Fast And Furious ภาพยนต์ภาคต่อที่ดีที่สุดในโลก

Fast And Furious ภาพยนต์ภาคต่อที่ดีที่สุดในโลก

ปี 2000 Dominic Sena ปล่อยภาพยนต์โจรกรรมรถยนต์ ที่มันส์ระเบิด
ซิ่งไปกับ เอเลนอร์ ฟอร์ดมัสแตง GT ในภาพยนต์เรื่อง Gone in 60 Second
ใครได้ชมคงต้องได้รับความสนุกสนานประทับใจและเมามันส์ไปกับฉากไล่ล่าทางรถยนต์ตั้งแต่ฉากแรกจนฉากสุดท้าย

อีก 1 ปีต่อมา...

ใน ปี 2001 Rob Cohen ผู้กำกับมากฝีมือ ได้นำเสนอมิติใหม่ของภาพยนต์โจรกรรม ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์และการซิ่งบนท้องถนน เรียกได้ว่าเป็นหนังไฮออคเทน ที่จุดระเบิดความมันส์ในอารมณ์ของผู้ชม จนทำให้หนังรถซิ่งปีที่แล้วกลายเป็นหนังเด็กๆไปเลย



ผู้ชมได้ตื่นตาไปกับการแข่งรถซิ่งด้วยรถยอดนิยมของบรรดาขาแรงแห่งท้องถนน อีกทั้งหนังได้นำเสนอตัวละครที่มีเสน่ห์น่าดึงดูด และเป็นสัญลักษณ์ของนักซิ่งในเวลาต่อมา นั่นคือ โดมินิค ทอเรตโต้ และ ไบรอัน โอคอร์เนอร์ ตัวละครทั้งสอง ไม่ใช่พวกเหนือมนุษย์ ไม่ใช่กองกำลังหน่วยพิเศษ ไม่ใช่สายลับระดับโลก แต่เป็นเพียงนักซิ่งข้างถนน และ ตำรวจมือใหม่ที่รักในเครื่องยนต์และการอัดรถตามท้องถนนเท่านั้น ที่น่าแปลกก็คือ ตัวละครธรรมดาๆนี้เอง ที่อีกหลายปีต่อมา กลับกลายเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมสูงพอๆกับพวกเหนือมนุษย์ต่างๆได้อย่างเหลือเชื่อ

The Fast And The Furious มีฉากที่เป็นความทรงจำมากมาย ตัวภาพยนต์อัดแน่นไปด้วยความมันส์ที่พร้อมทำปฏิกริยาเพื่อปลุกแกซโซลีในเลือดของผู้ชมออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ฉากการขับซีวิคคูเป้ลอดใต้รถคอนเทนเนอร์ การปล้นขณะที่รถกำลังวิ่ง ฉากการจุดระเบิดของนอส การอัดซูปร้าขนาบกับเฟอรารี่ และฉากสุดท้าย ควอเตอร์ไมล์ ระหว่าง Supra และ 1970 Dodge Charger ฉากคลาสสิคออกตัวยกล้อ รวมทั้งตอนจบที่....

หลายคนที่ชมภาพยนต์เรื่องนี้จบ แกซโซลีนไฮออคเทนในร่างกายเกิดปฏิกริยาจุดระเบิดจนเผลอลืมตัวถึงขนาดว่า อาจจะเหยียบโตโยต้าแก่ๆ ด้วยฟีลลิ่งประหนึ่งตนเองกำลังขับซูปร้า เครื่อง 2J Twin Turbo + Nos และแน่นอน ไบรอั้น โอคอร์เนอร์ และ ดอม โดมินิคโทเรตโต้กลายเป็นฮีโร่ในใจของพวกเค้าทันที

พอล วอล์คเกอร์ ผู้รับบทเป็นไบรอัน โอคอร์นเนอร์ ความโดดเด่นยังคงเป็นรอง วินดีเซล อยู่หลายขุม ทั้งตัวพอลเองและเนื้อหาของตัวละคร แต่นี่แหละ คือจุดเริ่มต้นของตัวละครตัวนี้ ที่เป็นที่รักของทุกๆคน



ปี 2003 หนังไฮออคเทน กลับมาอีกครั้ง แม้ไร้เงา วิน ดีเซล แต่ทีมสร้างก้อพาชายหัวเหม่งมาเป็นคู่หูกับ พอลวอร์คเกอร์ นัยว่า เอ้าไม่มีพี่วินหัวเหม่ง แต่ยังมีหัวเหม่งคนอื่นมาให้ดูนะครับ

