[CR] Haul: เปิดถุงช็อปใบยักษ์จาก Eveandboy, Beauty Buffet, Central, H&M, Uniqlo & Siam Square

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ตั้งแต่พันทิปปรับโฉมใหม่มาได้เกือบ 2 ปี เราเพิ่งจะได้มาตั้งกระทู้ .. เจี๊ยกกกก

เราชื่อยิ้มนะคะ ฝากตัวอีกรอบหลังจากไม่ได้ตั้งกระทู้ในนี้มาร่วม 2 ปี .. แหะๆ





มาอีกแล้วค่ะ เทศกาลหมดตัวประจำซัมเมอร์ .. ด้วยความที่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ดูไบได้พักใหญ่ แล้วเพิ่งมีโอกาสกลับไปไทยร่วม 3 อาทิตย์ เลยซื้อนู่นนั่นนี่ที่ใช้บ่อยๆ มาตุนไว้เพียบ บวกกับเดินช็อปนู่นนี่นั่นแล้วก็เสียเงินเพิ่มได้อีก เลยกลายมาเป็นกระทู้เปิดถุงช็อปอันนี้ล่ะค่ะ ที่ไปมาก็จะมี Eveandboy, Beauty Buffet, สยาม, Uniqlo, H&M, เซ็นทรัลชิดลม ประมาณนี้ค่ะ  .. ไปดูมูลค่าความเสียหายและรายชื่อผู้บาดเจ็บกันเลยดีกว่า .. ห๊ะ ไม่ใช่~



เนื่องจากเนื้อหากระทู้อันนี้ยาวเหยียด เพราะรายการของที่ซื้อมามีเยอะมาก ถ้าใครขี้เกียจอ่าน อยากดูเป็นคลิป เราได้ทำคลิปแยกไว้สองอันนะคะ แต่จะเป็นภาษาอังกฤษ เพราะเราทำ Youtube Channel เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดค่ะ ถ้าสะดวกดูเป็นคลิปก็กดดูในสปอยล์ด้านล่างได้เลยค่ะ แต่ถ้าสะดวกอ่านเนื้อหาพร้อมดูรูปเยอะๆ ก็เลื่อนลงไปด้านล่างได้เลยนะคะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ที่แรก จะพาเข้าร้าน Eveandboy กันก่อนนะคะ

อย่างแรกเลยที่ซื้อมาเยอะที่สุด กวาดมาจนพนักงานขายมอง คือครีมกันแดด Biore UV Aqua Rich แบบมูส และแบบเจล อย่างละ 4 ชิ้น เพราะชอบมากกกก

เราจะใช้แบบมูสที่เป็นหลอดสีเทาทาบนหน้าก่อนลง Primer และรองพื้นค่ะ ตอนนี้มาเป็นแบบสูตรปรับปรุงใหม่แล้ว มีสารกันแดดที่เสถียรกว่าเดิม และมีค่ากัน UVA ได้ดีกว่าเดิม ส่วนแบบเจลที่เป็นขวดสีขาว เราจะเอามาทาตัวในวันที่ไม่ได้ออกแดดจ้านานๆ ใช้เป็น Everyday sunscreen ค่ะ เพราะเนื้อเบาและบางมาก ทาแล้วเหมือนไม่ได้ทาอะไร ไม่หนึบเหนียวเหมือนพวก Banana Boat ที่เอาไว้ใช้ตอนเล่นกีฬากลางแจ้งหรือไปทะเลจะเริ่ดกว่า Biore ตัวนี้

สองชิ้นนี้ราคาเท่ากันที่ชิ้นละ 259 บาทค่ะ





ชิ้นต่อมาเป็นเซ็ตแชมพูจาก Joico K-Pak ค่ะ เราซื้อมาทั้งหมด 3 ชิ้นคือ แชมพู ครีมนวดผม และทรีทเมนท์ (Deep Penetrating Reconstructor) ซึ่งในวันปกติก็ใช้แชมพูและครีมนวดได้ตามปกติ ส่วนทรีทเมนท์ที่เป็นหลอดบีบ ให้ใช้แทนครีมนวดผมสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งค่ะ

