๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ถ้าผมหาเหตุผลไม่ได้ว่า ทำไมคนอื่นทำอย่างนั้น สิ่งที่ผมมักจะทำคือ...

ต้องพยายามหาเหตุผลให้ได้ว่า   ทำไมเราจะทำอย่างนี้

จริงๆแล้วก็คือ
ผมถือว่า  ระหว่างรู้เขา กับรู้เรา
ผมให้ความสำคัญกับรู้เราก่อน  
แล้วค่อยตามไปรู้เขา   ซึ่งรู้ยังไง ก็รู้จริงไม่ครบร้อยเปอร์เซนต์


พอดีเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว  ได้ตัดสินใจแบบที่ว่าไว้ข้างบน
ซึ่งไม่ใช่หวยออกค่อยบอกเบอร์
เพียงแต่รอเอกสาร ที่จะยืนยันการขายมาทางไปรษณีย์ก่อน
(ไม่อยากจะโพสต์ลอยๆ ไม่มีหลักฐาน)


ผมหมายถึงหุ้นตัวไหน

ลองตามภาพประกอบไป  ก็จะรู้

ความคิดของผม ก่อนวอร์แรนท์เข้าตลาด
ก็คือราคาใช้สิทธิ์มันสูงกว่าราคาปัจจุบันมาก
(ราคาใช้สิทธิ์คือ ๒ บาทต่อหุ้น)

ดังนั้นเลยคิดไว้ว่า   ขายได้ซักหมื่นบาท จากสองแสนห้าหมื่นหน่วย ก็หรูแล้ว

ที่ไหนได้    เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว  กำลังจะขับรถออกจากตลาด อตก.
หยิบแทบเล็ตมาเปิดดูราคาหุ้น

ไม่น่าเชื่อ  มีคนทำราคาไปถึง ๗๑ สตางค์ !!!!

ก็อย่างที่บอก  ถ้าหาเหตุผลไม่ได้ว่า ทำไมคนอื่นเขาทำอย่างนั้น
คือยอมซื้อวอร์แรนท์ ที่มีต้นทุนการใช้สิทธิ์ที่ ๒ บาท + ราคาวอร์แรนท์ที่ซื้อ

ผมก็จะหาเหตุผลให้ได้ว่า  ทำไมจะทำอย่างนี้

คิดง่ายๆเลย   ผมขายทิ้งวอร์แรนท์ฟรีไปที่ ๗๑ สตางค์   
แล้วไปซื้อหุ้นแม่แทน  จะได้ส่วนลดราคาหุ้น หุ้นละ ๗๑ สตางค์
ถ้าซื้อเป็นหุ้นแม่  ก็เท่ากับราคาใช้สิทธิ์แค่  ๙๐ สตางค์ ตามราคาหุ้นวันนั้น
แทนที่จะเอาวอร์แรนท์ไปใช้สิทธิ์ที่ ๒ บาท

แต่ว่า  จริงๆแล้วผมมักจะขายวอร์แรนท์ฟรีทิ้ง  นับเป็นกำไรส่วนเกินทุนไปเลย
ไม่เคยแปลงสภาพ  ไม่เคยเอามาซื้อหุ้นแม่แทน


รู้เขา กับรู้เรา  รู้เรารู้ได้แน่ๆ แต่รู้เขา รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง



อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01






แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่