เคยแต่อ่านกระทู้ต่างๆ ในพันทิป แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาโพสเองแบบนี้ ถ้าไม่ได้เจอดีกับตัว วันนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์เลวร้าย และเตือนภัยผู้ที่กำลังจะท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวให้ได้ระมัดระวังตัวกันครับ (T-T)
เรื่องราวมันเกิดขึ้น ในช่วงวันหยุดยาว 5-7 เมษา ที่ผ่านมา...
คงเป็นปกติที่คนทำงานอย่างเราๆ อยากจะหาเวลาพักผ่อน กับกลุ่มเพื่อนในสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ซึ่งครั้งนี้ผมได้สรุปเลือกหาดเจ้าหลาว จันทบุรี ในการไปลั้นลา ตระเตรียมจองที่พักล่วงหน้าช่วยกันหาข้อมูล คิดว่าที่นี่แหละ!! มันใช่ที่สุดละ
เมื่อถึงวันเดินทางพวกผมออกเดินทางแวะนู่นแวะนี่ตามภาษานักท่องเที่ยว กว่าจะไปถึงโรงแรมก็บ่ายแก่ๆ ประตูทางเข้าโรงแรม มีป้ายแจ้งว่าให้รับบัตร แต่ตอนมาถึงกลับไม่มียามเฝ้าที่ประตูเข้า และเหล็กกั้น โดนเลื่อนออกไปด้านข้าง ทำให้สามารถขับเข้าได้เลย ผมจอดรถรอแป๊บนึงไม่เห็นวี่แววเจ้าหน้าที่ จึงขับเข้ารีสอร์ทโดยไม่ต้องรับบัตร
(ในใจก็คิดนิดหน่อย ว่าเข้ามาได้เลยแบบนี้ จะมีป้ายรับบัตรเพื่ออะไร? ในเมื่อบางคันได้รับ บางคันไม่ได้รับบัตร... ?)
ขับมาจอดที่ห้องพักที่จองไว้หลายหลัง ขนสัมภาระจากในรถออกมาเก็บไว้ในที่พัก นั่งพักผ่อนกันเล็กน้อย ก่อนออกไปหาข้าวเย็นกิน ก็ไม่ลืมเช็คความเรียบร้อยภายในบ้าน ปิดหน้าต่างลงกลอน เลื่อนผ้าม่านที่ประตูมาปิดบังตาไว้ ล็อกประตูทางเข้าทั้ง 2 บาน บานนึงต้องล็อกจากภายในบ้าน และออกทางประตูที่ทางโรงแรมให้กุญแจไว้เพียง 1 ดอก
ผมแอบสงสัยอีกล่ะว่าทำไมโรงแรมให้กุญแจทั้งบ้านมาแค่ดอกเดียว ทั้งๆ ที่ข้างในมีห้องนอนแยกอีกตั้งหลายห้อง แต่ดันไม่มีกุญแจของแต่ละห้องให้ด้วย (อยากล็อกในห้องด้วยนี่หว่า)
ขับรถออกไปร้านอาหารซึ่งไปไกลออกไปประมาณนึง ในที่สุดก็เจอร้านอาหารที่ตั้งใจมา นั่งกินข้าวเฮฮากันไป ตื่นตาตื่นใจกับอาหารทะเลแต่ละเมนูที่สั่งมา ขากลับแวะร้านสะดวกซื้อ หาซื้อขนมเล็กๆ น้อยๆ มากินเล่นและสังสรรค์กันต่อที่บ้านพักในเวลากลางคืน ด้วยความไม่คุ้นเคยเส้นทางกว่าจะกลับถึงที่พักก็เกือบ 4 ทุ่ม
.........แต่ความสุขสันต์จากกินอาหารทะเลแสนอร่อย กุ้ง ปู ตัวโตๆ ขนมถุงใหญ่ที่ไปซื้อมาเตรียมพร้อมสนุกกันต่อ ก็ต้องจบลงเมื่อกลับไปถึงบ้านพักแล้วพบความผิดปกติที่เกิดขึ้น!! นั่นคือประตูหน้าที่พักยังปิดอยู่ ...แต่กลับไม่ได้ล็อค!!! และม่านที่ปิดไว้ ถูกเปิดออกบางส่วน!!! ถึงจุดนี้ใจหล่นไปที่ตาตุ่ม..คิดว่าคงเจอดีเข้าแล้ว!!