เรายังไม่เคยใช้ตัวแชมพูกับครีมนวดผม แต่เคยซื้อทรีทเมนท์มาใช้แล้วตอนนี้ใกล้หมดหลอดแล้ว เลยลองทั้งเซ็ตเลยดีกว่า เพราะตัวทรีทเมนท์นี่ใช้ดีมากๆ จากที่ผมเราปกติเราสระผมวันเว้นวัน ใช้ไดร์เป่าพอให้ผมแห้ง บำรุงเรื่อยๆ แต่ก็ยังแตกปลายได้ตลอด ต้องคอยไปร้านทำผมให้เค้าเล็มปลายออกตลอด (ซึ่งแน่นอนว่าร้านทำผมส่วนใหญ่ไม่รู้จักคำว่าเล็มปลายออก 1 นิ้ว – นิ้วไม้บรรทัด ไม่ใช่นิ้วมือแนวตั้ง!) พอใช้ทรีทเมนท์ตัวนี้ ไม่มีผมแตกปลายอีกเลย ชอบมาก!~

ตอนซื้อแชมพูต้องระวังนิดนะคะ อย่าเผลอไปหยิบสูตรที่เป็น Clarifying Shampoo มา เพราะนั่นเป็นแชมพูที่เอาไว้ใช้นานๆ ที เวลาต้องการล้างเคมี ล้างซิลิโคน ล้างเคมีแปลกปลอมต่างๆ ที่เกาะตามเส้นผมและหนังศีรษะ .. ฟังดูดี แต่ถ้าใช้แชมพูประเภทนี้แล้วบำรุงตามไม่ดีพอ อาจทำให้ผมและหนังศีรษะแห้งเกินไปจนอาจเกิดรังแคได้ค่ะ

แชมพูขนาด 300 ml. ราคา 527 บาท / ครีมนวดผมขนาด 300 ml. ราคา 587 บาท / ทรีทเมนท์ขนาด 250 ml. ราคา 1,063 บาท เม่าตกใจ





มาต่อกันที่แนวๆ ทำความสะอาดนะคะ เราซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทล้างๆ เช็ดๆ มาทั้งหมด 4 ชิ้นด้วยกันค่ะ

ชิ้นแรก ซ้ายสุดคือ L’Oreal Lip&Eye Makeup Remover ค่ะ ขวดนี้เป็นที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ .. เราซื้อเพราะตอนอยู่ไทยแล้วขวดที่พกไปด้วยเกิดหมดพอดี เลยต้องซื้อเพิ่มค่ะ ได้ใช้ไปนิดหน่อย .. ตัวนี้ไม่จำเป็นต้องตุนเพราะหาซื้อในดูไบได้ง่ายมากค่ะ – ขนาด 125 ml. ราคา 199 บาท

ชิ้นที่สอง Physiogel Cleanser เจลล้างหน้าสำหรับทุกสภาพผิวรวมทั้งผิวแพ้ง่าย ตัวนี้เราไม่เคยใช้ค่ะ แต่เห็นหลายๆ คนบอกว่าดีเลยซื้อมาลองซักหน่อย ขนาด 100 ml. ราคา 155 บาทค่ะ

ชิ้นต่อมาคือ Cetaphil Oily Skin Cleanser สูตรสำหรับผิวมัน ตัวนี้เราก็ไม่เคยใช้ค่ะ ซื้อมาลองดูเหมือนกัน .. แต่เท่าที่ใช้ไปบ้างนิดหน่อยก็โอเคค่ะ ไม่แพ้ไม่อะไร ล้างได้สะอาดดี – ขนาด 125 ml. ราคา 400 บาทค่ะ

ชิ้นสุดท้ายขวามือคือ Lactacyd ขวดใหญ่ .. ซื้อเพราะเพิ่งเคยเห็นขวดไซส์นี้ค่ะ น่าจะใช้ได้นานดี .. งก 5555+ ขนาด 1,325 ml. ราคา 195 บาทค่ะ





