โดนหลอกไปเชือดไกลยัน 'เขาเขียว ชลรี!!!!'

ลากมาจากเฟสบุคส่วนตัว เขียนเอง อัพเอง มั่วเอง 555
ปล.ขออภัย อาจจะหยาบไปนิด เพราะลงในเหส ก๊อปมาทั้งดุ้น

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.10152237341492825.1073741840.719142824&type=1&l=630a52ed4d

เรื่องมีอยู่ว่า..................
เช้าวันนึงมีเพื่อนโทรมา เพื่อนจริงๆนะ ชวนไปปั่นจักก้าที่ชลรี บอกทางดีขี่สบาย ร่มรื่นๆ ไม่เกิน40กิโลเมตร ด้วยความที่เป็นคนหัวอ่อนว่าง่าย จึงยอม....ยอมไปปั่นนะ อย่าคิดมาก
เพื่อนบอกอีกว่า ไม่ต้องแต่งตัวเต็มยศ ใส่เสื้อธรรมดา กางเกงขาสั้นก็พอ ไม่ต้องใส่ชุดปั่นหรอก...แต่กรณีนี้ไม่ยอม ซื้อมาหลายตังค์ ไม่ใส่ปั่น แล้วจะให้ใส่ไปไหน ใส่ไปเดินเซนทรัลหรอ ใส่ไปตลาดนัดหรอ มันก็ไม่ได้ป่ะ......จึงจัด เต็มยศ เสื้อปั่นแขนยาว กางเกงปั่นขายาว

ที่วางไว้ตอนแรกเพื่อนบอกจอดรถม.บู แล้วปั่นไปบางพระ แต่พอถึงวันจริง จากที่ลงชื่อไว้มากมาย เหลือเพียง เพื่อน1 เพื่อน2 และเรา....จึงเปลี่ยนเส้นทางการปั่น เป็นรอบเขาเขียว
คือภาพในใจ วุ้ย เขาเขียว สวนสัตว์นี่หว่า ต้องร่มๆ ต้นไม้ใหญ่ๆตลอดทาง ชิวแล้วงานนี้ แต่.........

เริ่มจากเอากระบะไปจอดไว้ที่โป่งดินดำ ซึ่งน่าจะเป็นที่จอดรถโคตรฮิตของเหล่านักปั่น เพราะเมื่อไปถึงก็มีพี่ๆน้องๆลุงๆนักปั่น เริ่มทยอยปั่นมา แต่เค้าปั่นกลับมานะ คือปั่นกันเสร็จแล้ว คิดในใจ ไรว้าเพิ่ง10โมง เลิกปั่นกันเร็วจัง แต่พอปั่นเสร็จก็คิดได้ว่า เค้าเลิกปั่นกันตอน10โมงถูกแล้ว เพราะเวลาหลังจากนั้น แดดร้อนเชี่ยๆ จากการไต่ถาม พี่ๆเค้าก็มาจากกรุงเทพเหมือนกัน แต่ออกมากันแต่เช้า น่าจะเริ่มปั่นกันตั้งแต่ 7-8 โมงเช้า กำลังดี แล้วกรุล่ะ

เมื่อเตรียมพร้อม จักก้าพร้อม ชุดพร้อม รองเท้าพร้อม ก็เริ่ม.....ถ่ายรูปก่อน เป็นธรรมเนียม แล้วจังออกปั่น โดยปราศจากการวอร์มใดๆทั้งสิ้น ง่ายๆเลย กรุลืม ตื่นเต้น จะได้ปั่น

