(Spoil Kamen Rider Gaim) สนทนาถึง “มิจจี้” บทที่ 2 เจาะลึกเรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้หลงเดินทางสู่ด้านมืด

สิ้นสุดแล้วครับกับเส้นทางทะเยอทะยานอันดำมืดของ “มิจจี้” หรือ “คุเรชิม่า มิตซีซาเนะ”( มาสไรเดอร์ริวเก็น) ตัวร้ายพราวเสน่ห์ของซี่รี่ย์มาสไรเดอร์ไกมุ พร้อมกับการจากไปของ “ไม” หญิงสาวที่เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของเขา กับ "โคตะ" ชายที่เขานับถือเปรียบเสมือนฮีโร่ และทำให้เขาตาสว่างกลับตัวกลับใจได้สำเร็จ พร้อมกับมอบความสุขทุกอย่างคืนให้กับเขา แม้ว่าความผิดทั้งหมดของเขาจะยากเกินให้อภัยก็ตาม

ตลอดทั้งซี่รี่ย์ อะไรที่ทำให้เขาหลงทางผิด? มีปัจจัยภายนอกและภายในอะไรที่แปรเปลี่ยนเขาไปได้เช่นนี้

กระทู้เมื่อครั้งก่อน ผมอธิบายถึงปัจจัยภายนอกหรือสภาพแวดล้อมรอบตัวที่ถาโถมเข้าใส่มิจจี้ ตั้งแต่ตอนที่ 1-39 จนทำให้เขาเลือกที่จะเดินทางผิดและแปรเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นตัวร้ายของเรื่อง แต่คราวนี้ผมจะมาพูดวิเคราะห์ถึงปัจจัยภายในกับตัวละครดีกรีความเข้มข้นสูงตัวนี้ในเชิงเจาะลึกกัน  ( อ่านกระทู้ครั้งก่อนได้ที่นี่ http://pantip.com/topic/32359670 )



ซึ่งหลายๆคนพูดเสียงเดียวกันว่าที่มิจจี้ไขว่คว้าหาพลังโดยไม่สนใจวิธีการและเดินเข้าสู่ด้านมืด เป็นเพราะ”ความรัก” ที่เขามีให้ต่อ “ไม” หญิงสาวที่เป็นความหวังเดียวของเขา แต่สำหรับผมนั้นจะใช่ความรักจริงหรือไม่? หรือ มันเป็นแค่ความเห็นแก่ตัวที่มิจจี้คิดเข้าข้างตัวเองและคิดไปเองว่านั้นคือความรัก (บทวิเคราะห์ต่อจากนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวอาจมีเห็นขัดแย้งกับผู้อ่าน โปรดเข้าใจกัน)


มิจจี้ :.”ผมไม่ยอมให้คุณเอาตัวไมซังไปหรอก! ทั้งโลกนี้มีไมซังเพียงคนเดียวที่มีค่าพอที่จะช่วย ผมจะช่วยเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
ไคโตะ :  “อย่าพูดให้ขำนะ! เธอนะแข็งแกร่งอยู่แล้ว ไม่ต้องการให้คนอย่างแกมาช่วยหรอก”
มิจจี้ :.“ผมคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้ไมซังมีความสุข ไม่ใช่คุณ”
ไคโตะ :  “ทำให้เธอมีความสุขงั้นเหรอ? นั้นไม่ใช่สิ่งที่แกต้องการสักหน่อย”
มิจจี้ : “ว่าไงนะ?”
ไคโตะ :  “แกก็แค่อยากได้ตุ๊กตาไว้เล่นเท่านั้น!”
มิจจี้ :.“หุบปากซะ!”
ไคโตะ :  “คนอย่างแกไม่มีทางรักใครได้จริงหรอก”
มิจจี้ :.“เงียบปากไป ไอ้สวะ”
[บทสนทนาของมิจจี้และไคโตะในตอนที่ 41)


