ชุมทางคนกล้าตาย ๒๐ ธ.ค.๕๗

ชุมทางคนกล้าตาย (๒) ๒๐ ธ.ค.๕๗

สยุมภู ทศพล

ตอนที่ 2

กระสุนปืนทุกชนิดสงบเงียบลงเป็นปลิดทิ้ง แสงไฟฉายกระพริบเป็นจังหวะรหัสมอสพุ่งออกจากจุดยิงที่อยู่คนละฟากถนน ผมกลั้นลมหายใจด้วยความตื่นเต้น ขณะนี้ทหารเวียดนามเหนือกำลังเคลื่อนที่เข้ามาตรวจค้นเต๊นท์สนามของพวกเราแล้ว และปัญหาที่ใหญ่หลวงก็คือ รังปืนกลหนักที่ตั้งฐานยิงอยู่บนเนินเขาเหนือศรีษะของพวกเรานี่เอง

               ส.ต. อาษา จิตตเที่ยงธรรม กับมือพิฆาตอีก 4 คน คลานเข้ามารับอาสาเก็บรังปืนหนักกระบอกนั้น หลังจากวางแผนกันชั่วครู่ มือพิฆาตทั้ง 5 คนก็คืบคลานขึ้นไปบนเนินอย่างเงียบเชียบ มีเสียงโลหะกระทบกันเบาๆ ในบริเวณขอบถนนเบื้องล่าง เมื่อผมเพ่งสายตามองดูก็เห็นเงาตะคุ่มๆ ของทหารเวียดนามเหนือ คลานยั้วเยี้ยอยู่เต็มไปหมด แน่ยิ่งกว่าแน่ พวกมันจะต้องทิ้งหน่วยอาวุธหนัก ซึ่งทำหน้าที่คุ้มกันเอาไว้ ณ จุดเดิมอย่างแน่นอน
ผมบังเกิดอาการพะว้าพะวังขึ้นมาในปัจจุบันทันด่วน ขณะนี้เวลานี้เป็นโอกาสของผมที่จะยิงถล่มลงไปยังจุดพักแรมเบื้องล่าง และในขณะเดียวกัน ทหารชุดพิฆาตของผมทั้ง 5 คน ซึ่งปีนขึ้นไปเก็บรังปืนกลหนักก็กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ข้างบน ถ้าลูกน้องผมพลาด งานทุกสิ่งทุกอย่างก็พังทะลายลงไม่มีชิ้นดี เจ้าปืนกลหนักกระบอกนั้นจะต้องหันทิศทางยิงลงมาจวกพวกผมแหลกรานเป็นธุลีไปเท่านั้นเอง ไม่มีคราใดที่ผมจะวุ่นวายใจเท่ากับครั้งนี้ อา.... ทหารรับจ้างเดนตายอย่างผมจะพบกับจุดจบเอาอย่างง่ายๆบนเส้นทางนรกแห่งนี้เชียวหรือนี่...ไม่มีวิธีใดๆที่ผมจะเลือกปฏิบัติอีกแล้วหรือ ร่างของทหารเวียดนามเหนือที่ชุลมุนวุ่นวายอยู่ภายในเต๊นท์สนามเบื้องล่างทำให้ผมตัดสินใจสั่งยิง “เอ็ม-72” ทันที

                  ตามแผนการที่วางเอาไว้อย่างรัดกุม ผมจะใช้ “เอ็ม-72” 10 กระบอกยิงทำลายที่ตั้งอาวุธหนักของข้าศึกที่อยู่บนเนินเหนือของถนนตามที่หมายที่ “ล็อค” เอาไว้แล้วในขณะที่สังเกตุเห็นแสงไฟตั้งแต่ข้าศึกเริ่มระดมยิง “เอ็ม.72” ชุดที่ 2 อีก 15 กระบอกยิงถล่มจุดพักแรมในลักษณะการยิงด้วยระยะ 5 เมตรต่อหนึ่งนัด “เอ็ม.60” ทั้ง 3 กระบอกประสานการยิงคลุมพื้นที่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจุดพักแรมหรือว่าที่ตั้งอาวุธหนักของข้าศึก ให้ทั้งหมดอยู่ในดุลยพินิจของพลยิงซึ่งเจนสงครามพอสมควร สำหรับปืนกลหนักกระบอกนั้น ผมไม่มีโอกาสที่จะวางแผนเอาไว้เสียแล้ว เหมือนกับโชคมันจะอุ้มสม มนุษย์เดนตายหยั่งผมให้มีชีวิตยืนยาว เพื่อผจญกับสงครามลาวที่เส็งเคร็งอีกต่อไป ผมมองเห็นประกายไฟสีส้มสว่างแว๊บอยู่เหนือศรีษะ เสียงระเบิดที่ผมจำได้อย่างฝังจิตฝังใจดังแหวกความเงียบขึ้นมาก้องขุนเขา ใช่ครับ มันเป็นเสียงระเบิดผิวเกลี้ยงชนิด “เอ็ม-26” อันทรงอานุภาพที่พวกผมใช้กันในปัจจุบันนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีเสียงปืน เอ็ม.16 ระรัวเป็นเสียงข้าวตอกแตกครางระงมอยู่ไม่น้อยกว่า 2 แม็กกาซีนขึ้นไป “ที่หมาย ตามแผน...ยิง”   ผมแหกปากตะโกนลั่น

