แก้ไข คำเตือนสำหรับผู้ที่ใช้บริการเทสโก้โลตัส!!!!!

ขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะคะว่าส่วนตัวแล้วไม่เคยมีอคติกับเทสโก้โลตัส และเป็นลูกค้าประจำของเทสโก้มาตลอด ทุกๆเดือนครอบครัวหลินเคยใช้จ่ายกับห้างนี้หมื่นกว่าถึงสองหมื่นเสมอมาจนกระทั้งเกิดเรื่องล่าสุดนี้แหล่ะค่ะ

ความไร้มาตรฐานในเรื่องความปลอดภัยต่อผู้บริโภคของเทสโก้โลตัสสาขาบางแคและไร้การใส่ใจดูแลหลังเกิดเหตุต่อญาติของหลิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2557 (หลินเพิ่งมารู้เรื่องวันที่15 เมษายน 2557 เพราะญาติโทรมาขอให้ช่วย)

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2557: ญาติเรา(เป็นเกษตกร) เดินทางมาจากต่างจังหวัด ไปเดินซื้อของที่เทสโก้โลตัสสาขาบางแค ในระหว่างที่เลือกดูสินค้าอยู่ เห็นว่ามีรถเข็นของๆพนักงานเข็นมาได้พยายามหลบหลีกจนตัวเองแนบชิดกับชั้นๆที่วางสินค้าแล้ว แต่ก็ไม่วายถูกรถเข็นของแบบพาเลทไม้(ไม่เรียบมีเสี้ยนขรุขระ)ของเทสโก้ชนจนเสี้ยนไม้ทิ่มเข้าไปในขาเกิดบาดแผลรูใหญ่และลึกประมาณ 2 นิ้ว เลือดไหลออกมามากเพราะพนักงานไม่ดูดีๆ หลังถูกชนด้วยความเจ็บพยายามส่งเสียงเรียกพนักงานให้หยุดหลายรอบแต่พนักงานผู้หญิงคนนั้นก็ไม่สนใจเข็นต่อไปเรื่อยๆ จนต้องวิ่งไล่ตามและส่งเสียงโวยวายเสียงดังต่อว่าถึงยอมหยุดเดินกลับมาดู เมื่อมาถึงเห็นญาติหลินผิวดำคล้ำ พูดจาไม่ฉัดฉาน เพื่อนพนักงานด้วยกันที่มามุงดูเหตุการณ์นั้น เมื่อเห็นว่าเป็นคนต่างจังหวัดพูดจาไม่ฉัดฉาน ก็ยังมีการพูดจาดูถูกถากถางให้เกรงกลัวในทำนองว่าเป็นพม่าหรือเปล่า (ประเด็นคือมันเกี่ยวอะไรกับที่เพื่อนพนักงานคุณทำงานสะเพร่าจนเพิ่งชนญาติเราบาดเจ็บเหรอ ???!!?) นี่เป็นการแสดงให้เห็นเลยว่า Tesco Lotus นอกจากหลากหลวมในเรื่องมาตรการความปลอดภัยถึงประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้แล้วยังไร้ประสิทธิภาพในการอบรมพนักงานอย่างมากของเทสโก้ เมื่อมีการโวยวายเสียงดังจนมีลูกค้าคนอื่นๆมามุงดูถึงไดัเรียกให้เข้าไปทำแผลกับฝ่ายพยาบาลของเทสโก้ ซึ่งปรากฎว่าฝ่ายพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถทำแผลได้ ต้องไปให้ที่โรงพยาบาลทำให้ เนื่องจาพแผลใหญ่และลึก ญาติเราอีกคนที่เป็นผู้หญิงก็ต้องขับรถไปส่งที่โรงพยาบาลเองเพราะเจ้าหน้าที่เทสโก้แจ้งว่ารถไม่ว่างหรือไม่มีรถที่จะพาไปได้ แล้วทาง Tesco Lotus ค่อยตามมาที่โรงพยาบาล ไปถึงโรงพยาบาลทำแผลเสร็จญาติเราก็สุดแสนจะซื่อไม่มีการขอชื่อหรือเบอร์โทรของเจ้าหน้าที่ของโลตัส ฝั่งนั้นก็ไม่มีกัจิตกะใจที่จะให้ไว้แต่อย่างใด จนถึงวันนี้ วันนี้ที่ 15 เมษายน 2557

