สวัสดีคร่า ทุกคน
หลังจากกระทู้คราวที่แล้วของเรา
http://pantip.com/topic/31833359
วันนี้เรามาตามสัญญา ว่าจะมาเจาะลึกลงดีเทลเรื่องการทำงานในแผนกเกมส์
ของสวนสนุกที่ได้ชื่อว่าเป็นสวนสนุกที่มีสาขามากที่สุดในโลก
เผื่อน้องๆ คนไหนที่สนใจอยากจะไปทำงานที่นี่จะได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
โดยงานที่แผนกเกมส์รับผิดชอบนั้น ก็คือบูธเกมส์ต่างๆ และเครื่องเล่นพิเศษ
งานนี้อิฉันจะขอเล่าลักษณะการทำงานของบูธเกมส์ก่อนนะคะ
โดยบูธเกมส์ของ Six Flags จะมีมากมายหลายสไตล์
มีเกมส์น่ารักเหมาะกับเด็กๆ หรือเกมส์สำหรับเด็กโต
หรือเกมส์สำหรับครอบครัว โดยทุกเกมส์จะมีสตาฟประจำบูธเกมส์อยู่ 1 คน
ทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่เชิญชวนลูกค้า อธิบายเนื้อหาเกมส์ รับเงิน ทอนเงิน
โดยการที่ใครจะประจำโซนไหนนั้น ก็ต้องมารอดูตอนเข้างานกันค่ะ
ถ้าเราไปถึงออฟฟิศของแผนกเร็ว เราก็สามาถอ้อนวอนขู่เข็ญให้สตาฟ
ที่เป็นคนเลือกโซนของเราลงในที่ที่เราอยากไป
ทีนี้พอได้รับมอบหมายงานแล้ว ในกรณีที่ได้บูธเกมส์ ก็จะต้องไปรับเงินต่อค่ะ
เพราะลูกค้าจะใช้เงินสดในการเล่นเกมส์ของเรา
เขาก็จะมีห้องรับเงินให้เรา รู้สึกว่าจะหลายร้อยเหรียญอยู่ อันนี้จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ
แต่เขาจะบอกชัดเจนว่าในถุงเงินนี้ มีแบงค์อะไรเท่าไร มีเหรียญอะไรเท่าไหร่
ให้เรารับเงินแล้วเอามานับตรงโต๊ะที่เขาเตรียมไว้ให้ให้ละเอียด
ตรงนี้ขอให้นับให้รอบคอบนะคะ ถ้าไม่ครบจำนวนแจ้งได้เลย
*และนี่คือเหตุผลนึงที่ทางปาร์คจะไม่ให้เราพกเงินของเราติดตัว
เพราะเขากลัวเงินเรากับเงินของปาร์คจะไปปนกันนั่นเอง*
รับเงินเสร็จก็ไปประจำบูธเกมส์ โดยแต่ละโซนในปาร์คจะมี
Supervisor ประจำการอยู่ เราก็ต้องไปรายงานตัวกับเขา เขาก็จะเลือกบูธเกมส์ให้เราลงค่ะ
ทีนี้บูธเกมส์ก็จะมีหลายๆ แบบใช่มั้ยคะคุณ
มันก็จะมีประเภทบูธเกมส์มีไมค์ บูธเกมส์ตากแดด บูธเกมส์ใช้แรงงาน บูธเกมส์ใช้พลังเสียง
บลาๆ ก็ว่ากันไป และโดยส่วนมาก เด็กไทยที่ไปในช่วงปีแรก
ก็จะได้รับมอบหมายให้ไปประจำที่บูธตากแดด ตากฝน อย่าง Long Range
ซึ่งก็คือ เกมส์ ชู๊ทบาสเกตบอล ที่เด็กหนุ่มวัยขบเผาะ ชอบมาเล่นกัน
ซึ่งมันฟินค่ะ แต่กว่าที่คุณจะมีโอกาสได้ไปฟินในจุดนั้นตอนช่วงซัมเมอร์
คุณต้องผ่านช่วงมรสุมไปก่อนค่ะ นั่นคือการยืนตากฝน ในอุณหูมิเลขตัวเดียว!!
