เริ่มออกเดินทางกันดีกว่าค่ะ..คืนนี้มานอนบ้านน้าที่ อ.ท่าม่วง กาญจนบุรี เริ่มออกเดินทางกันตี 3 ค่ะ กะว่าถึงสะพานมอญหกโมงเช้า
เนื่องจากไม่ชินทางและมืดด้วย ขับรถรอกันอีก

สว่างพอดี  กำลังข้ามสะพานซองกาเลีย มองจากตรงนี้ จะเห็นภาพนี้ค่ะ >>สะพานไม้


เลี้ยวเข้าซอยสะพานไม้ จะมีสาวมอญโบกบอกทางที่จอดรถ แล้วพาไปซื้อชุดใส่บาตร
เราถึงกันเวลา 6.30 ไปถึงก็เตรียมใส่บาตรกันเลยค่ะ ฝนตกปลอยๆ
..มีชาวบ้านตั้งโต๊ะขายชุดใส่บาตรกันหลายร้านค่ะ  ราคาชุดละ 99 บาท  
คนมอญใส่ผ้าถุง คนมาเยื่อนก็อยากใส่กันบ้าง ^_^ แต่เรายืมอาม่า มาจากที่บ้าน แบบว่าตั้งใจมาเนียนๆ ^^


จากนั้นเราก็เดินชมสะพานมอญและวิวรอบๆค่ะ  ฝนหยุดอากาศเย็นสดชื่น  ธรรมชาติสุดๆ





นี่ไงสะพานลูกบวบ  ตอนนี้ก็เริ่มทรุดโทรมเหมือนกันค่ะ ต้องเดินระวังๆ


เดินถ่ายรูปๆๆๆ ชื่นชมธรรมชาติ สูดดดดอากาศบริสุทธิ์ๆให้เต็มปอด
เสร็จแล้วเราเดินกลับมาลองทานขนมจีนหยวกกล้วย ป้าหยิน (อ่านๆเอาจากใน Pantip ก็ลองไปทานดู มีวิธีการกินด้วยนะคะ 55)
รสชาติปรุงแบบก๋วยเตี๋ยวตามใจเรา..//จานนี้ 20 บาท อิ่มกำลังดีสำหรับตอนเช้าๆ



นอกจากร้านขนมจีนที่เห็นก็จะมีร้านโจ๊ก ร้านกาแฟ โรตีโอ่ง  ราคาไม่แพงค่ะ

ไปต่อกันดีกว่า..ไปนั่งเรือชมวัดวังก์วิเวการาม(เก่า)ที่จมน้ำกัน
ติดต่อเช่าเรือ 300 บาท แถวๆสะพานมอญ นั่งได้ไม่เกิน 7 คนค่ะ
[ตอนแรกตั้งใจจะเพิ่มเงิน 100- เพื่อนั่งเรือต่อไปวัดสำเด็จเก่า แต่คนขับเรือบอกช่วงนี้สัตว์มีพิษเยอะ ยุงเยอะ ไม่อยากให้ขึ้น]

ระหว่างเดินลงสะพานบวบค่ะ




พร้อมแล้วจร้าา  :flower:]




ถึงแว้ววว

ลงเรือปุ๊บ..เด็กๆจะมารุมขายดอกไม้ไหว้พระค่ะ  กำละ 10 บาท  สวยๆแต่ลำบากใจมาก ฮ่าๆ









หลังจากบูชาพระด้านใน (ตอนนี้มีแต่รูปหลวงพ่ออุตตมะ ส่วนพระประทานได้ถูกอัญเชิญไปวัดวังก์วิเวการามใหม่แล้ว)
ด้านนอกมีการวางหินเพื่อต่ออายุค่ะ เป็นความเชื่อของชาวบ้านแถวนั้น



จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อ ไปวัดวังก์วิเวการาม และเจดีย์พุทธคยา ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน
รัวรูปเลยนะคะ  ^^











ไหว้พระเสร็จเราก็ตั้งใจไปด่านเจย์ดีย์สามองค์
แต่ตอนนี้ก็เริ่มหิวแล้ววว..จขกท ขอแนะนำต่อ ..ร้านเจ๊พร ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาว แซ่บหลายย (คนเยอะ  แต่รอได้ค่ะ) อยู่ติดริมถนนยังไงก็ผ่านค่ะ แต่ต้องสังเกตุดีๆนะคะ  ชามละประมาณ 25 -30 ค่ะ


