ตอนที่ 43: การเจรจาในห้องอักษร (1/2)
http://pantip.com/topic/31660845
คุยกันก่อนนะคะ
คุณ GTW: แล้วแต่จังหวะน่ะค่ะ บางตอนสั้นบางตอนยาวน่ะค่ะ
คุณ ตะวันรัตติกาล: รออารมันอีกนิดเนาะ ขอป๋าอีกสักตอนเถอะ
คุณ สมาชิกหมายเลข 709113: คราวที่แล้วคุยเรื่องหนังสือกันยาวเลย ขอบคุณมากๆ ค่ะ
ขอบคุณสำหรับผู้ให้ถูกใจนะคะ: คุณ GTW, คุณ npuiy, คุณ Phoenixorus , คุณ Psycho man, คุณ CAN LIVE , คุณ zoi , และคุณ ตะวันรัตติกาล ค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
วิษณุวัติเดินทางไปหาอติเทพถึงหอคัมภีร์เพื่อยับยั้งไม่ให้เขาลาออกจากหัวหน้าเทพนักบวช จนแม้แต่เวณิชก็ไม่เข้าใจการกระทำของจอมเทพในครั้งนี้เลย
43. การเจรจาในหัองอักษร (2/2)
เมื่อวิษณุวัติเหลือบเห็นว่าเวณิชเดินตามมาทันแล้วเขาจึงเดินเลี่ยงออกมาทางหนึ่งที่แยกไปสู่เขตรโหฐานและชะลอฝีเท้า นายพ่อค้าตัวเล็กรีบเดินผ่านหน้าทหารที่ทิ้งช่วงระยะหนึ่งเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของจอมเทพ ทว่าช่องว่างนี้กลับใช้ไม่ได้กับเวณิช เพราะเขาก้าวเข้ามาเดินเคียงโลกาธิบดีทันที กำลังจะอ้าปากถามเรื่องที่คั่งค้างอยู่ในใจ วิษณุวัติกลับออกปากก่อน
“อติเทพเพียงแค่ไม่ชอบหน้าข้า บางทีอาจถึงขั้นเกลียดเข้าไส้เชียวละ” วิษณุวัติเอ่ยเสียงเรียบไม่คิดติดใจใดๆ ท้ายเสียงยังแอบขำนิดๆ เสียด้วยซ้ำ
“แต่เขาไม่ได้รังเกียจตะวันตกถึงขนาดจะเหยียบให้จมดิน ผู้เดียวที่เขาอยากชำแหละและฉีกเป็นชิ้นๆ คือข้าเท่านั้น....แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ยังคงภักดีต่อเทพอาณาจักร ดีกว่าหลายๆ คนที่มารับใช้ข้าในตอนนี้เสียอีก หมายความว่าหากข้า...ไม่อยู่ เขาจะเป็นผู้เดียวที่ออกโรงปกป้องศิลาลัยไม่ให้ผู้ที่ไม่สมควรได้ครองจตุรบัลลังก์” จอมเทพหยุดตรองครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “แต่...แน่ละ ผู้ที่เขาเห็นชอบเป็นจอมเทพย่อมเหมาะสมในสายตาของเขา ซึ่งอาจจะคับแคบและมองเพียงด้านเดียว...แต่นั่นก็เพียงพอที่จะประคับประคองให้มั่นคงและทอดยาวไกลต่อไปได้ในระดับหนึ่ง จนกว่าจะพบผู้ที่เหมาะสมอย่างแท้จริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทรงกลดเป็นตัวอย่างที่ดีที่เขาจะทำเมื่อศิลาลัยอยู่ในภาวะไร้โลกาธิบดี”