เส้นทางแรกที่ไปเจอ แทบอยากจะเลี้ยวรถกลับ เพื่อนหลอกดาว บอกทางสบาย ห่านนนนนน ทางแบบนี้อย่าเรียกว่าทางปั่นเลย เหมาะที่จะเอาไว้ออกกำลังแขน+การทรงตัวสำหรับแบกสลับเข็นจักรยานมากกว่า ระยะทางไต่เขา น่าจะราวๆ5กิโลได้ แต่ใช้เวลาไปประมาณ1ชั่วโมง มันเหมือนจะเป็นลำธารแห้งๆเพราะมีหิน มีทราย มีร่อง เป็นระยะๆ สลับกับดงหญ้าสูงประมาณ1เมตรงอกเงยอยู่ข้างทาง แรกๆก็หลบนะ อุ้ย กลัวหญ้าบาด เด๋วเป็นแผล กางเกงแหก ปั่นได้สักระยะ ช่างแมร่ง กรุเหนื่อย กรุอยากพ้นๆไป ลุยแมร่ง คือภูมิประเทศบนเขามันจะเป็นทางขึ้นลง สลับกับทางราบๆ อากาศจะแบบ ร้อน สลับร่มไม้ ปั่นไปบ่นไป แมร่ง ชีวิตทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ตื่นก็เช้า ง่วงๆก็ง่วง แทนที่วันหยุดจะได้นอนตื่นสายๆ ห่านนนนนน

พอหลุดจากทางวิบากมาได้...อ่อ ลืมเล่า ระวางที่ทุลักทุเลอยู่บนเขาวิบาก ก็ได้ยินเสียงมอไซค์เครื่องใหญ่ๆแว่วมาแต่ไกล แล้วก็ค่อยๆใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา ปรากฎภาพเป็น honda wave, honda sonic มาเป็นแกงค์ แต่ไม่ธรรมดานะ ถึงบอดี้จะเป็นรถแม่บ้าน รถแว้น แต่ล้อ เป็นล้อวิบากจ้าาาาา ทุกคันใส่ล้อวิบาก แล้วคือเอามาขี่บนทางแบบนี้ โอ้ววววววว น่าอัศจรรย์ แต่ถ่ายรูปไม่ทัน เหนื่อยไง ไม่มีแรงหยิบกล้อง แต่เด๋วไปดูดจากเฟสเพื่อนมาใส่ไว้ให้ดู

ต่อๆ หลุดจากทางวิบาก ก็มาเจอไร่มันสำปะหลัง ดีนะเป็นเด็กบ้านนอก เลยรู้จักต้นมันสำปะหลัง อารมณ์เหมือนไร่ชาที่เหนืออ่ะ ทำไรตามภูเขา แต่เปลี่ยนเป็นต้นมันแทน นึกออกใช่มะ

พ้นจากไร่มันก็เป็นลาดยางล่ะ โฮ่ะๆๆๆ คิดในใจ น่าจะจบทริปล่ะ เพื่อนน่าจะวนกลับไปที่รถ แล้วก็ไปหาที่อาบน้ำ เปลี่ยนชุดสวยๆ ไปนั่งกินอาหารทะเลชิวๆ แต่.....ไม่นะ ที่หลุดมายังไม่ถึง1ใน4เลย ดอกกกกกกก เหนื่อยแล้วนะ ร้อนด้วย แต่ก็ต้องปั่นต่อ

แวะกินข้าวตอนบ่ายแก่ๆที่หมู่บ้านที่ไหนสักทีนึงในอ.บ้านบึง ได้หมูกระเทียมไข่ดาวไม่สุกมาฟาดเรียบ พักเข้าห้องน้ำ ถามเส้นทางชาวบ้านนิดๆหน่อยๆแล้วไปต่อ มาได้1ใน3ล่ะ อึ้บๆ

เส้นทางต่อจากนี้ดีกว่าช่วงแรกมาก ลาดยาง สลับคอนกรีต มีทางดินลูกรังบ้าง แต่ก็ปั่นได้แบบไม่ต้องเข็น แต่วิวสองข้างทางนี่สิ โอ้วววววว พูดเลย ตอนเย็นๆไม่มาเด็ดขาด สุสานจีนจ้า เยอะมาก พูดเลย เยอะมาก ฮวงซุ้ยอ่ะ รุ้จักมั้ย ขออธิบายภาพให้คนที่ไม่ใช่จีนเห็นสักหน่อย จะเป็นเนินๆปูหญ้าบนเนินดิน ข้างหน้าเป็นป้ายหิน ลานหิน นึกออกใช่ม่ะ นึกไม่ออกก็ไปดูในรูปเอานะ คือที่ตรงนี้มันน่าจะดีนะ หลังติดเขา หน้าติดน้ำตามหลักฮวงจุ้ย จะให้อธิบายฮวงจุ้ยอีกมั้ย ไม่ต้องเนอะ น่าจะรู้จักกันดีอยู่

