กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip วันที่ 1 และ 2 ณ กรุงปราก
http://pantip.com/topic/32990276
Part 3 Hallstatt
http://pantip.com/topic/33015809
Honeymoon Trip part 4 Salzbrug
http://pantip.com/topic/33020114
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 5 Salzburg & Munich
http://pantip.com/topic/33032451
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 6 Munich & Fussen
http://pantip.com/topic/33038467
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 7 Schaffhausen & Stein am Rhein
http://pantip.com/topic/33045475
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 8 Zermatt & Glacier Paradise
http://pantip.com/topic/33075179
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 9 Interlaken & หมู่บ้านตีนเขา Jungfrau Joch
http://pantip.com/topic/33084332
วันที่ 3 (26/11/2557) รถไฟไปเวียนนาและเวียนนา
วันที่ 3 เราตื่นกันแต่เช้า เพราะเราต้องขึ้นรถไฟรอบเวลา 8.39 ไปถึงเวียนนารอบเวลา 13.24 แต่ที่ยากลำบากคือเราพักอยู่กลางเมืองปราก ต้องลากกระเป๋าจากโรงแรมไปที่รถไฟใต้ดิน นั่งรถไฟใต้ดินประมาณ 2 สถานี จึงจะถึงสถานีรถไฟปราก เส้นทางในใจกลางเมืองปรากเกือบทั้งหมดปูอ้วยอิฐตัวหนอน ทำให้ลากกระเป่ายากมากกกก และพอไปถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็ดันไม่มีบันไดเลื่อนหรือลิฟท์อีก กระเป๋าเราทั้งคู่ก็ใหญ่และหนักมาก(วันแรกๆก็งี้ พอไปกลางๆทริปทิ้งของกระเป๋าไปอย่างเยอะมาก) กว่าจะลากลงไปถึงสถานีรถไฟกรุงปรากได้ ทางขึ้นจาก Metro สถานีรถไฟปรากดีหน่อย มีบันไดเลื่อน
สถานีรถไฟปรากครับ
เราไปถึงก่อนประมาณชั่วโมงนึง สถานีนี้เป็นสถานีต้นทาง รถไฟก็มารอก่อนเกือบๆ 20 นาทีได้
นี่เป็นรถไฟชั้น 2 ของประเทศเชคนะครับ ดีเลยทีเดียว ไม่ระบุที่นั่ง คนน้อยนั่งสบาย เราเลยได้นั่ง 4 ที่เลย
นั่งประมาณ 5 ชั่วโมง ก็ถึงเวียนนาประมาณบ่ายโมงครึ่ง กว่าจะเข้าโรงแรมก็ประมาณบ่าย 2 ละ
กรุงเวียนนา
กรุงเวียนนา เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และเป็น 1 ใน 9 รัฐของประเทศ มีประชากรประมาณ 1.7 ล้านคน และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เป็นประเทศที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นอันดับที่ 9 ของประชาคมยุโรป (EU) จนกระทั่งต้นศรรตวรรษที่ 20 เวียนนาเป็นเมืองที่มีคนพูดภาษาเยอรมันอาศัยอยู่ มากที่สุดในโลก เวียนนาเป็นเมืองที่ตั้งขององคืกรระดับโลกหลายองค์กร เช่น UN หรือ OPEC
เวียนนาตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ และติดกับชายแดนของประเทศสาธารณรัฐเชค สโลวาเกีย และฮังการี ในปี 2001 ส่วนของใจกลางเมืองได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO อีกด้วย
