[CR] เที่ยวญี่ปุ่น แถบ คันไซ แบบเรื่อยเปื่อย แนวขี้เกียจ (3) โอซาก้า

ในวันที่ 3 ตามแปลน ตั้งปณิธาน เอาไว้ ว่าจะต้องเที่ยว โอซาก้าทั้งวัน จะไม่เวิ่นเว้อ ไปลัลล้าเที่ยวเมืองอื่น ต้องใช้บัตรที่เป็นพวกตั๋ววันให้คุ้มค่ามากที่สุด



จากตอนที่แล้ว การเที่ยววันที่สองหลังจากกลับจากเมืองนาระ ก็มาแวะพักผ่อนตามอัธยาศัยที่โรงแรมแถวนัมบะ ซักแป้ปนึง แล้วก็ออกมาทานข้าว แล้วก็เดินช้อปปิ้ง ตามอัธยาศัย ก็เลยไม่ได้ลงรีวิวเอาไว้ เพราะ เดินไปก็กินไป ยังไงก็ดี ทำให้คุ้นเคย วิธีขึ้นรถไฟในเมืองโอซาก้าได้ดีขึ้น นี่บอกเลย

เวลาเที่ยวในโอซาก้า หรือโตเกียว ผมเองจะถือแผนที่ฉบับเล็กๆ ติดตลอดห้ามหาย เพราะว่า สายรถไฟมันยุ่งนัวเนียไปหมด แล้วยิ่งเราพูดญี่ปุ่นไม่ได้ ก็ไม่อยากไปรบกวน ชาวเมืองให้เค้าช่วยเหลือเรา เพราะคนญี่ปุ่นถึงบางคนจะไม่พูดภาษาอังกฤษ แต่เค้าพยายามช่วยมากมาย แต่ถ้าเจอคนไทยแถวนั้น หันไปคุยน่าจะง่ายกว่า เพราะอย่างที่เกริ่นไว้ ว่า เห็นเงียบๆ คนไทยเพียบนะจ้ะ ^^



มาต่อกันดีกว่า ด้วยความ โก๊ะ ของตัวเอง ในตอนแรก แปลนเมื่อตื่นเช้า จะรีบพุ่งไปที่ ปราสาทโอซาก้าก่อนเลย แต่ด้วยนิสัยซื้อหนังสือพวกรีวิว ที่เกลื่อนตามแผงในไทย แต่ไม่ค่อยจะได้อ่านเท่าไหร่นัก แถมทิ้งเอาไว้ที่ห้องที่โรงแรม เพราะหนักเปล่าๆ ตอนเช้าก็เลยแวะไปที่ สถานี TennoJi ซึ่ง ห่างจากความจริงมาก เลยเปิด guide book เล่มที่ได้จาก Kansai thru Pass ว่า แถวนี้มีตรงไหน ลดราคาบ้างน้อ ใกล้ๆ  จะได้แวะไป เดินเล่นซักกะหน่อย

จากตรงนี้ ก็เดินผ่านสวนสัตว์ชิวๆ ไปที่  หอ Tsutenkaku ได้  อยู่ตรงย่าน Osaka Chinsakai มีหลากหลายแถวนี้ ทั้งของกิน ทั้งปาจิงโกะ ทั้งโรงหนัง AV สถานบันเทิง อากาศกำลังดี สบายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง(พย)  เราสามารถใช้ บัตร Thru Pass ของเรา ลดได้ ฉีกคูปอง ให้เค้า ก็จะลด ไป 100เยน  จริงๆ วันนี้ ผมหยุดใช้บัตร Kansai Thru Pass ไปก่อน เพราะว่า ถึงจะเป็น 3-day pass แต่บัตรนี้ไม่ต้องใช้ต่อเนื่อง ทุกวัน และเผอิญ ผมซื้อ บัตร Aquarium เอาไว้ ซึ่งบัตรนี้ สามารถ ใช้เป็น One-day pass ของโอซาก้า ได้เลย