ต่อมาเป็นกลุ่มครีมบำรุงบนใบหน้าค่ะ

ชิ้นแรกซ้ายสุด SmoothE Acne เป็นครีมแต้มสิวค่ะ คาดว่าหลายๆ คนคงเคยลองใช้กันมาบ้างแล้ว ปกติเราจะใช้ 2% BHA Liquid ของ Paula’s Choice อยู่ ซึ่งต้องทาทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีให้ทำงาน จนกว่าจะลงครีมอย่างอื่นตามได้ แต่บางวันก็ง้วงง่วง บางทีเผลอหลับไปโดยที่ไม่ได้ลงครีมอย่างอื่นตามหลายครั้งเลย เลยเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสะดวก พอเห็นครีมแต้มสิวสมูธอีแอคเน่ตัวนี้มี 2% BHA เหมือนกัน เลยคิดว่าน่าจะสะดวกกว่าถ้าแต้มเฉพาะจุด แล้วลงครีมอย่างอื่นตามในส่วนอื่นๆ – ขนาด 10 g. ราคา 179 บาท

ชิ้นที่สองตรงกลาง คือ Hada Labo Super Hyaluronic Acid Moist Eye Cream เป็นครีมบำรุงใต้ตาจากฮาดะ ลาโบะ ซึ่งเน้นในเรื่องให้ความชุ่มชื้นได้ดี แต่ในแพ็คเกจจะระบุไว้ว่าช่วยเรื่องอาการบวมคล้ำและริ้วรอยได้ด้วย ซึ่งตรงนี้เรายังไม่เห็นผลอะไรขนาดนั้นค่ะ แต่เรื่องชุ่มชื้นนี่เห็นด้วยเลย เพราะใช้มา 2 ขวดก่อนหน้านี้แล้ว อีกอย่างที่ชอบคือแพ็คเกจที่เป็นขวดปั๊ม เพราะมันดูสะอาดดี ไม่ได้มาเป็นกระปุกให้ควักออกมาใช้บ่อยๆ – ขนาด 15 g. ราคา 479 บาท

ชิ้นที่สามขวาสุด คือ Neotrogena Hydro Boost Gel SPF30 PA++ ตัวนี้เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีสารกันแดดด้วย ใช้เป็นครีมบำรุงผิวหน้าตอนเช้า ซึ่งเราใช้มาขวดนี้เป็นขวดที่ 3 แล้ว เพราะถึงแม้สารกันแดดจะไม่ได้เข้มข้นที่สุด แต่มันสะดวกที่เป็นทั้งครีมบำรุงและครีมกันแดดในตัวเดียว สะดวกเอาไว้ใช้ตัวเดียวจบในวันที่อยู่บ้านไม่ต้องออกแดดจัด – ขนาด 40 ml. ราคา 725 บาท





ต่อมาเป็นพวกอุปกรณ์จุ๊กจิ๊กค่ะ

ชิ้นแรกซ้ายสุด คือฟิล์มซับมันแผ่นสีดำจาก Gatsby เราจะใช้ฟิล์มซับมันในวันที่ไม่ได้แต่งหน้าอะไร – 70 แผ่น ราคา 105 บาท

ชิ้นต่อมา เป็นกระดาษซับมันแบบมีแป้งจาก Gatsby เช่นกัน ซึ่งเราจะใช้ในวันที่แต่งหน้าเต็มๆ เพราะมันง่ายตรงที่ช่วยซับความมันและเติมแป้งไปด้วยในเวลาเดียว ใช้มาไม่รู้กี่แพ็คแล้วล่ะค่ะ – 70 แผ่น ราคา 107 บาท

ชิ้นขวาสุด คือแปรงสำหรับคิ้วจาก Real Techniques ซึ่งเราเคยซื้อมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ใช้ได้ไม่กี่ครั้ง จนทริปที่มาไทยพอเปิดกระเป๋าดูพบว่าตรงส่วนสีดำมันหักไปจนขนแปรงหลุดออกมาเกือบครึ่ง เลยตัดใจซื้อใหม่อีกทีเพราะยังใช้ไม่ทันคุ้มเลย – ราคา 320 บาท
ชื่อสินค้า:   Eveandboy, Beauty Buffet, Central, H&M, Uniqlo & Siam Square
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่