“นายท่าน...เกิดอะไรขึ้นขอรับ” เวณิชยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก นายท่านกำลังพูดเรื่องอะไรกัน ความจริงแล้วตอนที่เขาได้ยินว่าอติเทพขอละจากตำแหน่งหัวหน้านักบวช เขาดีใจแทบตาย ทว่าวิษณุวัติกลับแสดงท่าทีตรงข้าม จอมเทพนิ่งขึงอยู่ชั่วครู่จึงฉวยสารที่อานนท์ถือมาส่ง แล้วเดินทางไปพบอติเทพด้วยตนเอง มองอย่างผิวเผินก็เหมือนกับนายท่านแค่ต้องการยั่วโมโหอีกฝ่ายเล่น แต่ลึกๆ แล้วเวณิชคิดว่ากำลังจะมีบางอย่างเกิดขึ้น บางสิ่งที่ไม่ธรรมดา...บางอย่างที่ทำให้นายท่านไม่เพียงแต่ยอมถอยซ้ำยังเหมือนเดินไปผลักหลังให้อริเก่าอย่างสภานักบวชก้าวล้ำหน้าไปเสียอีก
แต่มันคืออะไรเล่า
“ความจริงหากข้าไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นโลกาธิบดี บางที...หากเป็นเทพรัตติกาลอื่น...หรือใครก็ตาม อติเทพจะทำตามโองการของจอมเทพผู้ล่วงลับโดยไม่บิดพลิ้ว น่าเสียดายที่นามนั้นกลับเป็นข้า วิษณุวัติแห่งรัตติกาล จ้าวปราสาทจันทรคราส” วิษณุวัติกล่าวต่อไม่ยอมตอบคำถาม
“นายท่าน”
แต่จอมเทพแห่งศิลาลัยยังคงกล่าวต่อเหมือนไม่ได้ยินเสียงทัดทาน “เจ้าไม่เห็นหรือเวณิช แม้อติเทพจะเกลียดข้าขนาดหนักจนถึงขั้นร่างสารแปลงไปยังวังสุริยันเพื่อให้ทรงกลดเดินทางมาศิลาลัยแทนข้าตอนที่ท่านรานีถูกสังหาร...ในครานั้นเขามีอำนาจในมือเต็มเปี่ยมที่จะออกโองการแต่งตั้งทรงกลดเป็นโลกาธิบดีเสียเลยก็ยังได้ แต่เขาก็ไม่ทำ...และตลอดเวลาที่ทรงกลดอยู่ในศิลาลัย อติเทพก็ไม่เคยออกโองการโดยผ่านทางสภานักบวชให้จ้าววังสุริยันได้อำนาจสมบูรณ์เลยสักครั้งเดียว แน่ละ...เรื่องที่สภานักบวชเกรงว่าจะสูญอำนาจในมือก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาเพิกเฉยทุกครั้งเมื่อขุนนางฝ่ายตะวันออกร่างฎีกาว่าเมื่อไรจ้าวแดนตนจะได้ขึ้นนั่งบัลลังก์เอก ไม่ใช่แค่เงาเชิด”
จู่ๆ วิษณุวัติกลับหยุดฝีเท้า ระเบียงทางเดินยังคงทอดยาวไปไกล
“เพราะอติเทพตระหนักดีในทุกลมหายใจว่า ทรงกลดไม่ใช่โลกาธิบดีที่แท้จริง ตลกไหมเวณิช เขาชังข้าถึงกระดูกดำ แต่กลับทำทุกอย่างเพื่อรักษาบัลลังก์ให้ผู้ที่เขาเกลียดที่สุด”
“แต่ท่านอติเทพทำเช่นนั้นเพียงแค่ยื้อเวลาเพื่อหา ผู้ที่เหมาะสม ดังนายท่านว่าและไม่ได้ตั้งใจรักษาบัลลังก์แก่อริเก่าหรอก” เวณิชค้าน
วิษณุวัติผงกศีรษะ “ใช่...แต่ถึงอย่างไรข้าก็มายืนอยู่ที่นี่แล้ว และสุดท้ายเทพอาณาจักรก็มั่นคง ปลอดภัย”
ร่างสูงตรงของจอมเทพแห่งศิลาลัยยืนอยู่ระหว่างเสาระเบียงที่หันไปสู่ทิศตะวันตก
