รายสุดท้ายซักที ... เป็นละครที่ทำให้เขียนกระทู้มากที่สุดในรอบหลาย ๆ ปีที่เล่นพันทิปมา ถ้านับหน้ากันคงหนาจนน่าออกหนังสือขายได้เลย (มีคนซื้อ ?) โอเค นอกเรื่องไปไกลเกิ๊น กลับเข้าสู่ประเด็นตัวละครตัวสุดท้ายซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรื่อง ตัวละครที่ซับซ้อนและน่าจะเป็นตัวละครที่ไม่แน่ใจว่าการเขียนสด ๆ ครั้งนี้ (ทุกทีก็สดนะ) จะสรุปใจความได้ครบถ้วนหรือไม่ แต่เอาเป็นว่า ... มาลองดูกัน
ไมค์ ธาวิน ซุปตาร์ตีนไก่ เป็นผู้ชายที่มีสองมุม มุมที่แสดงออกกับคนภายนอก และ มุมที่สงวนไว้สำหรับคนที่ใกล้ชิด ทั้ง boyish และ mature ในคราวเดียวกัน และ การ swing ของสองส่วนนี้มีผลอย่างมากกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Full house วุ่นนักรักเต็มบ้าน ไมค์เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ที่มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ข้างในลึก ๆ ความอึดอัดคับข้อง ความไม่พอใจ ที่ต้องกลบมันเอาไว้เมื่ออยู่หน้ากล้อง ในแวดวงแห่งอาชีพของตน
กลางแสงไฟไมค์คือซุปตาร์ ร้องเต้นเล่นละครถ่ายโฆษณา แต่ทว่าไม่ค่อยมีเวลาเป็นของตัวเอง ในความรู้สึกของเจ้าตัว ชีวิตของไมค์ดำเนินไปเหมือนปลาทองในตู้ ไม่เพียงแต่ภาพลักษณ์ที่ต้องรักษาในการงานเท่านั้น แต่มันอาจจะโยงไปได้ถึงครอบครัว เมื่อยามที่มายด์น้องสาวของไมค์เสียชีวิต ผู้เป็นพ่อไม่มีอาการเสียใจ ไม่พูดและไม่กล่าวอันใด หรือ ชีวิตลูกสาวคนหนึ่งอาจจะเหมือนปลาทองในตู้สักตัวที่สิ้นลมไป พ่อถึงไม่พูดอะไรเลย ... ครอบครัวของไมค์ไม่เหมือนเดิมนับแต่วันนั้น ไม่มีใครพูดกันเงียบเป็นหอยหุบกาบ กระทั่งในเรื่องความรัก .... ไมค์ก็ยังเป็นเพียงปลาทองในตู้ของมินตราผู้หญิงที่ตัวเองพึงใจ เป็นสิ่งของประดับบารมี มาช้อนชูเมื่อยามเหงา และ ทิ้งขว้างไม่ต้องการตามแต่ใจและอารมณ์ของ egoistic girl
ท่ามกลางความกดดันและการถูกทรีตในลักษณะ passive พ่อที่เป็นเพศชายเช่นเดียวกันและเป็นผู้นำของบ้าน ไม่แสดงอารมณ์ และ ไม่ช่างอธิบายเจรจามีส่วนหล่อหลอมให้ไมค์มีบุคคลิกที่ดูท่าทางเย็นชา การที่ตกอยู่ใต้อาณัติผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งยอมทุกอย่างไมค์เป็นได้แค่คนตั้งรับในลักษณะ passive อีกเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ไมค์ไม่สามารถแสดงออกถึงความต้องการที่แท้จริง รวมทั้งการขาดทักษะการสื่อสารที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ด้วยธรรมชาติของงานในวงการที่ต้องรักษาระดับความสามารถให้สูงอยู่เสมอ รวมทั้งนิสัยไม่ยอมแพ้ของเจ้าตัว การงานที่แม้จะมีส่วนเสี้ยวของความอึดอัดใจอยู่บ้างก็ยังเป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าตัวรักและภาคภูมิจึงพยายามรักษาได้อย่างดี