15 เมษายน 2557: ไปทำแผลที่โรงพยาบาลเกษมราษฎ์อีกครั้ง คุณหมอก็แนะนำว่าหลังจากนี้ต้องให้มาทำแผลทุกวันที่โรงพยาบาลทำเองไม่ได้ เพราะลักษณะของแผลที่ถูกแทงเข้าไปลึกและต้องมีการใส่เฝือก เกิดเรื่องก็ตอนนี้ที่ญาติเราโทรมาขอให้ช่วย เพราะเขาจะต้องเดินทางกลับต่างจังหวัดในวันพรุ่งนี้ 16 เมษายน ไม่รู้เรื่องการส่งตัวจะต้องทำอย่างไร จะติดต่อใครที่ Tesco Lotus เพราะโรงพยาบาลแจ้งว่าคนไข้ต้องไปติดต่อเอง และด้วยความที่ถูกดูหมิ่นมาก่อนในวันเกิดเหตุญาติหลินก็ไม่กล้าที่จะไปติดต่อหรือขอให้ช่วยดูแลต่อหลังจากส่งตัวไปต่างจังหวัด เกรงกลัวว่าเจ้าหน้าที่ Tesco Lotus จะข่มขู่ไม่ยอมดูแลค่ารักษาที่คุณหมอจะส่งตัว (คือลองนึกภาพเกษตกรที่ทำไร่ทำสวนไม่มีความรู้หรือฉลาดเท่าเทียมคนกรุงนะคะที่จะมานั่งต่อกร และไม่ได้มีรายได้ทุกเดือนแบบเราๆ แถมตอนนี้แม้แต่เดินเหินก็ไม่สะดวกเพราะต้องใส่เฝือก ทำงานไม่ได้จะไปเอาเงินทองที่ใหนมาจ่ายค่ารถเดินทางไปโรงพยาบาล จ่ายค่าหมอทุกวัน) หลินรับรู้เรื่องราวมาก็ค่อนข้างมีอารมณ์ในตอนแรก แต่ก็พยายามใจเย็น เมื่อคุยกับทางโรงพยาบาลคุยกับคุณหมอเสร็จก็ต้องพยายามหาทางติดต่อกับทาง Tesco Lotus ขอบอกว่าใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆและโทรหาหลากหลายฝ่ายหลายคนค่ะกว่าจะได้คุยรู้เรื่อง (เพราะการโยนไปโยนมา เข้าใจว่าเป็นช่วงวันหยุดยาวด้วย ก็พยายามเข้าใจทุกฝ่าย) ในที่สุดหลินได้ชื่อและเบอร์มือถือของผู้จัดการฝ่ายประกัน ที่เจ้าหน้าที่ Tesco Lotus แจ้งหลินว่ารู้เรื่องเคสของญาติหลินแบะเป็นผู้ดูแลโดยตรงในเรื่องการดูแลเยียวยา ให้หลินโทรไปคุยได้เลย โทรไปปุ๊บไม่รู้เรื่องค่ะ บอกปัดทุกอย่าง แถมต้องเจ็บใจกับคำพูดที่ว่า "ก็ต้องให้ทนายดูก่อน" จนหลินโมโหย้อนถามว่า "คุณกำบังบอกหลินว่าเจ้าหน้าที่ Tesco Lotus ที่ให้เบอร์มือถือคุณมาเนี๊ยะโกหกหลินใช่ไหม ขออัดเสียงเพื่อยืนยันนะ" คำพูดแบบนี้ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อนะคะ โดยเฉพาะกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ๆไร้คุณภาพจากพนักงานของคุณ อย่าเพียงแค่มองว่าบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บไม่ฉลาดเท่าเทียมกับคุณเลย เอาเปรียบเท่าที่จะเอาเปรียบได้ เพราะพนักงานและมาตรการความปลอดภัยที่ไม่ได้เรื่องของบริษัทคุณญาติเราทำงานไม่ได้ ต้องเจ็บตัว เสียเวลา แถมยังโดนดูถูกจากคนของคุณ ไม่ได้เรียกร้องอะไรเลยนอกจากค่ารักษาพยาบาลตามจริง หรือจะให้ต้องคนหัวหมอเรียกร้องค่าทำขวัญ ชดเชยการบาดเจ็บทำงานไม่ได้ด้วยไหมคะ หรือดิฉันต้องไปจ้างทนายมาฟ้องร้องกับทาง Tesco Lotus???!!

