[CR] Review : Okinawa trip ปลายหนาวต้นใบไม้ผลิค่ะ ^^

วันนี้จะมารีวิวทริปที่ไม่ค่อยมีใครไปกันสำหรับคนเที่ยวญี่ปุ่น คือหมู่เกาะโอกินาวาค่ะ
ถือเป็นหนึ่งในการออกจากพื้นที่ปลอดภัยของเจ้าของกระทู้เลย เพราะปกติไปแต่พวกวัด วัง พิพิธภัณฑ์ สวน อะไรพวกนี้

ที่จริงแล้วอยากไปโอกินาวามานานแล้ว แต่ไม่ได้ไปสาเหตุเพราะเมื่อก่อนค่าเครื่องบินค่อนข้างแพง และข้อมูลท่องเที่ยวของจังหวัดนี้น้อยกว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด

ก็เลยต้องคลำทางเอาหน่อย

ช่วงเวลาที่เลือกไปนี่ ยังถือว่าเป็น Low season ของโอกินาวาอยู่ แต่เพราะดูเวลางานแล้วน่าจะเหมาะที่สุด ก็เลยไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 8 มีนาคม 2014 ที่ผ่านมา  
ซึ่งถ้าดูตามตารางฤดูกาลจริงๆแล้วมันควรจะเข้าฤดูใบไม้ผลิ แต่เอาเข้าจริงๆ คนพื้นที่บอกว่า "อืม สภาพอย่างนี้ ก็ยังเรียกว่าเป็นหน้าหนาวของที่นี่นะ แม้มันจะมีนาก็เถอะ"

เราไปกันสี่คนค่ะ จากเมืองไทยสามคน และจากญี่ปุ่นไปเจอกันที่สนามบินอีกวันให้หลังอีก1 คน

สายการบินที่ไปคือ Hongkong Airlines ค่ะ
เลือกเพราะราคาถูกสุด ที่หมื่นกว่าบาทไปกลับ ต่อเครื่องที่ฮ่องกง เวลาต่อเครื่องประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งถือว่ารับได้

แต่เอาเข้าจริงๆแล้วค่อนข้างเสียความรู้สึกกับสายการบินนี้ เพราะเครื่อง delay มากค่ะ
ขาไปจากกรุงเทพ delay ชั่วโมง แต่เครื่องที่ออกจากฮ่องลงตรงเวลา
ส่วนขากลับจากนาฮะนี่ delay แล้วมาต่อเครื่องที่ฮ่องกงก็ delay อีกชั่วโมงครึ่ง

เนื่องจาก จขกท. -ไม่เคย- เจอเครื่องบินดีเลย์มาก่อน เลยหัวเสียมาก
แต่เพื่อนบอกว่า ก็เจอกันอยู่บ้างเป็นระยะๆ  
ก็เลยเพิ่งตาเห็นธรรม   ทนๆไปค่ะ

วันแรกออกจากไทยเกือบๆตีสาม ไปถึงโอกินาว่าประมาณบ่ายสองครึ่งค่ะ (เวลาญี่ปุ่น)

สิ่งจำเป็นของการเที่ยวโอกินาวา คือ โทรศัพท์ และ + - Wifi ค่ะ
เพราะส่วนใหญ่จะต้องมีการโทรจอง โทรแจ้ง หรือโทร confirm ค่ะ

โอกินาวาเป็นหมู่เกาะ  เกาะหลัก และเกาะย่อยๆที่ไกลออกไปมีเยอะค่ะ เช่นหมู่เกาะ Yaeyama (Ishigaki, Taketomi, Iriomote, Yubu, Yonaguni, etc) หมู่เกาะ Miyako, หมู่เกาะ Kerama etc.