ในช่วงที่ปาร์กเปิดตอนแรก มันทรมานสุดๆ เลยค่ะคุณ
พูดภาษาอังกฤษก็ไม่คล่อง อายก็อาย ไม่กล้าตะโกนเรียกลูกค้า หนาวก็หนาว เมื่อยก็เมื่อย
แต่ไม่ต้องห่วงไป เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเจ็บและทน+(หน้า)ด้านไปเองค่ะ
พูดถึงเกมส์นี้แล้ว ที่ Six Flags จะมีเกมส์บาสเกตบอลอีกเกมส์นึงที่ฮิตมากๆ
ชื่อเกมส์ 3 Point ซึ่งของรางวัลนางเจ๋งมาก
โดยเกมส์ก็ไม่มีอะไรมากมายค่ะ จะมีเวลาให้ 40 วินาที
ซึ่งความเจ๋งของรางวัลขึ้นอยู่กับจำนวนคะแนนที่ชู๊ทได้
ส่วนของรางวัลที่ว่าเจ๋งก็มีตั้งแต่ลูกบาสธรรมดา ไปจนถึง ทีวีจอแบบ 40 นิ้ว
ซึ่งอันนี้มีคนเคยได้จริงๆ นะตัวเธอ
ส่วนหน้าที่ของเรานั้นก็คือ วิ่งเก็บลูกบาสจ้า
ให้นึกภาพครึ่งนึงของสนามบาสเกตบอล
กับคุณลูกค้าที่มีความต้องการได้ทีวีอย่างแรงกล้า
มีตัวกดดันเป็นเวลา 40 วินาที ที่ต้องชู๊ทบาสให้ได้มากที่สุด
และคุณต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนคอยเก็บลูกบาสที่คุณลูกค้าชู๊ทลง(หรือไม่ลง)ห่วง
พร้อมหลบลูกบาสที่คุณลูกค้าอาจจงใจหรือไม่จงใจโยนพลาดมาทางเราอีกด้วย
และไม่อยากจะบอกว่าเกมส์นี้ ทำให้แหวนทองที่เราใส่ติดมืดประจำขาดค่ะ
ขอใช้คำว่าขาด เพราะมันขาดคานิ้วเราเลยจริงๆ
ส่วนต่อมาที่เคยอธิบายคร่าวๆ ไปในกระทู้ที่แล้ว
นั่นก็คือ Sky Coaster ที่เราและผองเพื่อนพร้อมใจกันขนานามให้นางว่า “เกมส์ตกตึก“
หน้าที่สำหรับคนที่ต้องมารับเจ้าเกมส์ตกตึกนี้ ก็จะมีหลายหน้าที่ค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นแคชเชียร์ เตรียมพร้อมด้านหน้า เตรียมพร้อมด้านใน
ซึ่งเราได้รับโอกาสดีๆ รึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ ให้ทำทุกหน้าที่กันเลยทีเดียว
ในส่วนของแคชเชียร์ขอข้ามไปนะคะ เพราะมันคืองานเก็บเงินทั่วๆ ไปนั่นเอง
มาเริ่มต้นจากงานเตรียมพร้อมด้านหน้า นั่นก็คือ การใส่อุปกรณ์ให้ลูกค้านั่นเอง
โดยเมนหลักๆ งานนี้เราว่าไม่หนักหนาอะไร ก็มีการเลือกอุปกรณ์ให้เข้ากับขนาดตัวของลูกค้า
อันนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวที่ชัดเจนเท่าไหร่ (หรือมีแต่ที่นั่นไม่ได้เคร่งครัดก็ไม่แน่ใจค่ะ)
ก็ดูเอาตามความเหมาะสมค่ะ
นอกเหนือจากการเลือกอุปกรณ์แล้ว ก็ต้องอธิบายขั้นตอนให้คุณลูกค้าฟัง
และต้องมั่นใจนะคะ ว่าลูกค้าเคลียร์ เข้าใจขั้นตอนอย่างชัดเจน
หลังจากผ่านด้านหน้าไปแล้ว ก็มาถึงด้านใน อันนี้ค่อนข้างเสี่ยงตายพอสมควร
