ตัวผมเองเคยโดนปฎิเสธวีซ่า ท่องเที่ยวมาเมื่อปี 2003 ตอนนั้นอายุ22-23 โดนปฎิเสธไปก็เงิบเหมือนกันครับ เพราะกลุ่มพี่ๆๆ ที่ทำงานได้วีซ่ามาก่อนเขาไปกันเป็นหมู่คณะ.... เราก็สุดเซ็ง เพราะตอนนั้นมีเงินเดือน 22000 บาทครับ ตำแหน่งผุ้ช่วยผู้จัดการ, บริษัททางการเงินแห่งหนึ่งในประเทศไทย. ก็ติดใจว่าทำไหมไม่ได้ แต่บอกตรงๆ ตอนนั้นเตรียมเอกสารไปชุ่ยไป คือเราไม่คิดว่ามันจะไม่ได้ไงครับ เลยทำแบบลายมือกรอกแปะรูป เขียนๆๆ อย่างเดียว.(แนะนำครับกรอกให้มันมีเหตุผลที่สุด และมีถิ่นฐานในเมืองไทยว่ายังไงเราก็ไม่ไปอยู่นานอะครับ)
เล่าสู่กันฟังนะครับ หลังจากส่งเอกสารทุกอย่างครบรอบนี้.. สรุปมาเริ่มกันที่จุดสัมภาษณ์ เลยละกันครับ..
1. แนะนำเอาพวกสัมภาระทั้งหมด เก็บไว้ที่อื่นก่อนเข้าไปต่อแถวนะครับ..ทางเข้าฝากได้แค่พวกสายชารท์แบตสำรองเล็กๆ ทางที่ดีเก็บไว้ในรถ ไม่ก็ฝากเพื่อนข้างนอก
2. เข้าไปเจอจุดแรกจะเป็นจุดที่ออกรหัสไปรษณีย์ให้เราในการนำส่งเอกสาร เมื่อวีซ่าท่าได้รับการอนุมัติ จดไว้นะครับ. จะได้เอาไว้ติดตามวีซ่าเมื่อได้รับการอนุมัติ
3. เข้าแถวตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่ถือว่าบริการดีครับ ไม่ได้จุกจิกหรือบริการอะไรที่ทำแล้วรู้สึกผิดหวังครับ. ผมเจอน้องผู้ชายใส่แว่นก็แสดงอัธยาศัยที่ยิ่มแย้มดีครับ ตรวจได้ 5-10 นาทีก็บอกให้เข้าไปในห้องข้างๆ ครับ
4. นั่งสักพัก 5 นาที ก็มีประกาศให้เข้าแถว เจ้าหน้าที่ผุ้หญิงฝรั่งให้กดสแกนนิ้ว 2 ข้าง (พูดไทย + อังกฤษ)ได้หมดไม่ต้องกังวล. หลังจากนั้นกลับไปนั่งรอนาทีละทึกใจใน 10-15 นาที เข้าแถวสู่การพิจารณาครับ..
5. เจ้าหน้าที่ประกาศต่อแถว อีกครั้ง (รอบสัมภาษณ์)
- เจ้าหน้าที่ :สวัสดีครับ Hi,zzzzz Thai or English?
- ผม : Hi, English please.
- เจ้าหน้าที่ : มองหน้าจอพิมพ์ข้อมูล (ผมคาดว่าข้อมูลเขาได้ตอนที่เรากรอกรอบแรบกับตอนที่ตรวจเอกสารจะวิ่งเข้ามาตรงนี้) What sort of work do you do?
- ผม : I was doing with a brokerage firm based in Thailand.
- เจ้าหน้าที : What position of work are you in ?
- ผม : My position is Executive Vice President and handle in the part of Equity market and also Derivative trading dept.
- เจ้าหน้าที่ : What is your purpose to travel in Hawaii (ผมเขียนไปฮาวาย)
- ผม : My purpose is to visit my high net worth client about 7 days in Hawaii and seeing the diamond head, pearl harbor and ผมจำไม่ได้ละผมบอกที่นี้ปั้บ เขาสวนตอบผมเลย
- เจ้าหน้าที่ : Nice view..You have to take a helicopter to see the view. พิมพฺ์ๆๆๆl.
- ผม : ยิ้มครับ. เพราะผมไม่ได้แพลนอะไรเลยเกี่ยวกับนั่งเฮลิคอปเตอร์.
- เจ้าหน้าที่ : Are you married?
- ผม : Yes
- เจ้าหน้าที่ : How's your wife? Why doesn't she travel with you ?
- ผม : She needs to work.. กำลังจะอธิบายเลยว่าทำไหมต้องทำงาน เขาสวนแซวผมมาเลย
- เจ้าหน้าที่ : Hmmm.. She needs to work but allow you travel alone.. แล้วก็หัวเราะขำๆๆ ผมก็ขำเลยที่นี้ ว่าจะนิ่งๆ.
- เจ้าหน้าที่ : How much your salary based?
