เมื่อนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังจะเป็นมนุษย์เงินเดือนคนนึงระบายถึงความจริงอันโหดร้ายในสังคมไทย ต้องอ่าน!!!!!!!!

ก่อนทุกคนจะไปอ่าน ขอบอกก่อนว่า "ไม่ใช่คนรู้จักของเรา" และที่แน่นอนที่สุด "ไม่ใช่ตัวจขกท. ถ้าจะด่าก็ช่วยเช็คก่อนด้วยค่ะ"





"และเค้าแชร์กันต่อๆ มาบนเฟสบุ๊ค เราแค่นำมาเผยแพร่ต่อจากที่ได้รับมาจากหลายๆ ทาง ไม่ได้รู้จักเข้าของข้อความ"



คำเตือน
มีเนื้อหารุนแรงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ทนรับความจริงไม่ได้
หากคุณไม่มั่นใจและเป็นพวกอารมณ์อ่อนไหว ควรข้ามไป


................
..............
..........
.........
.....
....
.






เราอ่านแล้วขอบอกว่าฮามากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เรื่องอื่นไม่มีความคิดเห็นนะจ๊ะ

ใครชอบก็ โหวตตตตต XD
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
แล้วมีใครที่ไม่ได้ใช้เงินตอบสนองความต้องการของตนเองบ้างครับ

เงินน้อยไม่ใช่ความผิดใคร แต่มันสะท้อนอะไรบางอย่างในสังคม ที่มีการขูดรีดกดขี่
ลองพินิจพิจารณาดี ๆ นะครับ ว่างานหลายอย่างใช้งานพนักงานเกินคุ้ม เอารัดเอาเปรียบ
มันคือความจริงที่ไม่ว่าใครก็คงไม่ปฏิเสธ
หรือชีวิตมันต้องมีประสบการณ์เยอะ ๆ เงินน้อย ๆ  แลกกับคุณภาพชีวิตที่ต่ำเตี้ย
ทน ๆ ทำเป็นลูกจ้างไปวันวัน???

โลกาภิวัตน์ครับ ทุนนิยมครับ
โลกมันไม่ได้สวยครับ เลิกซักทีนะ

ปล. จขกท เขาไม่ได้โพสต์เองนะครับ เขา copy มาให้ดูขำขำครับ
      แต่เข้าใจว่าความเห็น 5 ก่อนจะโพสต์ ได้ใช้สมองคิด แยกแยะแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 52
แหม่ ชั้นไม่ได้บอกว่าชั้นเก่งนะ แต่ชั้นทนโดนกดขี่ไม่ได้ค่ะ
เผื่อจะนึกภาพออก ผู้ใหญ่ในสังคมเอารัดเอาเปรียบเด็กใหม่ทั้งนั้น
ผิดก็ด่า แต่พอทำผิดเองกลับหัวเราะ โอ้ยอีปลวกปลาตีน
อย่าตบหน้ามันด้วยรองเท้า
แล้วคือเงินก็น้อย มีแต่ระบบอาวุโส ผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว นี้บอกเลยว่าพ่อแม่ไม่ได้สปอยส์ชั้นค่ะ
แล้วก็อย่ามโน ผู้ใหญ่บางคนไม่ได้มีดีอะไรเลย แค่อยู่มาก่อนค่ะ มีแต่ปาก!!!
ชั้นมั่นใจว่าชั้นมีไฟ ชั้นทำได้มากกว่านี้ มากกว่าอิปลวกพวกนี้ค่ะ
โอเคนะคะ พวกเกิดก่อน!!
ความคิดเห็นที่ 36
แต่ทำไมผมมองมุมตรงกันข้ามหว่า - - หรือเพราะอายุมากขึ้นแล้วไม่รู้

ถ้าเป็นผมมองย้อนกลับไป ผมอยากแนะนำเด็กจบใหม่ดูสายงานรวมถึงความรับผิดชอบที่ตัวเองได้รับมากกว่าตัวเงิน

ยิ่งตอนแรกๆ ฐานเงินเดือนแทบจะไม่ต่างกันเยอะด้วยซ้ำ 12000, 15000, มากหน่อยก็ 2 หมื่นกว่า

แต่พอเวลาผ่านไป 4-5 ปี ตรงนั้นแหละ เพื่อนผมที่ Start งาน 2 หมื่นกว่า ได้รับเงินเพิ่มปีละ 10% จะออกก็ไม่ได้ เพราะเปลี่ยนงานลำบาก ความรู้จากประสบการณ์ก็มีนิดเดียว สุดท้ายก็ทนๆทำต่อไปเรื่อยๆ