คือเราต้องเข้าไปอยู่ในโซนเดียวกับที่ลูกค้าจะทิ้งตัวลงมา
ซึ่งถ้าหลบไม่พ้นรัศมีนี่ ตายได้นะคะ
ขั้นตอนตรงนี้ต้องทำการรีเช็ค อุปกรณ์ของลูกค้า ว่าใส่มาถูกต้องหรือไม่
พาลูกค้าขึ้นไปยืนบนแท่นที่อยู่ตรงกลาง ต่อตัวเสื้อเข้ากับสลิงที่จะใช้ดึงลูกค้า
ให้ลูกค้าคว่ำหน้าทิ้งตัวลง แล้วก็ดึงลูกค้าขึ้นไปค่ะ
จะเอาสูงแค่ไหน ก็แล้วแต่ความสะใจของเรา อิอิ
โดยส่วนตัว ถ้าวันไหนอิฉันได้เข้าไปทำด้านใน อิฉันจะให้สลิงดึงขึ้นไปจนสุดเสาทุกคนค่ะ สะใจดี
หลังจากนั้นเราก็มีหน้าที่เคลียร์พื้นที่ตรงนั้น เข็นเอาเจ้าแท่นมโหฬารนี่ถอยไปให้สุดทาง
ซึ่งเจ้าแท่นนี่หนักมากค่ะ แรกๆ เด็กไทยไม่มีใครเข็นคนเดียวได้เลย
ต้องให้ Partner ที่ทำด้วยกันข้างในอีกคนช่วยเข็น
หลังๆ นี่เริ่มถึก เข็นกันปรึ๊ดดดดดดด
พอเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้สัญญาณลูกค้าให้ดึงสลักออก เพื่อทิ้งตัวลงมาค่ะ
ตรงนี้เราที่อยู่ข้างล่างก็จะตะโกนให้สัญญาณ 3 2 1 Fly!!!!
ซึ่งบางทีคุณลูกค้าไม่ Fly ค่ะ ร้องเรียกหาคุณพ่อ คุณแม่กันใหญ่
ไอข้างล่างก็ Ok One More Time Fly!!!!
แต่ก็จะได้ยินเสียงสาบแช่งกลับมาแทน 555+
เอาเป็นว่าสมมติว่าคุณลูกค้าโบยบินกันลงมาแล้วนะคะ
ก็จะมีจุดที่พอการบินของคุณลูกค้าเริ่มแลดูเบาลง
เราก็จะมีห่วงอัศจรรย์ ที่ใช้พลังงานคน เพื่อช่วยให้ลูกค้าหยุดการโบยบินได้สนิท
โดยก็จะใช้พนักงานเสื้อเขียวอย่างเรา ไปยืนชูห่วงให้ลูกค้าจับ
(ให้นึกภาพไม้สอยมะม่วงที่ตรงปลายไม่ใช่ตะกร้อ แต่เป็นห่วงสำหรับจับแทน)
ซึ่งอันนี้ทรมานกันมากทีเดียว เพราะคุณลูกค้าบางคน ตัวไม่ใช่เล็กๆ
เด็กไทยทั้งไซส์จุ๋มจิ๋มและไม่จุ๋มจิ๋มอย่างเรา ถึงกับลอยเลยทีเดียว
คืออารมณ์ว่าลูกค้ายังบินอยู่เบาๆ แล้วมีเราลอยห้อยตามไปด้วยอ่ะค่ะ
หรือไม่ก็บางทีถ้าลูกค้า คว้าแล้วแลดูว่าตรูลอยแน่ๆ เราก็จะปล่อยไม้ค่ะ
แล้วให้ลูกค้าปล่อยห่วงทิ้งตามทันที แล้วก็ไปตามเก็บมาให้เขาจับใหม่
คือยิ่งลูกค้าบินเบาลงเท่าไหร่ เราก็จะสบายขึ้นเท่านั้น
พอลูกค้าหยุดบินแล้ว ก็ลากเจ้าแท่นกลับมา
ให้คุณลูกค้าใช้ความพยายามในการยืนขึ้น แล้วก็ปลดเสื้อกับสลิงออก
เป็นอันจบพิธี เกมส์ตกตึกค่ะ
ทีนี้อย่างที่เล่าให้ฟังเมื่อคราวที่แล้วว่า เด็กๆ ที่คุมเกมส์นี้กัน
ก็จะมีโอกาสดีๆ (?) ได้เล่นเกมส์นี้แบบไม่เสียสักเหรียญ
โดยที่เจ้านายบอกว่าถือเป็นการลองเครื่องก่อนเปิดให้ลูกค้าเล่น
ถ้า You ไม่อยากเล่น ก็ไม่เป็นไร
แต่จะจำไว้ว่าเด็กไทยอ่ะ ป๊อด!!!
