ความตั้งใจของทริปนี้คือการหลบร้อนหลบฝนไปนอนแพคลายร้อนกันที่กาญจนบุรี และก็ตามธรรมเนียมของ ทริปไฟไหม้ เราคุยกัน หาข้อมูล และ จองที่พักกันก่อนเดินทาง 3 วัน (รวดเร็วทันใจดีจริงๆ) สมาชิก 3 คนพร้อม มีแค่ใจกับเวลาตรงกัน ก็ไปกันเลย ลุย!!!!!!!
คุณเพื่อนขับรถให้เช่นเคย เราก็เป็นผู้โดยสารสบายๆ (เหอๆๆๆๆ)
ออกจากเมืองกรุง 7 โมงกว่าๆ ขับรถไปทางถนนบรมราชชนนีไปทางนครปฐม แล้วไปตามถนนเพชรเกษมตรงไป เรื่อยๆ ชิลๆ
จุดหมายแรก คือ แวะกินมื้อเช้าและรำลึกความหลังที่ ทับแก้ว กันซะโหน่ย
ข้าวเช้าง่ายๆที่ยูเนี่ยนฯ กับสิ่งที่คุ้นตา น้ำที่เสิร์ฟด้วยขวดโหลแก้ว ^ ^
ต่อด้วยการขับรถรอบมหาลัยที่คิดถึงสักรอบให้หายคิดถึงกันหน่อย
selfie ขำๆ ที่สะพานสระแก้ว
บ้านจักรยาน (ในวันที่ไม่มีจักรยาน ก็ยังขลังอยู่เช่นเดิม)
ออกจากมหาลัยก็ขับรถไปตามถนนเพชรเกษม แล้วเบี่ยงซ้ายขึ้นสะพานเข้าบ้านโป่งไปตามถนนหมายเลข 322
จุดหมายต่อมาคือ วัดถ้ำเสือ แถวๆเขื่อนแม่กลอง วัดสร้างอยู่บนเขาต้องเดินขึ้นบันไดพญานาคน่าจะประมาณ 150 กว่าขั้น (ไม่มีตัวเลขเป๊ะๆ เพราะล้มเหลวในการตั้งสตินับขั้นบันไดกันทุกคน 55555)
จริงๆที่วัดมีรถลางบริการขึ้น-ลงด้วย แต่ระดับเราๆแล้วเดินขึ้นวัดกันจร้า ใจมา ขาพร้อม เดิน!!!!!!
เดินขึ้นเจดีย์ไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ (รู้สึกถึงการทำงานของกล้ามเนื้อต้นขาอย่างชัดเจน - -“)

วิวโดยรอบบริเวณวัดจากบนเจดีย์ องค์พระใหญ่และงามมาก
ที่หมายต่อไปคือการตามรอยหลายๆรีวิวในพันทิปนี่ล่ะ นั่นคือ ต้นจามจุรียักษ์
ในการเดินทางไปต้นจามจุรียักษ์พวกเราฝากชีวิตกับ GPS ล้วนๆ (เหอๆๆๆๆ)
ตามพี่จีไปไม่นานนักเราก็มาถึงจุดหมาย เห็นต้นจามจุรีต้นใหญ่มากมาแต่ไกล ใหญ่มากจริงๆ อลังการมากๆ และ ร่มเย็นมากๆด้วย ชอบๆ
ชื่นชมความใหญ่โตและความร่มรื่นของต้นจามจุรียักษ์กันเต็มที่แล้วก็ใกล้เที่ยงพอดี มองหน้ากันแล้วก็....ป่ะหาข้าวกินกัน
แหล่งของกินใกล้ที่สุดก็ในตัวเมืองกาญจน์นี่ล่ะ (พี่จีบอกมา)