ดังนั้นภาคหน้ากล้องที่ต้อง perfect อยู่เสมอ กับทีมงานภายนอกไมค์คือมืออาชีพ กับคนที่ไม่ได้มีความใกล้ชิดไมค์หันมุมที่มีความเป็นผู้ใหญ่เข้าหา งานที่ออกมาก็ดีเวอร์ เป๊ะเว่อร์ เนี้ยบเว่อร์ แต่มันก็ทำให้เกิดความกดดันจนหันไปเหวี่ยงวีน เอาแต่ใจอารมณ์เปลี่ยนทุกสิบวิกับทีมเอเจนซี่ ผู้จัดการ AR เบญ แต่ความเอาแต่ใจมันไม่ใช่แค่การบ่งบอกนิสัยว่าย่ำแย่ เรามองว่าความ boyish เด็กชายมันเป็นสิ่งที่ไมค์จะทำเมื่อไมค์ไว้ใจใครซักคนมาก ๆ หรือ รู้สึกสบายใจกับใครมาก ๆ เท่านั้น กับ มินไมค์ยังไม่ค่อยทำ ... อาจจะเป็นไปได้ว่ามินชิงเหวี่ยงซะก่อน ไมค์เคยต้องอยู่ในฐานะกระโถนท้องพระโรงต่อไป
จนวันนึงอ้อมแอ้มเข้ามา .... โลกของไมค์ upside down ชีวิตที่เหมือนปลาทองในตู้และเงียบเหงาเปลี่ยนไปทันควัน จากความเงียบความกดดันและต้องรักษาภาพ อ้อมแอ้มน่าจะเป็นคนนอกคนแรกเลยที่เป็นสีสันในชีวิตให้ไมค์ต้องเหวี่ยงวีน ทะเลาะเบาะแว้งไม่เว้นแต่ละวัน โลกปลาทองสีเทากลายเป็นสระน้ำกว้างใหญ่มีแสงแดดอุ่น เสียงนกร้อง และ ดอกไม้ผลิบาน อ้อมแอ้มเดินทะลุกำแพงใด ๆ ก็ตามที่ไมค์กันไว้ แล้วกั้นห้องหัวใจไว้ตรงนั้นอย่างลับ ๆ นับแต่นั้นไมค์ก็ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำ เป็นอะไรอย่างที่ไม่เคยเป็น ขนาดตัวเองก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ได้
อย่างที่บอกเมื่ออยู่กับใครแล้วสบายใจ สะดวกใจ ไมค์จะทิ้งตรรกะแหละเหตุผลทิ้งไป แล้วเริ่มต้นด้วยการใช้หัวใจและอารมณ์เป็นเจ้าเรือน นี่เป็นอีกหนึ่งความ boyish ของเจ้าตัว ที่มองแล้วน่ารัก และ เป็นโคตรแห่งตัวปัญหาในเวลาเดียวกัน เมื่อไมค์กลายร่างจากหนุ่มเป๊ะมืออาชีพเป็นเด็กชาย 10 ขวบ
What are little boys made of
Slugs and snails
And puppy-dogs' tails
ดื้อซนแผลงเอาแต่ใจ ครบสูตร .... ถูกใจแล้วแต่ไม่รู้ทำไง เรียกร้องความสนใจซะ เตี้ยมั่ง กระปุกตั้งฉ่ายมั่ง พอหึงปรี๊ดขึ้นมาหางงอกปีกงอกลูซิเฟอร์ประทับร่าง พออารมณ์ดีปั๊บหวานน้ำตาลเรียกพี่ คิดว่าเจ้าตัวคงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรทำให้เป็นไปได้ขนาดนี้ ... เอาเป็นว่ามาครบทุก option ถ้าอยากจะอยู่กับพ่อหนุ่มคนนี้ให้ยืด จะต้องอ่านใจความระหว่างบรรทัดในการกระทำของเขาให้จงดีไม่งั้นมีน้ำตาตก เพราะ ไมค์ในโหมดนี้ บ่องตงทักษะในการสื่อสารห่วยขั้นเทพจริง ๆ ดังนั้น ... ใครคิดจะเป็นอ้อมแอ้มบอกเลยว่าเหนื่อยหน่อยต้องมีทักษะการ read between the lines ให้หนัก ๆ เดาใจพ่อเจ้าพระคุณให้ถูก รับมือให้เป็น ตอนไหนทุกข์ตอนไหนสุขต้องดูให้ออก ปลอบให้ถูกช่อง