จ้าวจตุรทิศ ภาค จัณฑวาตา ตอนที่ 43: การเจรจาในห้องอักษร (2/2)
คุยกันก่อนนะคะ
คุณ GTW: แล้วแต่จังหวะน่ะค่ะ บางตอนสั้นบางตอนยาวน่ะค่ะ
คุณ ตะวันรัตติกาล: รออารมันอีกนิดเนาะ ขอป๋าอีกสักตอนเถอะ
คุณ สมาชิกหมายเลข 709113: คราวที่แล้วคุยเรื่องหนังสือกันยาวเลย ขอบคุณมากๆ ค่ะ
ขอบคุณสำหรับผู้ให้ถูกใจนะคะ: คุณ GTW, คุณ npuiy, คุณ Phoenixorus , คุณ Psycho man, คุณ CAN LIVE , คุณ zoi , และคุณ ตะวันรัตติกาล ค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
วิษณุวัติเดินทางไปหาอติเทพถึงหอคัมภีร์เพื่อยับยั้งไม่ให้เขาลาออกจากหัวหน้าเทพนักบวช จนแม้แต่เวณิชก็ไม่เข้าใจการกระทำของจอมเทพในครั้งนี้เลย
43. การเจรจาในหัองอักษร (2/2)
เมื่อวิษณุวัติเหลือบเห็นว่าเวณิชเดินตามมาทันแล้วเขาจึงเดินเลี่ยงออกมาทางหนึ่งที่แยกไปสู่เขตรโหฐานและชะลอฝีเท้า นายพ่อค้าตัวเล็กรีบเดินผ่านหน้าทหารที่ทิ้งช่วงระยะหนึ่งเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของจอมเทพ ทว่าช่องว่างนี้กลับใช้ไม่ได้กับเวณิช เพราะเขาก้าวเข้ามาเดินเคียงโลกาธิบดีทันที กำลังจะอ้าปากถามเรื่องที่คั่งค้างอยู่ในใจ วิษณุวัติกลับออกปากก่อน
“อติเทพเพียงแค่ไม่ชอบหน้าข้า บางทีอาจถึงขั้นเกลียดเข้าไส้เชียวละ” วิษณุวัติเอ่ยเสียงเรียบไม่คิดติดใจใดๆ ท้ายเสียงยังแอบขำนิดๆ เสียด้วยซ้ำ
“แต่เขาไม่ได้รังเกียจตะวันตกถึงขนาดจะเหยียบให้จมดิน ผู้เดียวที่เขาอยากชำแหละและฉีกเป็นชิ้นๆ คือข้าเท่านั้น....แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ยังคงภักดีต่อเทพอาณาจักร ดีกว่าหลายๆ คนที่มารับใช้ข้าในตอนนี้เสียอีก หมายความว่าหากข้า...ไม่อยู่ เขาจะเป็นผู้เดียวที่ออกโรงปกป้องศิลาลัยไม่ให้ผู้ที่ไม่สมควรได้ครองจตุรบัลลังก์” จอมเทพหยุดตรองครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “แต่...แน่ละ ผู้ที่เขาเห็นชอบเป็นจอมเทพย่อมเหมาะสมในสายตาของเขา ซึ่งอาจจะคับแคบและมองเพียงด้านเดียว...แต่นั่นก็เพียงพอที่จะประคับประคองให้มั่นคงและทอดยาวไกลต่อไปได้ในระดับหนึ่ง จนกว่าจะพบผู้ที่เหมาะสมอย่างแท้จริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทรงกลดเป็นตัวอย่างที่ดีที่เขาจะทำเมื่อศิลาลัยอยู่ในภาวะไร้โลกาธิบดี”
