woshinton Hotel ซึ่งใกล้ที่พักของเรา ขึ้นรถตอนตีห้า สบายเลย วิธีซื้อตั๋วก็ไปซื้อที่จุดขึ้นรถบัส ควรซื้อล่วงหน้า 2-3 วันถ้าเป็นไปได้ เพราะว่าเดี๋ยวตั๋วหมด จะเศร้านะคะ
การเที่ยว Hakone เพื่อดูฟูจิ ต้มไข่ดำ นั่งเรือโจรสลัด
- ไปดู Fuji ซื้อบัตร Hakone Free Pass จะช่วยให้เที่ยวสนุกประหยัดมากๆๆๆ เลย เรายอมซื้อ แบบ 2 วัน 5,140 เยนต่อคน ซื้อที่สถานีชินจูกุ สายรถไฟของ Odakyu อย่างเราไป 1 วันครึ่ง คือไปถึงเย็นๆ แล้ว นอน แล้วเที่ยวอีกครึ่งวัน แค่ค่ารถไฟ รถใน hakone เองก็คุ้มค่าบัตรแล้วค่ะ ใครไปแบบเที่ยววันเดียวไปเช้าเย็นกลับ ก็น่าจะคุ้มนะคะ ลองคำนวณดูได้ แนะนำลองศึกษาที่เว็บ
http://www.hakonenavi.jp/thai/freepass/
ที่เกริ่นๆมา คือ สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากกับการวางแผนเดินทางก่อนไป เพราะถ้าไปหลง ไปมัวแต่คำนวณเงิน หน้าตู้ซื้อบัตร มันจะไม่สนุกแน่ๆ เพราะพอไปถึงจริง คุณจะตื่นคนมาก คนเยอะมาจากไหนเนี่ย แต่สนุกนะคะ รู้สึกกระฉับกระเฉงดี เหมือนแรงพลังของคนญี่ปุ่นเค้าทำให้เรามีชีวิตชีวา 55555
การแลกตังค์
เมื่อเราวางแผนหลายๆอย่างไว้ได้แล้ว ก็แลกตังค์ไป เพื่อไปซื้อ และ เผื่อสำหรับการกิน การช๊อปปิ้งด้วย
ถ้าดูจากภาพประมาณการด้านล่างของเรา (ไม่ได้รวมค่าเช่า pocket wifi ลืมใส่)
เงินสด เราแลกไปที่ 30,000 บาท ได้เงินเยนมา 100,000 เยน สำหรับใช้ 2 คน และ เราแลกเงินเผื่อซื้อของและของฝาก ไปอีกต่างหาก ประมาณ 30000 เยน
พอจบทริป ทุกอย่างหมดเกลี้ยง แถมรูดบัตรช๊อปปิ้งอีกนิดนึง 55555
การจัด ทริป ของเรามีเป้าหมายละ
โตเกียว เที่ยวฮาโกเนะนอนเรียวกัง โดราเอม่อน ปั่นจักรยานทัวร์โตเกียว Tokyobike Gallery
สรุป ทริปของเราออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ
Day 1 Wed 10 Dec เดินทาง 23.45 น. Airasia X โดยจองที่นั่งริมหน้าต่าง ฝั่งซ้ายของเครื่อง (เพื่อรอดูภูเาไฟฟูจิ จากวิวหน้าต่าง) ถามว่าตอนไปเจอไหม ก็ไม่เห็นนะคะ หรือเราอาจจะหลับอยู่ไม่รู้) ส่วนขากลับควรจองที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวามือของเครื่องค่ะ หลีกเลี่ยงปีกเครื่องนะคะ
Day 2 Thu 11 Dec ถึง Tokyo Narita 07.00 น. รับกระเป๋า แล้วรีบไปหาบู๊ทของ NEX เพื่อซื้อตั๋วรถไฟด่วนๆ NEX ไปลงสถานีชินจูกุ แผนคือจะไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมย่านชินจูกุแล้วก็เดินทางจาก สถานี Shinjuku ไป Hakone โดยรถไฟสาย Odakyo เพื่อพัก เรียวกัง ชื่อ Yugiriso
