US Box Office September 26-28, 2014
(แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
กับการที่มีซูเปอร์สตาร์อย่าง เดนเซล วอชิงตัน เป็นกำลังสำคัญ ส่งให้หนังแอ็คชันเรท อาร์ The Equalizer กลายเป้นหนึ่งในหนังเปิดตัวแรงของเดือนกันยายน ในที่สุด ขณะที่ The Boxtrolls ก็เปิดตัวได้ดีกว่าบรรดาหนังสต็อป-โมชันโดยทั่วๆ ไป แม้จะเอาชนะหนัง The Maze Runner ที่เปิดฉายเป็นสัปดาห์ที่สองไม่ได้ก็ตามที
กับโรงฉาย 3,236 โรง The Equalizer เปิดตัวด้วยรายได้ 34.1 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 4 หนังเปิดตัวเดือนกันยายนสูงสุดตลอดกาล เป็นรองแค่ Hotel Transylvania, Insidious Chapter 2 และ Sweet Home Alabama แล้วในกลุ่มหนังเดนเซล วอชิงตัน The Equalizer ก็เปิดตัวเป็นอันดับที่ 3 ต่อจาก American Gangster กับ Safe House ถือว่าหนังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้เปิดตัวได้ดีขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็น แผนการตลาดที่ดี หรือว่าการที่สามารถเข้าถึงกลุ่มแฟนๆ ของเอมิเน็มได้ แต่กุญแจสำคัญนั้น คงไม่พ้นชื่อของเดนเซล วอชิงตัน ที่เป็นหนึ่งในนักแสดงไม่กี่คนที่เปิดหนังได้ในดีในอเมริกา โดยไม่นับ The Great Debaters ที่เขาเล่นบทสมทบ The Equalizer เป็นหนังของเดนเซลเรื่องที่ 12 ติดต่อกันแล้วที่เปิดตัวได้สูงกว่า 12 ล้านเหรียญ แถม 10 จาก 12 เรื่องยังเป็นหนังเรท อาร์อีกต่างหาก ทำให้ความสำเร็จตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากๆ
ในเรื่องนี้ เดนเซลรับบทเป็นเจ้าหน้าหน่วยพิเศษที่วางมือแล้ว แต่ต้องออกตามล่าตามล้างพวกมาเฟียรัสเซีย ซึ่งเป็นบทที่เหมาะกับเขามากๆ แถมเป็นบทที่เล่นเป็นประจำ แต่มีพัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนแฟนๆ ขาประจำของเดนเซลก็แห่ไปดูกัน และต่างก็ได้รับความพึงพอใจกลับมา เมื่อดูจากคะแนนของซีนีมาสกอร์ ที่สูงถึง A- ซึ่งน่าจะทำให้ได้เสียงบอกปากต่อปากที่ดี ขณะที่คนดูนั้นก็พอๆ กันระหว่างชายและหญิง โดยเป็นชาย 52% แล้วหนักไปทางคนส.ว.เมื่อ 85% อายุมากกว่า 30 ปี จากการตอบรับที่ดี หนังน่าจะไปได้ดีในสัปดาห์ต่อไป และน่าจะทำเงินได้มากกว่าร้อยล้านเหรียญ หรือประมาณนี้
อันดับที่ 2 เป็น The Maze Runner ที่ได้เงินในสุดสัปดาห์นี้ 17.4 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้ 10 วันเป็น 58 ล้านเหรียญแล้ว รายได้ของหนังตกเพียง 46% จากสัปดาห์เปิดตัว ถือว่าเป็นการยืนระยะที่แข็งแรงมากๆ สำหรับหนังผู้ใหญ่วัยเยาว์แบบนี้ ขนาด Divergent รายได้ยังตกถึง 53% ในสัปดาห์ต่อมา มาถึงตอนนี้น่าจะคาดหวังรายได้ในระดับ 95 - 105 ล้านเหรียญได้เลย
ด้วยโรงฉาย 3,464 โรง หนัง The Boxtrolls ทำรายได้ไป 17.3 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าหนังแอนิเมชันของค่ายไลกาเรื่องก่อนๆ เช่น Coraline (16.8 ล้านเหรียญ) และ ParaNorman (14.1 ล้านเหรียญ) ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นการเปิดตัวที่ดีที่สุดของหนังสต็อป-โมชันนับตั้งแต่ Tim Burton's Corpse Bride ที่สร้างสถิติเปิดตัวสูงสุดของหนังแนวนี้เอาไว้เมื่อ 9 ปีก่อน เครดิตตรงนี้คงต้องให้กับชื่อเสียงของไลกาที่เพิ่มมากขึ้น และการทำการตลาดได้ไม่มั่ว แต่ทั่วถึงของโฟกัส ฟีเจอร์ส คะแนนซีนีมาสกอร์ของหนังอยู่ที่ B+ ส่วนคนดูค่อนไปทางผู้หญิง (57%) ท้ายที่สุด The Boxtrolls น่าจะทำเงินผ่าน 60 ล้านเหรียญ
