ผู้หาญกล้านิรนาม ตอนที่ 3

กระทู้สนทนา
กระทู้ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/30836756       
กระทู้ตอนที่ 2  http://pantip.com/topic/32018464

           ลี้ฮงไม่ได้ดื่มสุราอีก สุราแม้จะช่วยให้ผ่อนคลายและลืมทุกข์ แต่เมื่อต้องการสติที่แจ่มใสพึงต้องหลีกเลี่ยง   โดยเฉพาะงานที่มันกำลังกระทำ ที่มันต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า “หากท่านไม่ตาย ก็เป็นเราม้วยมรณา” กระบี่ประจำกายบัดนี้อยู่ที่กลางหลัง วงนักเลงตอนนั้นมีผู้พกพากระบี่ที่กลางหลังไม่มากนักเพราะนอกจากการใช้จะเชื่องช้าไม่ทันรับการเปลี่ยนแปลง ยังไม่สามารถบ่งบอกสถานะความเป็นไต้ยิ้มบที่นักเลงส่วนใหญ่พึงต้องการฉาบหน้าอีกด้วย แต่เมื่อเป็นของจริงไยต้องอวดโอ่ไป?

           จันทร์เพ็ญลอยเหนือฟ้า วิกาลที่เย็นเยียบ  แต่จิวซุ่นคล้ายร้อนรุ่ม มันทราบดีกว่าใครถึงความแม่นยำและอมหิตของขบวนการที่มันเคยช่วงใช้นี้  แต่ไม่แสดงอาการออกมา เนื่องเพราะจะอย่างไรเมื่อแรกเริ่มมันก็คลุกคลีกับอันฑพาลร้านถิ่นหลั่งเลือดเลียคมดาบมา ดังนั้นแม้มันไม่มีเคยฝึกพลังยุทธ์ใดแต่อย่างน้อยเมื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งแล้วก็ย่อมจะเสียบุคลิกมิได้  นี่ไยมิใช่คล้ายดั่งสวมมงกุฏแก้วที่ต้องระวังมันตกแตกตลอดเวลาอยู่เล่า?  เฮ้งสี่ตงยืนสำรวมอยู่ที่มุมห้อง ฮวยกิมตอนั่งสงบนิ่งอยู่ที่ข้างกาย  ตั้งแต่มันเข้ามา ยังเจรจากับจิวซุ่นไม่ได้เกินสามประโยค  โอ้วคงซิมและฮวงฮ่อลั้งสนทนากันเบาๆอยู่ที่โต๊ะน้ำชากลางห้องโถง บรรยากาศแฝงไปด้วยความตึงเครียด ตอนนี้คล้ายดั่งทั้งหมดกำลังท้าทายต่อลี้ฮงว่า “มาเถิดลี้ฮง ยิ่งเร็วยิ่งประเสริฐ เราจะสับเจ้าเป็นเนื้อเลอะเลือน หรือแม้จะประลองความอดทน  ลี้ฮงหรือเจ้าจะอดทนกว่าเราทั้งสาม?”

         เมื่อพ้นครึ่งคืนไป สุนัขใหญ่ของจิวซุ่นพลันส่งเสียงเห่าหอนระงม  ห้องโถงที่พวกมันนั่งคล้ายดั่งเยียบเย็นขึ้นไปอีก ทันใดเทียนแปดจากสิบสี่เล่มพลันดับไปเฉยๆ ทั้งที่ประตูหน้าต่างปิดอยู่  จึงส่งผลให้นอกจากที่ๆจิวซุ่นอยู่พลันมืดมิด ฮวยกิมตอทั้งสามเรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือดังนั้นมั่นใจว่านี่ไม่ใช่การเล่นลวดลายโดยการใช้พลังยุทธ์เด็ดขาด อีกประการพวกมันไม่เคยได้ยินว่าจะมีพลังใดสามารถทะลวงประตูหน้าต่างซัดเทียนดับได้โดยประตูหน้าต่างไม่พังทลาย จึงพลันคิดว่าขบวนการสิบปีศาจหนึ่งมนุษย์นี้สมชื่อปีศาจจริงๆ การลงมือดั่งมีอาถรรพ์แฝงอยู่ทุกอย่าง ฮวงฮ่อลั้งสะกดใจไม่ได้สืบปราดไปเบื้องหน้ากล่าวด้วยเสียงท้าทายอันดังว่า “ลี้ฮง บิดาหาได้กลัวเจ้าไม่ หากมีความสามารถเก่งกล้าก็ออกมาประดาบกับบิดาสักครา ฮาฮา หรือสิบปีศาจหนึ่งมนุษย์มีเพียงลวดลายจอมปลอม ได้แต่เพียงเป็นลูกเต่าทำตัวลับๆล่อๆ” ไม่ทันขาดคำพลันพบว่าต้นขาถูกแทงใส่กระบี่หนึ่ง  ใจแตกตื่นกล้ำกลืนความเจ็บรวบรวมสติถอยปราดกลับมาที่โอ้วคงซิมยืนอยู่ จากนั้นล้วงยาสมานแผลออกทาพอก  เห็นโลหิตไม่เป็นสีดำก็โล่งใจเนื่องเพราะทราบว่าบนอาวุธของศัตรูไม่ได้ฉาบพิษไว้  จากนั้นกล่าวกับโอ้วคงซิมว่า “ซือเฮียระวังไว้ ลี้ฮงผู้นี้คล้ายมีอาถรรพ์อยู่บ้าง” ไม่ทันขาดคำประตูที่ลงกลอนไว้กลับเปิดอ้าออก แลเห็นบุรุษหนุ่มเค้าหน้าคมคายที่เบื้องหน้า ไม่ใช่ลี้ฮงจะเป็นผู้ใด?