2Fast 2Furious



กำกับโดย John Singleton ได้นำ พอล วอลค์เกอร์ มาพบกับ หนุ่มผิวดำ อารมณ์ดี ไทรีส กิ๊บสัน ผู้ที่มาร่วมซิ่งไปบนท้องถนนคู่กับ โอคอร์เนอร์ หลายๆคนบอกว่า ภาพยนต์ภาคนี้ไม่ดีเท่าภาคแรก แต่ว่าหลังจากภาพยนต์ออกฉาย ยามค่ำคืนบนท้องถนน เราจะเห็นรถแต่งซิ่ง ติดไฟนีออนใต้ท้อง เกมอย่างนี้ดฟอร์สปีด รวมทั้งเกมรถแข่งต่างๆ ล้วนนำเสนอตัวเกมออกมาเป็นแนวทางเดียวกับตัวภาพยนต์ และอีกมากมายที่เป็นปรากฏการณ์ว่า Fast ยังคงได้รับความชื่นชอบ

เมื่อไม่มี โดมินิค โทเรตโต้ ภาพยนต์จึงมุ่งมาที่ โอคอร์เนอร์ ตำรวจนักซิ่งเลือดร้อนแทน และการสร้างสรรค์คู่หูที่เป็นเพื่อนสมัยเด็ก อย่าง โรมัน เพียรซ ทำให้ตัวหนังนำความสนุกสนานมาสู่ผู้ชมได้อีกครั้ง และ โรมัน เพียรซ ในอีกหลายปีต่อมา ก็กลายเป็นตัวละครอีกตัว ที่ผู้ชมรักมากที่สุดเช่นกัน รวมทั้งยังเป็นบทบาทที่ทำให้คนจดจำ ไทรีส กิ๊บสัน ได้มากที่สุด

ใน 2Fast พอล วอร์คเกอร์ ยังคงเป็น ไบรอั้น โอคอร์เนอร์ ต่อจาก The Fast ได้อย่างดี และภาคต่อนี้เองทำให้ตัวผมเริ่มรู้สึกแล้วว่า พอล วอล์คเกอร์ คือ ไบรอัน โอคอร์เนอร์

เสียงตอบรับ ของ 2Fast ทางภาพยนต์ ไม่ได้เลิศเลออะไร จนไม่มีใครคิดว่าหนัง Fast จะได้กลับมาขึ้นจอ

แต่แล้วในปี 2006 Chris morgan และ Justin Lin ได้พา Fast ไปสู่รากเหง้าของรถซิ่งบนท้องถนน ที่สนามทางเลียบเขาในโตเกียว โดยไม่มี พอล วอล์เกอร์

ไม่ทราบว่าเพราะก่อนหน้านี้ Initial D การ์ตูนแข่งรถตามเชิงเขาได้รับการสร้างเป็นภาพยนต์ฟรือกระไร ทำให้ผู้กำกับ อย่าง Justin lin อยากทำหนังรถแข่งขึ้นมาบ้าง จึงได้พา Fast ไปโตเกียว รวมทั้งปรับเรื่องราวเป็นการแข่ง Drift ตัวหนังไม่ได้รับคำชมเชยอะไรมาก ทั้งการที่ไม่มีตัวละครอย่าง โอคอร์เนอร์ และการแข่งรถกลายเป็นลักษณะของการแข่ง Drift จนหลายๆคนแทบจะบอกว่า หนังเรื่องนี้ไม่ใช่ Fast แต่เป็นหนังที่เอาชื่อ Fast มาใส่ ยิ่งตอนท้ายของเรื่อง การปรากฏตัวของ …. ได้นำพาให้ตัวหนังเชื่อมต่อกับ Fast อย่าง งงๆ และสงสัย



Tokyo Drift ภาพยนต์ Fast ที่ใช้ ชื่อ Fast ตามหลังเสียด้วยซ้ำเหมือนกับเป็นหนังพ่วงเฉยๆ

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก้อตาม Tokyo Drift ทำให้ เพลงประกอบ กลายเป็นเพลงประจำรถของเหล่าขาซิ่งบนท้องถนนในชีวิตจริง วงการดริฟท์ถูกคนทั่วไปเข้าถึงได้มากขึ้น และเป็นการจุดพลุถือกำเนินตัวละครหน้าเอเซีย อย่าง Han ที่มีคนชื่นชอบเสียมากกว่าตัวพระเอกในเรื่องเสียอีก ไม่ว่าจะอย่างไรก้อตาม Tokyo Drift คืนชีพให้กับหนัง Fast อย่างไม่ต้องสงสัย เปิดช่องทางให้ไปต่อ แม้หนังจะได้รับการถกเถียงกันมากมายว่า มันคือหนัง Fast หรือไม่ ตัวละครเก่าไปไหน มันเกี่ยวอะไรกับ Fast