เราเคยถามเจ้านายว่า แล้วถ้าตอนฉันลองอยู่ ตกลงมาล่ะ จะทำไง
นางก็หัวเราะ แล้วก็บอกว่า ก็ตายไง - -*
น่ารักจริงๆ ค่ะ เจ้านาย ซึ่งคำถามนี้ไม่ใช่แค่พนักงานที่ถามนะคะ
ก็จะมีคุณลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น ที่อารมณ์ว่าโดนเพื่อนบังคับมาเล่นถามเสมอ
ลูกค้า “มีใครเคยตามเพราะเล่นไอนี่มั้ย?”
เรา “Yes, Of Course” พร้อมยิ้มหวานๆ ให้หนึ่งที
ซึ่งแน่นอนไม่ใช่แค่เราที่โหดแบบนี้คนเดียว
ทั้งเด็กไทยเด็กเมกัน ตอบแบบนี้กับลูกค้าทุกคน
ลูกค้า “ถ้าตกลงมาอะไรจะเกิดขึ้น”
สตาฟ “ก็ตายไง”
--
ลูกค้า “ถ้าขึ้นไปแล้วไม่อยากเล่นแล้วต้องทำยังไง”
สตาฟ “ก็ลงมา”
ลูกค้า “ยังไง”
สตาฟ “บินลงมา”
--
ลูกค้า “มีคนเคยหัวใจวายตายมั้ย”
สตาฟ “โอ้ยยย เยอะแยะ”
เป็นไงละคะ Service Mind ขั้นสูงของสตาฟประจำเครื่องเล่น
Work and Travel at Six Flags America Part 2 "ประสบการณ์ดีๆ ที่ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ" ทำงานในสวนสนุก
หลังจากกระทู้คราวที่แล้วของเรา
http://pantip.com/topic/31833359
วันนี้เรามาตามสัญญา ว่าจะมาเจาะลึกลงดีเทลเรื่องการทำงานในแผนกเกมส์
ของสวนสนุกที่ได้ชื่อว่าเป็นสวนสนุกที่มีสาขามากที่สุดในโลก
เผื่อน้องๆ คนไหนที่สนใจอยากจะไปทำงานที่นี่จะได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
โดยงานที่แผนกเกมส์รับผิดชอบนั้น ก็คือบูธเกมส์ต่างๆ และเครื่องเล่นพิเศษ
งานนี้อิฉันจะขอเล่าลักษณะการทำงานของบูธเกมส์ก่อนนะคะ
โดยบูธเกมส์ของ Six Flags จะมีมากมายหลายสไตล์
มีเกมส์น่ารักเหมาะกับเด็กๆ หรือเกมส์สำหรับเด็กโต
หรือเกมส์สำหรับครอบครัว โดยทุกเกมส์จะมีสตาฟประจำบูธเกมส์อยู่ 1 คน
ทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่เชิญชวนลูกค้า อธิบายเนื้อหาเกมส์ รับเงิน ทอนเงิน
โดยการที่ใครจะประจำโซนไหนนั้น ก็ต้องมารอดูตอนเข้างานกันค่ะ
ถ้าเราไปถึงออฟฟิศของแผนกเร็ว เราก็สามาถอ้อนวอนขู่เข็ญให้สตาฟ
ที่เป็นคนเลือกโซนของเราลงในที่ที่เราอยากไป
ทีนี้พอได้รับมอบหมายงานแล้ว ในกรณีที่ได้บูธเกมส์ ก็จะต้องไปรับเงินต่อค่ะ
เพราะลูกค้าจะใช้เงินสดในการเล่นเกมส์ของเรา
เขาก็จะมีห้องรับเงินให้เรา รู้สึกว่าจะหลายร้อยเหรียญอยู่ อันนี้จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ
แต่เขาจะบอกชัดเจนว่าในถุงเงินนี้ มีแบงค์อะไรเท่าไร มีเหรียญอะไรเท่าไหร่
ให้เรารับเงินแล้วเอามานับตรงโต๊ะที่เขาเตรียมไว้ให้ให้ละเอียด
ตรงนี้ขอให้นับให้รอบคอบนะคะ ถ้าไม่ครบจำนวนแจ้งได้เลย
*และนี่คือเหตุผลนึงที่ทางปาร์คจะไม่ให้เราพกเงินของเราติดตัว
เพราะเขากลัวเงินเรากับเงินของปาร์คจะไปปนกันนั่นเอง*
รับเงินเสร็จก็ไปประจำบูธเกมส์ โดยแต่ละโซนในปาร์คจะมี
Supervisor ประจำการอยู่ เราก็ต้องไปรายงานตัวกับเขา เขาก็จะเลือกบูธเกมส์ให้เราลงค่ะ
ทีนี้บูธเกมส์ก็จะมีหลายๆ แบบใช่มั้ยคะคุณ
มันก็จะมีประเภทบูธเกมส์มีไมค์ บูธเกมส์ตากแดด บูธเกมส์ใช้แรงงาน บูธเกมส์ใช้พลังเสียง
บลาๆ ก็ว่ากันไป และโดยส่วนมาก เด็กไทยที่ไปในช่วงปีแรก
ก็จะได้รับมอบหมายให้ไปประจำที่บูธตากแดด ตากฝน อย่าง Long Range
ซึ่งก็คือ เกมส์ ชู๊ทบาสเกตบอล ที่เด็กหนุ่มวัยขบเผาะ ชอบมาเล่นกัน
ซึ่งมันฟินค่ะ แต่กว่าที่คุณจะมีโอกาสได้ไปฟินในจุดนั้นตอนช่วงซัมเมอร์
คุณต้องผ่านช่วงมรสุมไปก่อนค่ะ นั่นคือการยืนตากฝน ในอุณหูมิเลขตัวเดียว!!
ในช่วงที่ปาร์กเปิดตอนแรก มันทรมานสุดๆ เลยค่ะคุณ
พูดภาษาอังกฤษก็ไม่คล่อง อายก็อาย ไม่กล้าตะโกนเรียกลูกค้า หนาวก็หนาว เมื่อยก็เมื่อย
แต่ไม่ต้องห่วงไป เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเจ็บและทน+(หน้า)ด้านไปเองค่ะ
พูดถึงเกมส์นี้แล้ว ที่ Six Flags จะมีเกมส์บาสเกตบอลอีกเกมส์นึงที่ฮิตมากๆ
ชื่อเกมส์ 3 Point ซึ่งของรางวัลนางเจ๋งมาก
โดยเกมส์ก็ไม่มีอะไรมากมายค่ะ จะมีเวลาให้ 40 วินาที
ซึ่งความเจ๋งของรางวัลขึ้นอยู่กับจำนวนคะแนนที่ชู๊ทได้
ส่วนของรางวัลที่ว่าเจ๋งก็มีตั้งแต่ลูกบาสธรรมดา ไปจนถึง ทีวีจอแบบ 40 นิ้ว
ซึ่งอันนี้มีคนเคยได้จริงๆ นะตัวเธอ
ส่วนหน้าที่ของเรานั้นก็คือ วิ่งเก็บลูกบาสจ้า
ให้นึกภาพครึ่งนึงของสนามบาสเกตบอล
กับคุณลูกค้าที่มีความต้องการได้ทีวีอย่างแรงกล้า
มีตัวกดดันเป็นเวลา 40 วินาที ที่ต้องชู๊ทบาสให้ได้มากที่สุด
และคุณต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนคอยเก็บลูกบาสที่คุณลูกค้าชู๊ทลง(หรือไม่ลง)ห่วง
พร้อมหลบลูกบาสที่คุณลูกค้าอาจจงใจหรือไม่จงใจโยนพลาดมาทางเราอีกด้วย
และไม่อยากจะบอกว่าเกมส์นี้ ทำให้แหวนทองที่เราใส่ติดมืดประจำขาดค่ะ
ขอใช้คำว่าขาด เพราะมันขาดคานิ้วเราเลยจริงๆ