คำกล่าวของไคโตะไม่ได้เกินเลยความจริงเลย สิ่งที่มิจจี้ทำมาตลอดมันไม่ใช่ความรักแต่เป็นสิ่งที่เขาขวนขวายมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ ต่างหาก นั้นก็คือ “ความสนใจจากคนรอบข้าง”  อย่างที่หลายท่านรู้กันว่า มิจจี้นั้นเป็นคนที่เก็บกด เพราะถูกครอบครัวล้อมกรอบและยัดเยียดความคาดหวังที่เขาไม่อยากได้มาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มจำความได้ ยิ่งมีพี่ชายที่เก่งไปซะทุกอย่างแบบทะกะโทระ ความกดดันนั้นก็ยิ่งมีมากขึ้นเข้าไปอีก และไม่สามารถที่จะระบายกับใครได้แม้แต่พี่ชายของตนเอง ได้แต่เดินแก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียวจนติดเป็นนิสัย เชื่ออย่างผิดๆว่าสิ่งที่ตัวเองคิดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่สำคัญการที่พ่อแม่หรือแม้กระทั่งพี่ชายไม่ได้ให้เวลากับตัวเขามากนัก มันทำให้มิจจี้เกิดปมด้อย ทั้งความอ้างว้างโดดเดี่ยวและหลงคิดว่าที่ตัวเองไม่ได้รับความสนใจเพราะตัวเองมันด้อยค่าไร้สาระ ดังนั้นเขาจึงพยายามสร้าง ”ที่อยู่”ของตัวเองขึ้นมา ที่ที่คนอื่นสามารถมองเห็นคุณค่าและตัวตนของตัวเองแทนที่ครอบครัวที่ไม่เคยเห็น จนสุดท้ายเขาก็ได้พบที่อยู่นั้น ซึ่งมันอยู่ในทีมไกมุ นั้นก็คือ ไมกับโคตะ นั้นเอง


ดังนั้นเขาจึงพยายามอยากเต็มที่เพื่อจะสร้างที่อยู่ใหม่ของตนเองให้ดีที่สุด เขาทุ่มเททั้งกายใจเพื่อทำให้มันเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับเขา ที่ที่ทำให้เขามีตัวตนอยู่บนโลก แต่ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ที่อยู่ของเขาเกิดสั่นคลอนนั้นก็คือ “โคตะ” การที่โคตะมุ่งมั่นทำตามความเชื่อมั่นของตัวเอง ได้ไปทะลายที่อยุ่ของมิจจี้ การที่เขาไม่เคยฟังคำพูดของมิจจี้เลย มันเหมือนไปตอกย้ำปมด้อยของมิจจี้ ทำให้เขาคิดว่าโคตะก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่เห็นตัวเองเป็นคนไร้ค่า และถือเป็นโชคร้ายของโคตะที่มิจจี้ได้ระบายสิ่งอัดอั้นทั้งหมดในใจมาที่โคตะทั้งหมด ราวกับว่าโคตะเป็นตัวแทนแห่งความเลวร้ายที่คอยกดทับเขามาตลอด

และการที่เขาเติบโตภายใต้ความคิดแบบนี้ มันทำให้เขากลายเป็นคน “ดูถูกตัวเอง” เห็นได้ชัดจากการที่เขาสร้างภาพหลอนของพี่ชายตนเองขึ้นมา คนดูจะเห็นว่าทะกะโทระที่โผล่มาในหัวมิจจี้แต่ละครั้งมักจะคอยพูดจาดูถูกเขาสารพัด โดยเฉพาะคำพูดที่ว่ามิจจี้เป็นคนไร้ค่ามักจะพูดออกมาทุกครั้ง นั้นก็เพราะจิตใต้สำนึกของมิจจี้ทำให้เกิดมันขึ้นมา จิตใต้สำนึกที่คอยเอาแต่ดูถูกตัวเอง  การที่จิตใต้สำนึกสร้างรูปของพี่ชายขึ้นมาส่วนหนึ่งก็เพราะเขาฆ่าพี่ชายตัวเอง ส่วนเรื่องที่ทะกะโทระชอบพูดจาดูถูกมิจจี้ อาจเพราะจิตใต้สำนึกของมิจจี้จำฝังใจว่าพี่ชายตนเองมักมองว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ตลอดเวลามันเป็นเรื่องไร้สาระและไร้ค่า ซึ่งฉากเปิดตัวของ2พี่น้องในตอนที่4 น่าจะอธิบายได้


ทากาโทระ : “ถ้างั้นก็เอาใจใส่มันซะ อย่าให้อะไรมาทำให้ว่อกแว่กหล่ะ ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปซะ เพราะชีวิตของนายหน่ะถูกวางไว้แล้ว”
มิจจี้ : “รู้อยู่แล้วครับ…ชีวิตของผมหน่ะมีแต่สิ่งไร้สาระสินะครับ”
ทากาโทระ : “มิซึซาเนะ”