ระหว่างทางเข้าตัวเมืองพี่จีให้ใช้เส้นทางผ่านโรงเลี้ยงม้าของปศุสัตว์โดยบังเอิญ ม้าฝูงใหญ่วิ่งกันฝุ่นตลบเลย (ต้องขอบคุณพี่จีที่นำทางมา

)


เราหาข้าวเที่ยงง่ายๆกินกันเพื่อทำเวลาให้ไปถึงที่พักไม่เย็นมากนัก เพราะที่แพมีบริการลากแพเล่นน้ำกันช่วงเย็นๆ รีบไปเล่นน้ำกันดีกว่า
ออกจากตัวเมืองกาญจน์ขับรถมาตามถนน 322 ไปทางไทรโยค-ทองผาภูมิ ถนนที่กาญจน์นี่สวยดีนะ ต้นไม้สูงตลอดทาง ข้างทางก็เป็นทุ่งหญ้า ไร่มัน ไร่อ้อย และมีภูเขาเป็นฉากหลังอยู่ไกลๆ ขับรถชมวิวกันเพลินเลย

ด้วยความช่วยเหลือของพี่จี ประมาณชั่วโมงกว่าๆ จากตัวเมืองเราก็มาถึงที่นอนคืนนี้ของเรา ไทรโยควิวราฟท์ ที่พักเป็นแพริมแม่น้ำแควน้อย ห้องพักอยู่บนแพ และมีส่วนที่กำลังก่อสร้างอยู่บนฝั่งด้วย วิวจากที่พักมองเห็นหมอกลอยเอื่อยๆบังยอดเขาด้านหลังด้วย ดีจัง ^ ^
บรรยากาศรอบๆที่พัก
พื้นที่รีสอร์ทสวยดี จุดเด่นของที่นี่น่าจะเป็น สระว่ายน้ำบนฝั่ง 2 สระใหญ่ติดกัน และ สระจากุซซี่ขนาดกลางๆ 2 สระ บนแพ (เหมาะกับการแช่น้ำชนขวดกันมากกกกก)
สระใหญ่บนฝั่ง
สระจากุซซี่บนแพ
มาดูห้องพักกัน ในห้องมีแอร์ และ เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส แต่ไม่มี TV และ ตู้เย็น ซึ่งก็ไม่ใช่ประเด็นสำหรับพวกเรา
ที่พักที่นี่คิดคนละ 1,200 บาท รวมบุฟเฟต์มื้อเย็นและมื้อเช้า และ บริการแพลากเล่นน้ำ
เดินเล่นนั่งเล่นบนแพไม่นานก็ได้เวลานั่งแพลากไปแช่น้ำเย็นๆกัน
กิจกรรมนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ทางรีสอร์ทจะใช้เรือหางยาวลากแพทวนน้ำขึ้นไปเลยหน้ารีสอร์ทไปนิดหน่อย แล้วก็ลากแพตามน้ำกลับมาทางรีสอร์ท ทีนี้ก็ต่างคนต่างโดดน้ำกันเลย ปล่อยให้กระแสน้ำพาเราตามน้ำไปเรื่อยๆ ส่วนแพก็จะเลยไปรอรับเราที่ปลายน้ำห่างจากรีสอร์ทไม่ไกลมากนัก กระแสน้ำค่อนข้างแรงเลยล่ะ
แต่ก็หายห่วงเพราะมองไปเห็นเสื้อชูชีพใหม่มากๆๆๆๆ ใส่ได้อย่างแน่นนนนนเลย สบายใจได้ว่าเสื้อชูชีพช่วยเราลอยตัวได้แน่นอน
คนพร้อม เรือลากพร้อม ก็ไปโดดน้ำกัน ลุย!!!!!!!!