ผมรีบเข้าห้องตัวเองเพื่อเข้าไปเช็คของที่ทิ้งไว้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพเป็นหลัก เพราะมันเป็นของที่มีมูลค่าสูงมาก แต่ปรากฏว่ามันยังอยู่ โฮ้! ของไม่หาย สบายละ
แต่ผมก็เริ่มเอ๊ะใจว่ากระเป๋าเสื้อผ้าของผมมันหายไปไหนหว่า ก็เริ่มตรวจสอบใหม่ และเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนๆอีกหลายคน ก็เริ่มเข้าใจตรงกันว่า....
ทรัพย์สินมากมายหลายรายการ ที่นำมาเก็บไว้ก่อนออกไปกินข้าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็น โน๊ตบุคและกล้องถ่ายรูปหลายตัว อุปกรณ์ต่างๆ และอื่นๆ รวมมูลค่าหลายแสนบาท ตอนนี้ได้อันตรธานหายไปเรียบร้อยแล้ววววว!!! (พระเจ้า! ผมจะทำยังไงดีเนี่ย!)
เมื่อพอจะตั้งสติได้ ผมก็รีบแจ้งไปยังรีสอร์ทและติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการแจ้งความ....
ถึงตอนนี้ความรู้สึกสนุกสนาน มีความสุข ที่เกิดขึ้นในก่อนหน้า หายไปหมดแล้วครับ กลายเป็นความกังวลและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ...แต่ความรู้สึกแย่ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะเมื่อไปสอบถามและเดินสำรวจสิ่งต่างๆ ในรีสอร์ท ก็พบว่า
1. ทางเข้า ทางออก ที่เหมือนจะมีการรักษาความปลอดภัย ก็ไม่ได้มีการปฏิบัติที่จริงจัง ตัวอย่างเช่น การให้รับบัตรที่ประตูทางเข้ารีสอร์ท
.......เราได้ลองถามไปว่า ตอนที่เรามาทำไมไม่มียามและเข้ามาได้เลย ผู้จัดการตอบว่า "สงสัยไปเข้าห้องน้ำพอดี"
(เออ ก็จริงนะ ไม่มีคนเฝ้าเลยเปิดไว้เลยจะได้ไม่ต้องรอ แต่มันใช่ป่าวว้าาาาาาาาา)
2. เมื่อเดินไปสำรวจรอบๆ รีสอร์ท พบว่ามีทางออกอีกด้านด้วย!! แต่ไม่ใช่ทางออกธรรมดานะครับ แต่เป็นช่องทางออกที่เปิดกว้าง ไม่มีการตรวจเช็คการเข้าออกใดๆ และสามารถทะลุไปยังถนนได้เลย (...อื้มมมม มิน่า ประตูเข้า-ออก ก็หมดความสำคัญแล้วสิ มี backdoor ตรงนี้ = =")
3. หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ขอดูกล้องวงจรปิด กล้องบริเวณหน้าบ้านพักเรานั้น ไม่มีเนื่องจากซ่อมบำรุงอยู่ (เห็นเค้าว่าอย่างนั้น) ส่วนกล้องมุมอื่นๆ ที่มีก็... คุณภาพของภาพประมาณโทรศัพท์จอสีรุ่นแรกๆ = =' แทบจะไม่เห็นรายละเอียดอะไรเลย
ถึงตอนนี้ความเชื่อมั่นในความปลอดภัยไม่เหลือแล้วครับ
ครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ราคาแพงของพวกเราครับ ที่ให้ความไว้วางใจในความปลอดภัยของทางรีสอร์ท ทิ้งของไว้ที่บ้านพัก ถึงแม้ว่าจะว่าปิดห้องดีแล้ว มีรถจอดทิ้งไว้ 1 คัน เปิดไฟทิ้งไว้เหมือนมีคนอยู่อีก ก็ยังเจอดี สมมติว่าถ้าเกิดมีใครในกลุ่มนอนพักอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว ถ้าเป็นผู้หญิง ผมคิดไม่ออกเลยครับว่ามันจะเลวร้ายเพียงใด ครั้งนี้ยังโชคดีที่คนร้ายเข้ามาขโมยของเฉยๆ ไม่ได้สูญเสียถึงขั้นร่างกายและชีวิต
ช่วงนี้ใกล้สงกรานต์แล้ว ขอเตือนเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม อย่ามองข้ามความปลอดภัยของที่พักด้วย ให้ระวังและคอยสังเกต เอาของมีค่าไปก็เก็บไว้กับตัวหรือเก็บไว้ในเซฟ..ถ้ามี (แต่อย่างที่พักที่ผมไปไม่มี)
ประสบการณ์ราคาแพงที่ได้เจอกับตัว จากการเข้าพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่หาดเจ้าหลาว จันทบุรี
เรื่องราวมันเกิดขึ้น ในช่วงวันหยุดยาว 5-7 เมษา ที่ผ่านมา...
