รัฐบาลลุยสานต่อหมู่บ้านละล้าน เผย13ปีกำไรแล้ว5หมื่นล้าน-แถมยอดหนี้เสียแค่4%

รัฐบาลสานต่อโครงการกองทุนหมู่บ้านละล้าน หลังพบ 13 ปีที่ผ่านมาใช้เงิน 1.5 แสนล้าน แต่ตอนนี้มียอดเงินหมุนเวียนสูงถึง 2 แสนล้านเศษ แถมหนี้เสียต่ำแค่ 4% เร่งระบายเงินค้างท่อเฟส 3 ที่ครม.ปูอนุมัติเกือบ 80,000 ล้าน แต่มีเงินค้างอยู่กว่า 20,000 ล้าน



นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมรับทราบการดำเนินงานและมอบนโยบายการดำเนินงาน กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ว่า หารือกับผู้บริหารของ สทบ.และตัวแทนผู้บริหารกองทุนหมู่บ้านฯในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศถึงแนวทางการขับเคลื่อนกองทุนหมู่บ้านในอนาคตว่าจะทำอย่างไรให้ ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุดทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ



ปัญหา ในขณะนี้ก็คือการดำเนินการเพิ่มทุนกองทุนหมู่บ้านในระยะที่ 3 หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท ที่อนุมัติไปเมื่อรัฐบาลที่ผ่านมา 79,255 ล้านบาท ยังโอนไปยังหมู่บ้านต่างๆ ไม่แล้วเสร็จ มีวงเงินคงเหลือที่ยังไม่ได้โอนประมาณ 20,000 ล้านบาท เนื่องจากคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) หมดวาระและยังไม่แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ชุดใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่พิจารณาและอนุมัติเงินให้กับหมู่บ้านต่างๆ



"ให้ นโยบายกับ สทบ.ว่าให้สรรหาคณะกรรมการ กทบ.ชุดใหม่ที่ประกอบไปด้วยตัวแทนจากกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ 14 คน และผู้ทรงคุณวุฒิอีก 5 คน ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.2558 เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของกองทุนหมู่บ้านที่คงค้างอยู่เป็นเวลานานสามารถ ดำเนินการต่อเนื่องได้ด้วยความรวดเร็ว"



สำหรับการดำเนิน การนโยบายกองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท และเพิ่มทุนในบางรัฐบาลที่ผ่านมารวมทั้งที่ให้เดินหน้าโครงการต่อนี้ไม่ใช่ เรื่องของประชานิยม แต่เป็นการจัดสรรแหล่งเงินทุนลงไปในชุมชนซึ่งช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชน เช่นเรื่องการชำระหนี้สิน การสร้างอาชีพของ เอสเอ็มอี ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างอาชีพและการรวมกลุ่มด้วย



ทั้งนี้การ ดำเนินการตามนโยบายกองทุนหมู่บ้านในระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลใช้เงินในโครงการนี้ไป 152,409.3 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินการในปัจจุบันมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 205,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเงินที่ภาครัฐใช้ในโครงการนี้มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่หนี้สูญจากการกู้ยืมเงินในชุมชนที่ สทบ.ประเมินพบว่ามีต่ำเพียง 10% ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ประเมินหนี้เสียของกองทุนหมู่บ้านไว้ที่ 4% เท่านั้น

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE56RTFNVFV5TVE9PQ%3D

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่