(เดิมจอง Shinjuku Woshinton Hotel เอาไว้ เพราะว่าดูเป็นโรงแรมใกล้สถานีชินจูกุ และ มีบริการรถรับส่งสนามบิน ก่ะว่าเผื่อไปถึงและขากลับอาจจะต้องเปลี่ยนแผนใช้บริการ airport limusine bus จะได้สะดวก แต่แล้วเพราะเว็บที่จองที่พัก cancel ที่พักเราซะงั้น เลยได้พักใกล้ๆกัน คือ โรงแรม Sun Member Hotel แต่ก็ดีค่ะ ใกล้จุดขึ้นรถ bus ไปสนามบิน )
Day 3 Fri 12 Dec เที่ยวใน Hekone (มีบัตร hake free pass เที่ยวได้ทั้งวัน) แต่เอาเข้าจริง เปลี่ยนแผน รีบกลับเข้าเมืองเพื่อไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์โดราเอม่อน ที่รถไฟสาย Odakyu ผ่านสถานี Noborito พอดี และ ตอนเย็น check in แล้ว เดินเที่ยวใน Shinjuku
Day 4 - Day 5 Sat 13 - Sun - 14 Dec เป็นวันฟรี ที่วางไว้ว่าอยากไปไหนก็ได้ ซึ่งเหลือ อีก 2 อย่างที่อยากทำ คือ ปั่น Tokyobike เที่ยว Tokyo และ ไป Tokyobike Gallery (ร้าน tokyobike แห่งแรก) และ หากมีเวลาอยากไปไหว้พระวัดอาซะกุสะ ซึ่งสุดท้ายเราก็เลือกว่า
- Day 4 เราปั่นจักรยาน เพราะทริปที่บริษัททัวร์มี เค้าไปวัดอาซะกุสะ พอดีในวันเสาร์ (ปั่นจักรยานทั้งวัน) จากนั้นเราก็ไป Shibuya ดูถนนคนเยอะๆ
- Day 5 เราเที่ยวเอง ไป shopping รองเท้า onitsuka ที่ Harajuku และไป Tokyobike Gallery ซึ่งอยู่อีกโซนเลย
Day 6 Mon 15 Dec บินกลับเมืองไทย จาก Narita Airport เช้าตรู่ ต้องขึ้น Airport Limusine Bus จาก Shinjuku Woshinton Hotel ตอนตี 5 ค่ะ
แนะนำการไปเองครั้งแรก โตเกียว ฮาโกเนะนอนเรียวกัง โดราเอม่อน ปั่นจักรยานทัวร์โตเกียว Tokyobike Gallery 5วัน4คืน
เป็นทริปที่อยากไปตามใจ คือ อยากปั่นจักรยานในญี่ปุ่น อยากไปโดราเอม่อน อยากเห็นฟูจิ อยากนอนเรียวกัง และ อยากไปร้านโตเกียวไบค์ Tokyobike Gallery
เป้าหมายชัดเจน ทีนี้เราก็จัดทริปกันเลย
สิ่งสำคัญคือ งบประมาณ จะทำยังไงให้ประหยัดสุดเท่าที่ทำได้ แต่ไม่ลำบากมากเกินไป เพราะตั้งใจไปพักผ่อนกับคุณแฟน
ค่าใช้จ่ายหลักๆ ของการเที่ยวคือ ค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าที่พัก
พอได้ไปเที่ยวจริงและการศึกษาข้อมูลทำให้รู้ว่า เราประหยัดอะไรได้หลายอย่าง โดยเฉพาะค่าเดินทาง
เลยอยากแนะนำ tips ประมาณนี้ค่ะ
การซื้อบัตร Pass สำหรับการเดินทางในโตเกียว
- หลายคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น มักจะได้รับคำแนะนำว่า ให้ซื้อ JR Pass ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ทุกคนหรือทุกทริปที่ต้องซื้อ JR Pass เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดมากๆ ขึ้น ชินคังเซง จะคุ้ม แต่ของเราไม่ได้ขึ้น ชินคังเซง เลย