ปั่นทะลุลัดเลาะไปตามสุสานเป็นระยะทางประมาณ...ไม่รู้อ่ะ แต่นานมาก หันไปทางไหนก็มีแต่สุสาน สุสาน สุสานเต็มไปหมดเลย เพื่อนบอกเป็นทริบ ตู เดอ สุสาน อารมณ์เหมือน ตู เดอ ฟรอง ทางที่เพื่อนวางไว้ มันไม่ใช่ถนนหลัก แต่จะเป็นเส้นทางเดินเท้า ใช้กูเกิลแมพลากๆเอา ทางเล็กๆเชื่อมต่อกัน ไม่รู้ว่าอ้อมไม่อ้อม แต่กรุว่าเพื่อนแมร่งมั่ว จริงๆนะ

หลุดจากสุสาน (ทางในสุสานจะเป็นลูกรังซะส่วนมาก) ก็จะเป็นลาดยาง ยิ้มไง นึกว่าลาดยางยาวๆจนจบทริป ไม่จ้า อีกูแมพ พาไปไหนรู้มั้ย พาไปทะลุโรงโม่หิน ไอ้ที่เค้าระเบิดหิน แล้วก็มีรถบรรทุกวิ่งไปมา ทางก็แฉะเพราะเค้าฉีดน้ำ ไม่ให้ฝุ่นเยอะ ทางแคบด้วย หมาก็เห่า มันเป็นทางที่ไม่น่าจะมีคนปั่นจักรยานเข้ามาอ่ะ คือถ้าปั่นเข้ามา หมายความว่า เมิงหลงแน่ๆ ประมาณนั้น แต่หลงป่าวไม่รู้ เพื่อนบอกมาตามแผนที่ ลอดเปิดแผนที่ตัวเองดูบ้าง ห่านนนน หลุดมาอยุ่ตรงไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้อยุ่บนถนน ดอกกกกกกกก และจากเส้นทางโรงหินนี่เอง ทำให้สภาพในตอนนั้น เสื้อเลอะ กางเกงมีเศษปูนกระเด็นติดอยู่เป็นจุดๆ เออว่าแล้วก็ยังไม่ได้ซักเลย จักก้านี่ไม่ต้องพูดถึง เยินสุดๆ

หลุดจากโรงโม่ ก็นึกว่าจะจบแล้ว ยังจ้าาาาาอีก10กว่าโล เห้ย คือตอนนั้นเหนื่อยแล้วไง เริ่มไม่ไหวแล้ว บอกเพื่อนว่าจะรออยู่ตรงนี้ ไม่ปั่นแล้ว ไม่ไหวแล้ว เอารถมารับด้วย มันไม่ยอม บอกมาไม่ถูก อ้าว แล้วเมิงพากรุมาทำไม แบตก็จะหมด ขนาดปิดเนตไว้ อยากจะปั่นไปด้วยอัพรูปไปด้วยยังไม่ได้เลย เอาว่ะ ปั่นๆต่อก็ปั่น ปั่นไปปั่นมา หลงอีกแล้ว หลงในพงหญ้า ดงหญ้าสูงท่วมหัว พูดเลยว่าท่วมหัว มองไม่เห็นทาง ไม่เห็นข้างหน้า แล้วเพื่อนเสีอกไม่รออีก ทิ้งให้ผู้หญิงตัวเล็กๆหน้าตาน่าเอ็นดูปิดทาง มันทำได้ยังไง ฝ่าไปก็ตะโกนไป กลัวออกไม่ได้ น่ากลัวสุดๆ มีตัวอะไรบ้างก็ไม่รู้ ดีนะที่กรุไม่เชื่อเพื่อน ไม่งั้นได้ใส่เสื้อยืด ขาสั้นมาให้หญ้าบาดเล่นแน่ๆ

