กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 2

สวัสดีค่ะเพื่อนชาวพันทิป กลับมากับตอนที่ 2 นะคะ จขกท.ขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า เอาแต่กิน (คือ กินเยอะมาก กินจนเสื้อคับเลยทีเดียว)
กาลครั้งหนึ่งในมาเลเซีย ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/32957115
               ต่อจากคราวที่แล้ว เราพักที่ My Hotel @ Sentral 1 คืน ตอนเช้าตรู่ เรารีบ Check out แล้วเดินทางมาที่มหาวิทยาลัย University of Malaya ต่อค่ะ เรามีเพื่อนอีกคนขับรถมารับเราไปส่งที่หอพักมหาวิทยาลัย ซึ่งเราก็มีเพื่อนอีกคนที่เราดูแลเขาตอนเขามาเมืองไทย มารอพาเราไปกินอาหารเช้ากัน อาหารมื้อนี้เป็นอาหารมื้อที่ดีที่สุดเลย สำหรับ จขกท. เลย หาอาหารมาเลย์แท้ๆที่อร่อยแบบนี้ยากนิดๆนะ (ทริปนี้ ถ้าไม่มีเพื่อนทั้ง 2 คน คงอับเฉามากค่ะ) เพื่อนของเราวันนี้พามาย่านใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย ชื่อว่าย่าน Petaling Jaya ห่างออกไปจากมหาวิทยาลัยไม่เท่าไร ร้านที่เรามากินมีชื่อมากทีเดียว ชื่อ ร้าน Restoran Sun Fatt Kee (ไม่ได้ถ่ายรูปหน้าร้านมา) อาหารเช้าของชาวมาเลเซีย ก็คือ Nasi Lemak ค่ะ

Nasi Lemak แบบแท้ๆ ต้องห่อใบตอง กินกับไข่และปลาจิ๋วทอด (Ikan Bilis)

               ขอแถมอีกจาน อันนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวลักซา (Curry Laksa) จ้า (ดูสีเครื่องแกง เครื่องเทศ น่ากลัว จะไหวไหม แต่ปรากฎว่าอร่อยมากฮะ)

Curry Laksa ของแท้ต้องกินกับหอยแครงฮะ

มามาเลเซีย ไม่มีชาชัก มาผิดประเทศแล้วค่ะ


ชาชัก หรือ Teh Tarik

            ชาชักที่นี่เขาจะเป็นชาร้อนกันค่ะ ถ้าอยากกินชาเย็น ต้องสั่ง Teh Ais
            Curry Laksa อร่อยกว่าที่คาดไว้มาก เพื่อนบอกว่า ถ้าอยากกิน Curry Laksa อร่อยๆอีก ต้องไปกินที่ปีนัง (ไว้หาเวลาไปปีนัง)
            หลังจากกินอิ่มๆ จขกท.กับเพื่อนก็ไปลงทะเบียนที่ Dean's Office จัดแจงจัดข้าวของในหอเสร็จ แล้วไปรายงานตัวกับ Professors เห็นตารางเรียนอันแน่น คาดว่า เราคงได้เที่ยวน้อย ร้องไห้ แต่เที่ยวไม่ใช่ประเด็นอยู่แล้วค่ะ แต่!!!! เรามาทราบทีหลังว่า วันศุกร์ที่นี่เราจะไม่มีการเรียนการสอนกัน เราเรียกว่า Friday's Prayer ทุกคนจะไปสวดมนต์กัน แล้วเราทำอะไรหละ......เที่ยวจิๆ อมยิ้ม01 เราวางแผนกันว่า ศุกร์/เสาร์/อาทิตย์ เราจะแพลนไปเที่ยวนอกเมืองกัน (อย่าอยู่ในเมืองเลย ร้อนๆๆๆๆ) ในเมืองเราก็จะไปตอนเย็นวันธรรมดา วันไหนที่ต้องไปเดินตาม Professor เราก็ไปอยู่กับ Professor
            วันแรก หลังจากเรียนเสร็จประมาณ 5 โมงเย็น เราก็ตั้งใจว่าต้องไปที่ๆเป็น Landmark ของมาเลเซีย นั่นก็คือ Petronas Tower จากมหาวิทยาลัยเรา (ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของมาเลเซีย) มีสถานีรถไฟฟ้าสถานี Universiti (เริ่ดมะๆ เยี่ยม) เราเดินทางจากสถานีนี้ไปที่สถานี KLCC กัน (สำหรับเพื่อนๆที่จะไปมาเลเซีย ต้องศึกษาเส้นทางรถไฟฟ้าให้ดีๆนะคะ)