การเดินทางภายในเกาะหลัก ซึ่งแบ่งเป็น zone เหนือ กลาง ใต้  สะดวกที่สุดคือเช่ารถขับ
ถ้าไม่เช่ารถ ก็ต้อง taxi  (ซึ่งแพง)
ส่วนรถบัส และ monorail มีเฉพาะบางเส้นทาง และการอ่านตารางค่อนข้างยากสำหรับรถบัส เพราะบางเส้นทางไม่มีข้อมูลภาษาอังกฤษเลย

ส่วนเกาะอื่นๆ ถ้าซื้อทัวร์เกาะไป ก็ไม่ต้องเช่ารถขับค่ะ

หลังจากลงสนามบิน สิ่งแรกที่เราทำคือ เดินไปหาบริษัทรถเช่าที่นัดไว้ค่ะ

เราเช่ารถสี่วันแรกกับ ABC Rent-a-car เพราะมีข้อมูลภาษาอังกฤษใน website แม้ website จะดูไม่สวยเท่ายี่ห้ออื่น แต่ด้วยความงกเพราะราคาถูกที่สุด เราก็จองกับ ABC ไปค่ะ แหะ แหะ

(แต่หลังจากนี้ เรามีใช้บริการอีกสองบริษัท ซึ่งจะกล่าวถึงในภายหลังนะคะ)

การจองผ่าน website ของเขา จะต้องแจ้ง flight ของเราไปด้วย และหากไปสายกว่าเวลาที่ควรจะเป็นเกิน 1 ชั่วโมง เขาจะถือว่าเราไม่ show up และไม่รอนะคะ
ดังนั้น เมื่อไปถึงแล้ว เราก็รีบออกไปจาก International Terminal เดินไปฝั่ง Domestic Terminal ที่นัดไว้ทันที  (ห่างกันน่าจะสัก 200-300 เมตรได้)

บริษัทรถเช่า จะมีตัวบริษัทอยู่ไม่ไกลนักจากสนามบิน แต่ก็ต้องนั่งรถไป เดินไปไม่ไหว ดังนั้นเขาจะมีบริการรถ shuttle จากสนามบินไปยังบริษัทค่ะ ซึ่งเป็นแบบนี้ทุกบริษัท  เรียงรายเป็นแถวเยอะมาก คือถ้าไม่ได้จองมาก่อน ก็ไปเดินเลือกเอาตรงนั้นได้เลยค่ะ
หน้า Domestic Terminal จะมีถนนอยู่สองเลน เลนนอกคือจุดที่บริษัทต่างๆมีรถ shuttle bus มากันค่ะ จะมีธงของบริษัทด้วย หาไม่ยากค่ะ

เรารอไม่นานก็มีรถ shuttle bus มารับค่ะ

ไปถึงบริษัท  


รถที่เช่าเป็นรถขนาดใหญ่หน่อย  เพราะคิดว่ารวมสัมภาระด้วยแล้วจะได้นั่งกันสบาย ปกติรถเช่าเขาจะให้เลือกขนาดรถได้ (เราเลือก size ประมาณ Teana ไป)   แต่เลือกรุ่นไปเลยไม่ได้ค่ะ
ที่เราได้คือ Nissan Dualis กึ่งๆ offroad นิดๆ


บริษัท ABC ใหญ่ดีค่ะ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้เล็กน้อยเท่านั้น เอกสารที่ให้มีภาษาอังกฤษเล็กน้อย แต่พออยู่ได้ค่ะ GPS นี่สำคัญมาก  บางบริษัทมีบริการ GPS ภาษาอังกฤษด้วย แต่ที่ ABC ไม่มีค่ะ  อย่างไรก็ตาม พนักงานจะสอน basic การใช้คร่าวๆให้อยู่แล้ว ก็ไปกันได้ค่ะ
ข้อดีของ GPS ญี่ปุ่นคือ มันใส่เป็นตัวเลข MAPCODE หรือ เบอร์โทรศัพท์ แทนชื่อของสถานที่หรือที่อยู่ได้ค่ะ  อันนี้หละที่ทำให้แม้ว่าโปรแกรมมันจะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เราก็อยู่กันได้ค่ะ

เวลาเช่ารถ ขอแนะนำให้ซื้อประกันเต็มที่ไปเลยนะคะ อย่างกค่ะ ของอย่างนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นทีจ่ายบานเลย ซื้อประกันไปเลยค่ะ

ก่อนรับรถ เขาจะเติมน้ำมันมาเต็มอยู่แล้ว  บางบริษัทตอนที่เราเอามาคืน จะให้เติมมาจากปั๊มใกล้ๆ + -  เอาใบเสร็จมาด้วย  แต่ของ ABC เขามีปั๊มที่สำนักงานเลย  ก็เอามาเติมที่นี่ตอนคืนรถได้เลยค่ะ

เอกสารที่ต้องใช้ตอนเช่ารถคือ ใบขับขี่สากล
ส่วนใหญ่แล้ว (ลองสอบถามดูอีกทีนะ) คนขับจะต้องเป็นคนที่ลงทะเบียนกับเขาไว้ ถ้าเป็นคนอื่นขับแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะไม่ครอบคลุมนะคะ

เช่ารถกันแล้ว เราก็ไปโรงแรมก่อนออกไปเที่ยวค่ะ
ที่พักคืนแรกคือ Mercure Naha  ซึ่งที่จริงแล้ว.. อยู่ติดกับสถานี Monorail Tsubogawaเลยค่ะ (สามารถนั่งจากสนามบินมาได้เลย)  

โรงแรม Chain ของ Mercure ได้มาตรฐานตามสไตล์ค่ะ  
ข้อดีของที่นี่ คือ พนักงานพูดปะกิตได้ดีมากกก และมีบริษัทรถเช่า OTS Rent-a-car อยู่ที่โรงแรมเลยค่ะ
ตรงข้ามเป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่มากๆ  

วันแรกเราไปถึงก็เย็นแล้ว เลยออกไปเดินเที่ยวใกล้ๆและหาอะไรกินกัน
สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าถนน Kokusai Dori อยู่ไม่ไกล ห่างไปแค่สองสถานี Monorail ไม่ต้องขับรถไปหรอกเพราะอาจไม่มีที่จอด ให้นั่ง monorail ไปค่ะ  
เราเลยได้ใช้บริการ Yui rail ในที่สุด นั่งไปลงที่สถานี Kencho-mae แล้วเดินไปอีกหน่อยก็ถึงถนน Kokusai Dori ค่ะ  สังเกตไม่ยาก เพราะคึกคักมากค่ะ

หน้าตา Yui Rail ค่ะ

จากสถานี เดินผ่านอาคารห้างอะไรสักอย่าง ทางเข้าสวยดี

ก่อนเข้าถนน Kokusai Dori ขอให้คิดไว้ว่า ที่นี่ไม่ใช่ญี่ปุ่นนะคะ

เพราะ style ร้านมันไม่เหมือนญี่ปุ่น mainland เลยค่ะ
ร้านฉูดฉาด เพดานสูง โฆษณาเต็มที่ ร้านขายของฝากของที่ระลึกเยอะเต็มสองแนว ไม่มีร้าน MatsuKiyo ให้สาวๆได้ช้อปกันหรอก ส่วนใหญ่ขาย เครื่องแก้ว เครื่องปั้นดินเผา Shisa ทุกแนว เหล้า awamori, เหล้างูสามเหลี่ยม ดูแล้วไม่มีอะไรที่น่าซื้อสักเท่าไหร่ในความเห็นเรา ก็กะว่าแค่เดินๆเอาบรรยากาศพอ



แต่เอาเข้าจริงๆมีร้านดีๆน่าซื้ออยู่เยอะค่ะ ค่อยๆเดินไปกันนะ
ร้านขาย beniimo tart  (ทาร์ตมันม่วง) ที่ใหญ่ๆก็มี ร้านขายของกุ๊กกิ๊กอย่าง “splash” ที่ขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของประดับบ้านสไตล์ทะเล๊ ทะเล ที่น่ารักมากๆ (หมดตังค์กันไปทุกคน)  ร้านขายเครื่องแก้วและเครื่องปั้นดินเผาที่ดูมีระดับ (ราคาก็ด้วย) ร้าน specialty shop ขายแต่เกลือ เป็นร้อยๆชนิดจากทั่วโลก และไอติมเกลือก็มีขาย แปลกดี  (ลองดูแล้วอร่อยดี)   และอื่นๆอีกมากมาย

ร้านขายเกลือที่ข้างในห้ามถ่ายรูป

ไอติมเกลือ มีหลายแบบ แบบที่มีเกลิอให้เหยาะก็มี

ร้าน Splash ที่มีสามสาขา(อย่างน้อย)บนถนนเส้นนี้

รวมทั้งมี Tourist Lounge ที่มีพนักงานเต็มใจให้บริการเต็มที่และมีคาเฟ่ที่นั่งพักจิบเครื่องดื่มได้ด้วย

สนุกดีค่ะ

ร้านอาหารก็มีเยอะ

ระหว่างเดิน สังเกตป้ายเตือนระดับความสูงของพื้นที่ในกรณีที่มีทสึนามิด้วย แบบนี้ค่ะ

