จากซีโร่สู่ฮีโร่!ปีกก้านยาวทัพไทยเจ้าของแชมป์ซูซูกิคัพเผยชีวิตสุดดราม่าในอดีตจากหนุ่มพนักงานโรงงาน ก่อนก้าวมาเป็นแข้งอาชีพ
"เย็น" มงคล ทศไกร ปีกขวาความเร็วสูงของทีมชาติไทยจากอาร์มี่ ยูไนเต็ด เปิดเผยเรื่องราวสุดดราม่าของชีวิตว่า เมื่อ 6 ปีก่อนเขายังเป็นเพียง พนักงานแยกสารเครื่องสำอางในโรงงานย่านบางพลี รับเงินเพียง 205 บาทต่อวัน อีกทั้งยังรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจคิดว่าจะไม่ได้เป็นนักฟุตบอลแล้ว
ดาวเตะวัย 27 ปี เล่าถึงอดีตเมื่อหิ้วสตั๊ดไปฝึกซ้อมกับธนาคารกรุงไทย เมื่อปี 2008 แต่ต้องรออยู่นาน จนคิดว่าไม่ได้รับการเซ็นสัญญากับสโมสร บวกกับขณะนั้นได้ปรึกษากับพ่อ-แม่ และคิดว่าควรหางานอื่นทำ จึงไปเป็นพนักงานโรงงานแยกสารเครื่องสำอางย่านบางพลี อยู่เดือนกว่า แต่ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม ก็ได้เรียกเขากลับมาซ้อมกับทีมอีกครั้งพร้อมให้สัญญานักฟุตบอลอาชีพระยะสั้น
"มันรู้สึกบอกไม่ถูก" มงคล เริ่มกล่าว "ตอนนั้นผมเคยมีความคิดน้อยเนื้อต่ำใจคิดว่าไม่มีโอกาสได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพเหมือนที่ฝันไว้แล้ว ประกอบกับบ้านเราก็ประสบปัญหาด้านการเงิน จึงต้องไปหางานทำอย่างอื่นก่อน"
"ผมได้ค่าจ้างแค่วันละ 205 บาทเท่านั้น รู้สึกหมดหวังกับชีวิตที่ฝัน แต่ “โค้ชแต๊ก” (อรรถพล ปุษปาคม) จู่ๆก็เรียกผมกลับไปเล่นกับทีมกรุงไทย แม้ผมจะไม่ได้ลงเล่นก็ตามแต่ทำให้ผมมีรายได้มากขึ้น"
"อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนชีวิตของผมคือตอนจับได้ใบแดง ต้องมาเป็นทหาร โดยปี 2009 ผมต้องเล่นให้ทหารบกโดยอัตโนมัติ เล่นให้มาจนถึงทุกวันนี้ และได้ติดทีมชาติไทย"
"เมื่อเทียบตอนที่เป็นพนักงานโรงงาน กับตอนนี้ที่ได้เป็นหนึ่งในฮีโร่ของคนไทยแล้ว ผมพูดได้เลยว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ" มงคล กล่าวแบบภูมิใจ
ที่มา goal.com
ชีวิตสุดดราม่า จากอดีตหนุ่มพนักงานโรงงาน จนมาถึงแชมป์ AFF SUZUKI CUP
จากซีโร่สู่ฮีโร่!ปีกก้านยาวทัพไทยเจ้าของแชมป์ซูซูกิคัพเผยชีวิตสุดดราม่าในอดีตจากหนุ่มพนักงานโรงงาน ก่อนก้าวมาเป็นแข้งอาชีพ
"เย็น" มงคล ทศไกร ปีกขวาความเร็วสูงของทีมชาติไทยจากอาร์มี่ ยูไนเต็ด เปิดเผยเรื่องราวสุดดราม่าของชีวิตว่า เมื่อ 6 ปีก่อนเขายังเป็นเพียง พนักงานแยกสารเครื่องสำอางในโรงงานย่านบางพลี รับเงินเพียง 205 บาทต่อวัน อีกทั้งยังรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจคิดว่าจะไม่ได้เป็นนักฟุตบอลแล้ว
ดาวเตะวัย 27 ปี เล่าถึงอดีตเมื่อหิ้วสตั๊ดไปฝึกซ้อมกับธนาคารกรุงไทย เมื่อปี 2008 แต่ต้องรออยู่นาน จนคิดว่าไม่ได้รับการเซ็นสัญญากับสโมสร บวกกับขณะนั้นได้ปรึกษากับพ่อ-แม่ และคิดว่าควรหางานอื่นทำ จึงไปเป็นพนักงานโรงงานแยกสารเครื่องสำอางย่านบางพลี อยู่เดือนกว่า แต่ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม ก็ได้เรียกเขากลับมาซ้อมกับทีมอีกครั้งพร้อมให้สัญญานักฟุตบอลอาชีพระยะสั้น
"มันรู้สึกบอกไม่ถูก" มงคล เริ่มกล่าว "ตอนนั้นผมเคยมีความคิดน้อยเนื้อต่ำใจคิดว่าไม่มีโอกาสได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพเหมือนที่ฝันไว้แล้ว ประกอบกับบ้านเราก็ประสบปัญหาด้านการเงิน จึงต้องไปหางานทำอย่างอื่นก่อน"
"ผมได้ค่าจ้างแค่วันละ 205 บาทเท่านั้น รู้สึกหมดหวังกับชีวิตที่ฝัน แต่ “โค้ชแต๊ก” (อรรถพล ปุษปาคม) จู่ๆก็เรียกผมกลับไปเล่นกับทีมกรุงไทย แม้ผมจะไม่ได้ลงเล่นก็ตามแต่ทำให้ผมมีรายได้มากขึ้น"
"อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนชีวิตของผมคือตอนจับได้ใบแดง ต้องมาเป็นทหาร โดยปี 2009 ผมต้องเล่นให้ทหารบกโดยอัตโนมัติ เล่นให้มาจนถึงทุกวันนี้ และได้ติดทีมชาติไทย"
"เมื่อเทียบตอนที่เป็นพนักงานโรงงาน กับตอนนี้ที่ได้เป็นหนึ่งในฮีโร่ของคนไทยแล้ว ผมพูดได้เลยว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ" มงคล กล่าวแบบภูมิใจ
ที่มา goal.com