กระทู้นี้เป็นกระทู้ต่อมาจาก
http://pantip.com/topic/31991884(มาเยอรมัน เรียนภาษา จบมหาลัย) นะครับ
ส่วนกระทู้นี้ก็จะเขียนถึงประสบการณ์หางานและทำงานครับ
ต่อจากกระทู้ที่แล้ว ที่ผมเขียนถึงตอนที่ผมเริ่มหางาน บริษัทที่ไปสัมภาษณ์ที่มิวนิคและทำ Test ไป ผลคือไม่ผ่าน
กับบริษัทนี้ผมสมัครไปในตำแหน่ง Java Developer ในช่วงเรียนมหาลัยก็จะเรียนหลายภาษามาก
Java ถือเป็นภาษาหลักที่ใช้ในการเรียนของมหาลัยผมเลย บริษัทที่ผมทำ Test ไม่ผ่านนี้ งานที่นี่ถือว่าน่าสนใจมากเลย
เพราะถ้าผมผ่าน ผมต้องไปทำงานที่บริษัท BMW แล้วถ้าใครเห็นสถานที่ของ BMW แล้วก็ต้องอยากทำแหละครับ ใหญ่โตหรูหรา
และชื่อ BMW ก็ดึงดูดอยู่แล้วสำหรับผม หมดความมั่นใจนะครับ Feedback ที่ได้จากที่บริษัท ที่บอกว่าผมต้องอ่านหนังสือเพิ่มเติม
ผมรับฟังนะ แต่ ณ เวลานั้นผมคงไม่มีเวลาพอที่จะมาพัตนาตัวเองในระยะเวลาแค่แป้ปแน่ เลยคิดว่าช่างมัน เดินหน้าหาต่อไป
มันต้องมีสักบริษัทแหละ ที่ให้โอกาสกับคนจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์อย่างผม
และคราวนี้ก็มีอีกบริษัทที่ มิวนิคอีกเหมือนกันเชิญผมไปสัมภาษณ์ บริษัทนี้ผมสมัครไปในตำแหน่ง iOS - Developer
ตำแหน่ง iOS - Developer จะถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผมก็ได้ เพราะ คนที่ทำ iOS มีน้อยครับ และคนเก่งๆก็มีน้อยด้วย
(แต่ผมไม่เก่งนะ) iOS เขียนด้วยภาษา Objective C ซึ่งถือว่าเป็นภาษาค่อนข้างใหม่มาก ถ้าไปเทียบกับพวก Java, C++
มันก็มีอายุเท่ากับ พวก iPhone นะครับ สิ่งที่ผมเตรียมตัวไปก็คือ ผมเขียนแอฟเล็กๆ สำหรับแนะนำตัวเองไป
เหมือน powerpoint นะครับ แต่อยู่บนไอโฟน ที่เขียนเพราะผมอยากทบทวนภาษา Objective C
ช่วงหางานมันเหมือนจับฉ่ายนะครับ เราเพิ่งจบ ยังไม่ได้มีความถนัดในภาษาใดภาษาหนึ่งมาก เวลาบริษัทนี้เรียกไปสัมภาษณ์
ให้ทำ Test สำหรับ Java ผมก็ต้องมานั่งทบทวน Java ใหม่ คราวนี้ก็เป็นภาษา Objective C ครับ
การสัมภาษณ์วันนี้ ก็จะมีเจ้าของบริษัท 2 คน และก็คนเขียน iOS อีกคนมานั่งสัมภาษณ์ ก็เริ่มต้นให้ผมแนะนำตัวเอง
ซึ่งตรงนี้ผมเตรียมมาอย่างดี ก็ขออนุญาติเขาเปิดคอม เปิดแอฟแนะนำตัวเองที่ผมเขียนลงบนไอโฟน และก็พูดไป
ตรงนี้ก็จะมีข้อมูลว่า ผมมาเยอรมันตั้งแต่ปีไป เรียนภาษาเยอรมันที่ไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ และก็เข้าเรียนเตรียมก่อนเข้ามหาลัย
และก็เข้ามหาลัยที่ไหน ทำไมถึงเลือกเรียนด้านนี้ และมาเริ่มต้นกับ iOS ได้อย่างไร นี่คือข้อมูลที่ผมเตรียมไปพรีเซ้นเขา
และผมก็โชว์เกมส์ที่ผมเขียนให้เขาดู มันก็เป็นเกมส์ที่ผมเขียนเล่นๆ สำหรับเรียนรู้ภาษานะครับ
