คือกำลังหารายละเอียดของ U-NET อยู่อะครับสามารถดูได้ที่ไหนบ้างครับ
• จะสอบอะไรบ้าง
• เหตุผลที่ต้องมี U-NET
• ผลการสอบนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
• ผลที่จะตามมาต่อตัวบุคลที่สอบ ผลที่จะตามมาต่อม.
จากที่หาอ่านได้นะครับ
จาก
http://education.kapook.com/view86935.html
การทดสอบดังกล่าวเป็นการประเมินมาตรฐานบัณฑิตตามที่กฎหมายกำหนด โดยยึดกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ หรือทีคิวเอฟ
•คำถามคือ ประเมินมาตรฐานบัณฑิตกำหนดไว้ว่าอย่างไร แล้วการจัดสอบนี้วัดผลได้ตรงตามมาตรฐานจริงหรือ เป็นที่ยอมรับของสากลหรือป่าว
ซึ่ง U-NET เป็นการทดสอบอย่างรอบด้าน และสามารถไปปรับใช้กับการทดสอบการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต หรือการทดสอบอื่น ๆ ของ สทศ. ได้
•คำถามคือ นักเรียน กับ นักศึกษานั้นให้ความสำคัญต่อวิชาๆ หนึ่งเหมื่อนกันทุกคนหรือ
การทดสอบยูเน็ตปีแรกเป็นความสมัครใจของมหาวิทยาลัยนั้น............. สทศ. จะจัดกิจกรรมรณรงค์ให้เห็นความสำคัญของการสอบยูเน็ต และจะประสานไปยังนายจ้างของสถานประกอบการต่าง ๆ เพื่อขอให้ใช้ผลการทดสอบยูเน็ตเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานในสถานประกอบการนั้น ๆ
•คำถามคือ ถ้าม.ไม่ได้เข้าร่วมการสอบ นศ.ก็จะเสียเปรียนในการหางานหรือไม่ แล้วการพิจารณาคัดเลือกบุคคลของสถานประกอบเขาไม่ได้มีการสอบของเขาอยู่แล้วหรือ จึงจำเป็นต้องนำ U-NET มาป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา
จาก
http://www.thairath.co.th/content/418378
เป็นการนำร่องแบบเอาจริง ที่จะมีบางส่วนการทดสอบยูเน็ตเข้ามาใช้ เพราะมีการวัดทักษะเดียวกัน ต่างกันเฉพาะการทดสอบด้านวิชาชีพ
•คำถามคือ อาชีพอาชีพหนึ่งเนียเขาจำเป็นต้องมีทักษะเดียวกันหมดเลยหรือครับ คือถ้าคนหนึ่งความจำดีแล้วตอบคำถามได้ กับอีกคนความจำไม่ดีแต่สามารถวิเคาระห์จนตอบคำถามถูก ถามว่าเป็นการวัดทักษะเดียวกันหรือไม่
สทศ.ได้ทำความเข้าใจกับทางมหาวิทยาลัยต่างๆ ผ่านทางรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งส่วนของสภาคณบดีครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย
•คำถามคือ แล้วพวกคุณไม่คิดจะทำความเข้าใจกับผู้ที่ต้องเข้าสอบหน่อยหรือครับ
จาก
http://www.thaipost.net/news/240314/87940
เบื้องต้นจะเป็นการจัดสอบฟรีให้แก่นิสิตนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายของทุกหลักสูตร ระดับปริญญาตรี โท และเอกทั่วประเทศ
•คำถามคือ หลังจากเบื้องต้นไปแล้วนี้คือต้องเสียค่าสมัครใช่ไหม
เพื่อให้ สมศ.นำคะแนนไปใช้ในการประเมินมหาวิทยาลัยในปี 2558
•คำถามคือ จากTQF (
http://arit.chandra.ac.th/sar/TQF.pdf ) โดยเปิดโอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถจัดหลักสูตร
ตลอดจนกระบวนการเรียนการสอนได้อย่างหลากหลายโดยมั่นใจถึงคุณภาพของบัณฑิตซึ่งจะมี
มาตรฐานผลการเรียนรู้ตามที่มุ่งหวัง สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุขและภาคภูมิใจเป็นที่พึง
พอใจของนายจ้าง - สรุปว่าคุณจะเปิดอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถจัดหลักสูตรได้เอง หรือจะนำผลการสอบมาควบคุมให้สถาบันอุดมศึกษาต้องสอนวิชานั้นๆตามต้องการ ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดกันวิชาที่เปิดโอกาศให้นักศึกษาได้วิเคาระห์ ได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์
สรุปคือกำลังหาข้อมูลต่างๆเพื่อวิเคราะห์ว่า มันสมเหตุสมผลไหมที่จะมีการสอบ U-NET หรือเป็นการกระทำที่เกิดกว่าเหตุโดนผลที่ได้นั้นแทบไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆเลย
U-NET
• จะสอบอะไรบ้าง
• เหตุผลที่ต้องมี U-NET
• ผลการสอบนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
• ผลที่จะตามมาต่อตัวบุคลที่สอบ ผลที่จะตามมาต่อม.
