เมื่อปี 2008 ได้มีโอกาสแบ็คแพ็คไปเนปาล 6 วัน จากทริปนั้น หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องกลับไปอีกครั้งเพื่อเดินเท้าชมความงามของเทือกเขา Annapurna ให้จงได้ แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีโอกาสได้ไป ทั้งมรสุมงานที่ถาโถม นำไปสู่มรสุมการเงิน (กินเที่ยวไม่เหลือเงินเก็บ) จนเมื่อเริ่มมีเวลาว่าง เลยได้โอกาสสักที
สำหรับกระทู้นี้ เน้นแชร์ประสบการณ์สำหรับ first-time trekker นะคะ รูปสวยๆ คงเห็นกันเต็มอิ่มจากหลายๆ กระทู้แล้ว จขกท. อยากเก็บรูปสวยๆ กลับมา แต่ความยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้ามันใหญ่กว่ากล้องเล็กๆ ของ จขกท. จะเก็บหมด (ฝีมือห่วย ว่างั้น)
สำหรับทริปนี้ จขกท. ไปกับเพื่อนอีกหนึ่งคนค่ะ เป็นเวลาทั้งหมด 16 วัน เป็นอะไรที่รู้สึกเหมือนไม่ค่อยคุ้ม เพราะต้องขอวีซ่า 30 วัน (1,400 บ.) แพงกว่า วีซ่า 15 วันตั้ง 500 บาท แน่ะ
การขอวีซ่า
การขอวีซ่าไปเนปาล ง่ายมากค่ะ แค่เตรียมเอกสารให้ครบตามที่ระบุในเว็บไซต์
http://nepalembassybangkok.com/visathai.html พร้อมกำเงินไป ยื่นขอช่วงเช้า พอช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้นก็ไปรับได้ค่ะ หากไม่สะดวก จ้างเมสเซนเจอร์ยื่นให้ได้เช่นกัน แนะนำให้ขอที่เมืองไทยเลย เพราะแถว Visa on arrival ที่โน่นยาวมาก ยิ่งถ้าเครื่องดีเลย์ หรือจราจรในรันเวย์หนาแน่น มันจะยิ่งช้าไปกันใหญ่
จขกท. เดินทางโดยการบินไทย ได้ช่วงโปรพอดี ตกราวๆ 15,000 มีทอนหลักสิบ ออกตรงเวลา แต่แลนดิ้งไม่ได้ กัปตันต้องบินวนอยู้ในอากาศนาน 40 นาทีจึงจะสามารถลงจอดได้ค่ะ แถมช่อง ตม. ก็ตรวจกันช้าเหลือใจ (โดยเฉพาะแถว จขกท.) ไม่ได้ว่าเข้มงวดตรวจตราอะไรมากหรอกนะคะ แค่ทำช้ามากกกกกก กว่าจะพลิกหน้า หันไปทางซ้าย หันมามองหน้าเรา หันไปพยักหน้าให้เพื่อน ตม. ที่เดินผ่าน ทุกอากัปกริยา ช้าาาาาาาาราวกับภาพสโลว์โมชั่นในหนัง 300
ยังไม่พอ กว่ากระเป๋าจะมา รอไปอีกนานโขค่ะ อย่างที่บอก จราจรในสนามบินตรีภูวันติดขัดเหลือเกิน คนเลยเยอะเป็นพิเศษ เมื่อได้กระเป๋าเรียบร้อย จขกท. ก็เดินออกไปส่องหารถจากเอเจนท์ที่มารับค่ะ คุยๆ ได้ทราบว่ามารอรับเกือบ 2 ช.ม. แล้ว น่าเห็นใจ ประเทศนี้ใจร้อนอยู่ยากค่ะ
การจราจรติดขัดพอควร โดยเฉพาะบริเวณปศุปตินาถ พลุกพล่านเหลือหลาย กว่าเราจะเดินทางไปถึงทาเมลก็ปาเข้าไปบ่าย 3 แล้ว พอดร็อปของเสร็จ ก็ไปคุยบรีฟเรื่องเทร็คกับเอเจนท์ (บาบู) และเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งค่าใช้จ่ายของเรา รวมที่พักใน KTM, B&B ที่ POK 3 คืน, ที่พักพร้อมอาหารทุกมื้อระหว่างเทร็ค 10 วัน 9 คืน, 1 ไกด์ 1 ลูกหาบ, รถรับส่งสนามบิน-โรงแรม, ทัวริสต์บัส KTM-POK และเที่ยวบินขากลับ POK-KTM
จ่ายเงินเสร็จ ก็ฝากบาบูแลกเงินซะเลย (ขี้เกียจเดินแลกเอง ฮี่ๆ) จากนั้นก็ขอตัวกลับโรงแรมเพื่อล้างหน้าล้างตาและออกช็อปปิ้งก่อนไปกิน Wel-come dinner ด้วยกัน

*ไม่ได้เขียนผิดนะคะ ที่เนปาล เค้าจะเขียน welcome เป็น wel-come แทบทุกที่ แม้แต่ปัายต้อนรับที่สนามบิน!