- หากเดินทางแค่ในโตเกียวและไปต่างเมืองคือ Hakone เท่านั้น แบบเรา เราจึงใช้แค่ บัตร Suica และ Hakone free pass เท่านั้น สำหรับ Suica ใช้เป็นเหมือนบัตรเติมเงิน ไม่มีส่วนลด แต่สะดวก และ คุ้มค่ากว่าซื้อบัตรแบบเหมาแต่ใช้ไม่คุ้ม สำหรับ เดินทางโดยรถไฟ รถบัส ได้หมด ซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้ด้วย ตอนที่เราไป ซื้อและเติมเงินครั้งแรก 1,000 เยน และ เติมอีกที 2,000 เยน ใช้ไม่หมด เก็บกลับมา ไว้ไปต่อ เพราะญี่ปุ่น ไปได้หลายครั้งไม่มีเบื่อ Suica ซื้อได้ที่บู๊ทที่เค้ารับขายบัตรของ JR และเติมเงินได้ที่ตู้อัตโนมัติ ที่สถานีรถไฟ ใช้เข้าออกสถานี ติ๊ด ติ๊ด ได้ สะดวกมากมาย
- บัตร one day pass มีเห็นคนรีวิวมาบ้าง หากใครเดินทางเยอะๆ ขึ้นรถไปโน่นนี่มากกว่า 10 เที่ยวใน 1 วัน แนะนำให้ซื้อมาใช้ได้ค่า
การเดินทางเข้าโตเกียว จากสนามบินนาริตะ
- การเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองมีหลายวิธี ลองเลือกดู ทั้ง รถไฟ รถบัส และ แนะนำหลีกเลี่ยงรถ taxi ของเราใช้ รถไฟ เช็คเวลาให้ดีก่อนเดินทาง แล้วจากนั้นเราก็ทำตามแผนของเรา เราดูๆแล้ว เราต้องเร่งรีบ เลยเลือกใช้บริการ รถไฟ NEX ค่ะ
- การเดินทางกลับสนามบินนาริตะ ก็มีง่ายๆ แต่ที่แนะนำ สะดวก ก็คือ รถบัส Airport Limusine Bus ลองดูในเว็บ https://www.limousinebus.co.jp/en/ ดูได้ว่ามีจอดที่ไหนบ้าง อย่างของเราตั้งใจไปขึ้นที่ Shinjuku Woshinton Hotel ซึ่งใกล้ที่พักของเรา ขึ้นรถตอนตีห้า สบายเลย วิธีซื้อตั๋วก็ไปซื้อที่จุดขึ้นรถบัส ควรซื้อล่วงหน้า 2-3 วันถ้าเป็นไปได้ เพราะว่าเดี๋ยวตั๋วหมด จะเศร้านะคะ
การเที่ยว Hakone เพื่อดูฟูจิ ต้มไข่ดำ นั่งเรือโจรสลัด
- ไปดู Fuji ซื้อบัตร Hakone Free Pass จะช่วยให้เที่ยวสนุกประหยัดมากๆๆๆ เลย เรายอมซื้อ แบบ 2 วัน 5,140 เยนต่อคน ซื้อที่สถานีชินจูกุ สายรถไฟของ Odakyu อย่างเราไป 1 วันครึ่ง คือไปถึงเย็นๆ แล้ว นอน แล้วเที่ยวอีกครึ่งวัน แค่ค่ารถไฟ รถใน hakone เองก็คุ้มค่าบัตรแล้วค่ะ ใครไปแบบเที่ยววันเดียวไปเช้าเย็นกลับ ก็น่าจะคุ้มนะคะ ลองคำนวณดูได้ แนะนำลองศึกษาที่เว็บ http://www.hakonenavi.jp/thai/freepass/
ที่เกริ่นๆมา คือ สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากกับการวางแผนเดินทางก่อนไป เพราะถ้าไปหลง ไปมัวแต่คำนวณเงิน หน้าตู้ซื้อบัตร มันจะไม่สนุกแน่ๆ เพราะพอไปถึงจริง คุณจะตื่นคนมาก คนเยอะมาจากไหนเนี่ย แต่สนุกนะคะ รู้สึกกระฉับกระเฉงดี เหมือนแรงพลังของคนญี่ปุ่นเค้าทำให้เรามีชีวิตชีวา 55555
การแลกตังค์
เมื่อเราวางแผนหลายๆอย่างไว้ได้แล้ว ก็แลกตังค์ไป เพื่อไปซื้อ และ เผื่อสำหรับการกิน การช๊อปปิ้งด้วย
ถ้าดูจากภาพประมาณการด้านล่างของเรา (ไม่ได้รวมค่าเช่า pocket wifi ลืมใส่)