ส่วนต่อมาที่เคยอธิบายคร่าวๆ ไปในกระทู้ที่แล้ว
นั่นก็คือ Sky Coaster ที่เราและผองเพื่อนพร้อมใจกันขนานามให้นางว่า “เกมส์ตกตึก“
หน้าที่สำหรับคนที่ต้องมารับเจ้าเกมส์ตกตึกนี้ ก็จะมีหลายหน้าที่ค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นแคชเชียร์ เตรียมพร้อมด้านหน้า เตรียมพร้อมด้านใน
ซึ่งเราได้รับโอกาสดีๆ รึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ ให้ทำทุกหน้าที่กันเลยทีเดียว
ในส่วนของแคชเชียร์ขอข้ามไปนะคะ เพราะมันคืองานเก็บเงินทั่วๆ ไปนั่นเอง
มาเริ่มต้นจากงานเตรียมพร้อมด้านหน้า นั่นก็คือ การใส่อุปกรณ์ให้ลูกค้านั่นเอง
โดยเมนหลักๆ งานนี้เราว่าไม่หนักหนาอะไร ก็มีการเลือกอุปกรณ์ให้เข้ากับขนาดตัวของลูกค้า
อันนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวที่ชัดเจนเท่าไหร่ (หรือมีแต่ที่นั่นไม่ได้เคร่งครัดก็ไม่แน่ใจค่ะ)
ก็ดูเอาตามความเหมาะสมค่ะ
นอกเหนือจากการเลือกอุปกรณ์แล้ว ก็ต้องอธิบายขั้นตอนให้คุณลูกค้าฟัง
และต้องมั่นใจนะคะ ว่าลูกค้าเคลียร์ เข้าใจขั้นตอนอย่างชัดเจน
หลังจากผ่านด้านหน้าไปแล้ว ก็มาถึงด้านใน อันนี้ค่อนข้างเสี่ยงตายพอสมควร
คือเราต้องเข้าไปอยู่ในโซนเดียวกับที่ลูกค้าจะทิ้งตัวลงมา
ซึ่งถ้าหลบไม่พ้นรัศมีนี่ ตายได้นะคะ
ขั้นตอนตรงนี้ต้องทำการรีเช็ค อุปกรณ์ของลูกค้า ว่าใส่มาถูกต้องหรือไม่
พาลูกค้าขึ้นไปยืนบนแท่นที่อยู่ตรงกลาง ต่อตัวเสื้อเข้ากับสลิงที่จะใช้ดึงลูกค้า
ให้ลูกค้าคว่ำหน้าทิ้งตัวลง แล้วก็ดึงลูกค้าขึ้นไปค่ะ
จะเอาสูงแค่ไหน ก็แล้วแต่ความสะใจของเรา อิอิ
โดยส่วนตัว ถ้าวันไหนอิฉันได้เข้าไปทำด้านใน อิฉันจะให้สลิงดึงขึ้นไปจนสุดเสาทุกคนค่ะ สะใจดี
หลังจากนั้นเราก็มีหน้าที่เคลียร์พื้นที่ตรงนั้น เข็นเอาเจ้าแท่นมโหฬารนี่ถอยไปให้สุดทาง
ซึ่งเจ้าแท่นนี่หนักมากค่ะ แรกๆ เด็กไทยไม่มีใครเข็นคนเดียวได้เลย
ต้องให้ Partner ที่ทำด้วยกันข้างในอีกคนช่วยเข็น
หลังๆ นี่เริ่มถึก เข็นกันปรึ๊ดดดดดดด
พอเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้สัญญาณลูกค้าให้ดึงสลักออก เพื่อทิ้งตัวลงมาค่ะ
ตรงนี้เราที่อยู่ข้างล่างก็จะตะโกนให้สัญญาณ 3 2 1 Fly!!!!
ซึ่งบางทีคุณลูกค้าไม่ Fly ค่ะ ร้องเรียกหาคุณพ่อ คุณแม่กันใหญ่
ไอข้างล่างก็ Ok One More Time Fly!!!!