          โอ้วคงซิมร้องถามว่า “เป็นลี้ฮง ใช่รึไม่?” มันไม่เอ่ยคำเพียงพยักหน้าตอบ

          ทั้งหมดเห็นลี้ฮงในสภาพมือเปล่าเท้าเปลือยต้องลอบตระหนก  ควรทราบว่าในวงนักเลงเมื่อท่านเตรียมพร้อมจะกระทำการต้องมีความมั่นใจเต็มร้อย  ลี้ฮงสร้างชื่อด้วยกระบี่แต่กลับบุรุกเข้ามาโดยมือเปล่าย่อมมีท่าหมัดเท้าไม่รวบรัดธรรมดา ทั้งหมดจึงได้แต่ยืนคุมเชิงอยู่ไม่เคลื่อนไหว แต่สมองฮวยกิมตอที่เป็นนักเลงเก่าอันโชกโชนกลับครุ่นคิดว่า “เหตุใดมือสังหารเช่นลี้ฮงจึงไม่ทำการลอบสังหารแบบเงียบงันกลับต้องป่าวประกาศให้เป้าหมายทราบนั่นเป็นข้องสงสัยประการแรก  ซ้ำยังบุกเข้ามาเพียงลำพังทั้งที่มียอดฝีมืออยู่ถึงสามคนเป็นข้อสงสัยประการที่สอง  อีกประการนั้นคือไฉนลี้ฮงไม่เสนอกระบี่  ความจริงแล้วคนเดนตายดั่งเช่นลี้ฮงไม่จำเป็นต้องสนใจต่อกฏเกณฑ์ในวงนักเลงเลย  หรือนี่ยังมีความนัยอันยอกย้อนอยู่อีก” ความคิดไม่ทันสิ้นสุด  ทันใดนั้น ลี้ฮงพลางขยับปราดไปทางซ้ายจากนั้นฟาดสันมือไปที่โต๊ะรับแขก เสียงทึบดังถนัดถนี่โต๊ะไม้แข็งแรงพลันสลายไป

