เจอคนที่คาดว่ามีอาการทางจิต จะรับมืออย่างไรดีคะ

คาดว่ากำลังเจอกับคนที่มีอาการทางจิตค่ะ เลยไม่รู้ว่าควรจะแก้ปัญหาอย่างไรดี

เรื่องมันเริ่มจากว่า วันนึงแฟนเราได้รับข้อความทาง facebook จากน้องคนนึง (ขอเรียกว่าน้องเอนะคะ) ส่งข้อความมาในทำนองว่า "ไม่แน่ใจว่าแฟนเราไปเช่าหออยู่ใกล้ๆเค้าหรือเปล่า ถ้าใช่เค้าจะโกรธมาก เพราะถือว่าแฟนเราไปแอบมองเค้า แต่ถ้าไม่ใช่ก็ขอโทษด้วย" (ก่อนหน้านั้นมีข้อความสั้นๆมา เรียกชื่อเล่นแฟนเราถูก)

เรากับแฟนก็งงๆ พอเข้าไปดูรูปของน้องเอ แฟนก็ไม่คุ้นแต่อย่างใด ก็เห็นแค่ว่าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แฟนเราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็บอกว่าเค้าคงส่งมาผิดคนมั๊ง น่าจะเข้าใจผิด แล้วอีกอย่างแฟนเราก็เรียนจบจากที่นั่นมาได้ 4-5 ปีแล้ว น้องคงส่งข้อความมาหาผิดคน

ผ่านไปได้ซัก 1-2 อาทิตย์หลังจากที่เห็นข้อความนั้น น้องเอก็ส่งข้อความมาใหม่อีกประมาณว่า "เหนื่อยไหมที่ต้องมาคอยตามเค้าแบบนี้ ไม่ต้องแสดงออกถึงขนาดนั้นก็ได้นะ มาแอบมองยังไงเค้าก็ไม่ออกมาเจอหรอก มีอะไรก็คุยกันทางเฟสนี่แหละ เค้ายังไม่อยากรู้จัก"

คราวนี้เราว่ามันเยอะไปแล้ว ถึงจะไม่ได้รู้จักกัน แต่ถ้าน้องเข้าใจผิด ส่งข้อความมาแบบนี้ น้องก็คงเที่ยวไปเล่าให้เพื่อนฟังว่าพี่คนนี้มาตามเธอ มาแอบมองเธอ ซึ่งเราไม่ค่อยพอใจเพราะแฟนเราเสียหาย ต่อให้กับคนที่ไม่รู้จักก็เถอะ ก็คิดกันอยู่ว่าควรตอบน้องเค้าไปเลยมั้ยว่าน้องส่งมาผิดคน ยังไม่ทันได้ทำอะไร แฟนก็ไปเจอข้อความของน้องอีกคนนึงส่งมา (คาดว่าส่งมานานแล้วเพราะข้อความที่ไม่ได้ส่งมาจากเพื่อนที่แอดกันไว้ มันจะไม่อยู่ใน Inbox แต่ไปอยู่ในอีกที่นึง คล้ายๆ junk box ซึ่งข้อความของน้องเอก็อยู่ในนี้เหมือนกัน แฟนเราจึงไม่เห็นทันทีที่น้องเค้าส่งข้อความมา)

น้องคนนี้ส่งข้อความมาถามว่า แฟนเรารู้จักน้องเอ หรือเปล่า อะไรทำนองนี้ (อันนี้แฟนเล่าให้ฟัง ไม่ได้ก๊อปข้อความมาให้อ่าน) แฟนก็มาบอกเราว่า เดี๋ยวลองสืบจากน้องคนนี้เอาแล้วกัน ว่าเกิดอะไรขึ้น ตกลงส่งผิดจริงหรือเปล่า แล้วคำตอบที่ได้จากเพื่อนน้องเอคนนี้ก็ทำเอาเรากับแฟนตกใจมากค่ะ น้องเล่ามายาว สรุปได้ว่า

"น้องเอเข้าข้างตัวเอง คิดเอาเองว่าแฟนเราไปชอบเค้า ไปแอบมองเค้า มาเฝ้าเค้าที่หน้าหอทุกคืน เอารถมาจอดหน้าหอ มีรถอยู่ 2 คัน แอบซื้อน้ำมาให้ที่มหาวิทยาลัย จ้างเด็กพม่าแถวหอมาคอยตีสนิท เพื่อนๆก็บอกว่าไม่น่าจะใช่ ไม่น่าจะเป็นไปได้ บางเรื่องที่เล่าเพื่อนๆก็รู้ว่ามโนไปเอง น้องเอก็ไม่ยอม ยังยืนยันแถมยังหาว่าเพื่อนเป็นแม่สื่อให้แฟนเรากับน้องเอ เพื่อนชวนไปเที่ยวไหนก็ไม่ไป เพราะคิดเอาเองว่าเพื่อนๆแอบนัดแฟนเราไปเที่ยวด้วย เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยที่แฟนเรายังเรียนอยู่แล้ว เพื่อนพยายามจะให้น้องเอไปพบจิตแพทย์ น้องเอก็ไม่ยอมไป เค้าบอกว่าเค้าสัมผัสได้ ว่าเป็นแฟนเราแน่ๆ"