ขึ้นจากน้ำกันครบทุกคนแล้ว ก็ได้เวลาลากแพกลับที่พัก สนุกดี เย็น สบาย ลอยตัวตามน้ำไปเรื่อยๆ
ต้นไม้ริมน้ำระหว่างทางกลับ ก็สวยดีนะ
มื้อเย็นเป็นบุฟเฟต์อาหารง่ายๆ ผัดวุ้นเส้น ไก่ทอด ต้มยำไก่ ขนมจีนแกงไก่ เฟรนซ์ฟราย
บรรยากาศดี แต่ยุงเยอะไปหน่อย นั่งชิลได้ไม่นานเราก็ถอยกันแล้วแพ้ยุงเจ้าถิ่นเค้า
[CR] ทริปไฟไหม้ @กาญจนบุรี นอนแพแม่น้ำแควน้อย 2 วัน 1 คืน 02-03 Aug 14
คุณเพื่อนขับรถให้เช่นเคย เราก็เป็นผู้โดยสารสบายๆ (เหอๆๆๆๆ)
ออกจากเมืองกรุง 7 โมงกว่าๆ ขับรถไปทางถนนบรมราชชนนีไปทางนครปฐม แล้วไปตามถนนเพชรเกษมตรงไป เรื่อยๆ ชิลๆ
จุดหมายแรก คือ แวะกินมื้อเช้าและรำลึกความหลังที่ ทับแก้ว กันซะโหน่ย
ข้าวเช้าง่ายๆที่ยูเนี่ยนฯ กับสิ่งที่คุ้นตา น้ำที่เสิร์ฟด้วยขวดโหลแก้ว ^ ^
selfie ขำๆ ที่สะพานสระแก้ว
จุดหมายต่อมาคือ วัดถ้ำเสือ แถวๆเขื่อนแม่กลอง วัดสร้างอยู่บนเขาต้องเดินขึ้นบันไดพญานาคน่าจะประมาณ 150 กว่าขั้น (ไม่มีตัวเลขเป๊ะๆ เพราะล้มเหลวในการตั้งสตินับขั้นบันไดกันทุกคน 55555)
จริงๆที่วัดมีรถลางบริการขึ้น-ลงด้วย แต่ระดับเราๆแล้วเดินขึ้นวัดกันจร้า ใจมา ขาพร้อม เดิน!!!!!!
ในการเดินทางไปต้นจามจุรียักษ์พวกเราฝากชีวิตกับ GPS ล้วนๆ (เหอๆๆๆๆ)
ตามพี่จีไปไม่นานนักเราก็มาถึงจุดหมาย เห็นต้นจามจุรีต้นใหญ่มากมาแต่ไกล ใหญ่มากจริงๆ อลังการมากๆ และ ร่มเย็นมากๆด้วย ชอบๆ
แหล่งของกินใกล้ที่สุดก็ในตัวเมืองกาญจน์นี่ล่ะ (พี่จีบอกมา)
ระหว่างทางเข้าตัวเมืองพี่จีให้ใช้เส้นทางผ่านโรงเลี้ยงม้าของปศุสัตว์โดยบังเอิญ ม้าฝูงใหญ่วิ่งกันฝุ่นตลบเลย (ต้องขอบคุณพี่จีที่นำทางมา
ออกจากตัวเมืองกาญจน์ขับรถมาตามถนน 322 ไปทางไทรโยค-ทองผาภูมิ ถนนที่กาญจน์นี่สวยดีนะ ต้นไม้สูงตลอดทาง ข้างทางก็เป็นทุ่งหญ้า ไร่มัน ไร่อ้อย และมีภูเขาเป็นฉากหลังอยู่ไกลๆ ขับรถชมวิวกันเพลินเลย
บรรยากาศรอบๆที่พัก
สระใหญ่บนฝั่ง
ที่พักที่นี่คิดคนละ 1,200 บาท รวมบุฟเฟต์มื้อเย็นและมื้อเช้า และ บริการแพลากเล่นน้ำ
กิจกรรมนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ทางรีสอร์ทจะใช้เรือหางยาวลากแพทวนน้ำขึ้นไปเลยหน้ารีสอร์ทไปนิดหน่อย แล้วก็ลากแพตามน้ำกลับมาทางรีสอร์ท ทีนี้ก็ต่างคนต่างโดดน้ำกันเลย ปล่อยให้กระแสน้ำพาเราตามน้ำไปเรื่อยๆ ส่วนแพก็จะเลยไปรอรับเราที่ปลายน้ำห่างจากรีสอร์ทไม่ไกลมากนัก กระแสน้ำค่อนข้างแรงเลยล่ะ
แต่ก็หายห่วงเพราะมองไปเห็นเสื้อชูชีพใหม่มากๆๆๆๆ ใส่ได้อย่างแน่นนนนนเลย สบายใจได้ว่าเสื้อชูชีพช่วยเราลอยตัวได้แน่นอน
คนพร้อม เรือลากพร้อม ก็ไปโดดน้ำกัน ลุย!!!!!!!!
ต้นไม้ริมน้ำระหว่างทางกลับ ก็สวยดีนะ
บรรยากาศดี แต่ยุงเยอะไปหน่อย นั่งชิลได้ไม่นานเราก็ถอยกันแล้วแพ้ยุงเจ้าถิ่นเค้า