คงเป็นปกติที่คนทำงานอย่างเราๆ อยากจะหาเวลาพักผ่อน กับกลุ่มเพื่อนในสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ซึ่งครั้งนี้ผมได้สรุปเลือกหาดเจ้าหลาว จันทบุรี ในการไปลั้นลา ตระเตรียมจองที่พักล่วงหน้าช่วยกันหาข้อมูล คิดว่าที่นี่แหละ!! มันใช่ที่สุดละ
เมื่อถึงวันเดินทางพวกผมออกเดินทางแวะนู่นแวะนี่ตามภาษานักท่องเที่ยว กว่าจะไปถึงโรงแรมก็บ่ายแก่ๆ ประตูทางเข้าโรงแรม มีป้ายแจ้งว่าให้รับบัตร แต่ตอนมาถึงกลับไม่มียามเฝ้าที่ประตูเข้า และเหล็กกั้น โดนเลื่อนออกไปด้านข้าง ทำให้สามารถขับเข้าได้เลย ผมจอดรถรอแป๊บนึงไม่เห็นวี่แววเจ้าหน้าที่ จึงขับเข้ารีสอร์ทโดยไม่ต้องรับบัตร
(ในใจก็คิดนิดหน่อย ว่าเข้ามาได้เลยแบบนี้ จะมีป้ายรับบัตรเพื่ออะไร? ในเมื่อบางคันได้รับ บางคันไม่ได้รับบัตร... ?)
ขับมาจอดที่ห้องพักที่จองไว้หลายหลัง ขนสัมภาระจากในรถออกมาเก็บไว้ในที่พัก นั่งพักผ่อนกันเล็กน้อย ก่อนออกไปหาข้าวเย็นกิน ก็ไม่ลืมเช็คความเรียบร้อยภายในบ้าน ปิดหน้าต่างลงกลอน เลื่อนผ้าม่านที่ประตูมาปิดบังตาไว้ ล็อกประตูทางเข้าทั้ง 2 บาน บานนึงต้องล็อกจากภายในบ้าน และออกทางประตูที่ทางโรงแรมให้กุญแจไว้เพียง 1 ดอก
ผมแอบสงสัยอีกล่ะว่าทำไมโรงแรมให้กุญแจทั้งบ้านมาแค่ดอกเดียว ทั้งๆ ที่ข้างในมีห้องนอนแยกอีกตั้งหลายห้อง แต่ดันไม่มีกุญแจของแต่ละห้องให้ด้วย (อยากล็อกในห้องด้วยนี่หว่า)
ขับรถออกไปร้านอาหารซึ่งไปไกลออกไปประมาณนึง ในที่สุดก็เจอร้านอาหารที่ตั้งใจมา นั่งกินข้าวเฮฮากันไป ตื่นตาตื่นใจกับอาหารทะเลแต่ละเมนูที่สั่งมา ขากลับแวะร้านสะดวกซื้อ หาซื้อขนมเล็กๆ น้อยๆ มากินเล่นและสังสรรค์กันต่อที่บ้านพักในเวลากลางคืน ด้วยความไม่คุ้นเคยเส้นทางกว่าจะกลับถึงที่พักก็เกือบ 4 ทุ่ม
.........แต่ความสุขสันต์จากกินอาหารทะเลแสนอร่อย กุ้ง ปู ตัวโตๆ ขนมถุงใหญ่ที่ไปซื้อมาเตรียมพร้อมสนุกกันต่อ ก็ต้องจบลงเมื่อกลับไปถึงบ้านพักแล้วพบความผิดปกติที่เกิดขึ้น!! นั่นคือประตูหน้าที่พักยังปิดอยู่ ...แต่กลับไม่ได้ล็อค!!! และม่านที่ปิดไว้ ถูกเปิดออกบางส่วน!!! ถึงจุดนี้ใจหล่นไปที่ตาตุ่ม..คิดว่าคงเจอดีเข้าแล้ว!!