สาระนิดหน่อยพอละ ที่พักเราอยู่ห่างจากใจกลางเมืองพอสมควร (เพราะ Tripadvisor ให้คะแนนเยอะ แล้วการคมนาคมในเวียนนาก็มี Metro ถึงทุกที่) จริงๆแล้วโรงแรมเราอยู่ใกล้ Metro มาก แต่พนักงานไม่ได้บอกเรา (มีทางลัดออกหลังโรงแรม ไม่มีใน map เพราะทางเพิ่งสร้าง) ตอนแรกที่ออกจากโรงแรมไปสถานี Metro จึงเดินอ้อมไปพอสมควร (ตอนกลับมาถึงรู้)
เรานั่ง Metro ไปลงสถานี Stephansplatez ขึ้นมาจาก Metro ก็เจอจตุรัสกลางเมืองเลย
ไปถึงก็เย็นละ เพราะกว่าจะเก็บของออกจากโรงแรมก็บ่ายสามกว่าๆ เดินอ้อมอีกไปถึงจตุรัสก็เกือบสี่โมง แล้วเรามีนัดกับรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานแฟนที่กลางจตุรัสตอนประมาณ 18.00 น. เลยมีเวลาเดินเล่นประมาณ 2 ชั่วโมง
ไปถึงก็เจอ St.Stephen's Cathedral ตั้งตระหง่านอยู่กลางจตุรัสเลย
St.Stephen's Cathedral
เป็นโบสถ์แม่ของเขตปกครองทางศาสนาของเวียนนา และเป็นที่พำนักของ Archbishop ของเวียนนา มีรูปแบบเป็นทั้ง Romanesque และโกธิก ในปัจจุบัน ตั้งอยุ่ใจกลางกรุงเวียนนา ในจตุรัส Stephen โดยกษัตริย์รูดอฟที่ 4 เป็นผู้เริ่มต้นให้สร้างอย่างยิ่งใหญ่ โดยยึดตามโบสถ์ 2 โบสถ์ที่พังลงไปก่อนหน้า ในฐานะที่เป็นวิหารทางศาสนาที่สำคัญที่สุดในออสเตรีย และเป็นที่จัดพิธีสำคัญทางศาสนาสำคัญหลายๆครั้งของประเทศ และด้วยหลังคาที่มีสีสันที่หลากหลาย ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าจดจำที่สุดของเมือง
ภายในวิหาร
วันแรกที่เวียนนาของเราถือว่าพลาดมากๆครับ เพราะจากการเช็คอุณหภมิมันบอกว่าอากาศประมาณ 3-4 องศา แต่ผมลืมดู real feel ครับเนื่องจากมันมีลมมาด้วย วันที่ไปอุณหภูมิจริงๆคือ -6 องศา ทรมาณมากครับ เพราะเราพลาดใส่เสื้อไม่ได้หนามากไป เดินไปตาลายเพราะเพลียสุดๆ เหมือนจะป่วย
จาก St.Stephen's Cathedral เราเดินต่อไปกันที่ Hofburg Palace ครับ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่มันหนาวมาก (ขอบอกว่าที่เวียนนาตอนนั้น หนาวที่สุดในทริป)
ระหว่างทางมีรถม้าในเมืองตลอดครับ
ในที่สุดก็ถ่ายรถม้าได้เต็มๆตัวซะที หลังจากโดนบ่นหลายรอบ
ก่อนเข้าไปใน Hofburg Palace ก็ผ่านจตุรัส Michaeler ครับ
หนาววว แทบไม่อยากจะเอามือไปควักโทรศัพท์เลย
บริเวณจตุรัสแทบทุกจตุรัสตอนนี้เริ่มมีร้านค้ามาขาย เพื่อจัดงานคริสมาสต์กันแล้ว
Hofburg Palace
เป็นพระราชวังซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา เป็นที่พำนักของผู้ทรงอำนาจมางประวัติศาสตร์ของประเทศออสเตรียหลายๆคน รวมถึงเหล่าราชวงศ์ Habsburg หรือผู้ครอบครองอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการีในอดีต ปัจจุบันเป็นสถาที่พำนักของประธานาธิบดีของประเทศออสเตรีย สถานที่นี้เป็นที่พำนักของ ราชวงศ์ Habsburg ในฤดูหนาว ส่วน Schonbrunn Palace จะเป็นที่พำนักในฤดูร้อน
ในพื้นที่ของ Hofburg Palace ครับ
เนื่องด้วยลืมขาตั้งกล้องไว้ที่โรงแรม จึงไม่มีรูปคู่เลยครับ