ซึ่งถ้า handle (with care) ได้ถูกวิธี ผู้ชายคนนี้จะถวายตัวและหัวใจให้คุณตลอดกาล เมื่อลงว่ารักแล้วไมค์รักจริง ๆ ถึงจะพูดไม่เก่ง จะพูดไม่ถูกหรืออะไร แต่ไมค์เป็นคนที่ผู้ช้ายผู้ชาย คือ ยืดอกรับทุกสิ่ง(โดยไม่โทษใครอื่นไม่ดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวเลย) ความห่วงใยความเอื้ออาทรจะมาอย่างเงียบ ๆ อย่างที่บอกนั่นแหละ เป็นแฟนไมค์ต้องอดทน(นิสส์นุง) ฝึกทักษะอ่านโทรจิตมาได้ยิ่งดี เพราะ ทำอะไรต้องให้เดาตลอด
แต่ความเป็นสองภาคแบบนี้เหมือนกันที่มัดใจคนได้ ครึ่งที่เป็นผู้ใหญ่ คือ ความเป็นมืออาชีพ การพร้อมที่ยืดอกดูแลใครซักคนที่เค้าแคร์ ครึ่งที่เป็นเด็กชาย คือ เหวี่ยงวีนโวยวายแสนงอน เป็นภาคลับเฉพาะสำหรับคนที่เขารักและใกล้ชิดเท่านั้น เพราะแบบนี้ไมค์กับอ้อมแอ้มจึงเหมือนแม่เหล็กต่างขั้วที่หันเข้าหาซึ่งกันและกัน เมื่อในความรักต้องการทั้ง contrast และ harmony ความสดใสของแอ้มลบความเหงาสีเทาจาง ๆ ของไมค์ออกไป ความมเอื้ออาทรความแมนของไมค์ก็เป็นหลักให้แอ้มพักพิง อาจจะเรียกได้ว่าทั้งสองคนก็คือบ้านของกันและกันก็คงจะไม่ผิดนัก
ป.ล. ทั้งหมดนี้แมวพิมพ์
จริง ๆ นะ
เชื่อเหอะ
วุ่นนักรักเต็มบ้าน (คาแร็คเตอร์รีวิว) : Mike .. boyish mature and in between.
ไมค์ ธาวิน ซุปตาร์ตีนไก่ เป็นผู้ชายที่มีสองมุม มุมที่แสดงออกกับคนภายนอก และ มุมที่สงวนไว้สำหรับคนที่ใกล้ชิด ทั้ง boyish และ mature ในคราวเดียวกัน และ การ swing ของสองส่วนนี้มีผลอย่างมากกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Full house วุ่นนักรักเต็มบ้าน ไมค์เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ที่มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ข้างในลึก ๆ ความอึดอัดคับข้อง ความไม่พอใจ ที่ต้องกลบมันเอาไว้เมื่ออยู่หน้ากล้อง ในแวดวงแห่งอาชีพของตน