หลุดจากดงหญ้าก็เป็นทางสบายๆล่ะ มีขึ้นเนินบ้างเป็นระยะๆ แต่เนินช่วงนี้ไม่ปั่นแล้ว ลงเข็นเลย มันล้ามาก น้ำตาจะไหล อยากจะกรี๊ดมากพูดเลย แต่ก็ต้องอดทน แล้วก็ปั่นไปได้จนเกือบถึงรถ 555 เกือบนะ อีก500เมตรจะถึงรถ แต่ไม่ไหวไง พอ เลิก จอด โทรบอกเพื่อนมารับด้วย ไม่ไหวแล้ว คือไอ้ตอนที่หยุดนี่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าอีกนิดเดียวจะถึงแล้ว เพื่อนยังขำทำไมไม่ไปอีกนิดเดียว คือสภาพตอนนั้นมันไม่ได้แล้วจริงๆอ่ะ เมิงปั่นทุกวัน รถเมิงดี ส่วนกรุ ปีนึงปั่น3รอบ ได้ขนาดนี้กรุเก่งมากแล้ว จักก้ากรุก็ไม่ได้โมอะไรเลย ซื้อมายังไงปั่นอย่างนั้น อ่อออ มีเปลี่ยนเบาะไปอย่างเดียว แล้วไง หลอกให้มาปั่น50กว่าโล ลำบาก เหนื่อย เมื่อวานกลับมาหลับตาย ไม่อยากตื่น แต่ก็ต้องไปทำงาน ปวดตรูดมาก พูดเลย ขาด้วย ข้อมืออีกต่างหาก แค่นั้นไม่เท่าไร หน้าดำเป็นแถบ ตรงใต้ตา ผลจากใส่แว่น+ใช้ผ้าปิด แต่มีส่วนนึงที่คลุมไม่มิด ครั้งหน้าบอกเลย จะใส่ไอ้โม่งกันแดดปั่นจักก้า จะได้ไม่ดำเป็นหย่อมๆ

จบทริปตอนห้าโมงเย็นกว่าๆ ผลาญไป2001kcal เสียน้ำไปลิดรกว่า ปั่นความเร็วเฉลี่ย11.8 km/hr เป็นการปั่นที่ช้ามากกก เดินเร็วกว่ามั้ย ความเร็วสูงสุด 47.1km/hr น่าจะเป็นตอนลงเขา เออนี่นะ การปั่นจักรยานมันสนุกอย่างเดียวก็ตอนลงเขานี่ล่ะ ชอบสุดล่ะ ไม่เหนื่อย สนุก ชอบ อยากจะนั่งรถไปปล่อยตัวจากบนเขา เคยที่นึงตอนไปภูทับเบิก เค้ามีประเพณีปั่นขึ้นกันใช่ม่ะ แต่นี่ปั่นลงมา อย่าเรียกว่าปั่นเลย เรียกประคองจักรยานลงมาดีกว่า 555

สุดท้ายก่อนกลับไปนั่งกินอาหารทะเลที่อ่างศิลา ร้านทะเลทอง ไม่รู้อร่อยรึหิว กินเยอะมาก กลับถึงห้อง4ทุ่มกว่า ลมดันอ้วก แอบเสียดายนะ กินไปซะเยอะ

จบแล้วการรีวิว เรียกรีวิวป่าวว่ะ เห็นคนอื่นเค้าเขียนรีวิวแล้วมันเก๋ๆดีอ่ะ อยากเก๋บ้างไรบ้าง แต่เหมือนบ่นให้ฟังมากกว่า เอาเหอะ จะมีใครอ่านจบรึป่าวยังไม่รู้เลย ถ้าอ่านจบก็ขอบคุณนะ แต่ถ้าอ่านไม่จบก็ขอบคุณเช่นกัน แล้วว่างๆ ไปปั่นกันนะ ใครอยากไปหลังไมค์มาเลย เด๋วพาไป รับรอง ทางดีขี่สบาย หึหึ






















แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่