This is Where I Leave You รายได้ตกเพียง 40% ได้เงินมาเพิ่มอีก 6.9 ล้านเหรียญ รายได้รวม 10 วัน อยู่ที่ 22.4 ล้านเหรียญ และยังอยู่ในท็อปไฟว์ ส่วน Dolphin Tale 2 รายได้ลด 46% ทำเงินไป 4.8 ล้านเหรียญ รายได้รวม 33.6 ล้านเหรียญ ซึ่งยังตามหลังหนังภาคแรกอยู่ราวๆ 15 ล้านเหรียญ ส่วนอันดับ 7 เป็น A Walk Among the Tombstones ที่รายได้ร่วงถึง 67% ได้เงินสุดสัปดาห์นี้ 4.2 ล้านเหรียญ ที่ตกเยอะขนาดนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนังเจอคู่แข่งตรงๆ อย่าง The Equalizer แถมปากต่อปากก็ก้ำกึ่ง มาถึงตอนนี้หนังเก็บเงินไปแล้ว 20.8 ล้านเหรียญ และไม่น่าทำเงินถึง 30 ล้านเหรียญ ขณะที่ Guardians of the Galaxy ทำรายได้ถึง 319.2 ล้านเหรียญแล้ว ทำให้แซงหน้าหนัง Iron Man ภาคแรกกลายเป็นหนังมาร์เวลทำเงินสูงสุดอันดับ 3 รองจาก The Avengers และ Iron Man 3
The Skeleton Twins เพิ่มโรงเป็น 385 โรง ได้เงินมา 1.23 ล้านเหรียญ หนังดรามา บิลล์ เฮเดอร์/ คริสเตน วิกทำเงินไปแล้ว 2.32 ล้านเหรียญในตอนนี้ ขณะ Pride ที่เปิดฉายในวงจำกัดมาก แค่ 6 โรง แต่ได้เงินมาถึง 81,971 เหรียญ ถือว่าทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงดีทีเดียว 13,662 เหรียญต่อโรง และคำวิจารณ์ที่มาดี ทำให้หนังมีอนาคตมากขึ้นกับการเพิ่มโรงฉายต่อไปในอนาคต
ในตลาดนอกอเมริกา เป็นเวลาของ The Maze Runner ที่ครองอันดับ 1 ด้วยตัวเลข 27.2 ล้านเหรียญ แถมยังไม่มีการเปิดตัวในตลาดหลักๆ อีกต่างหาก โดยรายได้นอกอเมริกาสุดสัปดาห์นี้ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 27% โดยหนังยืนระยะได้ดีในตลาดที่เปิดตัวไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ เกาหลีใต้ (ทำเงินอีก 5 ล้านเหรียญ ลดลง 9%) และออสเตรเลีย (2.7 ล้านเหรียญ ลดลง 18%) และกลายเป็นหนังฟ็อกซ์ทำเงินสูงสุดอันดับ 3 ในมาเลย์เซีย แพ้แค่ Avatar กับ X-Men: Days of Future Past ตามลำดับ มาถึงตอนนี้ The Maze Runner ทำเงินในต่างประเทศ 90.7 ล้านเหรียญไปแล้ว โดยยังไม่เปิดตัวใน จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมันนี, อิตาลี และอังกฤษ ส่วน Lucy ยังเดินหน้าอย่างมั่นคงด้วยการเติมเงินเข้ากระเป๋ามาอีก 11.1 ล้านเหรียญ รายได้รวมนอกอเมริกาเป็น 269.1 ล้านเหรียญ สุดสัปดาห์นี้ หนังเปิดตัวอันดับ 1 ที่อิตาลี ด้วยรายได้ 3.2 ล้านเหรียญ ในวันพฤหัสฯ หรือศุกร์นี้ หนังจะทำเงินผ่าน 400 ล้านเหรียญทั่วโลก
The Equalizer เปิดตัวแล้วในบางประเทศ ทำเงินมาได้ 17.8 ล้านเหรียญ โดยหลักๆ เป็นที่อังกฤษ 2.9 ล้านเหรียญ, 2.7 ล้านเหรียญที่รัสเซีย ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุดของเดนเซลที่นี่ด้วย, 1.4 ล้านเหรียญในเม็กซิโก และ 1.3 ล้านเหรียญที่บราซิล
อ่านแล้วถูกใจอย่าลืมแวะไปคลิก Like ให้กำลังใจกันได้ที่
www.facebook.com/Sadaos นะครับ