เพราะภาษา Objective C ผมเรียนรู้ด้วยตัวเอง ตอนนั้นมันค่อนข้างใหม่ ที่มหาลัยยังไม่สอนเลย ผมก็อธิบายให้เขาฟังว่า
เกมส์มันยังไม่เสร็นหรอกนะ แต่มันก็เล่นได้อยู่ มันยังขาดโน่นขาดนี่อยู่ ผมทำเพราะเห็นว่ามันน่าสนใจดี
ก็ใช้เวลาว่างมาทำตรงนี้ และก็บอกไปว่าประสบการณ์ของผมกับ iOS นี้มีประมาณ 3 เดือน ก็ถือว่าน้อยแต่ผมสนใจที่จะทำ
เจ้าของบริษัทเขาเลยพูดมาว่า ตอนนี้ไม่มีใครมีประสบการณ์กับ iPhone เกิน 5 ปีหรอก มันเป็นภาษาใหม่
และเขาก็เข้าใจว่าผมเพิ่งจบมา ไม่ต้องกังวล แต่สิ่งสำคัญก็คือ มีแรงจูงใจหรือเปล่า เขาก็บอกว่า ที่ผมเขียนแอพเป็นงานอดิเรก
แปลว่าผมมีแรงจูงใจ ถ้าคนมีแรงจูงใจแล้ว มันไม่ยากที่จะพัตนาต่อไป และเขาก็พูดถึงสิ่งงาน ถ้าเขารับผม ผมจะต้องทำอะไรบ้าง
บริษัทนี้มีลูกค้าหลักเป็น Audi (อยู่ที่มิวนิคนี่ หนีไม่พ้นรถยนต์จริงๆ) เราจะทำแอพสำหรับใช้ภายในบริษัทนี้
ก็หัวข้อหลักๆของการสัมภาษณ์วันนี้ก็มีประมาณนี้แหละครับ และเขาก็ถามเรื่องเงินเดือน ว่าอยากได้เงินเดือนเท่าไหร่
ผมขอไป 36,000 ยูโรต่อปี คือเงินตรงนี้ถือว่าน้อยมากเลยนะ เพราะมันเป็นเงินเดือนขั้นต่ำสุดที่เขาเรียกกัน
และยิ่งถ้าที่มิวนิค มันเรียกได้สูงกว่านี้อีก แต่ตอนนั้นถ้าได้แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ เพราะผมรู้ว่าผมยังไม่มีความสามารถพอ
กับเงินเดือนที่มากกว่านี้ ทางบริษัทก็บอกว่า อีกสองวันจะให้คำตอบ
ประสบการณ์หางานและทำงานในเยอรมัน(ภาคต่อ)
ส่วนกระทู้นี้ก็จะเขียนถึงประสบการณ์หางานและทำงานครับ
ต่อจากกระทู้ที่แล้ว ที่ผมเขียนถึงตอนที่ผมเริ่มหางาน บริษัทที่ไปสัมภาษณ์ที่มิวนิคและทำ Test ไป ผลคือไม่ผ่าน
กับบริษัทนี้ผมสมัครไปในตำแหน่ง Java Developer ในช่วงเรียนมหาลัยก็จะเรียนหลายภาษามาก
Java ถือเป็นภาษาหลักที่ใช้ในการเรียนของมหาลัยผมเลย บริษัทที่ผมทำ Test ไม่ผ่านนี้ งานที่นี่ถือว่าน่าสนใจมากเลย
เพราะถ้าผมผ่าน ผมต้องไปทำงานที่บริษัท BMW แล้วถ้าใครเห็นสถานที่ของ BMW แล้วก็ต้องอยากทำแหละครับ ใหญ่โตหรูหรา
และชื่อ BMW ก็ดึงดูดอยู่แล้วสำหรับผม หมดความมั่นใจนะครับ Feedback ที่ได้จากที่บริษัท ที่บอกว่าผมต้องอ่านหนังสือเพิ่มเติม
ผมรับฟังนะ แต่ ณ เวลานั้นผมคงไม่มีเวลาพอที่จะมาพัตนาตัวเองในระยะเวลาแค่แป้ปแน่ เลยคิดว่าช่างมัน เดินหน้าหาต่อไป
มันต้องมีสักบริษัทแหละ ที่ให้โอกาสกับคนจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์อย่างผม
และคราวนี้ก็มีอีกบริษัทที่ มิวนิคอีกเหมือนกันเชิญผมไปสัมภาษณ์ บริษัทนี้ผมสมัครไปในตำแหน่ง iOS - Developer
ตำแหน่ง iOS - Developer จะถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผมก็ได้ เพราะ คนที่ทำ iOS มีน้อยครับ และคนเก่งๆก็มีน้อยด้วย