กลางแสงไฟไมค์คือซุปตาร์ ร้องเต้นเล่นละครถ่ายโฆษณา แต่ทว่าไม่ค่อยมีเวลาเป็นของตัวเอง ในความรู้สึกของเจ้าตัว ชีวิตของไมค์ดำเนินไปเหมือนปลาทองในตู้ ไม่เพียงแต่ภาพลักษณ์ที่ต้องรักษาในการงานเท่านั้น แต่มันอาจจะโยงไปได้ถึงครอบครัว เมื่อยามที่มายด์น้องสาวของไมค์เสียชีวิต ผู้เป็นพ่อไม่มีอาการเสียใจ ไม่พูดและไม่กล่าวอันใด หรือ ชีวิตลูกสาวคนหนึ่งอาจจะเหมือนปลาทองในตู้สักตัวที่สิ้นลมไป พ่อถึงไม่พูดอะไรเลย ... ครอบครัวของไมค์ไม่เหมือนเดิมนับแต่วันนั้น ไม่มีใครพูดกันเงียบเป็นหอยหุบกาบ กระทั่งในเรื่องความรัก .... ไมค์ก็ยังเป็นเพียงปลาทองในตู้ของมินตราผู้หญิงที่ตัวเองพึงใจ เป็นสิ่งของประดับบารมี มาช้อนชูเมื่อยามเหงา และ ทิ้งขว้างไม่ต้องการตามแต่ใจและอารมณ์ของ egoistic girl
ท่ามกลางความกดดันและการถูกทรีตในลักษณะ passive พ่อที่เป็นเพศชายเช่นเดียวกันและเป็นผู้นำของบ้าน ไม่แสดงอารมณ์ และ ไม่ช่างอธิบายเจรจามีส่วนหล่อหลอมให้ไมค์มีบุคคลิกที่ดูท่าทางเย็นชา การที่ตกอยู่ใต้อาณัติผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งยอมทุกอย่างไมค์เป็นได้แค่คนตั้งรับในลักษณะ passive อีกเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ไมค์ไม่สามารถแสดงออกถึงความต้องการที่แท้จริง รวมทั้งการขาดทักษะการสื่อสารที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ด้วยธรรมชาติของงานในวงการที่ต้องรักษาระดับความสามารถให้สูงอยู่เสมอ รวมทั้งนิสัยไม่ยอมแพ้ของเจ้าตัว การงานที่แม้จะมีส่วนเสี้ยวของความอึดอัดใจอยู่บ้างก็ยังเป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าตัวรักและภาคภูมิจึงพยายามรักษาได้อย่างดี
ดังนั้นภาคหน้ากล้องที่ต้อง perfect อยู่เสมอ กับทีมงานภายนอกไมค์คือมืออาชีพ กับคนที่ไม่ได้มีความใกล้ชิดไมค์หันมุมที่มีความเป็นผู้ใหญ่เข้าหา งานที่ออกมาก็ดีเวอร์ เป๊ะเว่อร์ เนี้ยบเว่อร์ แต่มันก็ทำให้เกิดความกดดันจนหันไปเหวี่ยงวีน เอาแต่ใจอารมณ์เปลี่ยนทุกสิบวิกับทีมเอเจนซี่ ผู้จัดการ AR เบญ แต่ความเอาแต่ใจมันไม่ใช่แค่การบ่งบอกนิสัยว่าย่ำแย่ เรามองว่าความ boyish เด็กชายมันเป็นสิ่งที่ไมค์จะทำเมื่อไมค์ไว้ใจใครซักคนมาก ๆ หรือ รู้สึกสบายใจกับใครมาก ๆ เท่านั้น กับ มินไมค์ยังไม่ค่อยทำ ... อาจจะเป็นไปได้ว่ามินชิงเหวี่ยงซะก่อน ไมค์เคยต้องอยู่ในฐานะกระโถนท้องพระโรงต่อไป
จนวันนึงอ้อมแอ้มเข้ามา .... โลกของไมค์ upside down ชีวิตที่เหมือนปลาทองในตู้และเงียบเหงาเปลี่ยนไปทันควัน จากความเงียบความกดดันและต้องรักษาภาพ อ้อมแอ้มน่าจะเป็นคนนอกคนแรกเลยที่เป็นสีสันในชีวิตให้ไมค์ต้องเหวี่ยงวีน ทะเลาะเบาะแว้งไม่เว้นแต่ละวัน โลกปลาทองสีเทากลายเป็นสระน้ำกว้างใหญ่มีแสงแดดอุ่น เสียงนกร้อง และ ดอกไม้ผลิบาน อ้อมแอ้มเดินทะลุกำแพงใด ๆ ก็ตามที่ไมค์กันไว้ แล้วกั้นห้องหัวใจไว้ตรงนั้นอย่างลับ ๆ นับแต่นั้นไมค์ก็ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำ เป็นอะไรอย่างที่ไม่เคยเป็น ขนาดตัวเองก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ได้