เดี๋ยวมาต่อนะครับ
Honeymoon Trip Europe by train 20 วัน 5 ประเทศ Part 2 (Vienna)
Part 3 Hallstatt http://pantip.com/topic/33015809
Honeymoon Trip part 4 Salzbrug http://pantip.com/topic/33020114
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 5 Salzburg & Munich http://pantip.com/topic/33032451
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 6 Munich & Fussen http://pantip.com/topic/33038467
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 7 Schaffhausen & Stein am Rhein http://pantip.com/topic/33045475
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 8 Zermatt & Glacier Paradise http://pantip.com/topic/33075179
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 9 Interlaken & หมู่บ้านตีนเขา Jungfrau Joch http://pantip.com/topic/33084332
วันที่ 3 (26/11/2557) รถไฟไปเวียนนาและเวียนนา
วันที่ 3 เราตื่นกันแต่เช้า เพราะเราต้องขึ้นรถไฟรอบเวลา 8.39 ไปถึงเวียนนารอบเวลา 13.24 แต่ที่ยากลำบากคือเราพักอยู่กลางเมืองปราก ต้องลากกระเป๋าจากโรงแรมไปที่รถไฟใต้ดิน นั่งรถไฟใต้ดินประมาณ 2 สถานี จึงจะถึงสถานีรถไฟปราก เส้นทางในใจกลางเมืองปรากเกือบทั้งหมดปูอ้วยอิฐตัวหนอน ทำให้ลากกระเป่ายากมากกกก และพอไปถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็ดันไม่มีบันไดเลื่อนหรือลิฟท์อีก กระเป๋าเราทั้งคู่ก็ใหญ่และหนักมาก(วันแรกๆก็งี้ พอไปกลางๆทริปทิ้งของกระเป๋าไปอย่างเยอะมาก) กว่าจะลากลงไปถึงสถานีรถไฟกรุงปรากได้ ทางขึ้นจาก Metro สถานีรถไฟปรากดีหน่อย มีบันไดเลื่อน
สถานีรถไฟปรากครับ
เราไปถึงก่อนประมาณชั่วโมงนึง สถานีนี้เป็นสถานีต้นทาง รถไฟก็มารอก่อนเกือบๆ 20 นาทีได้
นี่เป็นรถไฟชั้น 2 ของประเทศเชคนะครับ ดีเลยทีเดียว ไม่ระบุที่นั่ง คนน้อยนั่งสบาย เราเลยได้นั่ง 4 ที่เลย
นั่งประมาณ 5 ชั่วโมง ก็ถึงเวียนนาประมาณบ่ายโมงครึ่ง กว่าจะเข้าโรงแรมก็ประมาณบ่าย 2 ละ
กรุงเวียนนา
กรุงเวียนนา เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และเป็น 1 ใน 9 รัฐของประเทศ มีประชากรประมาณ 1.7 ล้านคน และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เป็นประเทศที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นอันดับที่ 9 ของประชาคมยุโรป (EU) จนกระทั่งต้นศรรตวรรษที่ 20 เวียนนาเป็นเมืองที่มีคนพูดภาษาเยอรมันอาศัยอยู่ มากที่สุดในโลก เวียนนาเป็นเมืองที่ตั้งขององคืกรระดับโลกหลายองค์กร เช่น UN หรือ OPEC
เวียนนาตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ และติดกับชายแดนของประเทศสาธารณรัฐเชค สโลวาเกีย และฮังการี ในปี 2001 ส่วนของใจกลางเมืองได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO อีกด้วย