(แต่ผมไม่เก่งนะ) iOS เขียนด้วยภาษา Objective C ซึ่งถือว่าเป็นภาษาค่อนข้างใหม่มาก ถ้าไปเทียบกับพวก Java, C++
มันก็มีอายุเท่ากับ พวก iPhone นะครับ สิ่งที่ผมเตรียมตัวไปก็คือ ผมเขียนแอฟเล็กๆ สำหรับแนะนำตัวเองไป
เหมือน powerpoint นะครับ แต่อยู่บนไอโฟน ที่เขียนเพราะผมอยากทบทวนภาษา Objective C
ช่วงหางานมันเหมือนจับฉ่ายนะครับ เราเพิ่งจบ ยังไม่ได้มีความถนัดในภาษาใดภาษาหนึ่งมาก เวลาบริษัทนี้เรียกไปสัมภาษณ์
ให้ทำ Test สำหรับ Java ผมก็ต้องมานั่งทบทวน Java ใหม่ คราวนี้ก็เป็นภาษา Objective C ครับ
การสัมภาษณ์วันนี้ ก็จะมีเจ้าของบริษัท 2 คน และก็คนเขียน iOS อีกคนมานั่งสัมภาษณ์ ก็เริ่มต้นให้ผมแนะนำตัวเอง
ซึ่งตรงนี้ผมเตรียมมาอย่างดี ก็ขออนุญาติเขาเปิดคอม เปิดแอฟแนะนำตัวเองที่ผมเขียนลงบนไอโฟน และก็พูดไป
ตรงนี้ก็จะมีข้อมูลว่า ผมมาเยอรมันตั้งแต่ปีไป เรียนภาษาเยอรมันที่ไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ และก็เข้าเรียนเตรียมก่อนเข้ามหาลัย
และก็เข้ามหาลัยที่ไหน ทำไมถึงเลือกเรียนด้านนี้ และมาเริ่มต้นกับ iOS ได้อย่างไร นี่คือข้อมูลที่ผมเตรียมไปพรีเซ้นเขา
และผมก็โชว์เกมส์ที่ผมเขียนให้เขาดู มันก็เป็นเกมส์ที่ผมเขียนเล่นๆ สำหรับเรียนรู้ภาษานะครับ
เพราะภาษา Objective C ผมเรียนรู้ด้วยตัวเอง ตอนนั้นมันค่อนข้างใหม่ ที่มหาลัยยังไม่สอนเลย ผมก็อธิบายให้เขาฟังว่า
เกมส์มันยังไม่เสร็นหรอกนะ แต่มันก็เล่นได้อยู่ มันยังขาดโน่นขาดนี่อยู่ ผมทำเพราะเห็นว่ามันน่าสนใจดี
ก็ใช้เวลาว่างมาทำตรงนี้ และก็บอกไปว่าประสบการณ์ของผมกับ iOS นี้มีประมาณ 3 เดือน ก็ถือว่าน้อยแต่ผมสนใจที่จะทำ
เจ้าของบริษัทเขาเลยพูดมาว่า ตอนนี้ไม่มีใครมีประสบการณ์กับ iPhone เกิน 5 ปีหรอก มันเป็นภาษาใหม่
และเขาก็เข้าใจว่าผมเพิ่งจบมา ไม่ต้องกังวล แต่สิ่งสำคัญก็คือ มีแรงจูงใจหรือเปล่า เขาก็บอกว่า ที่ผมเขียนแอพเป็นงานอดิเรก
แปลว่าผมมีแรงจูงใจ ถ้าคนมีแรงจูงใจแล้ว มันไม่ยากที่จะพัตนาต่อไป และเขาก็พูดถึงสิ่งงาน ถ้าเขารับผม ผมจะต้องทำอะไรบ้าง
บริษัทนี้มีลูกค้าหลักเป็น Audi (อยู่ที่มิวนิคนี่ หนีไม่พ้นรถยนต์จริงๆ) เราจะทำแอพสำหรับใช้ภายในบริษัทนี้
ก็หัวข้อหลักๆของการสัมภาษณ์วันนี้ก็มีประมาณนี้แหละครับ และเขาก็ถามเรื่องเงินเดือน ว่าอยากได้เงินเดือนเท่าไหร่
ผมขอไป 36,000 ยูโรต่อปี คือเงินตรงนี้ถือว่าน้อยมากเลยนะ เพราะมันเป็นเงินเดือนขั้นต่ำสุดที่เขาเรียกกัน
และยิ่งถ้าที่มิวนิค มันเรียกได้สูงกว่านี้อีก แต่ตอนนั้นถ้าได้แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ เพราะผมรู้ว่าผมยังไม่มีความสามารถพอ
กับเงินเดือนที่มากกว่านี้ ทางบริษัทก็บอกว่า อีกสองวันจะให้คำตอบ