“นายท่าน...เกิดอะไรขึ้นขอรับ” เวณิชยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก นายท่านกำลังพูดเรื่องอะไรกัน ความจริงแล้วตอนที่เขาได้ยินว่าอติเทพขอละจากตำแหน่งหัวหน้านักบวช เขาดีใจแทบตาย ทว่าวิษณุวัติกลับแสดงท่าทีตรงข้าม จอมเทพนิ่งขึงอยู่ชั่วครู่จึงฉวยสารที่อานนท์ถือมาส่ง แล้วเดินทางไปพบอติเทพด้วยตนเอง มองอย่างผิวเผินก็เหมือนกับนายท่านแค่ต้องการยั่วโมโหอีกฝ่ายเล่น แต่ลึกๆ แล้วเวณิชคิดว่ากำลังจะมีบางอย่างเกิดขึ้น บางสิ่งที่ไม่ธรรมดา...บางอย่างที่ทำให้นายท่านไม่เพียงแต่ยอมถอยซ้ำยังเหมือนเดินไปผลักหลังให้อริเก่าอย่างสภานักบวชก้าวล้ำหน้าไปเสียอีก
แต่มันคืออะไรเล่า
“ความจริงหากข้าไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นโลกาธิบดี บางที...หากเป็นเทพรัตติกาลอื่น...หรือใครก็ตาม อติเทพจะทำตามโองการของจอมเทพผู้ล่วงลับโดยไม่บิดพลิ้ว น่าเสียดายที่นามนั้นกลับเป็นข้า วิษณุวัติแห่งรัตติกาล จ้าวปราสาทจันทรคราส” วิษณุวัติกล่าวต่อไม่ยอมตอบคำถาม
“นายท่าน”
แต่จอมเทพแห่งศิลาลัยยังคงกล่าวต่อเหมือนไม่ได้ยินเสียงทัดทาน “เจ้าไม่เห็นหรือเวณิช แม้อติเทพจะเกลียดข้าขนาดหนักจนถึงขั้นร่างสารแปลงไปยังวังสุริยันเพื่อให้ทรงกลดเดินทางมาศิลาลัยแทนข้าตอนที่ท่านรานีถูกสังหาร...ในครานั้นเขามีอำนาจในมือเต็มเปี่ยมที่จะออกโองการแต่งตั้งทรงกลดเป็นโลกาธิบดีเสียเลยก็ยังได้ แต่เขาก็ไม่ทำ...และตลอดเวลาที่ทรงกลดอยู่ในศิลาลัย อติเทพก็ไม่เคยออกโองการโดยผ่านทางสภานักบวชให้จ้าววังสุริยันได้อำนาจสมบูรณ์เลยสักครั้งเดียว แน่ละ...เรื่องที่สภานักบวชเกรงว่าจะสูญอำนาจในมือก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาเพิกเฉยทุกครั้งเมื่อขุนนางฝ่ายตะวันออกร่างฎีกาว่าเมื่อไรจ้าวแดนตนจะได้ขึ้นนั่งบัลลังก์เอก ไม่ใช่แค่เงาเชิด”
จู่ๆ วิษณุวัติกลับหยุดฝีเท้า ระเบียงทางเดินยังคงทอดยาวไปไกล
“เพราะอติเทพตระหนักดีในทุกลมหายใจว่า ทรงกลดไม่ใช่โลกาธิบดีที่แท้จริง ตลกไหมเวณิช เขาชังข้าถึงกระดูกดำ แต่กลับทำทุกอย่างเพื่อรักษาบัลลังก์ให้ผู้ที่เขาเกลียดที่สุด”
“แต่ท่านอติเทพทำเช่นนั้นเพียงแค่ยื้อเวลาเพื่อหา ผู้ที่เหมาะสม ดังนายท่านว่าและไม่ได้ตั้งใจรักษาบัลลังก์แก่อริเก่าหรอก” เวณิชค้าน
วิษณุวัติผงกศีรษะ “ใช่...แต่ถึงอย่างไรข้าก็มายืนอยู่ที่นี่แล้ว และสุดท้ายเทพอาณาจักรก็มั่นคง ปลอดภัย”
ร่างสูงตรงของจอมเทพแห่งศิลาลัยยืนอยู่ระหว่างเสาระเบียงที่หันไปสู่ทิศตะวันตก