แต่ก็จะได้ยินเสียงสาบแช่งกลับมาแทน 555+
เอาเป็นว่าสมมติว่าคุณลูกค้าโบยบินกันลงมาแล้วนะคะ
ก็จะมีจุดที่พอการบินของคุณลูกค้าเริ่มแลดูเบาลง
เราก็จะมีห่วงอัศจรรย์ ที่ใช้พลังงานคน เพื่อช่วยให้ลูกค้าหยุดการโบยบินได้สนิท
โดยก็จะใช้พนักงานเสื้อเขียวอย่างเรา ไปยืนชูห่วงให้ลูกค้าจับ
(ให้นึกภาพไม้สอยมะม่วงที่ตรงปลายไม่ใช่ตะกร้อ แต่เป็นห่วงสำหรับจับแทน)
ซึ่งอันนี้ทรมานกันมากทีเดียว เพราะคุณลูกค้าบางคน ตัวไม่ใช่เล็กๆ
เด็กไทยทั้งไซส์จุ๋มจิ๋มและไม่จุ๋มจิ๋มอย่างเรา ถึงกับลอยเลยทีเดียว
คืออารมณ์ว่าลูกค้ายังบินอยู่เบาๆ แล้วมีเราลอยห้อยตามไปด้วยอ่ะค่ะ
หรือไม่ก็บางทีถ้าลูกค้า คว้าแล้วแลดูว่าตรูลอยแน่ๆ เราก็จะปล่อยไม้ค่ะ
แล้วให้ลูกค้าปล่อยห่วงทิ้งตามทันที แล้วก็ไปตามเก็บมาให้เขาจับใหม่
คือยิ่งลูกค้าบินเบาลงเท่าไหร่ เราก็จะสบายขึ้นเท่านั้น
พอลูกค้าหยุดบินแล้ว ก็ลากเจ้าแท่นกลับมา
ให้คุณลูกค้าใช้ความพยายามในการยืนขึ้น แล้วก็ปลดเสื้อกับสลิงออก
เป็นอันจบพิธี เกมส์ตกตึกค่ะ
ทีนี้อย่างที่เล่าให้ฟังเมื่อคราวที่แล้วว่า เด็กๆ ที่คุมเกมส์นี้กัน
ก็จะมีโอกาสดีๆ (?) ได้เล่นเกมส์นี้แบบไม่เสียสักเหรียญ
โดยที่เจ้านายบอกว่าถือเป็นการลองเครื่องก่อนเปิดให้ลูกค้าเล่น
ถ้า You ไม่อยากเล่น ก็ไม่เป็นไร
แต่จะจำไว้ว่าเด็กไทยอ่ะ ป๊อด!!!
เราเคยถามเจ้านายว่า แล้วถ้าตอนฉันลองอยู่ ตกลงมาล่ะ จะทำไง
นางก็หัวเราะ แล้วก็บอกว่า ก็ตายไง - -*
น่ารักจริงๆ ค่ะ เจ้านาย ซึ่งคำถามนี้ไม่ใช่แค่พนักงานที่ถามนะคะ
ก็จะมีคุณลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น ที่อารมณ์ว่าโดนเพื่อนบังคับมาเล่นถามเสมอ
ลูกค้า “มีใครเคยตามเพราะเล่นไอนี่มั้ย?”
เรา “Yes, Of Course” พร้อมยิ้มหวานๆ ให้หนึ่งที
ซึ่งแน่นอนไม่ใช่แค่เราที่โหดแบบนี้คนเดียว
ทั้งเด็กไทยเด็กเมกัน ตอบแบบนี้กับลูกค้าทุกคน
ลูกค้า “ถ้าตกลงมาอะไรจะเกิดขึ้น”
สตาฟ “ก็ตายไง”
--
ลูกค้า “ถ้าขึ้นไปแล้วไม่อยากเล่นแล้วต้องทำยังไง”
สตาฟ “ก็ลงมา”
ลูกค้า “ยังไง”
สตาฟ “บินลงมา”
--
ลูกค้า “มีคนเคยหัวใจวายตายมั้ย”
สตาฟ “โอ้ยยย เยอะแยะ”
เป็นไงละคะ Service Mind ขั้นสูงของสตาฟประจำเครื่องเล่น