และเพราะนิสัยดูถูกตัวเองแบบนี้ มันทำให้เขาหลงคิดไปเองว่าโคตะและไมจะเป็นคนที่สามารถสร้างสมดุลไม้กระดกที่เขานั่งอยู่ได้ เพราะไม่ว่าจะยกจุดไหนขึ้นมาทั้ง2คนก็มีจุดด้อยกว่ามิจจี้หลายด้าน ทั้งฐานะ ความเป็นอยู่ในครอบครัว ความฉลาด และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งถ้านำจุดด้อยของทั้ง2คนมาวางรวมกันที่ปลายอีกด้านก็จะถ่วงดุลปมด้อยส่วนลบนั้นได้ แต่เมื่อโคตะเดินลงจากไม้กระดกอีกข้าง ภาระในการถ่วงดุลนั้นจึงตกเป็นของไมทั้งหมด



ตลอดทั้งซีรี่ย์เราไม่เคยเห็นมิจจี้บอกรักไมอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลยสักครั้ง คำพูดว่า “ชอบ” ในตอนที่ 39 ก็พูดออกมาแบบลอยๆ สองแง่สองง่าม แปลได้หลายความหมาย และเมื่อสังเกตดูดีๆ ช่วงที่มิจจี้เริ่มทุ่มเทให้กับไมอย่างเต็มที่ ก็ช่วงที่โคตะเริ่มที่จะไม่ฟังมิจจี้แล้วทำอะไรตามความตั้งใจตนเอง ซึ่งนั้นกลับไปทำให้ ”ที่อยู่” ที่เขาสร้างมามันได้ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง ดังนั้นการปกป้องอีกครึ่งหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำให้ได้ไม่ว่ามันจะแลกกับอะไรก็ตาม การที่โคตะไปบอกความจริงกับไม มันเหมือนการไปทำลายที่อยู่สุดท้ายของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อหยุดโคตะแม้ว่าจะเป็นการฆ่าเขาก็ตามที รวมถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ทั้งการที่ได้มินาโตะมาเป็นพวก การรวมตัวของเหล่าไรเดอร์  มันกลับทำให้ตัวตนของเขาเริ่มหายไปในสายตาของทุกคน และคิดว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ตัวตนของเขาในสายตาไมก็จะหายไปด้วย ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะร่วมมือกับโอเวอร์ลอร์ดเพื่อหาทางทำให้ที่อยู่สุดท้ายของเขาไม่มีวันโดนทำลาย นั้นคือการสร้างสวงสวรรค์ของเขากับไม แม้จะอยู่ภายใต้โอเวอร์ลอร์ดก็ตามที

แต่การที่มิจจี้คิดแบบนั้นมันกลับไปยัดเยียดปมด้อย ความอคติต่อตนเอง ไปที่ไมทั้งหมด หลงคิดแต่ว่ามีแต่ตัวเองที่จะทำให้ไมมีความสุขได้ สุดท้ายก็คิดไปเองว่านั้นคือความรัก ทั้งที่ไมเป็นคนเข้มแข็งและต้องการช่วยเหลือคนทั้งโลกด้วยกำลังของตนเองด้วยความกล้าหาญแท้ๆ  จึงไม่แปลกที่ไคโตะจะด่ามิจจี้ว่าสิ่งนั้นมันไม่ใช่ความรักแต่เป็นความเห็นแก่ตัว และเมื่อตัวตนของไมในฐานะมนุษย์จบลงกลายเจ้าหญิงแห่งการเริ่มต้น มิจจี้ก็ถึงกับเลิกและถอนตัวจากการต่อสู้ทันที ทั้งๆที่เขาก็ยังมีโอกาสได้พบกับไมอีกครั้งแม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม นั้นเป็นหลักฐานว่ามิจจี้ไม่ได้รักไมจริง เขาคิดว่าไมที่ไม่ใช่มนุษย์ไม่สามารถมาคอยถ่วงดุลปมด้อยในคานอีกข้างหนึ่งของเขาได้อีกแล้ว


ซึ่งคนที่เป็นต้นเหตุและต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวมิจจี้มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “ทะกะโทระ” ถ้าเขาใส่ใจในตัวมิจจี้มากกว่านี้อีกซักหน่อย มีเวลาให้กับมิจจี้มากกว่านี้อีกสักนิด มองความต้องการของน้องชายออกแม้เพียงนิดเดียว เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้