                  บัดดลนั้นเอง ดนตรีสงครามก็กระหึ่มขึ้นมาเหมือนกับได้นัดกันเอาไว้ ห่ากระสุน “เอ็ม.16” พรั่งพรูออกจากลำกล้องด้วยระบบออโต
“เอ็ม.60” ส่ายลำกล้องไล่เดี๊ยะตั้งแต่บริเวณหัวเต๊นท์สนามยันท้ายสลับกันไปมาทั้งสามกระบอก  “เอ็ม.72” ถล่มโครมลงไปลูกแล้วลูกเล่าในช่วงระยะการยิงที่แม่แต่หนูก็ไม่เหลือหลอ  เป้าหมายอาวุธหนักของข้าศึกโดนถล่มอย่างไม่ทันรู้ตัว เอ็ม.72 ถูกระดมยิงออกไปอย่างจักรผัน ลูกแล้วลูกเล่าที่สลับยิงถล่มขึ้นไปโดยไม่ปล่อยโอกาสให้ข้าศึกตั้งหลักแม้แต่วินาทีเดียว “ปึง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงปืนกลหนักคำรามขึ้นมาอย่างหูดับตับไหม้ ชั่วอึดใจมันก็เงียบเป็นปลิดทิ้ง พร้อมๆกับมีเสียงตะโกนแหวกเสียงระเบิดเข้ามาได้ยินแว่วๆ  

“บิ๊กแมน ปืนกลหนัก ห้องลูกเลื่อนแตก ผมขออนุญาตลงไปข้างล่างครับ”   
“โอเค...น้องชาย...ลงมาโลด”  ผมตะโกนตอบขึ้นไปพร้อมกับตะแคงปืน เอ็ม.16 ให้แม้กกาซีนขนานกับพื้น ขยับมือซ้ายที่กำครอบท่อแก๊สให้หลวม เหนี่ยวไกด้วยระบบอัตโนมัติเต็มตัว จากลักษณะการยิงที่พิเรนพิเรนแบบนี้ทำให้เกิดแรงเหวี่ยงขึ้นมาในขณะลูกกระสุนออกจากปากลำกล้อง
แรงเหวี่ยงทำให้ปืนส่ายออกไปเป็นมุมกว้างโดยไม่ต้องออกแรงบังคับ ให้ตายเถอะครับ การยิงอัตโนมัติเต็มตัวแบบนี้ เอร็ดอร่อยที่สุดในชีวิต มองเห็นแม้กระทั่งปลอกกระสุนที่กระเด็นฉิวขึ้นมาเป็นแถวๆอย่างถนัดหูถนัดตา ขออย่างเดียวอย่าไปยิงในขณะที่กำลังเกิดการประทะกับข้าศึกในระยะเกินร้อยเมตรเป็นอันขาด ระยะขนาดนั้นเราจะต้องจวกกับมันด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติ อันเป็นระยะที่เอ็ม.16 ทำงานอย่างนิ่มนวลที่สุด...โดยที่ปืนไม่ส่ายจนวิถีกระสุนพลาดจากเป้าหมายเป็นวาๆ