จากที่หาอ่านได้นะครับ
จาก http://education.kapook.com/view86935.html
การทดสอบดังกล่าวเป็นการประเมินมาตรฐานบัณฑิตตามที่กฎหมายกำหนด โดยยึดกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ หรือทีคิวเอฟ
•คำถามคือ ประเมินมาตรฐานบัณฑิตกำหนดไว้ว่าอย่างไร แล้วการจัดสอบนี้วัดผลได้ตรงตามมาตรฐานจริงหรือ เป็นที่ยอมรับของสากลหรือป่าว
ซึ่ง U-NET เป็นการทดสอบอย่างรอบด้าน และสามารถไปปรับใช้กับการทดสอบการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต หรือการทดสอบอื่น ๆ ของ สทศ. ได้
•คำถามคือ นักเรียน กับ นักศึกษานั้นให้ความสำคัญต่อวิชาๆ หนึ่งเหมื่อนกันทุกคนหรือ
การทดสอบยูเน็ตปีแรกเป็นความสมัครใจของมหาวิทยาลัยนั้น............. สทศ. จะจัดกิจกรรมรณรงค์ให้เห็นความสำคัญของการสอบยูเน็ต และจะประสานไปยังนายจ้างของสถานประกอบการต่าง ๆ เพื่อขอให้ใช้ผลการทดสอบยูเน็ตเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานในสถานประกอบการนั้น ๆ
•คำถามคือ ถ้าม.ไม่ได้เข้าร่วมการสอบ นศ.ก็จะเสียเปรียนในการหางานหรือไม่ แล้วการพิจารณาคัดเลือกบุคคลของสถานประกอบเขาไม่ได้มีการสอบของเขาอยู่แล้วหรือ จึงจำเป็นต้องนำ U-NET มาป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา
จาก http://www.thairath.co.th/content/418378
เป็นการนำร่องแบบเอาจริง ที่จะมีบางส่วนการทดสอบยูเน็ตเข้ามาใช้ เพราะมีการวัดทักษะเดียวกัน ต่างกันเฉพาะการทดสอบด้านวิชาชีพ
•คำถามคือ อาชีพอาชีพหนึ่งเนียเขาจำเป็นต้องมีทักษะเดียวกันหมดเลยหรือครับ คือถ้าคนหนึ่งความจำดีแล้วตอบคำถามได้ กับอีกคนความจำไม่ดีแต่สามารถวิเคาระห์จนตอบคำถามถูก ถามว่าเป็นการวัดทักษะเดียวกันหรือไม่
สทศ.ได้ทำความเข้าใจกับทางมหาวิทยาลัยต่างๆ ผ่านทางรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งส่วนของสภาคณบดีครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย
•คำถามคือ แล้วพวกคุณไม่คิดจะทำความเข้าใจกับผู้ที่ต้องเข้าสอบหน่อยหรือครับ
จาก http://www.thaipost.net/news/240314/87940
เบื้องต้นจะเป็นการจัดสอบฟรีให้แก่นิสิตนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายของทุกหลักสูตร ระดับปริญญาตรี โท และเอกทั่วประเทศ
•คำถามคือ หลังจากเบื้องต้นไปแล้วนี้คือต้องเสียค่าสมัครใช่ไหม
เพื่อให้ สมศ.นำคะแนนไปใช้ในการประเมินมหาวิทยาลัยในปี 2558
•คำถามคือ จากTQF ( http://arit.chandra.ac.th/sar/TQF.pdf ) โดยเปิดโอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถจัดหลักสูตร
ตลอดจนกระบวนการเรียนการสอนได้อย่างหลากหลายโดยมั่นใจถึงคุณภาพของบัณฑิตซึ่งจะมี
มาตรฐานผลการเรียนรู้ตามที่มุ่งหวัง สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุขและภาคภูมิใจเป็นที่พึง
พอใจของนายจ้าง - สรุปว่าคุณจะเปิดอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถจัดหลักสูตรได้เอง หรือจะนำผลการสอบมาควบคุมให้สถาบันอุดมศึกษาต้องสอนวิชานั้นๆตามต้องการ ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดกันวิชาที่เปิดโอกาศให้นักศึกษาได้วิเคาระห์ ได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์
สรุปคือกำลังหาข้อมูลต่างๆเพื่อวิเคราะห์ว่า มันสมเหตุสมผลไหมที่จะมีการสอบ U-NET หรือเป็นการกระทำที่เกิดกว่าเหตุโดนผลที่ได้นั้นแทบไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆเลย