คสช. ออกประกาศห้ามชาย หญิง ที่ไม่ได้แต่งงานกันอยู่หอพักห้องเดียวกัน หากสุ่มตรวจเจอโดนจับ!! #เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรกันครับ

ถามว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร  ขอตอบว่า  ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ  แต่เป็นเรื่องผิดที่คนทำผิดพยายามหาข้ออ้างให้สิ่งที่ตัวเองทำให้เป็นเรื่องถูก  เรียกว่าเอาสีข้างเข้าแถทุกรูปแบบ
-  เด็กต่ำกว่า  18  ปี  หากเสี้ยนจะเอากันก็อย่าขอแบมือขอเงินพ่อแม่ใช้  อยู่กับแบบผู้ใหญ่  หาเงินใช้เอง  ใช้ชีวิตของตัวเอง  จดทะเบียนให้ถูกต้องประกันตัวเองไว้หน่อยก็ดีว่าจะเอากันจริงๆ  จังๆ  จะได้ปลดๆ  ภาระของคนเป็นพ่อเป็นแม่ไปได้  หากเกิดมีลูกด้วยกันเด็กที่เกิดมาก็จะไม่เป็นภาระของสังคม
***ขอถามกลับว่า  "บ้านเด็กกำพร้า  ทุกวันนี้  พ่อแม่เด็กอยู่ไหน  เชื่อเถอะว่าคงไม่ใช่ลูกของคนอายุมากกว่า  30  ปีขึ้นไป  หรือจะมีก็ไม่ถึง  1%
- เด็กอายุมากกว่า  18  ปี  แต่ไม่ถึง  24  ปี  (เรียนมหาวิทยาลัย)  บอกว่าการอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องปกติ  ของให้กลับไปถามพ่อแม่ผู้ปกครองเธอหน่อยเถอะว่า  เขายินดีหรือไม่  หากเขายินดี  ก็ให้จดทะเบียนสมรสกันซะ  เขามาตรวจ  มีทะเบียนสมรสยืนยัน  เจ้าหน้าที่ก็ไม่ทำอะไรแล้วละ  กล้ามั้ย?
-  เด็กรุ่นนี้ก็ใช่ย่อย  เพราะก็ปัญหาสังคมเหมือนกันเพราะสิ่งที่เข้าใจนั้นมันผิดตั้งแต่เริ่ม  คำว่าริดรอนสิทธิ์มนุษยชน  เขาไม่ได้บังคับคุณให้ทำนะ  เขาบังคับที่เจ้าของหอให้ทำให้ถูกต้องตาม  พรบ.  หอพัก  ที่ได้ตราขึ้นมาใช้ตั้งแต่สมัยเก่าแก่(ล้าสมัยและเป็นอุปสรรค์ต่อผลประโยชน์ทางธรุกิจ)
***เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนในความรู้สึกของคนที่ทำผิดจนคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

ในส่วนนี้ฉันให้น้ำหนัก  ที่เขาพยายามแก้ไขในเรื่อง
-  การมีบุตรก่อนวัยอันควร  (หากมีแล้วเลี้ยงก็ไม่มีปัญหา  แต่ถ้าไม่เลี้ยงละ  ก็เห็นตามข่าวหน้าหนึ่งต่างๆ  คลอดแล้วทิ้ง  ไม่ว่าจะทิ้งที่ไหนก็อนาถทั้งนั้น)
-  ลดปัญหาการทำแท้ง  (ในส่วนนี้ช่วยผู้หญิงชัดๆ  ทำให้คุณไม่โทรม  มีศักดิ์ศรีในตัวเองก่อนที่จะเข้าบ้านสามี  แถมไม่ต้องทำบาปด้วย  ไม่ดีหรือไง)
-  ลดภาระของรัฐบาลในส่วนของการที่ต้องนำงบไปดูแลเด็กที่ถูกพ่อแม่ทิ้ง
-  ยกระดับศีลธรรมในสังคม  ทำให้นานาชาติได้เห็นว่า  ประเทศเราไม่ใช่ประเทศเสรีในการบริการเซกส์  ไม่ว่าจะฟรี  หรือคิดเงินก็ตาม
-  ส่งเสริมให้เยาวชนรู้จักหน้าที่ของตัวเองที่มีต่อตนเอง  ครอบครัว  และสังคม  

***ในความทรงจำสมัยก่อนเก่า  มีอาจารย์ท่านหนึ่งให้เด็กผู้หญิงคิดว่าตัวเองเป็นแม่คนแล้วตอบคำถามของลูกตัวเองที่ถามว่า  ผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร  (ซึ่งแน่นอนว่า  ก่อนที่ผู้หญิงจะปักหลักกับชายที่เป็นพ่อของลูก  เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนดังกล่าวมากกว่าเพื่อธรรมดา  คือไปกินอยู่หลับนอนกับเขาแล้วไปกันไม่รอด  เลิกรากัน)  เธอจะยังยิ้มแล้วตอบลูกไปว่า  เพื่อนแม่เอง  ได้รึเปล่า  ในใจจะไม่คิดตะขิดตะขวงใจอะไรเลยหรือ  ในกรณีนี้พูดแค่ว่าเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน  ซึ่งใครๆ  ที่อยู่ที่นั้นก็รู้ว่าผู้หญิงเป็นอย่างไรมาก่อน  ลูกของเธอคงซึ่งใจสุดๆ  หากมีใครมาบอกว่า  แม่เธอนี่ร่านสุดๆ  ก่อนหนูเกิดมา  แม่หนูเที่ยวนอนกับใครต่อใครไปทั่ว  
*  ในกรณีของผู้หญิงนะ
***กรณีของผู้ชาย  เขาคงภูมิใจมากที่ภรรยาตัวเองนั้นประสบการณ์โชกโชน  คุณผู้ชายถามตัวเองหน่อยว่าใช่มั้ย  วัยต่ำกว่า  25  ก็ตอบไปเลยว่ายอดเยี่ยม  ภูมิใจมาก เพราะเป็นช่วงวัยของการอยากลอง  ไม่ได้จะจริงจังอะไร  แต่พออยู่ด้วยกันไปขอถามว่าความรู้สึกนั้นจะยังคงเดิมหรือไม่  

*ต้องขอโทษด้วยที่ความจริงมันทำร้ายจิตใจ  แต่ฉันอยู่ในโลกที่แสนสวยงามมองเห็นถึงความชัดเจนที่แตกต่างระหว่างความพยายามช่วยเหลือสังคมของภาครัฐ  กับความผิดที่ผู้คนทุกวันนี้ทำกันเป็นเรื่องปกติ  และคิดว่ามันถูกต้องเอาสีข้างเขาเเถ  เพื่อกลบเกลื่อน  

**การใช้ชีวิตคู่โดยการทดลองอยู่ด้วยกันนี้เป็นแฟชั่นมาจากต่างประเทศ  ที่เราอ้างว่าเป็นเทรนที่ทันสมัย  แต่เคยลงไปดูในรายละเอียดกันมั้ยว่าเป็นอย่างไร  เขาไม่แบมือขอตังค์พ่อแม่ใช่นะ  ส่วนใหญ่เป็นคนวันทำงาน  ซึ่งทำมาหากินเลี้ยงตัวได้แล้ว