              เท่าที่ผมยิงพิเนรๆแบบนี้ก้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ สภาพของเหตุการณ์ที่ผมกำลังเป็นต่อข้าศึกอยู่ในขณะนี้ทำให้ผมเกิดอาการลำพองใจและ “มัน” ขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน  ท่านผู้อ่านน่าจะเห็นใจผมบ้างนะครับ..หลายต่อหลายครั้งที่ผมโดนไอ้แกวไล่จวกไล่ขยี้ จนต้องวิ่งหนีอย่างชนิดขี้หดตดหาย เมื่อมีโอกาส “ล่า” พวกมันบ้าง ก็ขอเป็นพระเอกหนังไทยสักเรื่องเถอะครับ ไม่มีเสียงปืยยิงโต้ตอบจากทหารเวียดนามเหนือแม้แต่นัดเดียว ฮี่ธ่อ... พวกมันจะโงหัวขึ้นมายิงสู้กับพวกผมได้ยังไงกัน ทั้งจรวดเอย, ปืนกลเอย, เอ็ม.16เอย ยิงถล่มเข้าใส่เป็นพายุบุแคม แทบจะไม่มีเวลาหยุดหายใจแบบนี้ ขืนพวกมันสะเออะหน้าขึ้นมาจากที่กำบังก็ “สวัสดียมบาล” กันเท่านั้น  บอกกับใคร-ใครก็คงหัวเราะ ผมยิง เอ็ม.16 หมดไป 40 แม็กพอดิบพอดี  กระสุน 720 นัดหายวับไปในชั่วพริบตา

               ผมเขียนมาถึงตรงนี้ บางทีท่านผู้อ่าน และท่านผู้ที่สนใจในอาวุธปืน คงจะเอะใจ ร้องขึ้นมาว่า เอ๊ะ ก็กระสุนหมดไปตั้ง 40 แม็ก จำนวนกระสุนมันจะต้องมี 800 นัดถ้วนๆไม่ใช่?  ครับ...ถูกต้องครับ ตามหลักทฤษฎี “เอ็ม.16 มีแม็กกาซีนบรรจุกระสุนได้ 2 ชนิดคือ 20 นัด และ 30 นัด  อย่างที่ผมใช้ในสมรภูมิลาวส่วนมากใช้แบบ 20 นัดครับ และตามความเป็นจริง ไม่มีทหารรับจ้างคนไหน อุตริบรรจุลูกกระสุนครบตามจำนวน 20 นัดหรอกครับ  ขัดข้อง แหนบส่งกระสุนไม่มีแรงป้อนลุกเข้ารังเพลิง เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวบ่อยครั้งในการยิงต่อสู้ข้าศึกในระยะประชิดตัว   เรื่องทั้งเรื่องทหารรับจ้างก็เลยบรรจุกระสุนลงไปในแม็กกาซีนเพียง 18 นัดเท่านั้นเอง  เรื่องอาวุธปืน ถ้าผู้เขียนสารคดีหรือว่านวนิยายคนใดไม่สันทัดหรือว่าคลุกคลีกับปืนมาก่อนแล้ว ก็มักจะเขียนผิดความจริงออกมาให้ท่านผู้อ่านที่รู้จริงทักท้วงอยู่เสมอ แม้แต่เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งที่เคยเขียนลงในหนังสือรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งเป็นประจำก็ยังปล่อยไก่ออกมาตัวเบ้อเร่อ พี่แกดันเขียนว่า ปืน เอ็ม.16 บรรจุกระสุนเต็มแม็กกาซีนได้เพียง 15 นัดเสียนี่ เล่นเอาโดนเพื่อนๆทหารอำกันไปตั้งหลายวัน   และก็ในหนังสือฉบับเดียวกันนั้น ในนวนิยายเกี่ยวกับ สงครามในลาวเรื่องหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าจะชื่อ “วีระบุรุษสีเขียว” นี่แหละครับ ผู้แต่งเรื่องนี้อาจจะเคยเข้าไปปฏิบัติการในลาว แต่ผมเชื่อแน่ว่า พี่แกไม่เคยออกรบกับกองพันทหารรับจ้างแหง๋ๆ เพราะเพื่อนๆทหารของผมอ่านนวนิยายเรื่องนี้แล้วก็พากันถกเถียงกันอยู่เสมอๆ ว่าผิดจากความเป็นจริง ผู้แต่งวาดภาพพจน์ทหารรับจ้างในลาวผิดความจริงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