สาระนิดหน่อยพอละ ที่พักเราอยู่ห่างจากใจกลางเมืองพอสมควร (เพราะ Tripadvisor ให้คะแนนเยอะ แล้วการคมนาคมในเวียนนาก็มี Metro ถึงทุกที่) จริงๆแล้วโรงแรมเราอยู่ใกล้ Metro มาก แต่พนักงานไม่ได้บอกเรา (มีทางลัดออกหลังโรงแรม ไม่มีใน map เพราะทางเพิ่งสร้าง) ตอนแรกที่ออกจากโรงแรมไปสถานี Metro จึงเดินอ้อมไปพอสมควร (ตอนกลับมาถึงรู้)
เรานั่ง Metro ไปลงสถานี Stephansplatez ขึ้นมาจาก Metro ก็เจอจตุรัสกลางเมืองเลย
ไปถึงก็เย็นละ เพราะกว่าจะเก็บของออกจากโรงแรมก็บ่ายสามกว่าๆ เดินอ้อมอีกไปถึงจตุรัสก็เกือบสี่โมง แล้วเรามีนัดกับรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานแฟนที่กลางจตุรัสตอนประมาณ 18.00 น. เลยมีเวลาเดินเล่นประมาณ 2 ชั่วโมง
ไปถึงก็เจอ St.Stephen's Cathedral ตั้งตระหง่านอยู่กลางจตุรัสเลย
St.Stephen's Cathedral
เป็นโบสถ์แม่ของเขตปกครองทางศาสนาของเวียนนา และเป็นที่พำนักของ Archbishop ของเวียนนา มีรูปแบบเป็นทั้ง Romanesque และโกธิก ในปัจจุบัน ตั้งอยุ่ใจกลางกรุงเวียนนา ในจตุรัส Stephen โดยกษัตริย์รูดอฟที่ 4 เป็นผู้เริ่มต้นให้สร้างอย่างยิ่งใหญ่ โดยยึดตามโบสถ์ 2 โบสถ์ที่พังลงไปก่อนหน้า ในฐานะที่เป็นวิหารทางศาสนาที่สำคัญที่สุดในออสเตรีย และเป็นที่จัดพิธีสำคัญทางศาสนาสำคัญหลายๆครั้งของประเทศ และด้วยหลังคาที่มีสีสันที่หลากหลาย ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าจดจำที่สุดของเมือง
ภายในวิหาร
วันแรกที่เวียนนาของเราถือว่าพลาดมากๆครับ เพราะจากการเช็คอุณหภมิมันบอกว่าอากาศประมาณ 3-4 องศา แต่ผมลืมดู real feel ครับเนื่องจากมันมีลมมาด้วย วันที่ไปอุณหภูมิจริงๆคือ -6 องศา ทรมาณมากครับ เพราะเราพลาดใส่เสื้อไม่ได้หนามากไป เดินไปตาลายเพราะเพลียสุดๆ เหมือนจะป่วย
จาก St.Stephen's Cathedral เราเดินต่อไปกันที่ Hofburg Palace ครับ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่มันหนาวมาก (ขอบอกว่าที่เวียนนาตอนนั้น หนาวที่สุดในทริป)
ระหว่างทางมีรถม้าในเมืองตลอดครับ
ในที่สุดก็ถ่ายรถม้าได้เต็มๆตัวซะที หลังจากโดนบ่นหลายรอบ
ก่อนเข้าไปใน Hofburg Palace ก็ผ่านจตุรัส Michaeler ครับ
หนาววว แทบไม่อยากจะเอามือไปควักโทรศัพท์เลย
บริเวณจตุรัสแทบทุกจตุรัสตอนนี้เริ่มมีร้านค้ามาขาย เพื่อจัดงานคริสมาสต์กันแล้ว
Hofburg Palace
เป็นพระราชวังซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา เป็นที่พำนักของผู้ทรงอำนาจมางประวัติศาสตร์ของประเทศออสเตรียหลายๆคน รวมถึงเหล่าราชวงศ์ Habsburg หรือผู้ครอบครองอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการีในอดีต ปัจจุบันเป็นสถาที่พำนักของประธานาธิบดีของประเทศออสเตรีย สถานที่นี้เป็นที่พำนักของ ราชวงศ์ Habsburg ในฤดูหนาว ส่วน Schonbrunn Palace จะเป็นที่พำนักในฤดูร้อน
ในพื้นที่ของ Hofburg Palace ครับ
เนื่องด้วยลืมขาตั้งกล้องไว้ที่โรงแรม จึงไม่มีรูปคู่เลยครับ
เดี๋ยวมาต่อนะครับ