รวบรัดนิดนึงมาถึงปัจจุบันค่ะ ถ้าใครเกิดโชคร้ายเหมือนครอบครัวหลิน ต้องรีบดำเนินการแจ้งความ อย่าเชื่อใจ อย่าไว้ใจถึงแม้เจ้าหน้าที่จะโทรมาบอกว่าจะรับผิดชอบให้ เพราะหลินเจอมากับตัวแล้วค่ะโทรมาพูดจาดิบดี ขอให้หลินลบสิ่งที่เขียนโพสในเฟสบุ๊คเพราะถูกตำหนิ หลินบอกไปว่าหลินยินดีลบให้เพราะจริงๆแรกเริ่มก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายใคร แค่ต้องการคนมาดูแลรับผิดชอบ หลินแค่ขอให้ทำทุกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรถึงความรับผิดชอบที่บอกว่าจะมีให้ ทีนี้โยนให้ประกันมาดู คุยไปคุยมาประกันโยนให้บริษัทกฎหมายมาสืบสวนสอบสวน พอตำหนิบริษัทกฎหมายถึงการดูแลรับผิดชอบที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เค้าก็โยนหลินให้กลับไปคุยกับประกัน คือเข้าใจค่ะว่า Tesco Lotus องค์กรคุณใหญ่ มีลูกค้าเดินเข้ามาเอาเงินประเคนให้ถึงที่ทุกวินาที แม้แต่ครอบครัวหลินเองก็เคยเอาเงินไปจับจ่ายในห้างคุณทุกเดือนแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่าหมื่นกว่าจนถึงสองหมื่น หลังจากนี้คงลาขาดค่ะ คุณดูแลผู้เคราะห์ร้ายจากมาตรการความปลอดภัยที่ไม่ได้เรื่องได้น่ารังเกียจที่สุด

ฝากเป็นประสบการณ์และอุทาหรณ์แก่ทุกคนละกันนะคะ เดินเข้าเทสโก้ให้ระวังตัวให้มากๆเป็นหลายเท่าตัว
ขอให้ทุกคนดำรงชีพอย่างปลอดภัย ที่สำคัญอย่าเขื่อคำพูดเจ้าหน้าที่ Tesco Lotus เด็ดขาด หลินจับโกหกได้เยอะมาก ถ้าเขียนละเอียดคงได้เป็นมหากรรพ์ค่ะ ที่สำคัญคือหลินขอให้บุคคลที่โทรมาคุยกับหลินซึ่งแจ้งหลินว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลและผู้จัดการฝ่ายประกันมาเยี่ยมมาดูแลพูดคุยตอนที่ญาติหลินยังอยู่กรุงเทพฯ ไม่มีค่ะ ไม่มาค่ะ

มาถึงตอนนี้ ตอนที่หลินไม่ยอมแล้วขอเรียกร้องค่าเสียเวลา ค่าทำขวัญ ค่าชดเชยขาดรายได้ 2 อาทิตย์ให้ญาติ เลยเกิดการโยนไปโยนมา ต้องจ้างทนายมาสืบสวนสอบสวนญาติหลินต้องไปสำรวจถึงเชียงราย ซึ่งหลินก็ไม่ได้มีปัญหาให้ทำได้เต็มที่แต่ขอให้จ่ายค่าเดินทางให้หลิน เพราะบอกไปตรงๆว่าไม่วางใจให้ไปคุยเองเพราะชาวบ้านไม่มีวันทันเล่ห์เหลี่ยมทนายพวกนี้ แถมตอนที่ญาติหลินยังอยู่กรุงเทพฯขอให้พวกคุณมาพูดคุยมาเยี่ยม ไม่ยอมโผล่มาสักคน ตอนนี้แหล่ะโยนกันไปมากันจนน่าเกลียดหลินเลยต้องมานั่งเขียนและโพสอีกครั้งเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับคนพวกนี้จริงๆแล้วค่ะ เหนื่อยใจ ที่สำคัญเงินที่เรียกร้องหลินคำนวนแล้วประมาณ 20,000 นิดหน่อย คือมันแค่นี้อ่า ต้องทำให้มันน่าเกลียดกันขนาดนี้เลยเหรอสำหรับองค์กรขนาด Tesco Lotus ถามจริงมันทำให้ธุรกิจคุณล่มจมได้เลยเหรอ จรรญาบัญคุณมีกันแค่นี้เหรอ ความรับผิดชอบต่อชีวิตต่อสังคมทำได้ดีสุดแค่นี้จริงๆเหรอคะ Tesco Lotus ค่ารักษาพยาบาลคุณก็ไม่ต้องจ่ายเพราะญาติหลินยอมใช้บัตรทองของรัฐ แล้วพวกคุณยังมีหน้ามาทำน่าเกลียดขนาดนี้กันได้ยังไง???!?!

เพื่อนๆมีคำแนะนำยังไงช่วยหน่อยเถิดนะคะ สุดจะทนแล้วค่ะ หลินเองใช้พันทิพย์ครั้งแรกเพราะเพื่อนๆในเฟสบุ๊คแนะนำมาค่ะ ครั้งแรกที่เกิดเรื่องก็ไม่ได้มาโพสเองมีเพื่อนทำให้ตามลิ้งค์นี้ค่ะ http://pantip.com/topic/31918174
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่