           โอ้วคงซิมเป็นนักเลงชั้นไหน  จึงล่วงรู้ว่าลี้ฮงจงใจจะยืมพลังฟาดโต๊ะกระโดดข้ามไปยังจิวซุ่น  จึงกระโดดไปดักไว้พลางชักดาบสั้นในมือฟันไปดังหวืดหวือ  ทางด้านซือตี๋ของมันฮวงฮ่อลั้งที่เบื้องล่างร่ายรำกระบี่รุกไล่ เห็นชัดว่าไม่ว่าอย่างไรลี้ฮงมิมีทางหนีเล็ดรอดไปได้จากหนึ่งดาบหนึ่งกระบี่นี้เด็ดขาด  ขณะที่ปลายดาบกระบี่ห่างจากลี้ฮงสองเซี๊ยะ  มิคาดมันพลันซัดเชือกดำมะเมื่อมเส้นหนึ่งไปคล้องกับขื่อคานทางด้านทิศตรงกันข้ามกับจิวซุ่นดึงตัวออกจากอันตรายได้อย่างหวุดหวิด ทางด้านโอ้วตอฮวงเกี่ยมรั้งสภาวะดาบกระบี่ลง  ยืนเคียงคู่พลางร่ายรำดาบกระบี่ปานจักรผันเข้ามา  เพลงดาบกระบี่ชุดนี้เป็นพวกมันเพียรคิดค้นร่วมกันนาม  “กระจายทั่วฟ้า”  ลี้ฮงคว้าเก้าอี้ตัวหนึ่งขว้างใส่โดยแรงมิคาดเก้าอี้นั้นกลายเป็นดุจเศษไม้ผุสลายไปในชั่วพริบตา  แต่ดาบกระบี่หาได้เชื่องช้าลงแต่อย่างใด  เสียงขวับเขวี้ยวยังคงก้องอยู่ ทั้งสองยังคงร่ายรำดาบกระบี่ดุจตาข่ายถี่ยิบ  ลี้ฮงเห็นดังนั้นจึงทุ่มเทพลังใช้ตัวเบาทะยานบันไดเมฆทะลุหลังคาขึ้นไปทางด้านบน  มิคาดดาบทองได้รอประหารมันอยู่แล้ว เป็นฮวยกิมตอเข้าขวางไว้ตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ แม้แต่จิวซุ่นที่อยู่ข้างกายหากไม่ได้ยินกิตติศัพท์ของมันมาก่อนย่อมนึกว่าเป็นเรื่องผีสางหลอกลวงคน เห็นดังนั้นลี้ฮงจึงซัดเชือกในมือไปยังขื่ออีกด้านหนึ่งหมายหยิบยืมพลังกระโดดขึ้นไปบนหลังคา  มิคาดความคิดยังไม่ทันสิ้นสุดดาบทองกลับปาดขวางซ้ำอีกครั้งในทิศทางคาดไม่ถึง แม้จะก้มศรีษะหลบได้แต่เชือกดำกลับขาดสะบั้นลง  ลี้ฮงเมื่อไม่มีที่ให้หยิบยืมพลังจึงใช้ท่าทองพันชั่งถ่วงตัวลงที่พื้น  รีบชักกระบี่ที่กลางหลังออก เพื่อต้านรับดาบทองของฮวยกิมตออย่างหักโหม ทางด้านโอ้วตอฮวงเกี่ยมเห็นดังนั้นก็หมายเข้ากระหนาบกลุ้มรุม  ทันใดดุจมีมือไร้สภาพซัดใส่พวกมัน  ฮวยกิมตอ ถลึงมองพวกมัน จากนั้นตวาดก้องว่า “ชนชั้นมุสิก หน้าไม่อาย  ผู้อื่นแม้มีชื่ออื้อฉาวกลับกล้าบุกถ้ำเสือรังมังกรด้วยตัวคนเดียว  พวกเจ้ามีชื่อไม่ใช่น้อยกลับคิดกลุ้มรุม เฮอะ เฮอะ หากพวกเจ้าจะกระทำดังนี้อีกครั้ง  ขอเพียงแต่เราพบเห็นเราไม่สับเนื้อเจ้าเป็นสิบเจ็ดสิบแปดท่อนก็แปลกแล้ว” มันยกหางความเป็นปรมาจารย์สำนักหนึ่งเพื่อข่มสองพี่น้องโอ้วตอฮวงเกี่ยม  

            ลี้ฮงเห็นดังนั้นจึงแทงกระบี่เข้าสิบเจ็ดครั้ง ใช้ออกด้วยท่า “ทุ่มแทงสิบเจ็ดหยดแดง”  ฮวยกิมตอกระทั่งหันกลับมายังไม่ได้หันกลับมา เพียงสะบัดดาบไปมาก็คลี่คลายท่ากระบี่ออกไปได้หมดสิ้น  ลี้ฮงร่ายกระบี่คุ้มครองกายใช้ออกด้วยท่า “แดงทั่วเคหา” เช่นเดิมฮวยกิมตอเพียงปัดป่ายก็คลี่คลายกระบี่ของมันได้สิ้น  ยิ่งป้อนกระบวนท่ายิ่งตกเป็นรอง เมื่อร้อยกระบวนท่าให้หลังก็คล้ายแมวหยอกเอินมุสิกแล้ว  ลี้ฮงไม่คาดว่าฮวยกิมตอจะร้ายกาจกว่าคำร่ำลือเสียอีก ฉับพลันเรี่ยวแรงฮวยกิมตอที่คล้ายดุจม้าป่าพยศก็คล้ายปลาสานธนาการไปสิ้น เสียงคว้ากใหญ่เมื่อกระบี่ลี้ฮงกรีดปกคอเสื้อไปยังแผงอกอันหนั่นหนาลึกหลายหุน  ฮวยกิมตอหมุนตัวออกไปหลายวา  ออกปากบอกแก่โอ้วตอฮวงเกี่ยมว่า “จัดการมันให้แก่เรา”

            โอ้วคงซิมหัวร่อฮิฮะเดินพลางกล่าวว่า “ฮวยไต้เฮียบ ท่านเรียกเราอย่าได้กลุ้มรุมมัน จนใจที่เราสองต่างรวมเป็นหนึ่ง ดังนั้นเราจึงสำนึกว่า เข้าไปหาญหักกับลี้ฮงไม่ได้แน่   มิเช่นนั้นดาบทองคงฟาดฟันเราสองเป็นสิบเจ็ดสิบแปดท่อน”

            ฮวยกิมตอหน้าเขียวคล้ำ ได้แต่กล่าว ประเสริฐ ซ้ำหลายครั้ง บัดนนี้ตนคล้ายพญาราชสีห์ที่ติดบ่วงพรานแล้ว มันรู้ว่าโอ้วตอฮวงเกี่ยมเชี่ยวชาญเรื่องพิษ  แต่มิคาดมันจะหันคมดาบใส่พวกเดียวกัน  เมื่อเหลียวมองลี้ฮงเห็นมันควงกระบี่ออกไปยังจิวซุ่น  เห็นฮวงฮ่อลั้งเข้าไปปิดขวางไว้  ดังนั้นจึงระงับสติปิดจุดโลหิตมิให้หลั่งออกมา  

            โอ้วคงซิมหัวร่ออีกกล่าวกับมันว่า “ฮวยไต้เฮียบ  บอกต่อท่าน ผงหอมเอ็นอ่อนของเรามีประสิทธิภาพยิ่ง  มิเพียงไร้สีไร้กลิ่น  ขนาดซัดต้องยอดฝีมือระดับท่านยังมิรู้ตัว  ฮวยไต้ยิ้มบเอย  ฮวยไต้เฮียบ จะอย่างไรท่านก็มิอาจมีชีวิตรอดอยู่แล้ว บอกต่อท่านจะเป็นไรไป” กล่าวจบหัวร่อฮิฮะเข้าไปร่วมกลุ้มรุมลี้ฮง  ฮวยกิมตอท่องทะยานวงนักเลงมาชั่วชีวิตมิคาด  ต้องมาได้แต่รามือรอความตาย  จึงตะโกนด้วยความเจ็บแค้นว่า

           “โอ้วคงซิม จะฆ่าก็ฆ่า  คนจริงไม่กลัวคมดาบสุนัข”

           ทันใดโอ้วคงซิมตะโกนกล่าวต่อฮวยกิมตอว่า “วางใจเถิด  เราไม่ฆ่าท่านแน่นอน”  ฮวยกิมตอขุ่นแค้นแทบสิ้นสติ ตาแดงฉาน  หากประกายตานี้ฆ่าผู้คนได้ โอวคงซิมต้องตายก่อนเป็นคนแรก  ทันใดนั้นฮวยกิมตอรู้สึกทรวงอกเหมือนมีลมทะลุออกมา เมื่อเหลือบมองเห็นปลายกระบี่แทงพ้นออกมาหลายเซี๊ยะ  พลางมีเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า  “ปึงจี่เล้งฝากกำนัลท่านหนึ่งกระบี่”  กับปึงจี่เล้งมันรู้ดีว่านั่นเป็นพวกพ้องในสิบปีศาจหนึ่งมนุษย์ที่มันสังหารไปเมื่อหกปีก่อน  แต่สิ่งที่มันจวบจนตายยังต้องฉงนไฉง คือลี้ฮงอยู่ตรงหน้ามันชัดๆ  ไฉนจึงมาแทงมันจากทางด้านหลังได้ หรือมือสังหารไม่ได้มีคนเดียว ความคิดไม่ทันสิ้นทุกอย่างก็มืดทะมึนลง

           ลี้ฮงทุ่มเทวิชากระบี่ใช้ออกไม่นานก็มีสภาวะกระบี่เชื่องช้าลง เห็นดังนั้นฮวงฮ่อลั้งก็รู้ว่า ซือเฮียของมันใช้พิษประสบความสำร็จแล้ว จึงใช้กระบี่กรีดไปที่ท้องน้อยของลี้ฮง  ลี้ฮงพยายามต้านทานแต่จนใจที่คล้ายเรี่ยวแรงพาลสาบสูญไปเสียสิ้น เสียงเสียงคว้ากเมื่อกระบี่กรีดเข้าเลือดเนื้อ แม้จะลึกไม่มากแต่ก็สร้างความเจ็บปวดจนแทบสิ้นสติ  

          ในสายตาของฮวงฮ่อลั้งเมื่อต้องตระเตรียมไปเฝ้ายมบาลลี้ฮงกลับสงบกว่าคนทั่วไปที่มันเคยสังหารที่มีบ้างร้องของชีวิต  มีบ้างสัญญาจะกำนัลเงินทอง  มีบ้างร่ำร้องด่าทอ  แต่กับลี้ฮงมันหาได้นำพาปรามภ์ไม่  ดูคล้ายความตายไม่ต่างเลยกับการปลดเปลื้องมันจากขื่อคาไร้สภาพที่คอยแขวนมันอยู่  ฮวงฮ่อลั้งยิ้มกระบี่ไปเบื้องหน้าแล้ว  แต่กระบี่ของมันไม่ถึงคอหอยลี้ฮง  และไม่มีวันถึงตลอดกาลเพราะบัดนี้มันเห็นภาพกระบี่ของมันที่แทงใส่ลี้ฮง  ไกลออกไปเรื่อยๆ  ไกลออกไปเรื่อยๆ  คนเป็นๆไฉนเห็นมือที่กุมกระบี่ห่างตัวออกไป?  

          โอ้วคงซิมหัวร่ออีกแล้ว มันไม่รีบร้อนเดินเข้าไปหาลี้ฮง เวลานี้ลี้ฮงไม่ต่างอันใดกับปลาในร่างแหที่รอให้มันเข้าไปเชือดเฉือน  มันเดินเข้ายังที่ศรีษะของฮวงฮ่อลั้งก่อนกล่าวว่า “นี่ไม่อาจโทษว่าเราซือตี๋เงินรางวัลงดงามนี้เพียงพอให้เราผู้พี่อยู่เสพสุขวาสนาได้ทั้งชีวิต หากแบ่งปันเจ้าก็เป็นอันว่าเราเย้ยหยันต่อความสามารถตัวเอง  แต่วางใจเถิดภรรยาเพิ่งวิวาห์ท่านเราจะดูแลให้เป็นอย่างดี” จากนั้นส่งเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอและกว่าวว่า “ซือตี๋เอยท่านเตี้ยแคระอัปลักษณ์  ผิดกับเราที่สูงใหญ่ เหตุไฉนจึงได้ภรรยาที่อวบอัดสมบูรณ์เช่นนั้นเล่า  แต่ท่านวางใจ เมื่อฝังท่านเราจะสวมหมวกเขียวส่งให้ไปในฮวงซุ้ยของท่านแน่นอน” กล่าวจบหัวเราะร่าสืบเท้าเข้าไปยังลี้ฮง ก่อนสะบัดดาบกวาดไปยังศรีษะของลี้ฮง ไม่คาดลี้ฮงที่มันคิดว่าไร้เรี่ยวแรงจากผงหอมเอ็นอ่อนกลับดีดตัวผึง  กำนัลกระบี่เข้าไปยังคอหอยของมัน  กระบี่ที่แม่นยำ!

          โลหิตพุ่งกระจายเมื่อลี้ฮงถอนกระบี่ออกมา  โอ้วคงซิมจวบจนตายก็คล้ายดั่งยอมรับความประมาทครั้งนี้ของตนที่ไม่ตรวจสอบลี้ฮงให้ดีไม่ได้ “ ชีวิตคนทุกคนไยไม่ใช่น่าเศร้าแบบนี้  ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ไยไม่ใช่มาจากความประมาทเพียงเล็กน้อย”

          ทุกสรรพสำเนียงเงียบสงัด เงียบสงัดจนได้ยินเสียงลมหายใจอีกครา  ลี้ฮงสืบกระบี่เข้าไปยังที่จิวซุ่นอยู่  มันยังนั่งอยู่ที่นั่น ลี้ฮงแลเห็นจิวซุ่นนั่งสำรวมมิได้อนาทรร้อนใจ เฮ้งสี่ตงยังยืนสำรวมอยู่ตรงนั้นไม่เข้าสะกดขวางคล้ายดั่งไม่สนใจอันใด  ทันใดลี้ฮงยิ้มกระบี่ไปเบื้องหน้ายังจิวซุ่นที่นั่งอยู่ มิคาดเมื่อห่างจากคอหอยเพียงไม่กี่หุนกระบี่วกกลับและแทงเข้าไปยังทรวงอกของเฮ้งสี่ตงโดยไว  สองตาเฮ้งสี่ตงจ้องถลนคล้ายไม่คาดว่าผลจะลงเอยเช่นนี้ก่อนล้มตึงลงไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่