
พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ หลวงปู่พุทธะอิสระ วิจารณ์ว่า "การจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม หากทำแล้วเบียดเบียนตน ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ถือว่า ผิดหลักพุทธศาสนา...พุทธศาสนิกชนต้องต่อต้าน...ไม่น่าจะเป็นการเผยแพร่ธรรม น่าจะเป็นการทำร้ายพระธรรมมากกว่า รวมทั้งทำให้พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้ามัวหมอง การเดินธุดงค์บนดอกกุหลาบดอกดาวเรือง ไม่ไช่วิธีของพระภิกษุที่สันโดษ...นอกจากพระเดินธุดงค์แล้ว นักเรียนและประชาชนยังถูกเกณฑ์ให้ไปตากแดดรับคณะ ไม่ได้ไปเพราะศรัทธา แต่ไปเพราะโดนเกณฑ์ไป ศรัทธาที่เกิดจากการแสดงเป็นศรัทธาที่หลอกลวง ไม่ใช่ศรัทธาที่บริสุทธิ์...เรื่องนี้มหาเถรสมาคมทำอะไรอยู่ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำอะไรอยู่"[20]
หมายเหตุ: ตอนนี้ท่านทำชาวบ้านเดือดร้อน ท่านรู้ตัวหรือเปล่า มาปิดถนน เอาคนมาตากแดด ไม่ใช่กิจของสงฆ์ พระพุทธเจ้าสอนท่านแบบนี้หรือ
ท่านนั่นแหละทำให้พระธรรมพระพุทธเจ้ามัวหมอง ผมก็ดูประวัติท่านทำดีมาตลอด ไหงมา เป๋ ตอนจบละครัช
สงสัย ท่านลืมประโยคที่ท่านพูดไว้ เป็นพระก็ลืมได้ให้ฆราวาสตักเตือนสติท่านนะครัช?
พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ หลวงปู่พุทธะอิสระ วิจารณ์ว่า "การจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม หากทำแล้วเบียดเบียนตน ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ถือว่า ผิดหลักพุทธศาสนา...พุทธศาสนิกชนต้องต่อต้าน...ไม่น่าจะเป็นการเผยแพร่ธรรม น่าจะเป็นการทำร้ายพระธรรมมากกว่า รวมทั้งทำให้พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้ามัวหมอง การเดินธุดงค์บนดอกกุหลาบดอกดาวเรือง ไม่ไช่วิธีของพระภิกษุที่สันโดษ...นอกจากพระเดินธุดงค์แล้ว นักเรียนและประชาชนยังถูกเกณฑ์ให้ไปตากแดดรับคณะ ไม่ได้ไปเพราะศรัทธา แต่ไปเพราะโดนเกณฑ์ไป ศรัทธาที่เกิดจากการแสดงเป็นศรัทธาที่หลอกลวง ไม่ใช่ศรัทธาที่บริสุทธิ์...เรื่องนี้มหาเถรสมาคมทำอะไรอยู่ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำอะไรอยู่"[20]
หมายเหตุ: ตอนนี้ท่านทำชาวบ้านเดือดร้อน ท่านรู้ตัวหรือเปล่า มาปิดถนน เอาคนมาตากแดด ไม่ใช่กิจของสงฆ์ พระพุทธเจ้าสอนท่านแบบนี้หรือ
ท่านนั่นแหละทำให้พระธรรมพระพุทธเจ้ามัวหมอง ผมก็ดูประวัติท่านทำดีมาตลอด ไหงมา เป๋ ตอนจบละครัช