ภาพความวุ่นวายใน Thamel
[CR] Annapurna Base Camp: Once is not enough... แชร์ประสบการณ์สำหรับมือใหม่หัดเทร็ค
สำหรับกระทู้นี้ เน้นแชร์ประสบการณ์สำหรับ first-time trekker นะคะ รูปสวยๆ คงเห็นกันเต็มอิ่มจากหลายๆ กระทู้แล้ว จขกท. อยากเก็บรูปสวยๆ กลับมา แต่ความยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้ามันใหญ่กว่ากล้องเล็กๆ ของ จขกท. จะเก็บหมด (ฝีมือห่วย ว่างั้น)
สำหรับทริปนี้ จขกท. ไปกับเพื่อนอีกหนึ่งคนค่ะ เป็นเวลาทั้งหมด 16 วัน เป็นอะไรที่รู้สึกเหมือนไม่ค่อยคุ้ม เพราะต้องขอวีซ่า 30 วัน (1,400 บ.) แพงกว่า วีซ่า 15 วันตั้ง 500 บาท แน่ะ
การขอวีซ่า
การขอวีซ่าไปเนปาล ง่ายมากค่ะ แค่เตรียมเอกสารให้ครบตามที่ระบุในเว็บไซต์ http://nepalembassybangkok.com/visathai.html พร้อมกำเงินไป ยื่นขอช่วงเช้า พอช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้นก็ไปรับได้ค่ะ หากไม่สะดวก จ้างเมสเซนเจอร์ยื่นให้ได้เช่นกัน แนะนำให้ขอที่เมืองไทยเลย เพราะแถว Visa on arrival ที่โน่นยาวมาก ยิ่งถ้าเครื่องดีเลย์ หรือจราจรในรันเวย์หนาแน่น มันจะยิ่งช้าไปกันใหญ่
จขกท. เดินทางโดยการบินไทย ได้ช่วงโปรพอดี ตกราวๆ 15,000 มีทอนหลักสิบ ออกตรงเวลา แต่แลนดิ้งไม่ได้ กัปตันต้องบินวนอยู้ในอากาศนาน 40 นาทีจึงจะสามารถลงจอดได้ค่ะ แถมช่อง ตม. ก็ตรวจกันช้าเหลือใจ (โดยเฉพาะแถว จขกท.) ไม่ได้ว่าเข้มงวดตรวจตราอะไรมากหรอกนะคะ แค่ทำช้ามากกกกกก กว่าจะพลิกหน้า หันไปทางซ้าย หันมามองหน้าเรา หันไปพยักหน้าให้เพื่อน ตม. ที่เดินผ่าน ทุกอากัปกริยา ช้าาาาาาาาราวกับภาพสโลว์โมชั่นในหนัง 300
ยังไม่พอ กว่ากระเป๋าจะมา รอไปอีกนานโขค่ะ อย่างที่บอก จราจรในสนามบินตรีภูวันติดขัดเหลือเกิน คนเลยเยอะเป็นพิเศษ เมื่อได้กระเป๋าเรียบร้อย จขกท. ก็เดินออกไปส่องหารถจากเอเจนท์ที่มารับค่ะ คุยๆ ได้ทราบว่ามารอรับเกือบ 2 ช.ม. แล้ว น่าเห็นใจ ประเทศนี้ใจร้อนอยู่ยากค่ะ
การจราจรติดขัดพอควร โดยเฉพาะบริเวณปศุปตินาถ พลุกพล่านเหลือหลาย กว่าเราจะเดินทางไปถึงทาเมลก็ปาเข้าไปบ่าย 3 แล้ว พอดร็อปของเสร็จ ก็ไปคุยบรีฟเรื่องเทร็คกับเอเจนท์ (บาบู) และเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งค่าใช้จ่ายของเรา รวมที่พักใน KTM, B&B ที่ POK 3 คืน, ที่พักพร้อมอาหารทุกมื้อระหว่างเทร็ค 10 วัน 9 คืน, 1 ไกด์ 1 ลูกหาบ, รถรับส่งสนามบิน-โรงแรม, ทัวริสต์บัส KTM-POK และเที่ยวบินขากลับ POK-KTM
จ่ายเงินเสร็จ ก็ฝากบาบูแลกเงินซะเลย (ขี้เกียจเดินแลกเอง ฮี่ๆ) จากนั้นก็ขอตัวกลับโรงแรมเพื่อล้างหน้าล้างตาและออกช็อปปิ้งก่อนไปกิน Wel-come dinner ด้วยกัน
*ไม่ได้เขียนผิดนะคะ ที่เนปาล เค้าจะเขียน welcome เป็น wel-come แทบทุกที่ แม้แต่ปัายต้อนรับที่สนามบิน!
ภาพความวุ่นวายใน Thamel