- ผม : xxx,000 bht
- เจ้าหน้าที่ : พิมพ์ๆๆ สัก 1 นาที นิ่งๆๆ..ย่อๆ แล้วโยกตัวมาข้างหน้า Yeah.. Your visa is approved, (ตรงกันข้ามผมเคยจำเหตุการณ์นี้ได้ ปี 2003 เจ้าหน้าที่โยกตัวออกมา I could not approval your visa if you ...... คุณไปยื่นคำฟ้องเอาเราละกัน)
- ผม : Thank you,
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผม 10 ปีที่ผ่านมา. ผมเดินทางไป ฮ่องกง /เวียดนาม / ญี่ปุ่น / อิตาลี/ ลาว /กัมพูชา/จีน, สมรส, ฐานเงินเดือนผมเปลี่ยนไปด้วยอะครับ.. เล่าสู่กันฟังนะครับ
** แชร์ประสบการณ์ ขอวีซ่าท่องเที่ยว เมกา **
เล่าสู่กันฟังนะครับ หลังจากส่งเอกสารทุกอย่างครบรอบนี้.. สรุปมาเริ่มกันที่จุดสัมภาษณ์ เลยละกันครับ..
1. แนะนำเอาพวกสัมภาระทั้งหมด เก็บไว้ที่อื่นก่อนเข้าไปต่อแถวนะครับ..ทางเข้าฝากได้แค่พวกสายชารท์แบตสำรองเล็กๆ ทางที่ดีเก็บไว้ในรถ ไม่ก็ฝากเพื่อนข้างนอก
2. เข้าไปเจอจุดแรกจะเป็นจุดที่ออกรหัสไปรษณีย์ให้เราในการนำส่งเอกสาร เมื่อวีซ่าท่าได้รับการอนุมัติ จดไว้นะครับ. จะได้เอาไว้ติดตามวีซ่าเมื่อได้รับการอนุมัติ
3. เข้าแถวตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่ถือว่าบริการดีครับ ไม่ได้จุกจิกหรือบริการอะไรที่ทำแล้วรู้สึกผิดหวังครับ. ผมเจอน้องผู้ชายใส่แว่นก็แสดงอัธยาศัยที่ยิ่มแย้มดีครับ ตรวจได้ 5-10 นาทีก็บอกให้เข้าไปในห้องข้างๆ ครับ
4. นั่งสักพัก 5 นาที ก็มีประกาศให้เข้าแถว เจ้าหน้าที่ผุ้หญิงฝรั่งให้กดสแกนนิ้ว 2 ข้าง (พูดไทย + อังกฤษ)ได้หมดไม่ต้องกังวล. หลังจากนั้นกลับไปนั่งรอนาทีละทึกใจใน 10-15 นาที เข้าแถวสู่การพิจารณาครับ..
5. เจ้าหน้าที่ประกาศต่อแถว อีกครั้ง (รอบสัมภาษณ์)
- เจ้าหน้าที่ :สวัสดีครับ Hi,zzzzz Thai or English?
- ผม : Hi, English please.
- เจ้าหน้าที่ : มองหน้าจอพิมพ์ข้อมูล (ผมคาดว่าข้อมูลเขาได้ตอนที่เรากรอกรอบแรบกับตอนที่ตรวจเอกสารจะวิ่งเข้ามาตรงนี้) What sort of work do you do?
- ผม : I was doing with a brokerage firm based in Thailand.
- เจ้าหน้าที : What position of work are you in ?
- ผม : My position is Executive Vice President and handle in the part of Equity market and also Derivative trading dept.
- เจ้าหน้าที่ : What is your purpose to travel in Hawaii (ผมเขียนไปฮาวาย)
- ผม : My purpose is to visit my high net worth client about 7 days in Hawaii and seeing the diamond head, pearl harbor and ผมจำไม่ได้ละผมบอกที่นี้ปั้บ เขาสวนตอบผมเลย
- เจ้าหน้าที่ : Nice view..You have to take a helicopter to see the view. พิมพฺ์ๆๆๆl.
- ผม : ยิ้มครับ. เพราะผมไม่ได้แพลนอะไรเลยเกี่ยวกับนั่งเฮลิคอปเตอร์.
- เจ้าหน้าที่ : Are you married?
- ผม : Yes
- เจ้าหน้าที่ : How's your wife? Why doesn't she travel with you ?
- ผม : She needs to work.. กำลังจะอธิบายเลยว่าทำไหมต้องทำงาน เขาสวนแซวผมมาเลย
- เจ้าหน้าที่ : Hmmm.. She needs to work but allow you travel alone.. แล้วก็หัวเราะขำๆๆ ผมก็ขำเลยที่นี้ ว่าจะนิ่งๆ.
- เจ้าหน้าที่ : How much your salary based?
- ผม : xxx,000 bht
- เจ้าหน้าที่ : พิมพ์ๆๆ สัก 1 นาที นิ่งๆๆ..ย่อๆ แล้วโยกตัวมาข้างหน้า Yeah.. Your visa is approved, (ตรงกันข้ามผมเคยจำเหตุการณ์นี้ได้ ปี 2003 เจ้าหน้าที่โยกตัวออกมา I could not approval your visa if you ...... คุณไปยื่นคำฟ้องเอาเราละกัน)
- ผม : Thank you,
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผม 10 ปีที่ผ่านมา. ผมเดินทางไป ฮ่องกง /เวียดนาม / ญี่ปุ่น / อิตาลี/ ลาว /กัมพูชา/จีน, สมรส, ฐานเงินเดือนผมเปลี่ยนไปด้วยอะครับ.. เล่าสู่กันฟังนะครับ