ผมรีบเข้าห้องตัวเองเพื่อเข้าไปเช็คของที่ทิ้งไว้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพเป็นหลัก เพราะมันเป็นของที่มีมูลค่าสูงมาก แต่ปรากฏว่ามันยังอยู่ โฮ้! ของไม่หาย สบายละ
แต่ผมก็เริ่มเอ๊ะใจว่ากระเป๋าเสื้อผ้าของผมมันหายไปไหนหว่า ก็เริ่มตรวจสอบใหม่ และเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนๆอีกหลายคน ก็เริ่มเข้าใจตรงกันว่า....
ทรัพย์สินมากมายหลายรายการ ที่นำมาเก็บไว้ก่อนออกไปกินข้าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็น โน๊ตบุคและกล้องถ่ายรูปหลายตัว อุปกรณ์ต่างๆ และอื่นๆ รวมมูลค่าหลายแสนบาท ตอนนี้ได้อันตรธานหายไปเรียบร้อยแล้ววววว!!! (พระเจ้า! ผมจะทำยังไงดีเนี่ย!)
เมื่อพอจะตั้งสติได้ ผมก็รีบแจ้งไปยังรีสอร์ทและติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการแจ้งความ....
ถึงตอนนี้ความรู้สึกสนุกสนาน มีความสุข ที่เกิดขึ้นในก่อนหน้า หายไปหมดแล้วครับ กลายเป็นความกังวลและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ...แต่ความรู้สึกแย่ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะเมื่อไปสอบถามและเดินสำรวจสิ่งต่างๆ ในรีสอร์ท ก็พบว่า
1. ทางเข้า ทางออก ที่เหมือนจะมีการรักษาความปลอดภัย ก็ไม่ได้มีการปฏิบัติที่จริงจัง ตัวอย่างเช่น การให้รับบัตรที่ประตูทางเข้ารีสอร์ท
.......เราได้ลองถามไปว่า ตอนที่เรามาทำไมไม่มียามและเข้ามาได้เลย ผู้จัดการตอบว่า "สงสัยไปเข้าห้องน้ำพอดี"
(เออ ก็จริงนะ ไม่มีคนเฝ้าเลยเปิดไว้เลยจะได้ไม่ต้องรอ แต่มันใช่ป่าวว้าาาาาาาาา)
2. เมื่อเดินไปสำรวจรอบๆ รีสอร์ท พบว่ามีทางออกอีกด้านด้วย!! แต่ไม่ใช่ทางออกธรรมดานะครับ แต่เป็นช่องทางออกที่เปิดกว้าง ไม่มีการตรวจเช็คการเข้าออกใดๆ และสามารถทะลุไปยังถนนได้เลย (...อื้มมมม มิน่า ประตูเข้า-ออก ก็หมดความสำคัญแล้วสิ มี backdoor ตรงนี้ = =")
3. หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ขอดูกล้องวงจรปิด กล้องบริเวณหน้าบ้านพักเรานั้น ไม่มีเนื่องจากซ่อมบำรุงอยู่ (เห็นเค้าว่าอย่างนั้น) ส่วนกล้องมุมอื่นๆ ที่มีก็... คุณภาพของภาพประมาณโทรศัพท์จอสีรุ่นแรกๆ = =' แทบจะไม่เห็นรายละเอียดอะไรเลย
ถึงตอนนี้ความเชื่อมั่นในความปลอดภัยไม่เหลือแล้วครับ
ครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ราคาแพงของพวกเราครับ ที่ให้ความไว้วางใจในความปลอดภัยของทางรีสอร์ท ทิ้งของไว้ที่บ้านพัก ถึงแม้ว่าจะว่าปิดห้องดีแล้ว มีรถจอดทิ้งไว้ 1 คัน เปิดไฟทิ้งไว้เหมือนมีคนอยู่อีก ก็ยังเจอดี สมมติว่าถ้าเกิดมีใครในกลุ่มนอนพักอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว ถ้าเป็นผู้หญิง ผมคิดไม่ออกเลยครับว่ามันจะเลวร้ายเพียงใด ครั้งนี้ยังโชคดีที่คนร้ายเข้ามาขโมยของเฉยๆ ไม่ได้สูญเสียถึงขั้นร่างกายและชีวิต
ช่วงนี้ใกล้สงกรานต์แล้ว ขอเตือนเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม อย่ามองข้ามความปลอดภัยของที่พักด้วย ให้ระวังและคอยสังเกต เอาของมีค่าไปก็เก็บไว้กับตัวหรือเก็บไว้ในเซฟ..ถ้ามี (แต่อย่างที่พักที่ผมไปไม่มี)