หนังใหม่เดนเซล วอชิงตัน The Equalizer แรง คว้าตำแหน่งเปิดตัวสูงสุดอันดับ 4 เดือนกันยาฯ หนังทำเงินอเมริกาสัปดาห์นี้
(แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
กับการที่มีซูเปอร์สตาร์อย่าง เดนเซล วอชิงตัน เป็นกำลังสำคัญ ส่งให้หนังแอ็คชันเรท อาร์ The Equalizer กลายเป้นหนึ่งในหนังเปิดตัวแรงของเดือนกันยายน ในที่สุด ขณะที่ The Boxtrolls ก็เปิดตัวได้ดีกว่าบรรดาหนังสต็อป-โมชันโดยทั่วๆ ไป แม้จะเอาชนะหนัง The Maze Runner ที่เปิดฉายเป็นสัปดาห์ที่สองไม่ได้ก็ตามที
กับโรงฉาย 3,236 โรง The Equalizer เปิดตัวด้วยรายได้ 34.1 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 4 หนังเปิดตัวเดือนกันยายนสูงสุดตลอดกาล เป็นรองแค่ Hotel Transylvania, Insidious Chapter 2 และ Sweet Home Alabama แล้วในกลุ่มหนังเดนเซล วอชิงตัน The Equalizer ก็เปิดตัวเป็นอันดับที่ 3 ต่อจาก American Gangster กับ Safe House ถือว่าหนังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้เปิดตัวได้ดีขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็น แผนการตลาดที่ดี หรือว่าการที่สามารถเข้าถึงกลุ่มแฟนๆ ของเอมิเน็มได้ แต่กุญแจสำคัญนั้น คงไม่พ้นชื่อของเดนเซล วอชิงตัน ที่เป็นหนึ่งในนักแสดงไม่กี่คนที่เปิดหนังได้ในดีในอเมริกา โดยไม่นับ The Great Debaters ที่เขาเล่นบทสมทบ The Equalizer เป็นหนังของเดนเซลเรื่องที่ 12 ติดต่อกันแล้วที่เปิดตัวได้สูงกว่า 12 ล้านเหรียญ แถม 10 จาก 12 เรื่องยังเป็นหนังเรท อาร์อีกต่างหาก ทำให้ความสำเร็จตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากๆ
ในเรื่องนี้ เดนเซลรับบทเป็นเจ้าหน้าหน่วยพิเศษที่วางมือแล้ว แต่ต้องออกตามล่าตามล้างพวกมาเฟียรัสเซีย ซึ่งเป็นบทที่เหมาะกับเขามากๆ แถมเป็นบทที่เล่นเป็นประจำ แต่มีพัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนแฟนๆ ขาประจำของเดนเซลก็แห่ไปดูกัน และต่างก็ได้รับความพึงพอใจกลับมา เมื่อดูจากคะแนนของซีนีมาสกอร์ ที่สูงถึง A- ซึ่งน่าจะทำให้ได้เสียงบอกปากต่อปากที่ดี ขณะที่คนดูนั้นก็พอๆ กันระหว่างชายและหญิง โดยเป็นชาย 52% แล้วหนักไปทางคนส.ว.เมื่อ 85% อายุมากกว่า 30 ปี จากการตอบรับที่ดี หนังน่าจะไปได้ดีในสัปดาห์ต่อไป และน่าจะทำเงินได้มากกว่าร้อยล้านเหรียญ หรือประมาณนี้
อันดับที่ 2 เป็น The Maze Runner ที่ได้เงินในสุดสัปดาห์นี้ 17.4 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้ 10 วันเป็น 58 ล้านเหรียญแล้ว รายได้ของหนังตกเพียง 46% จากสัปดาห์เปิดตัว ถือว่าเป็นการยืนระยะที่แข็งแรงมากๆ สำหรับหนังผู้ใหญ่วัยเยาว์แบบนี้ ขนาด Divergent รายได้ยังตกถึง 53% ในสัปดาห์ต่อมา มาถึงตอนนี้น่าจะคาดหวังรายได้ในระดับ 95 - 105 ล้านเหรียญได้เลย
ด้วยโรงฉาย 3,464 โรง หนัง The Boxtrolls ทำรายได้ไป 17.3 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าหนังแอนิเมชันของค่ายไลกาเรื่องก่อนๆ เช่น Coraline (16.8 ล้านเหรียญ) และ ParaNorman (14.1 ล้านเหรียญ) ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นการเปิดตัวที่ดีที่สุดของหนังสต็อป-โมชันนับตั้งแต่ Tim Burton's Corpse Bride ที่สร้างสถิติเปิดตัวสูงสุดของหนังแนวนี้เอาไว้เมื่อ 9 ปีก่อน เครดิตตรงนี้คงต้องให้กับชื่อเสียงของไลกาที่เพิ่มมากขึ้น และการทำการตลาดได้ไม่มั่ว แต่ทั่วถึงของโฟกัส ฟีเจอร์ส คะแนนซีนีมาสกอร์ของหนังอยู่ที่ B+ ส่วนคนดูค่อนไปทางผู้หญิง (57%) ท้ายที่สุด The Boxtrolls น่าจะทำเงินผ่าน 60 ล้านเหรียญ