อิ่มท้องแล้วเราก็ไปต่อกันเลย..Next station ด่านเจดีย์สามองค์
ห่างกันประมาณ 20 กว่าโลค่ะ


จะข้ามฝั่งไปพม่า ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน คนละ 1 ใบ หรือไปถ่ายเอกสารที่นั่นก็ได้ เค้าคิดใบละ 5 บาท แต่ถ่ายรวมกันใบนึงหลายๆคน
ค่าผ่านด่านไทยคนละ 10 บาท ถ้ามีรถก็ต้องใช้สำเนาทะเบียนรถด้วย เอารถเข้าคันละ 50 บาท

พอขับผ่านด่านไทยก็จะเจอด่านพม่า  คิดค่าผ่าน คนละ 40 บาท ค่ารถไม่คิด.. เขตนี้ขับขวานะคะ  ไม่ชินเลยย
จริงๆจะไปวัดก่อน แต่ งงซอย เลยขับไปเรื่อยๆ  เริ่มคิดว่าไม่ใช่ล่ะ   หาเหยื่อค่ะ  หน้าตาไทยๆเดินไปถามโล๊ดดด
พี่เค้าว่าเลยมาแล้วต้องย้อนกลับ  แปลกนะที่พม่าบีบแตรตลอด แล้วขับแบบไม่กลัวชนกันเลย ><
แวะนิดนุง   สิ่งหนึ่งที่ตลาดที่นี่มีเยอะสุดๆคือ ร้านขายหมากที่เป็นคำๆ (ไม่มีรูปค่ะ)



เดินทางต่อ วัดเสาร้อยต้น



เดินขึ้นชั้น 2 เสาต้นใหญ่กว่าด้านล่าง


สนับสนุนผลิตภัณฑ์พื้นเมือง เห็นสาวพม่าผิวดี  ลองซะหน่อย


บริเวณวัดค่ะ มีรูปปั้นพระสงฆ์จำนวนมาก เรียงสวยเชียวค่ะ



ขับไปเรื่อยๆก็หลงเข้ามาตรงนี้ค่ะ  


เราหลงเข้าไปกันแล้ว ตอนแรกก็จะไปเจดีย์ทองแต่เลี้ยวผิดค่ะ
โชคดีมากๆมีชาวพม่านำทาง  เราจอดถามเค้า แต่เค้าพูดไทยไม่ได้  เค้าถามคนที่สื่อสารได้ให้บอกตามเค้าไปเค้าจะนำทางให้  ซึ้งเลยใจดีมากๆๆค่ะ

ทางเดินขึ้นเจดีย์ทอง  แต่เราขับรถมามีทางเข้าอีกทางค่ะ


เจดีย์ทอง


ทางลงค่ะ  บ๊ายบาย เมียนมาร์


ออกจากด่านเจดีย์สามองค์ประมาณบ่ายสาม ก็ขับรถกลับเรื่อยๆ ผ่าน น้ำตก เกริงกระเวีย


แวะซื้อเงาะสดๆเกริงกระเวีย  ปลาตากแห้ง  และก็ไข่ปิ้งร้อนๆ  

ระหว่างทางผ่านเจอคนพื้นเมืองนั่งขายเห็นโคน ริมทาง แวะอุดหนุนซ๊าหน่อย


ขับยาวจนถึงน้ำตกไทรโยคน้อย  ฝั่งตรงข้ามจะมีขายของฝาก  

แต่ร้านที่คนเข้าเยอะมากๆๆคือร้านกล้วยฉาบ เผือกฉาบ ทำใหม่อร่อยจริงจัง

หลังจากตรงนี้ขอตรงยาวไปจัดมื้อเย็นที่สะพานข้ามแม่น้ำแควค่ะ
ร้านริมแม่น้ำมีหลายร้านค่ะ วันนี้ลองลงแพดู  อาหารอร่อยค่ะ ราคากลางๆ


ขอจบที่สะพานข้ามแม่น้ำแามค่ำคืนค่ะ  


จบปิ๊ง