เราเดินก็พอใจแล้วก็ถึงเวลาทานมื้อเย็น  
ก่อนหน้านี้ วางแผนมาว่า วันหนึ่งของทริปจะต้องไปกินอาหารเคล้าการแสดง 555 ที่ร้านอันแสนไฮโซสักครั้ง

พอมาถึงโรงแรมก็เปิดดู website ของร้านแล้วก็พบว่า หากจองทางอินเตอร์เน็ตมาก่อนจะได้รับส่วนลด 5% ก็เลยจัดการไปเรียบร้อย   ร้านที่ว่าชื่อ Urashima Dinner Theatre ค่ะ อยู่ไม่ห่างจาก Kokusai Dori นัก เดินไปประมาณ 10 นาทีค่ะ
ที่จริงตอนจองเขาให้ลงเลือก menu อาหารเลย ซึ่งเราเลือกสุ่มๆไป ส่งใบจองไปแล้วยังไม่ได้รับเมลตอบกลับ เลยคิดว่าคงจองไม่ทัน อาจต้องจองล่วงหน้าหลายๆวัน
ยังไงก็อยากดู แวะถามที่ Tourist Lounge เขาก็บอก ไปเลยก็ได้ น่าจะมีที่ และให้เราไปตั้งแต่ทุ่มนึง นั่งกินไปรอไปจะได้ดูการแสดงทั้งรอบทุ่มและสองทุ่มไปเลย

เราก็เลยรีบเดินกันไป ซึ่งก็ทันพอดี
ร้านอยู่ในซอยเล็กๆค่ะ  
หน้าร้านแบบนี้

ป้ายเขียนด้วยตัวฮิรากานะ ว่า Urashima ค่ะ

อาหารเซ็ต มีให้เลือกแบบ Okinawan อย่างเดียว หรือแบบ Okinawan ปนญี่ปุ่น (มีเมนูภาษาอังกฤษอธิบาย และพนักงานพูดได้ดีทีเดียว)
ราคาตั้งแต่ 3000 ปลายๆ ไปจนถึงหมื่นกว่าเยนต่อเซ็ต  เราเลือกกันกลางๆค่ะ เอามาลอง

การแสดงบนเวที แบ่งเป็นการแสดงย่อยๆสั้นๆหลายอย่าง แต่งชุดแบบโอกินาวาแท้ๆ คึกคักบ้าง แนวนิ่งๆบ้าง ปนกัน สนุกดีค่ะ กินไปชมไป รอบละครึ่งชั่วโมง

อาหารก็เป็นอาหารสุดแสนไฮโซ มื้อแรกในโอกินาวาของเรา ที่จริงก็ไม่ค่อยรู้จักอะไรเท่าไหร่ แต่มาคิดย้อนหลังแล้ว เป็นมื้อที่รวมอาหารโอกินาวาพื้นบ้านไว้เยอะมาก และอร่อย!
Rafute นี่ ละลายในปากเลย กลมกล่อมมากๆ


ส่วนกุ้งอบซอสนี่ก็อร่อยมากๆ  (แบบตัวเล็กอร่อยกว่าแบบตัวใหญ่ที่จะเลี่ยนไปนิดค่ะ)

หลังจบการแสดง มีบริการถ่ายภาพกับนักแสดงให้ด้วย เขาเรียกเราขึ้นไปกลุ่มแรกเลย  ดีใจ ^^


ตอนจ่ายเงิน เว็คเมลแล้วเขามีส่ง  confirm ใบจองมาพอดี เลยเดินบอกที่เคาน์เตอร์ว่าจองในเน็ตมา แต่อาหารไม่ได้สั่งตามนั้นอ่ะ มันโอเคมั้ย เขาก็ใจดี บอกโอเคเลย  ลดไป 5%ถ้วนค่ะ ^^

ทานเสร็จแล้วเราก็เดินกลับโรงแรมกันค่ะ ไม่ไกล อากาศเย็นสบายๆ ไปเรื่อยๆ แวะ convenient store ซื้อของกินมื้อเช้าวันรุ่งขึ้น เพราะจะต้องออกเดินทางกันแต่เช้าค่ะ เพื่อไปดูวาฬ
ชื่อสินค้า:   okinawa, naha, nago, nanjo, motobu, churaumi, yaeyama islands, ishigaki, taketomi, iriomote, yubu, japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่