ยังไง Aquarium ก็ต้องได้ไปวันนี้ แน่นอน เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องย้ายโรงแรมไปเมือง Himeji เลยคิดว่า ต้องเสียเวลายัดของเข้ากระเป๋า ฝากกระเป๋า คงยุ่งยากแน่ๆ

กลับมาพุดถึง Tsutenkaku Tower เป็นหอคอยเก่า ที่มีเรื่องราวมากมาย เกี่ยวกับเมืองนี้ ว่ากว่าจะเป็น Observation Deck ผ่านอะไรมาบ้างมีเรื่องราว  มีตราStamp สำหรับใครที่ ต้อง check point     เป็นหอคอยดูเมือง ที่ก็โอเค น่ารักดี  ที่คิดหนักคือ ช้อปปิ้งมาหลายอย่าง  ทั้ง Billiken ที่ชาวเมืองเชื่อว่าถ้าอยากได้โชค ต้องไปถูเท้าเค้ามา เผื่อเอามาเป็นเพื่อน แมวกวักที่บ้าน  ยังมี พิพิธภัณฑ์กูลิโกะ และก็มี คินิกุแมน คอยต้อนรับเราอยู่ด้วย

มัวโอ้เอ้ อยู่นานกับ กูลิโกะ คาเฟ่  ก็ไปต่อ ที่ Shitenno-Ji Temple ซึ่งไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก แนะนำให้ขึ้นรถไฟฟ้า จะเร็วกว่า และไปถึงจุดหมายแน่นอน ส่วนผมเดินเท้าไป เจออะไรก็ถ่ายรูปไปเรื่อย ก่อนหน้าผมก็แวะอีกศาลเจ้าพุทธที่ดูโมเดิร์น เหมือนมี อาร์ตแกลลอรี่ อยู่ด้วยอีกที่นึง

ทำเวลาไม่ค่อยดีนัก แต่ก็เพลิน เพราะช่วงเวลาที่มา อากาศโคตรดี เป็นบ้า ก็พักแวะหม่ำ แล้วก็รีบไป ปราสาทโอซาก้า ที่อยู่ตรงสถานี  Morinomiya  ขึ้นมาจะเจอสวน แต่กว่าจะถึงปราสาท ก็ไม่ใกล้เท่าไหร่ อาจเดินเท้าไกลนิดนึง ใครเป้นเกาท์ ก็ระวังปวดข้อหน่อย  ได้เพลินเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนพระอาทิตย์จะตก อย่างที่เกริ่นผมใช้ บัตร Aquarium มาเป็น one-day pass  ก็เลยใช้ในวันเดียวกันไปเลย

Aquarium Osaka Kaiyukan น่าประทับใจมากๆ คุ้มค่าการเข้าชม พร้อมบัตรฟรีรถไฟฟ้าเช่นนี้ ราคา 2550 เยน คุ้มแสนคุ้ม  มีไอ้วันฉลาม มีกระเบน มีโลมา ถ้าไปไวก็จะมีโชว์ให้อาหาร แต่ผมแวะช้าไปหน่อย แต่ก็สนุกดี  จากนั้น เหลือเศษตังค์นิดหน่อยเห็นเค้าลดราคา ชิงช้ายักษ์ ชมเมือง ก็เลย ขอชมซักนิดนึง

กว่าจะได้ทานข้าวเย็น ก็ปาเข้าไป 4ทุ่ม เดินขาขวิดมาก น้ำหนักผมลดลง 2 โลขึ้น แน่นอน ( ได้นอนแน่ )


รีวิวเที่ยว แนวขี้เกียจ 8 วัน ในวันใบไม้จะร่วงหล่น
วันที่ 1  กรุงเทพ - โอซาก้า - บ่นๆ  http://pantip.com/topic/31356357
วันที่ 2  นาระ  http://pantip.com/topic/31362195
วันที่ 3  โอซาก้า  
วันที่ 4  โอซาก้า - ฮิเมจิ
วันที่ 5  ฮิเมจิ - โกเบ
วันที่ 6  โอกายาม่า - คุระชิกิ - นาโกย่า
วันที่ 7-8  นาโกย่า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่