ตรงกันข้ามกับเพื่อนบางคน สตาร์ทแรกๆก็หมื่นต้นๆ พอขยันมีความรู้ความสามารถ รับผิดชอบงานได้มากขึ้น บ. ก็เพิ่มให้เรื่อยๆ พอเปลี่ยนงาน บ. ในสายงานก็แย่งกันจองตัว เปลี่ยนงานอีก 2-3 ครั้ง เงินเดือนเยอะกว่าคนอื่นๆมากมายเลย

สุดท้ายอยากจะเตือนน้องๆ เรื่องโพส Facebook เอามัน เพราะว่าในอนาคตเรื่องเล็กๆเหล่านี้ มันอาจจะกลับมาย้อนทำร้ายตัวเอง ยิ่งเดี๋ยวนี้ HR หลายๆที่ เอาชื่อของผู้สมัครมา Search google เลยด้วยซ้ำ
ความคิดเห็นที่ 70
แม้นางจะพูดเวอร์เอาขำ แต่ความเป็นจริงเราว่าไม่ต่างจากนี้เท่าไหร่หรอกนะคะ ที่ชัดเจนคือการเอารัดเอาเปรียบ
พอดีสายงานที่เราชอบเงินเดือนมันค่อนข้างน้อย หน้างานบริษัทเลิศลอยมาก เราสัมภาษณ์เสร็จตกลงทำงาน ถึงค่อยมาตกลงเงินเดือน (คนสัมภาษณ์กับคนกำหนดเงินเดือนอยู่ต่างแผนกกัน) บอกเลยว่าคอตกค่ะ ไม่ถึงที่รัฐบาลกำหนดด้วยซ้ำ แต่ที่ทำนี่ทำด้วยใจล้วนๆ งานกินอุดมการณ์นิดหน่อย
เข้างานก่อนแปดโมง เลิกงานจริงสี่โมงสี่สิบห้า แต่หน้างานจริงที่เราทำเราต้องออกจากทีทำงานสองทุ่ม ถึงบ้านสามทุ่ม หนึ่งวันเกิน 12 ชั่วโมงไปแล้ว ในความเป็นจริงไม่ต้องทำงานเสาร์อาทิตย์ ตอนแรกกะว่าไม่เป็นไร เอาเสาร์อาทิตย์มาหารายได้พิเศษ แต่เนื้องานจริงเสาร์อาทิตย์ก็ต้องนั่งทำ
หากมีการออกนอกพื้นที่ มีให้แต่ค่ากินค่ะสามมื้อ ไม่มีค่าล่วงเวลาค่าอื่นใด เคยมีคนขอโอที บริษัทบอกว่าไม่สนับสนุนให้พนักงานอยู่ดึก แต่เขาทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งเสียไม่เห็นว่าความเป็นจริงไม่มีใครกลับตรงเวลาได้
ที่ทำมาจนครบปีเพราะคิดว่าเอาประสบการณ์ และชอบกินอุดการณ์นิดๆนะคะ อยากใช้ความรู้ทีเรียนมาจริงๆ ชอบท้าทาย
แต่เงินเดือนเท่านี้ ไม่เหลือที่ให้อนาคต ให้ความฝันอย่างอื่น ที่สำคัญคือแทบไม่เหลือตอบแทนบุพการีเลยด้วยซ้ำ หลังๆไอ้ที่คิดว่าตัวเองเก่งตัวเองดี ทำงานเพื่อคนอื่นนี่มันเริ่มคิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัวแล้ว พ่อแม่พี่น้องไม่เคยได้พึ่งพา
เราเคยเรียกร้องไปว่าอย่างน้อยควรมีค่าเบี้ยเลี้ยงบ้าง นอกเหนือจากกิน (ออกนอกพื้นที่บ่อย)แต่ถูกคนรอบข้างมองว่า งก คือเขาไม่เข้าใจว่าคนที่ต้องอยู่หอพัก หากินเอง จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่ารถเอง มันน้อยไปสำหรับสิ่งที่ได้รับทุกวันนี้ เพราะส่วนใหญ่คนรอบข้างเป็นคนกทม. อยู่กับครอบครัวตัวเอง หลายคนอาจพูดว่าเด็กสมัยนี้ไม่อดทน จริงๆเราทนได้ค่ะ แต่สิ่งที่เราทนไม่ได้คือพฤติกรรมหลับตาข้างหนึ่ง มองไม่เห็นความเป็นจริงของนายทุนเจ้าของบริษัท แล้วก็ขูดรีดเอารัดเอาเปรียบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแบบนี้
ความคิดเห็นที่ 10
มีรถยนต์ส่วนตัว บุคลิกภาพดี ทำงานภายใต้แรงกดดัน 12,000บาท น้อยเกินไปเช่นที่กระเทยว่าครับ

คนละเรื่องกับยังมีคนที่ได้เงินเดือนต่ำกว่านี้ ลองนึกง่ายๆว่าใครที่ได้เงินต่ำกว่า12,000แล้วมีความรับผิดชอบเท่านี้บ้างครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่