สแกนจุดบกพร่อง ว่าทำไม?? “ผี”ถึงแพ้”สวอนซี” 1.1 (พร้อมภาพประกอบอย่างละเอียด)

ถกกันด้วยเรื่องของแท็กติกพร้อมภาพประกอบว่าเพราะอะไร แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในช่วงอุ่นเครื่องถึงแพ้ สวอนซี ซิตี้ ในนัดเปิดสนามของฤดูกาลนี้




“นั่นคือสิ่งที่ผมพูดในช่วงพักครึ่ง(นักเตะบางคนดูกังวล) ผมอาจจินตนาการถึงมันได้ ความคาดหวังที่อยู่ในระดับสูง ไม่ใช่เพียงแค่โค้ชแต่กับนักเตะก็เช่นกัน  เพราะคุณกำลังเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”


หลุยส์ ฟาน กัล กล่าวหลังเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ สวอนซี ซิตี้ 2-1


ตามระบบการเล่นของ หลุยส์ ฟาน กัล ในยามที่ทีมได้ครองบอลนั้น จะต้องใช้การเคลื่อนไหวของนักเตะทั้งทีมไปตามตำแหน่งในแท๊กติกที่เขาวางไว้ และผ่านบอลไปตามตำแหน่งนั้น ๆ จากการไตร่ตรองและคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าเพื่อทำลายแนวรับของคู่แข่งที่ถูกจัดระเบียบไว้ ซึ่งแตกต่างจากระบบของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เน้นใช้การเล่นเกมรุกเร็วและมีจังหวะที่หนักหน่วงอย่างต่อเนื่องเพื่อทะลายเกมรับของคู่แข่ง

นั่นจึงมีความจำเป็นสำหรับนักเตะที่จะต้องมีสติและไตร่ตรองในการเล่นของพวกเขาเพื่อทำให้ได้ตามปรัชญาการเล่นของกุนซือชาวดัตช์ ซึ่งเขาเคยพูดเกี่ยวกับประเด็นนี้ไปแล้วว่า “นักเตะหลายคนของที่นี่เล่นด้วยสัญชาตญานและผมต้องการให้เขาคิดและรู้ว่าทำไมเขาถึงต้องทำสิ่งที่ผมบอก”

หลังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในช่วงปรีซีซั่น เราเห็นนักเตะหลายคนในทีมที่เล่นได้ดีขึ้นด้วยปรัชญาการเล่นของกุนซือคนใหม่ ซึ่งทำให้ทีมยิงได้ถึง 16 ประตู จากการเล่น 5 นัด แต่ในช่วง 2 นัด ที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ทุกคนในทีมกลับดูเก้ ๆกังกับระบบการเล่นใหม่นี้

นี่อาจเป็นสิ่งที่มาจากความจริงที่ว่า มันเป็นเพราะความกังวลใจของนักเตะในยามที่เล่นต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง ที่พวกเขาต้องพบกับความกดดันอย่างหนักที่ไม่เพียงแต่ต้องเอาชนะคู่แข่ง แต่ต้องมีฟอร์มการเล่นที่ประทับใจด้วย ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของพวกเขาที่ต้องใช้ความนิ่งเป็นส่วนสำคัญ และความนิ่งที่เราพูดถึงนี่ล่ะ เป็นพื้นฐานที่สำคัญในระบบการเล่นนี้ โดยเฉพาะเมื่อต้องเล่นผ่านช่องของพื้นที่

จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ฟาน กัล ถึงเน้นคำว่า”ใช้สมอง”นับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเขาก็ย้ำมันอีกครั้งหลังเกมกับสวอนซี ซิตี้

“ผมได้บอกพวกเขาในห้องแต่งตัว ผมไม่อาจพูดได้ว่าพวกคุณทำไม่เต็มที่  พวกคุณทำงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อด้วยความมุ่งมั่นที่ยอดเยี่ยม  แต่การไปให้ถึงระดับนั้นเป็นเรื่องยาก มันไม่ใช่เพียงแค่การวิ่ง แต่คุณต้องใช้สมองของพวกคุณ และจากนั้นคุณก็สามารถเล่นได้เป็นทีม นั่นล่ะคือสิ่งที่เราล้มเหลวในวันนี้”

แต่น่าเสียดายในเกมกับ สวอนซี  ที่นักเตะไม่สามารถรักษาระดับการเล่นของตัวเองไว้ได้ ส่งผลให้มีหลายครั้งที่พวกเขาเลือกเล่นในจังหวะนั้น ๆได้ไม่ถูกต้อง ซึ่งเหมือนกับที่ ฟาน กัล พูดหลังเกมที่ทีมเอาชนะ บาเลนเซีย 2-1

“มีหลายครั้งที่เราเลือกตัวเลือกที่ไม่ถูกต้อง ,ผ่านบอลผิดพลาด ไม่ได้กดดันคู่แข่งมากพอ เรามีตัวเลือกที่ดีกว่าในเวลาที่เหมาะสมที่จะผ่านบอล แต่เราไม่ได้ทำอย่างนั้น นั่นเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย”