เส้นทางรถไฟฟ้าสาย Kelanajaya



ซื้อตั๋วที่นี่เป็นตู้หยอดเหรียญหมดเลย


ใช้ไม่ยาก หยอดเหรียญๆ กดที่จะไป ค่าเดินทางไม่แพงเลยค่ะ



ในรถไฟฟ้า ไม่ค่อยต่างกับไทยเท่าไรค่ะ


ถึงแล้วค่ะ สถานี KLCC


มาที่ห้าง SuriaKLCC ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Petronas Tower เป็นห้างที่หรูดี จขกท.ชอบมากๆ ประมาณพารากอนไทยค่ะ

          ถึงห้างแล้ว หิววววว เย็นพอดิบพอดี ไปกินข้าวกัน วันนี้ จขกท.กับเพื่อนเลือกมากินอาหารฝรั่งนิดนึงค่ะ (กินแกงกระหรี่หลายมื้อแล้ว) ร้านที่เรามาก็มาตามที่ลุงเด้งกับป้าไก่แนะนำ (เพื่อนมาเลย์ก็บอกว่าร้านนี้อร่อยฮะ) ร้านนี้ชื่อ Chili's Grill & Bar Restaurant (มีหลายสาขาใน KL เลย)

คนเยอะแบบนี้ ท่าจะอร่อยจริง


Chili's ร้านสเต็กที่มีสาขาทั่วโลก เว้นประเทศไทย 555+อมยิ้ม16

ร้านบรรยากาศแบบ American พนักงานต้อนรับจะตะโกน Welcome to Chili's ฮะ (คือ อยู่เมืองไทยไม่มีแบบนี้ จขกท.ตกใจๆ)


ที่นั่งริมหน้าต่าง คือ ฟินน เพราะวิวนี้



เพื่อนเราสั่ง Southwestern Grilled Lamb


เราสั่ง Ribeye จ้า

          สเต็กเนื้อที่นี่ ราคา 500-600 บาท คือ ราคาประมาณนี้ทุกร้านค่ะ ไม่ต้องตกใจ (แต่ จขกท. ตกใจ แต่ไหนๆมาแล้วก็ต้องกิน อมยิ้ม04)
เราว่าอร่อยสมราคาน้า บรรยากาศดี พนักงานบริการดี คอยมาถามตลอดว่าเราอยากได้อะไรเพิ่มไหม รสชาติอาหารเป็นไง ติชมไหม ดีมากๆเลย พอเราจ่ายตังค์เสร็จ เดินออกจากร้าน พนักงานก็ตะโกนว่า "Chili's" อมยิ้ม17
          กินอิ่มท้อง ก็ต้องเดินนิดนึง เราลงมาเดินเล่นดูน้ำพุที่สวน KLCC ต่อค่ะ สวยดี เขาเล่นน้ำพุกันทุกวัน สวนก็น่าวิ่ง มีลู่วิ่งให้ด้วย (บอกเพื่อนว่า ไม่มีเรียนเรามาวิ่งที่นี่กัน ดูดความฟินน) หลังจากนั้นก็เดินมาถ่ายรูป ตึก Petronas Tower (แน่นอนเราไม่ได้ขึ้นไป ค่าขึ้นชม Up ราคาไปเป็น 80 RM = 800 บาท แพงไปนะ กินข้าวได้ตั้งหลายมื้อ) ก่อนกลับ (ตึกสูงมากจนจะนอนถ่ายแล้ว)