ถ้าสังเกตดีๆ เราจะเห็นว่า “สิ่งที่ทะกะโทระมี มิจจี้จะไม่มี”  “ถ้าสิ่งที่มิจจี้มี ทะกะโทระก็จะไม่มี”  พวกเขาสองคนต่างมีจุดเด่นที่สามารถทับจุดด้อยของอีกฝ่าย เป็นเหมือนกระดานหกที่ถ่วงดุลกันอย่างสมบูรณ์ แต่เมื่อทะกะโทระไม่อยู่(สักพัก) มิจจี้ก็เลือกที่จะเป็นพี่ชายคอยใช้ภาพลักษณ์ของผู้เป็นพี่ในความทรงจำกลบจุดด้อยของตนเอง แต่นั้นก็เป็นเพียงการหลอกตัวเองไม่ต่างจากกรณีของไมเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายมิจจี้ก็เป็นได้แค่เงาของทะกะโทระที่คอยแต่เลียนแบบความสำเร็จของผู้เป็นพี่เพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมายซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการย้ำอยู่กับที่เลย

เป็นเรื่องน่าเสียดายจริงๆที่เราจะไม่เห็น 2 พี่น้องคู่นี้ร่วมมือกันต่อสู้เพื่อกลบจุดด้อยของกันและกันในศึกสงครามชิงผลไม้ทองคำซึ่งเป็นเรื่องหลักของซี่รี่ย์นี้อีก ถ้า2คนนี้ร่วมมือกัน ภาพในตอนที่1ก็คงเกิดขึ้นจริงๆ และผู้ชนะในศึกครั้งนี้อาจไม่ใช่โคตะก็เป็นได้ ซึ่งพวกเขาคงต้องไปแก้ตัวในเดอะมูฟวี่หลังจบซี่รี่ย์แทน (แต่นั้นจอมมารไม่ได้คุมการเขียนอีกแล้ว คงไม่มีเรื่องราวเชิงลึกเกี่ยวกับ2พี่น้องนี้อีก เผลอๆพวกเขาคงโดนผู้ร้ายตัวใหม่ตบเล่นก็ได้)

ซึ่งมิจจี้ถือว่าโชคดีมากๆ ที่เขายังได้สิ่งสำคัญที่สุดอย่างพี่ชายเค้ากลับคืนมา(จากการช่วยเหลือของโคตะ) และเขาก็เลือกที่ใช้แสงสว่างสุดท้ายที่โคตะมอบให้ใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ในการชดใช้ความผิดที่ตัวเองทำซึ่งนับว่ามากอยู่ และรักษาสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของตัวเองไม่ให้หลุดลอยไปไหนอีก ถือว่าเป็นบทสรุปที่ดีที่สุดของตัวละครตัวนี้แล้ว



หลังจากนี้ หลังจากที่ซี่รี่ย์จบลงซึ่งยังไงเขาก็ต้องปรากฏในเดอะมูฟวี่ ซึ่งเป็นการครอสโอเวอร์ระหว่างไกมูกับไรเดอร์ใหม่อย่างไดรฟ์แน่นอนถ้าดูจากภาพที่หลุดมา แต่การดำเนินเรื่องของเขาจะเป็นยังไง เป็นแค่ตัวประกอบฉากให้สัตว์ประหลาดตบเล่นหรือเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักกัน แล้วมันจะทำให้บทสรุปของตัวละครนี้ที่ดีอยู่แล้วในซี่รี่ย์เละเทะหรือไม่? ซึ่งต้องอยู่ที่ฝีมือคนเขียนบทภาคหนังโรง ว่าเขาจะสานต่อเรื่องราวของตัวละครนี้ในรูปแบบไหน ซึ่งเราต้องรอดูปลายปีนี้

บทความอื่น
เจาะลึก “คาสึราบะ โคตะ” (ไรเดอร์ไกมุ) ไรเดอร์ผู้เสียสละ ผู้ก้าวสู่การเป็นราชาของโลกใหม่
http://pantip.com/topic/32640019
สนทนาถึง “คุมง ไคโตะ (ไรเดอร์บารอน)” ใครล่ะ? ที่ต้องการพลังได้มากเท่าเขา  
http://pantip.com/topic/32607941
สนทนาถึง "มิจจี้" (ไรเดอร์ริวเก็น) ตัวละครโปรดจอมมาร   
http://pantip.com/topic/32359670
สนทนาเจาะลึก "ทะกะโทระ" (ไรเดอร์ซันเก็ตสึ) ไรเดอร์เกราะขาวผู้น่าสงสาร    
http://pantip.com/topic/32498160
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่