                กองพันทหารรับจ้างมีรถถัง เอ็ม.24 ใช้วะด้วย แถมเวลาจะเคลื่อนที่ก็มีธงโบกสะบัดยังกับกองทัพกฐินผ้าป่ายังไงยังงั้น  ตามปกติปืนครก 4.2 หนักขนาดไหน ทหารราบทุกคนย่อมรู้ แต่ในนวนิยายดังกล่าวใช้พลยิงสองคนอุ้มปืนครกไปวางอย่างสะดวกโยธิน แถมคนหนึ่งยังขยับให้ฐานปืนเข้าที่ซะอีก ยังไงครับ...มันเป็นไปได้หรือเปล่า…  สนุกครับ พล็อตเรื่องสนุกมาก ผมก็ยังติดใจอ่านเป็นประจำ แต่ข้อเท็จจริงนี่ซิ ประเดี๋ยวใครๆเขาไม่รู้ก็จะพากันทึกทักเอากันว่า ขนาดกองพันทหารรับจ้างมีรถถังใช้ตั้ง 2-3 คันก็ยังถูกพวกไอ้แกวไล่จวกเสียกระเจิง  ตัวของผมเองก็เถอะน่า ยังปล่อยไก่เข้าอย่างจังเบอร์ ก็ในเรื่องสงครามฝิ่นที่ภูหินตั้ง ที่ลงในจักรวาลรายสัปดาห์นี่แหละครับ ผมสะเออะไปเขียนเกี่ยวกับความเร็วของเครื่องบินที่ผิดจากความจริงจนโดนท่านผู้อ่านจวกมา จนเขียนหนังสือไม่ออกไปตั้งหลายสัปดาห์มาแล้ว  เรื่องทั้งหมดที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมา ใครๆจะหาว่าผมเป็นคนค่อนข้างจะปากหมา ผมก็ยอมรับ...และตามเหตุผลดังกล่าวแล้ว มันก็เป็นความจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้ ไม่ใช่หรือครับ...   ความผิดพลาดย่อมบังเกิดขึ้นได้ทุกขณะ สิ่งใดที่ผมเขียนเลยเถิดหรือว่าผิดไปจากความเป็นจริง กรุณาทักท้วงสิ่งนั้นจะเป็นบทเรียนและเครื่องเตือนสติของผมต่อไป หวังว่าแฟนๆหนังสือที่ติดตามผลงานของผมคงจะเข้าใจนะครับ
  ยิง...ยิง...  จนนิ้วชี้ที่อยู่ในโก่งไกรแข็งทื่อเหมือนกับจะเป็นะคิว   1 ชั่วโมง 45 นาที ที่พวกผมระดมยิงพวกมันอย่างบ้าคลั่ง

   03.05 น. กระสุนทุกชนิดเงียบเสียงลงเป็นปลิดทิ้ง    ผมออกคำสั่งทางวิทยุ HT-2 ให้กระแทกแฟลร์กระทุ้งขึ้ไปอย่างชนิดต่อเนื่องกัน
   “พรึบ”    แฟลร์กระทุ้งลอยฟ่องอยู่บนเส้นทางมรณะแห่งนั้น อำนาจของดวงไฟขนาด 5000 แรงเทียน ที่กลังลอยลงอย่างช้าๆ สาดออกไปออกไป รอบบริเวณ ความสว่างไสวของมันทำให้บริเวณดังกล่าวสว่างจ้าคล้ายๆกับมีงานเฉลิมฉลอง    “พรึบ”   แฟลร์กระทุ้งดวงที่สองถูกกระแทกขึ้นไปลอยฟ่องอีกในช่วงระยะที่แฟลร์ดวงแรกกำลังจะตกลงมากระทบพื้นพอดิบพอดี   จากลักษณะดังกล่าว ทำให้พื้นที่สังหารสว่างไสวต่อเนื่องกันอยู่ตลอดเวลา  เต็นท์สนามหายไปจากที่เดิมเกือบหมดสิ้น ซากศพของทหารเวียดนามเหนือนอนระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด   ผมไม่สามารถที่จะเช็คจำนวนของทหารเวียดนามเหนือที่ตายได้ถูกต้อง เนื่องจากซากศพขาดออกเป็นท่อนๆเกลื่อนพื้นถนน   เพื่อความรอบคอบ และเพื่อความปลอดภัยผม ออกคำสั่งให้ทุกคนสงบเงียบอยู่บนแนวพร้อมกับกระทุ้งแฟลร์ขึ้นไปทุกๆ 10 นาที   05.50 น. แฟลร์กระทุ้ง 100 อันก็เรียบวุธไม่เหลือหลอ และพร้อมๆกันนั้น รัศมีอันเรืองรองของดวงสุริยะก็ค่อยๆพ้นเหลี่ยมเขาขึ้นมาอย่างอ้อยอิ่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่