เพื่อนๆน้องเอเค้าเลยส่งข้อความมาถามแฟนเราให้แน่ใจ ว่าไม่ใช่แฟนเราแน่ๆ แล้วก็ขอร้องว่าถ้าแฟนเราพอมีวิธีที่จะช่วยให้น้องเอเลิกคิดไปเองจะดีมาก เพราะเพื่อนๆไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว เราก็งงๆอยู่ว่าแฟนเราจบมานานแล้ว น้องเอเพิ่งรับปริญญาปีนี้ ถ้าทันแฟนเรา ก็น่าจะแฟนเราเรียนปีสุดท้าย แล้วน้องเพิ่งเข้ามาปี 1 แล้วทำไมช่วงนั้นไม่ออกอาการ เพิ่งมาออกอาการตอนนี้ซึ่งมันก็ผ่านมานานแล้ว

จากเมื่อวานที่รู้เรื่องนี้จนถึงตอนนี้แฟนเราก็ยังไม่ได้ทำอะไรกับเรื่องนี้ จะปล่อยไป หรือว่าจะตอบอะไรน้องเค้าไปบ้าง ก็ยังทำตัวไม่ถูก เราก็กลัวว่าถ้าตอบอะไรไป น้องจะไปทำอะไรที่เราคาดไม่ถึงหรือเปล่า อีกอย่างเราก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้น้องอยู่ที่ไหน (แอบคิดในแง่ร้ายว่าเป็นน้องเองหรือเปล่าที่มาแอบตามแฟนเรา พอคิดแบบนี้ก็เริ่มกลัวแล้วล่ะค่ะ ว่าวันนึงน้องจะมาทำอะไรหรือเปล่า เหอะๆๆ)

เรื่องทั้งหมดที่น้องเอพิมมาหาแฟนเรา รวมถึงที่เพื่อนน้องเอเล่าให้ฟัง เรายืนยันได้เลยว่าแฟนเราไม่ได้ไปทำอะไรแบบนั้นจริงๆ เพราะเรากับแฟนทำงานที่เดียวกัน ใช้เวลาด้วยกันตลอด (ยิ่งเรื่องรถ 2 คันนี่แบบ แฟนเรามีอยู่คันเดียวผ่อนกันจนกระอักเลือดอยู่เนี่ย - -") อีกอย่างน้องเอนั้นไม่ใช่สเป็คแฟนเราแต่อย่างใด (คือ มั่นใจ 100% ในประเด็นนี้)

เราเลยอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆในพันทิปค่ะ ว่าเคสแบบนี้เราควรจะจัดการยังไงดี ทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วปล่อยไป หรือให้แฟนเราแกล้งตอบไปทำนองว่าส่งผิดคนหรือเปล่าครับ หรือว่าส่งรูปคู่ไปเลยว่าแบบ มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วนะ เลิกมโนซะที T-T คือถ้าน้องเอแค่มโนกับเพื่อนๆ โม้ให้เพื่อนๆฟัง เราว่าอาการก็คงไม่หนักมาก แต่นี่ถึงขนาดส่งข้อความมาหาแฟนเราเลย ทั้งๆที่ข้อความไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด จะบอกว่าส่งผิดคน ก็น่าจะเห็นรูปแฟนเราหราอยู่ แถมรูปคู่เรากับแฟนก็มีอยู่บ้างที่เปิดเป็น public ไว้ เฮ้ออออ กลุ้มค่ะตอนนี้ ไม่รู้ควรทำตัวยังไงดี รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^/\^
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
พฤติกรรมของเธออาจเป็น Paranoid Schizophrenia หรือ จิตเภทแบบหวาดระแวง  (ต้องให้ผู้เป็นจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยามาช่วยยืนยัน หรือถ้าหากผิดก็ช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ)

การแก้ไขที่ควรทำอย่างยิ่งคือ ช่วยบรรเทาคลายปมจิตใจ,คลายความเครียดต่างๆของเธอเท่าที่ช่วยได้

และสิ่งที่ถูกต้องงดงามที่สุดถ้าช่วยได้ คือ สนทนาอธิบายให้เธอได้"ฝึกพัฒนาปรับเปลี่ยนวิธีคิดที่ถูกต้อง" ไม่หลงติดอยู่กับกรอบสภาวะจิตใจเดิมๆ (และถึงเธอจะมีสภาพความคิดจิตใจที่วิกลผิดแปลกอยู่บ้าง แต่เธอก็ยังไม่ถึงขนาดพิการทางปัญญาเกินไป จึงอาจสามารถยึดถือเรียนรู้ในสิ่งใหม่ที่ผิดถลำลึก,หรือถูกต้องยิ่งขึ้นได้ครับ  ขึ้นอยู่กับเหตุอันเป็นทิฏฐิจิตใจของเธอ และจากปัจจัยภายนอกในที่นี้คือการส่งเสริมในทางที่ดีของเรา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่