ไฟในตึกสวยดี

          จขกท. มีร้านเบเกอร์รี่ที่ชอบมากอยู่ร้านนึง ก่อนกลับรถไฟฟ้าเราก็เลยแวะไปซื้ออะไรไว้กินเช้าสักหน่อย ร้านเบเกอร์รี่นี้ชื่อว่า The Loaf นอกจากจะขายเบเกอร์รี่ (มีพาย มีพัฟ ชีสครีมไส้ทุเรียนด้วย = =) ก็มีขายกาแฟ สลัด สปาเกตตี้ อาหารฝรั่งอีกเยอะ มารู้ทีหลังจากเพื่อนว่าเจ้าของ The Loaf คือท่านอดีตนายกของที่โน่นฮะ


          วันที่ 3 ใน KL ชีวิตคือ เรียนกับเพื่อนๆ คลาสเรียนเป็นภาษาอังกฤษ เช้ากินข้าวที่ Food court มหาวิทยาลัย คงไม่พ้น Nasi Lemak Ayam กับชาชัก และขนมปังปิ้งสังขยา (ตอนแรกๆยังสั่งอาหารไม่ค่อยได้ค่ะ ได้แต่ชี้ๆเอา คนมาเลย์ที่โน่นหลายๆคนก็ไม่พูดอังกฤษค่ะ เราก็ต้องหาวิธีเอาตัวรอด)


           เรียนหนังสือ กินข้าวกลางวัน บางครั้งก็ตลกดี คนที่โน่นคิดว่า จขกท.เป็นคนมาเลย์ๆ (หน้าคงให้) มาพูดภาษามาเลย์ใส่ ได้แต่ทำหน้าเหวอๆ แล้วบอกว่า I'm from Thailand. 555+ แต่ถ้าคนมาเลย์รู้ว่าเราเป็นคนไทย ก็จะมาพูดภาษาไทยกับเรา (เราก็ได้แต่งงๆ get บ้าง ไม่ get บ้าง Lol!)
           กินข้าวเสร็จก็มาเรียนตอนบ่ายต่อ เป็นความสนุกคือ ตอนช่วงที่เราไปมีเพื่อนอีกหลายประเทศ มา Elective เช่นกัน ทั้งอังกฤษ ทั้ง Netherlands ทั้ง Norway สนุกดีกับการได้รู้จักเพื่อนใหม่
           เย็นวันนี้ เรามีนัดกับเพื่อนชาวมาเลย์คนนึงที่อาสาเป็น Contact person ให้ พาเราไปกินๆๆๆๆๆ ตามเคยฮะ อมยิ้ม05 เรามากันที่ SS2 Murini ซึ่งเป็นร้านอาหารอินเดีย ย่านของกิน Petaling Jaya ใกล้ๆมหาวิทยาลัยอีกรอบ (เป็นครั้งแรกที่จขกท.ได้กินอาหารอินเดียแบบอินเดียๆ)

คนเยอะจริง น่าจะอร่อยจริง


เมนูนี้ชื่อว่า Roti Hawaii

           ที่นี่มีเมนูน้ำผลไม้ (Mocktail) เกร๋ดี เมนูชื่อ I love you, I miss you, I kiss you, Poison, Traffic Light Special จขกท.สั่ง I love you มา ส่วนเพื่อน สั่ง I miss you ค่ะ

I miss you (น้ำ Passion Fruit)


I love you (น้ำ Ribena + ลำไย)

           โรตีอร่อยมาก น้ำผลไม้ก็อร่อย แน่นท้องอะ อิ่ม กลับกันเถอะ ขอบคุณเพื่อนจริงๆค่ะ
           จขกท.ขอจบกระทู้ กินแหลกไว้เท่านี้ก่อน เอาไว้ตอนที่ 3 จะพาไปเที่ยวนอกเมือง ไปมะละกากันค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่