หนึ่งในปัญหาหลักของทีมในเกมกับ สวอนซี อยู่ในขั้นตอนเริ่มสร้างจังหวะการเล่นของทีมจาก 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของทีม ที่อยู่กับตำแหน่งของตัวเองจนเกินไป และไม่กล้าดันขึ้นสูงหลอกล่อคู่แข่งเพื่อสร้างพื้นที่ให้แก่เพื่อนร่วมทีม ในตอนที่พวกเขาถูกนักเตะสวอนซีประกบอย่างแน่นหนา โดยนักเตะสวอนซีใช้การป้องกันเกมตรงกลาง และบีบพื้นที่เพื่อไม่ให้นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมรุกเข้าไปในแดนของพวกเขาได้ง่าย ๆ นักเตะสวอนซีจะปล่อยให้  3  กองหลังของทีม”ปีศาจแดง”มีทั้งเวลาและพื้นที่ในการเล่น แต่จะตามประกบนักเตะในแนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างแน่นหนา เป็นผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่อาจสร้างจังหวะการเล่นเกมรุกของทีมได้


ภาพประกอบชุดที่ 1 : ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการที่ สวอนซี ไม่ได้เข้ากดดัน




แบล็คเก็ตต์(วงกลมสีแดง) ทำได้ไม่ดีในเกมนี้ เขาไม่กล้ามากพอที่จะพาบอลดันขึ้นไปข้างหน้า อีกทั้งยังออกบอลเร็วเกินไป แม้เขาจะมีพื้นที่ว่างอยู่มากมาย(วงกลมสีฟ้า)พอที่จะพาบอลขึ้นไปข้างหน้าซึ่งจะเป็นการหลอกล่อคู่แข่งและเริ่มสร้างจังหวะการเล่นของทีม ในภาพนี้เห็นได้เลยว่า นักเตะสวอนซีไม่ได้เข้าไปเพรสซิ่ง แบล็คเก็ตต์ พวกเขาทำเพียงยืนปิดพื้นที่

จังหวะนี้ กองหลังดาวรุ่งรายนี้ควรที่จะพาบอลขึ้นไปข้างหน้าเพื่อเปิดพื้นที่ให้กับเพื่อร่วมทีมซึ่งจะทำให้เขายังสามารถผ่านบอลสั้นให้เพื่อนร่วมทีมในแดนหน้าได้มากขึ้น เนื่องจากระบบการเล่นกองหลัง 3 คน จะเหลือกองหลังมากพอที่จะมาซ้อนในตำแหน่งของเขา หากว่าเขาหลุดจากตำแหน่งของตนเอง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่นักเตะดาวรุ่งอย่างเขาต้องเรียนรู้



แต่ แบล็คเก็ตต์ เลือกเล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยการผ่านบอลออกด้านข้างให้ สมอลลิ่ง



ในขณะที่ สมอลลิ่ง ก็ทำแบบเดียวกัน ผ่านบอลไปให้ โจนส์ ที่อยู่ด้านขวา



ภาพนี้จะเห็นว่า โจนส์ ที่พาบอลดันขึ้นหน้ามากขึ้นซึ่งเป็นการหลอกล่อนักเตะคู่แข่ง เป็ผลให้มีพื้นที่ว่างมากมาย(วงกลมสีฟ้า)สำหรับ เฟล็ทเชอร์ ที่จะเคลื่อนที่เข้าไป



แต่น่าเสียดายที่จังหวะนี้ เฟล็ทเชอร์  กลับเลือกวิ่งเข้ามาหา โจนส์ แทนที่จะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างที่มีอยู่ ด้วยดันขึ้นสูงไปและเตรียมหันเข้าหาประตูของคู่แข่ง ซึ่งมันจะสร้างจังหวะการเล่นในการเล่นเกมรุกของทีมได้ดีกว่านี้ ทำให้ โจนส์ ต้องผ่านบอลไปสู่เท้าของ เฟล็ทเชอร์ นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่านักเตะในทีมยังขาดความเข้าใจถึงปรัชญาการเล่นของ ฟาน กัล



นี่คือภาพที่อธิบายคำว่า”เลือกตัวเลือกที่ผิด” เมื่อ เฟล็ทเชอร์(วงกลมสีแดง) ที่วิ่งเข้ามารับบอลแล้วจะม้วนกลับไปในพื้นที่ว่างนั้น โบนี่ ก็เข้ามาเพรสซิ่งถึงตัวเขาซะแล้ว



เป็นผลให้ เฟล็ทเชอร์ ไม่มีเวลามากพอที่จะแต่งบอลแล้วผ่านบอลไปให้ มาต้า ซึ่งยืนอยู่ในตำแหน่งที่ดีพอที่จะผ่านบอลต่อไปให้ ลินการ์ด ที่วิ่งเติมเกมขึ้นไปในพื้นที่ว่างด้านหน้า(วงกลมสีฟ้า)



จังหวะต่อมา โบนี่ ก็เข้ามาเพรสซิ่งประชิดตัว เฟล็ทเชอร์ ซะแล้ว



เฟล็ทเชอร์ ที่ถูก โบนี่ เข้ามาเบียดแย่งบอลต้องพยายามอย่างหนักเพื่อผ่านบอลไปให้ ลินการ์ด



แม้ เฟล็ทเชอร์ ผ่านบอลไปให้ ลินการ์ด(วงกลมสีแดง)ได้สำเร็จ แต่เขาถูกนักเตะสวอนซีรุมล้อมซะแล้ว อันเป็นผลมาจากการเล่นด้วย”สัญชาตญาน”ของกองกลางชาวสก็อตต์


***ไปดูภาพประกอบชุด 2 กันต่อเลยค๊าาา*** >>> http://www.manuclubthailand.com/?p=58598

ขอบคุณภาพประกอบจาก : LiveLiveUnited

AJ44@แมนยูคลับ.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่