เงินสด เราแลกไปที่ 30,000 บาท ได้เงินเยนมา 100,000 เยน สำหรับใช้ 2 คน และ เราแลกเงินเผื่อซื้อของและของฝาก ไปอีกต่างหาก ประมาณ 30000 เยน
พอจบทริป ทุกอย่างหมดเกลี้ยง แถมรูดบัตรช๊อปปิ้งอีกนิดนึง 55555
การจัด ทริป ของเรามีเป้าหมายละ
โตเกียว เที่ยวฮาโกเนะนอนเรียวกัง โดราเอม่อน ปั่นจักรยานทัวร์โตเกียว Tokyobike Gallery
สรุป ทริปของเราออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ
Day 1 Wed 10 Dec เดินทาง 23.45 น. Airasia X โดยจองที่นั่งริมหน้าต่าง ฝั่งซ้ายของเครื่อง (เพื่อรอดูภูเาไฟฟูจิ จากวิวหน้าต่าง) ถามว่าตอนไปเจอไหม ก็ไม่เห็นนะคะ หรือเราอาจจะหลับอยู่ไม่รู้) ส่วนขากลับควรจองที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวามือของเครื่องค่ะ หลีกเลี่ยงปีกเครื่องนะคะ
Day 2 Thu 11 Dec ถึง Tokyo Narita 07.00 น. รับกระเป๋า แล้วรีบไปหาบู๊ทของ NEX เพื่อซื้อตั๋วรถไฟด่วนๆ NEX ไปลงสถานีชินจูกุ แผนคือจะไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมย่านชินจูกุแล้วก็เดินทางจาก สถานี Shinjuku ไป Hakone โดยรถไฟสาย Odakyo เพื่อพัก เรียวกัง ชื่อ Yugiriso
(เดิมจอง Shinjuku Woshinton Hotel เอาไว้ เพราะว่าดูเป็นโรงแรมใกล้สถานีชินจูกุ และ มีบริการรถรับส่งสนามบิน ก่ะว่าเผื่อไปถึงและขากลับอาจจะต้องเปลี่ยนแผนใช้บริการ airport limusine bus จะได้สะดวก แต่แล้วเพราะเว็บที่จองที่พัก cancel ที่พักเราซะงั้น เลยได้พักใกล้ๆกัน คือ โรงแรม Sun Member Hotel แต่ก็ดีค่ะ ใกล้จุดขึ้นรถ bus ไปสนามบิน )
Day 3 Fri 12 Dec เที่ยวใน Hekone (มีบัตร hake free pass เที่ยวได้ทั้งวัน) แต่เอาเข้าจริง เปลี่ยนแผน รีบกลับเข้าเมืองเพื่อไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์โดราเอม่อน ที่รถไฟสาย Odakyu ผ่านสถานี Noborito พอดี และ ตอนเย็น check in แล้ว เดินเที่ยวใน Shinjuku
Day 4 - Day 5 Sat 13 - Sun - 14 Dec เป็นวันฟรี ที่วางไว้ว่าอยากไปไหนก็ได้ ซึ่งเหลือ อีก 2 อย่างที่อยากทำ คือ ปั่น Tokyobike เที่ยว Tokyo และ ไป Tokyobike Gallery (ร้าน tokyobike แห่งแรก) และ หากมีเวลาอยากไปไหว้พระวัดอาซะกุสะ ซึ่งสุดท้ายเราก็เลือกว่า
- Day 4 เราปั่นจักรยาน เพราะทริปที่บริษัททัวร์มี เค้าไปวัดอาซะกุสะ พอดีในวันเสาร์ (ปั่นจักรยานทั้งวัน) จากนั้นเราก็ไป Shibuya ดูถนนคนเยอะๆ
- Day 5 เราเที่ยวเอง ไป shopping รองเท้า onitsuka ที่ Harajuku และไป Tokyobike Gallery ซึ่งอยู่อีกโซนเลย
Day 6 Mon 15 Dec บินกลับเมืองไทย จาก Narita Airport เช้าตรู่ ต้องขึ้น Airport Limusine Bus จาก Shinjuku Woshinton Hotel ตอนตี 5 ค่ะ