This is Where I Leave You รายได้ตกเพียง 40% ได้เงินมาเพิ่มอีก 6.9 ล้านเหรียญ รายได้รวม 10 วัน อยู่ที่ 22.4 ล้านเหรียญ และยังอยู่ในท็อปไฟว์ ส่วน Dolphin Tale 2 รายได้ลด 46% ทำเงินไป 4.8 ล้านเหรียญ รายได้รวม 33.6 ล้านเหรียญ ซึ่งยังตามหลังหนังภาคแรกอยู่ราวๆ 15 ล้านเหรียญ ส่วนอันดับ 7 เป็น A Walk Among the Tombstones ที่รายได้ร่วงถึง 67% ได้เงินสุดสัปดาห์นี้ 4.2 ล้านเหรียญ ที่ตกเยอะขนาดนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนังเจอคู่แข่งตรงๆ อย่าง The Equalizer แถมปากต่อปากก็ก้ำกึ่ง มาถึงตอนนี้หนังเก็บเงินไปแล้ว 20.8 ล้านเหรียญ และไม่น่าทำเงินถึง 30 ล้านเหรียญ ขณะที่ Guardians of the Galaxy ทำรายได้ถึง 319.2 ล้านเหรียญแล้ว ทำให้แซงหน้าหนัง Iron Man ภาคแรกกลายเป็นหนังมาร์เวลทำเงินสูงสุดอันดับ 3 รองจาก The Avengers และ Iron Man 3
The Skeleton Twins เพิ่มโรงเป็น 385 โรง ได้เงินมา 1.23 ล้านเหรียญ หนังดรามา บิลล์ เฮเดอร์/ คริสเตน วิกทำเงินไปแล้ว 2.32 ล้านเหรียญในตอนนี้ ขณะ Pride ที่เปิดฉายในวงจำกัดมาก แค่ 6 โรง แต่ได้เงินมาถึง 81,971 เหรียญ ถือว่าทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงดีทีเดียว 13,662 เหรียญต่อโรง และคำวิจารณ์ที่มาดี ทำให้หนังมีอนาคตมากขึ้นกับการเพิ่มโรงฉายต่อไปในอนาคต
ในตลาดนอกอเมริกา เป็นเวลาของ The Maze Runner ที่ครองอันดับ 1 ด้วยตัวเลข 27.2 ล้านเหรียญ แถมยังไม่มีการเปิดตัวในตลาดหลักๆ อีกต่างหาก โดยรายได้นอกอเมริกาสุดสัปดาห์นี้ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 27% โดยหนังยืนระยะได้ดีในตลาดที่เปิดตัวไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ เกาหลีใต้ (ทำเงินอีก 5 ล้านเหรียญ ลดลง 9%) และออสเตรเลีย (2.7 ล้านเหรียญ ลดลง 18%) และกลายเป็นหนังฟ็อกซ์ทำเงินสูงสุดอันดับ 3 ในมาเลย์เซีย แพ้แค่ Avatar กับ X-Men: Days of Future Past ตามลำดับ มาถึงตอนนี้ The Maze Runner ทำเงินในต่างประเทศ 90.7 ล้านเหรียญไปแล้ว โดยยังไม่เปิดตัวใน จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมันนี, อิตาลี และอังกฤษ ส่วน Lucy ยังเดินหน้าอย่างมั่นคงด้วยการเติมเงินเข้ากระเป๋ามาอีก 11.1 ล้านเหรียญ รายได้รวมนอกอเมริกาเป็น 269.1 ล้านเหรียญ สุดสัปดาห์นี้ หนังเปิดตัวอันดับ 1 ที่อิตาลี ด้วยรายได้ 3.2 ล้านเหรียญ ในวันพฤหัสฯ หรือศุกร์นี้ หนังจะทำเงินผ่าน 400 ล้านเหรียญทั่วโลก
The Equalizer เปิดตัวแล้วในบางประเทศ ทำเงินมาได้ 17.8 ล้านเหรียญ โดยหลักๆ เป็นที่อังกฤษ 2.9 ล้านเหรียญ, 2.7 ล้านเหรียญที่รัสเซีย ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุดของเดนเซลที่นี่ด้วย, 1.4 ล้านเหรียญในเม็กซิโก และ 1.3 ล้านเหรียญที่บราซิล
อ่านแล้วถูกใจอย่าลืมแวะไปคลิก Like ให้กำลังใจกันได้ที่ www.facebook.com/Sadaos นะครับ