ใช้ชื่อว่า จำนำข้าวในยุ้งฉาง น่าจะทำความเข้าใจอย่างถูกต้องกว่า
โครงการจำนำข้าวแบบนี้เคยทำมาแล้วในยุค พล.อ.เปรม
เป็นการจำนำข้าว โดยที่เอาข้าวในยุ้งฉางมาประกันเงินกู้
แล้วกำหนดเวลาไถ่ถอนไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ที่เห็นคร่าวๆรู้สึกรัฐบาลนี้กำหนดไว้ที่ สี่เดือน ต้องไถ่ถอนคืน
ไม่รู้มีดอกเบี้ยหรือเปล่า เพราะยังไม่มีรายละเอียดมากนัก
แต่จะชี้ปัญหาให้เห็น และเป็นปัญหาที่เคยเกิดมาแล้วในยุค พล.อ.เปรม
ไม่ได้ติเรือทั้งโกลน แต่อยากให้รู้ไว้เผื่อจะได้หาทางแก้ไข
..........................................................................
การจำนำแบบมีกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนแบบนี้ ภาระและความเสี่ยงทุกอย่าง
ตกอยู่ที่ชาวนา ที่ต้องแบกรับความเสี่ยงเอง หากว่าถึงกำหนดไถ่ถอนแล้วข้าวราคาตก
ขายข้าวได้ราคาต่ำกว่า ราคาจำนำ ก็ต้องไปหาเงินกู้อื่นนอกระบบมาจ่ายคืนจำนำ
หากเจอโชคร้าย ไฟไหม้ น้ำท่วมข้าวที่เก็บไว้ ยังไงถึงเวลาจ่ายคืนก็ต้องไปหากู้หนี้มาจ่าย
โครงการแบบนี้ เป็นแค่สังคมสงเคราะห์แบบหนึ่ง เพื่อช่วยพยุงราคาข้าว
ในฤดูนาปี ที่ข้าวออกมาพร้อมกัน เลยให้เงินช่วยเพื่อชะลอการขาย
โดยคาดหวังว่า ข้าวจะไม่ราคาตกไปกว่าที่เป็นอยู่
แต่การกำหนดเวลาชำระหนี้คืนการจำนำไว้เวลาเดียวกัน
ก็เป็นการฆ่าชาวนาอย่างเลือดเย็นด้วยเช่นกัน
ทำไมถึงบอกแบบนั้น ต้องยอมรับในความเป็นจริงว่า รายได้ชาวนานั้นมาจากการขายข้าว
หากชาวนาจำนำข้าวไว้ตามโครงการชะลอการขายนี้ แต่ถึงเวลาชำระหนี้ก็ต้องขายข้าวมาจ่ายอยู่ดี
ชะลอการขายในฤดูนาปี ถึงกำหนดเวลาต้องจ่ายตามที่รัฐบาลกำหนด ก็ต้องเอามาขายและต้องขายพร้อมกัน
เพราะ กำหนดเวลาเดียวกัน ทุกคนรู้ พ่อค้าก็รู้ และรู้ด้วยว่า ชาวนาจำเป็นต้องขายเพราะถึงกำหนดจ่ายหนี้จำนำ
จะเกิดอะไรขึ้นทุกท่านคงพอคิดออก คงไม่มีพ่อค้าที่ไหนใจดีขึ้นราคาให้เพราะรู้ว่า ชาวนาจำเป็นต้องจ่ายหนี้แล้ว
ซ้ำร้ายหากเป็นช่วงราคาตลาดตกด้วย พ่อค้ากดด้วย และ จำเป็นต้องจ่ายหนี้ด้วย
ชาวนาจะเจอเข้ากี่เด้งก็ลองคิดดูครับ
................................................................................................................................
โครงการนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้ราคาข้าวดีขึ้น แค่พยุงไม่ให้ราคาตกได้ชั่วคราว
และไม่ได้เพิ่มศักยภาพ และ อำนาจต่อรองให้ชาวนา ต่างจากจำนำข้าวทุกเมล็ดที่เพิ่มผู้ซื้อรายใหญ่เข้ามา
หากให้เวลาดำเนินการจนถึงที่สุด โครงสร้างข้าวจะเปลี่ยน
แต่อย่างว่า สุดท้ายก็โดนล้มไปเสียก่อน ด้วยคำลวงกล่าวหาเกินจริงสารพัด
แต่พอจะเอาผิดจนป่านนี้ยังหาหลักฐานเอาผิดไม่ได้ มีเพียงปกรายงานเก่าๆจะมาส่งฟ้อง
สิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียวที่แน่ชัดสำหรับรัฐบาลนี้
ก็คือ "ไม่มีการแตะต้องผลประโยชน์ผู้ค้าข้าว ไม่ว่าทางใด"
ไม่ได้ช่วยอำนาจต่อรองให้ชาวนา เพื่อให้เขาได้ขายผลผลิตในราคาที่เป็นธรรม
หากแต่ช่วยเพียงเพื่อเลี้ยงไว้ไม่ให้ตาย เพื่อเป็นข้าช่วงใช้ และ อาจถูกมองเป็นภาระของสังคมด้วย
จำนำข้าว ในยุ้งฉาง
โครงการจำนำข้าวแบบนี้เคยทำมาแล้วในยุค พล.อ.เปรม
เป็นการจำนำข้าว โดยที่เอาข้าวในยุ้งฉางมาประกันเงินกู้
แล้วกำหนดเวลาไถ่ถอนไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ที่เห็นคร่าวๆรู้สึกรัฐบาลนี้กำหนดไว้ที่ สี่เดือน ต้องไถ่ถอนคืน
ไม่รู้มีดอกเบี้ยหรือเปล่า เพราะยังไม่มีรายละเอียดมากนัก
แต่จะชี้ปัญหาให้เห็น และเป็นปัญหาที่เคยเกิดมาแล้วในยุค พล.อ.เปรม
ไม่ได้ติเรือทั้งโกลน แต่อยากให้รู้ไว้เผื่อจะได้หาทางแก้ไข
..........................................................................
การจำนำแบบมีกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนแบบนี้ ภาระและความเสี่ยงทุกอย่าง
ตกอยู่ที่ชาวนา ที่ต้องแบกรับความเสี่ยงเอง หากว่าถึงกำหนดไถ่ถอนแล้วข้าวราคาตก
ขายข้าวได้ราคาต่ำกว่า ราคาจำนำ ก็ต้องไปหาเงินกู้อื่นนอกระบบมาจ่ายคืนจำนำ
หากเจอโชคร้าย ไฟไหม้ น้ำท่วมข้าวที่เก็บไว้ ยังไงถึงเวลาจ่ายคืนก็ต้องไปหากู้หนี้มาจ่าย
โครงการแบบนี้ เป็นแค่สังคมสงเคราะห์แบบหนึ่ง เพื่อช่วยพยุงราคาข้าว
ในฤดูนาปี ที่ข้าวออกมาพร้อมกัน เลยให้เงินช่วยเพื่อชะลอการขาย
โดยคาดหวังว่า ข้าวจะไม่ราคาตกไปกว่าที่เป็นอยู่
แต่การกำหนดเวลาชำระหนี้คืนการจำนำไว้เวลาเดียวกัน
ก็เป็นการฆ่าชาวนาอย่างเลือดเย็นด้วยเช่นกัน
ทำไมถึงบอกแบบนั้น ต้องยอมรับในความเป็นจริงว่า รายได้ชาวนานั้นมาจากการขายข้าว
หากชาวนาจำนำข้าวไว้ตามโครงการชะลอการขายนี้ แต่ถึงเวลาชำระหนี้ก็ต้องขายข้าวมาจ่ายอยู่ดี
ชะลอการขายในฤดูนาปี ถึงกำหนดเวลาต้องจ่ายตามที่รัฐบาลกำหนด ก็ต้องเอามาขายและต้องขายพร้อมกัน
เพราะ กำหนดเวลาเดียวกัน ทุกคนรู้ พ่อค้าก็รู้ และรู้ด้วยว่า ชาวนาจำเป็นต้องขายเพราะถึงกำหนดจ่ายหนี้จำนำ
จะเกิดอะไรขึ้นทุกท่านคงพอคิดออก คงไม่มีพ่อค้าที่ไหนใจดีขึ้นราคาให้เพราะรู้ว่า ชาวนาจำเป็นต้องจ่ายหนี้แล้ว
ซ้ำร้ายหากเป็นช่วงราคาตลาดตกด้วย พ่อค้ากดด้วย และ จำเป็นต้องจ่ายหนี้ด้วย
ชาวนาจะเจอเข้ากี่เด้งก็ลองคิดดูครับ
................................................................................................................................
โครงการนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้ราคาข้าวดีขึ้น แค่พยุงไม่ให้ราคาตกได้ชั่วคราว
และไม่ได้เพิ่มศักยภาพ และ อำนาจต่อรองให้ชาวนา ต่างจากจำนำข้าวทุกเมล็ดที่เพิ่มผู้ซื้อรายใหญ่เข้ามา
หากให้เวลาดำเนินการจนถึงที่สุด โครงสร้างข้าวจะเปลี่ยน
แต่อย่างว่า สุดท้ายก็โดนล้มไปเสียก่อน ด้วยคำลวงกล่าวหาเกินจริงสารพัด
แต่พอจะเอาผิดจนป่านนี้ยังหาหลักฐานเอาผิดไม่ได้ มีเพียงปกรายงานเก่าๆจะมาส่งฟ้อง
สิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียวที่แน่ชัดสำหรับรัฐบาลนี้
ก็คือ "ไม่มีการแตะต้องผลประโยชน์ผู้ค้าข้าว ไม่ว่าทางใด"
ไม่ได้ช่วยอำนาจต่อรองให้ชาวนา เพื่อให้เขาได้ขายผลผลิตในราคาที่เป็นธรรม
หากแต่ช่วยเพียงเพื่อเลี้ยงไว้ไม่ให้ตาย เพื่อเป็นข้าช่วงใช้ และ อาจถูกมองเป็นภาระของสังคมด้วย