อย่างที่บอกเมื่ออยู่กับใครแล้วสบายใจ สะดวกใจ ไมค์จะทิ้งตรรกะแหละเหตุผลทิ้งไป แล้วเริ่มต้นด้วยการใช้หัวใจและอารมณ์เป็นเจ้าเรือน นี่เป็นอีกหนึ่งความ boyish ของเจ้าตัว ที่มองแล้วน่ารัก และ เป็นโคตรแห่งตัวปัญหาในเวลาเดียวกัน เมื่อไมค์กลายร่างจากหนุ่มเป๊ะมืออาชีพเป็นเด็กชาย 10 ขวบ
Slugs and snails
And puppy-dogs' tails
ดื้อซนแผลงเอาแต่ใจ ครบสูตร .... ถูกใจแล้วแต่ไม่รู้ทำไง เรียกร้องความสนใจซะ เตี้ยมั่ง กระปุกตั้งฉ่ายมั่ง พอหึงปรี๊ดขึ้นมาหางงอกปีกงอกลูซิเฟอร์ประทับร่าง พออารมณ์ดีปั๊บหวานน้ำตาลเรียกพี่ คิดว่าเจ้าตัวคงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรทำให้เป็นไปได้ขนาดนี้ ... เอาเป็นว่ามาครบทุก option ถ้าอยากจะอยู่กับพ่อหนุ่มคนนี้ให้ยืด จะต้องอ่านใจความระหว่างบรรทัดในการกระทำของเขาให้จงดีไม่งั้นมีน้ำตาตก เพราะ ไมค์ในโหมดนี้ บ่องตงทักษะในการสื่อสารห่วยขั้นเทพจริง ๆ ดังนั้น ... ใครคิดจะเป็นอ้อมแอ้มบอกเลยว่าเหนื่อยหน่อยต้องมีทักษะการ read between the lines ให้หนัก ๆ เดาใจพ่อเจ้าพระคุณให้ถูก รับมือให้เป็น ตอนไหนทุกข์ตอนไหนสุขต้องดูให้ออก ปลอบให้ถูกช่อง
ซึ่งถ้า handle (with care) ได้ถูกวิธี ผู้ชายคนนี้จะถวายตัวและหัวใจให้คุณตลอดกาล เมื่อลงว่ารักแล้วไมค์รักจริง ๆ ถึงจะพูดไม่เก่ง จะพูดไม่ถูกหรืออะไร แต่ไมค์เป็นคนที่ผู้ช้ายผู้ชาย คือ ยืดอกรับทุกสิ่ง(โดยไม่โทษใครอื่นไม่ดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวเลย) ความห่วงใยความเอื้ออาทรจะมาอย่างเงียบ ๆ อย่างที่บอกนั่นแหละ เป็นแฟนไมค์ต้องอดทน(นิสส์นุง) ฝึกทักษะอ่านโทรจิตมาได้ยิ่งดี เพราะ ทำอะไรต้องให้เดาตลอด
แต่ความเป็นสองภาคแบบนี้เหมือนกันที่มัดใจคนได้ ครึ่งที่เป็นผู้ใหญ่ คือ ความเป็นมืออาชีพ การพร้อมที่ยืดอกดูแลใครซักคนที่เค้าแคร์ ครึ่งที่เป็นเด็กชาย คือ เหวี่ยงวีนโวยวายแสนงอน เป็นภาคลับเฉพาะสำหรับคนที่เขารักและใกล้ชิดเท่านั้น เพราะแบบนี้ไมค์กับอ้อมแอ้มจึงเหมือนแม่เหล็กต่างขั้วที่หันเข้าหาซึ่งกันและกัน เมื่อในความรักต้องการทั้ง contrast และ harmony ความสดใสของแอ้มลบความเหงาสีเทาจาง ๆ ของไมค์ออกไป ความมเอื้ออาทรความแมนของไมค์ก็เป็นหลักให้แอ้มพักพิง อาจจะเรียกได้ว่าทั้งสองคนก็คือบ้านของกันและกันก็คงจะไม่ผิดนัก