คำถามเหล่านี้ถูกทิ้งไว้จนกระทั่งปี 2009

Justin lin กลับมาอีกครั้ง พร้อมได้รับความอนุเคราะห์จากผู้เขียนบท จาก Tokyo Drifrt คริส มอร์แกน และ ผู้เขียนบทดั้งเดิมของหนัง Fast 2 ภาคแรก Gary Scott Thompson ในภาค 4 ที่ใช้ชื่อว่า Fast And Furious



ทีมงานตัดสินใจ เอา โดมินิค ทอเรตโต้ และ โอคอเนอร์ กลับมาอีกครั้ง การพัฒนาตัวละครของคริสมอร์แกนแสดงความยอดเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเคยสร้างตัวละครอย่าง Han ให้โด่งดังในภาคที่แล้ว และเค้าก้อพร้อมจะตอบคำถามที่หลายคนสงสัยในตอนจบ ของ Tokyo Drift ว่า ดอมนั้นมาได้อย่างไร? ฮานที่ตายไปแล้วจะมาแสดงในภาคนี้ได้อย่างไร? คำถามนั้นถูกตอบได้ดี และการที่หนังกลับมาโฟกัสที่ตัวละครหลักอย่าง โอคอร์เนอร์ และ ทอเรตโต้ เพื่อคลี่คลายความสงสัยในเรื่องราวหลังจากจบภาคแรก และสร้างความอยากรู้ต่อไปว่าเนื้อหาจะดำเนินไปทางใด ทำให้ตัวหนังมีความน่าสนใจมากขึ้น

ในครั้งนี้หลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไป รถยนต์ทันสมัยขึ้น แต่สิ่งที่คงเดิมคือ ความคิดที่ติดอยู่ในใจ ของ โอคอร์เนอร์ตลอดเวลา ว่าเค้า หรือ ดอมที่เหนือกว่า และ ประเด็นที่โอคอร์เนอร์ต้องตอบตัวเองว่า แท้จริงแล้ว เค้าเป็นคนดี(ตำรวจ) ที่แสร้งทำตัวเป็นคนเลว(แฝงตัวเข้าไปในแก้งค์โทเรตโต้เพื่อจับโจร) หรือ เค้าคือคนเลว(ขาซิ่ง ทำอะไรตามใจ ชอบแหกกฏ) ที่แกล้งทำตัวเป็นคนดี(สมัครเข้ารับราชการตำรวจ) กันแน่

จัสติน ลินผู้กำกับไม่ทำให้แฟนหนังผิดหวัง แม้จะไม่ได้รับเสียงตอบรับทางด้านความบันเทิงเหมือนอย่างหนังชุดแรก เพราะเรื่องของการเลือกใช้รถ ฉากการแข่ง และเนื้อหาที่มันเปลี่ยนแปลงไปจากหนังกลิ่นอายรถซิ่งเป็นหนังกลิ่นโจรกรรม ฆาตกรรม ดราม่า

เรื่องราวเริ่มมีความลึกขึ้นเรื่อยๆ ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวละครเริ่มถูกขุดลึก เริ่มมีการขยายความ จนทำให้ โอคอร์เนอร์ไม่ใช่เพียงแค่ ตัวละครที่เป็นพระเอกหนังแอคชั่นเฉยๆ พอล วอลค์เกอร์ ผสานรวมเป็น โอคอร์เนอร์อย่างแยกไม่ออก ไม่ว่า พอล จะเล่นหนังเรื่องไหน ผมว่า ทุกคนรู้ดีว่าขณะที่เค้าเล่นหนังเรื่องอื่น เค้ากำลังแสดงหนัง แต่เมื่อเค้าเป็น โอคอร์เนอร์ เค้าคือตัวตนนั้นจริงๆ


FAST 5 2011
ไม่ต้องมาหยอกเอิน ไม่ต้องตั้งข้อสงสัยอะไรอีแล้ว หนังทั้งสี่ภาค ทำหน้าที่ของมันเพื่อนำพาหนัง Fast เดินทางมาถึงจุดนี้ จุดที่ระเบิดความมันส์ หยิบทุกอย่างที่เคยมีในหนัง Fast ทุกภาค มาอัดแน่นเต็มกำลัง ตัวละครจะเก่า จะใหม่ จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ไม่ต้องมีคำโต้แย้งแล้ว 10 ปีที่ผ่านมาถูกผสานรวมกัน ปรับแนวทางการนำเสนอ จากหนังรถซิ่งวัยรุ่น กลายเป็นหนังที่มีความจริงจังและดุดันมากขึ้น ตัวละครเติบโตไปพร้อมกับผู้ชม ไบรอั้นไม่ใช่เด็กไฟแรงที่เอะอะก้อไปแข่งรถอีกแล้ว

รถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโจรกรรม ด้วยทักษะการขับรถของทีมซิ่งที่ใกล้จะเหนือมนุษย์เข้าไปทุกที ความแก่ ความเก๋า แนวทางที่เปลี่ยนไปรังสรรค์ให้เกิดความมันส์ของหนังภาคนี้แบบแทบเรียกได้ว่าเกือบลืมหายใจ ไทรีส กิ๊บสัน กลับมาเป็นตัวละครที่ผู้ชมรักมากที่สุดคนหนึ่งในโลกภาพยนต์ (โรมัน เพียรซ). ซุนคัง กลับมารับบท ฮานตัวละครที่โด่งดังเกินกว่าจะให้ตายและหายไปจากภาพยนต์

ตัวละครหลักเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แต่ โอคอร์เนอร์ ยังคงเป็นตัวละครสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของหนังชุดเรื่องนี้อยู่ ในเวลานี้ พอล วอคเกอร์คือใครผมแทบไม่รู้จัก ผมรู้แต่ว่าผู้ชายหล่อคนนี้ คือ ไบรอัน โอคอร์เนอร์

แนวทางหนัง Heist วางแผนปล้น ระห่ำทำลายเมือง ส่ง Fast กลายเป็นหนังชุดที่ทรงคุณค่า ขึ้นทำเนียบหนังชุดที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย คนไม่เคยรู้จัก Fast ก้อต้องรู้จัก

ดังไม่ดัง ก้อบอกได้แค่ว่า ในเมืองไทย มีคนพยายามขโมย ตู้ ATM ด้วยการเอารถติดสลิงไปคล้องตู้ เพื่อใข้รถลากไปตามเมือง ตามอย่างฉากคลาสสิค ลากเซฟถล่มริโอ้

FAST กลายเป็นหนังที่คนรอคอยภาคต่อกันมากที่สุด เพราะทุกๆคนรักตัวละครเหล่านั้นไปแล้วและอยากรู้เรื่องราวต่อไปของพวกเค้า




และในปี 2013 Fast & Furious 6 การกำกับหนังชุดนี้ครั้งสุดท้ายของ Justin lin ได้สองผู้เขียนบทเดิมมาทำหน้าที่พาตัวละครอันทรงเสน่ห์โลดแล่นไปต่อ และ อย่างเช่นเคย Fast ชื่อนี้ไม่ธรรมดา หนังยกระดับจาก การโจรกรรมแล้วหนีตำรวจ เป็น ทีมซิ่งเฉพาะกิจที่ไล่ล่า ผู้ก่อการร้ายระดับหน่วยยานยนต์ของกองทัพ

ไม่น่าเชื่อว่าหนังยังคงงัดเอาเรื่องราว และฉากบ้าระห่ำที่มากยิ่งขึ้นกว่าภาคก่อนๆ อัดแน่นเต็มเรื่อง จนกลายเป็นว่าไม่มีหนังรถซิ่งเรื่องใดในโลกจะตามทันได้อีกแล้ว ทีม โทเรตโต้ อาจจะไปชนกับ ทีมอเวนเจอร์ได้สบายๆ ขอแค่ได้ขับรถ

ความสนุกไม่ต้องพูดถึง และ นอกจากที่ คนเชียนบท จะร่ายเวทย์มนต์นำ เลตตี้ ตัวละครสำคัญที่ตายไปแล้วให้ฟื้นคืนมาได้ ยังสร้างตอนจบอัจฉริยะ ที่ผูกเนื้อหาของหนังทั้งชุดเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อปูทางไปสู่บทบาทใหม่ ของหนัง Fast

จากเรื่องราวทั้งหมดทำให้ Fast7 เป็นหนังที่ผู้ชมรอคอยมากที่สุดเรื่องหนึ่งขอโลก และอาจจจะกลายเป็นหนังภาคต่อที่ไม่ว่าจะติดต่อดาราคนไหน ดาราคนนั้นก้อพร้อมที่จะร่วมแสดง

เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่แม้แต่นักแสดงชาวไทย อย่าง จา พนม ก้อได้รับเกียรติไปเล่นหนังเรื่องนี้ด้วย

แต่แล้ว สิ่งที่หลายๆคนเคยเฝ้าฝันไว้ก้อพังทลาย เมื่อพบกับโศกนาฏกรรม ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด และไม่เคยมีใครคิดว่ามันจะเกิดขึ้น ทุกๆคน รู้ดีว่าหนังจะทำถึงภาค 9 เราจะได้ชมเหล่าแกงค์ ทอเรตโต้ โลดแล่นบนจอภาพยนต์อย่างมีความสุข Fast 6 ไม่ใช่เพียงเป็นหนัง Fast ภาคสุดท้ายที่ Justin Lin กำกับ แต่เป็นภาคสุดท้ายที่เราจะได้เห็นโอคอร์เนอร์อย่างเต็มเรื่องราวอีกด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่