เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ
เกริ่นก่อนว่าเราเองเพิ่งรู้ว่าน้องชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) ทำไอโฟน 5 อายุไม่ถึงสองเดือนเต็มหายไปแล้วเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพราะป้าเราเพิ่งจะโทรมาปรึกษาเมื่อวันอาทิตย์ว่าให้ช่วยตามหาหน่อย จะทำยังไงได้บ้าง เพราะเค้าไม่มีความรู้ด้านนี้เลย จะให้ไปแจ้งความก็กลัวว่าจะได้เครื่องคืนตอนไอโฟน 10 ออกแล้ว เราก็เลยต้องสวมวิญญาณเป็นยอดนักสืบโคนัน ทำตัวเล็ก ใส่แว่น ปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชาย (ไม่ใช่!) ไปไล่ตามหาไอโฟน 5 ที่หายไป ฮ่าๆ
...เรื่องตรงนี้ คือเรื่องที่ป้าเล่าให้ฟังนะคะ...
เริ่มจากน้องชายเราทำไอโฟน 5 หายที่ห้างฯ แถวงามวงศ์วาน เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
(ข้อมูลการทำหาย เช่น หายได้ไง/เวลาไหน/ลืมวางไว้มั้ย ฯลฯ อันนี้เราไม่ทราบเลยนะ เพราะน้องชายเราคงกลัวโดนป้าเราดุที่ทำโทรศัพท์หาย ถามแต่ละทีเลยเล่าไม่ตรงกันสักรอบ -..-)
หลังจากที่น้องชายเรารู้ตัวว่าโทรศัพท์หายแล้ว คุณน้องก็กระหน่ำโทร.เข้าเครื่องรัวๆ จนสักพักมีคนรับสายเป็นผู้หญิง ปลายสายบอกว่าน้องเราโทรมาช้าเกินไป ตอนนี้เค้าขึ้นรถตู้กำลังจะกลับไปบ้านที่อยู่ต่างจังหวัดแล้ว แถมแบตเครื่องน้องเราก็กำลังจะหมด แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้โทรศัพท์คืน เดี๋ยวเค้าจะคืนโทรศัพท์ให้ โดยที่จะส่งคืน ระหว่างนี้ก็ให้น้องชายเราส่งเมสเซจที่อยู่ไปที่เบอร์เค้า น้องชายเราก็ส่งที่อยู่ไปให้เค้าเรียบร้อย ใจคิดว่าสบายล่ะกู ได้โทรศัพท์คืนแน่นอน
พอน้องชายเรากลับมาบ้าน น้องชายเราก็ได้ทำการสารภาพบาป บอกกับป้าว่าผมทำโทรศัพท์หาย แต่อย่าเพิ่งดุด่า เพราะนี่ผมโทรไปคุยกับเขามาแล้วเรียบร้อย เขาบอกจะส่งโทรศัพท์คืนให้ พอฟังจบป้าเราก็จัดการโทรไปคุยกับคนที่เก็บได้ (สมมติว่าชื่อ ต.) ต. บอกว่าจะส่งคืนให้แน่ๆ ค่ะ รอแป๊บนะคะ ป้าเราก็โอเค รอค่ะ รอ ป้าไว้ใจค่ะ (...)
ผ่านไป 1 อาทิตย์ หลังจากคุยกันเรียบร้อยทางนี้ก็เกาะรั้วรอพัสดุจากทางนั้นทุกวัน จนถ้าไปบุกไปรษณีย์ได้คงไปแล้ว ทว่าผ่านไป 1 อาทิตย์ก็ยังไร้วี่แววว ป้าเราเลยโทรไปตามอีกรอบ ต. ก็ยืนยันกับป้าเราว่าส่งคืนแล้วจริงๆ นะคะ แต่... ฝากเพื่อนส่งค่ะ (อ้าว?!) ต. ก็บอกจะตามให้นะคะ นั่น นี่ โน่น... ช่วงนี้ป้าเราก็โทรตามถี่ๆๆ น้อง ต. ก็บอกเหตุผลต่างๆ นานามากมาย ป้าเราถามชื่อ ที่อยู่ ที่ทำงานทุกอย่างไว้ ต. ก็บอกหมดทุกอย่าง บลาๆๆ ป้าเราก็เชื่อใจ เห็นว่ารับสาย เห็นว่าได้พูดคุย น้องเค้าคงจะคืนให้ ป้าไว้ใจค่ะ ป้าไว้ใจ (...)
จนเวลาล่วงเลยไปเข้าอาทิตย์ที่ 3 ป้าเราร้อนใจมาก (ซึ่งรู้ร้อนตัวช้าไปมั้ยคะขุ่นป้าขา...) ป้าเราเลยลองให้คนรู้จักที่อยู่จังหวัดเดียวกับ ต. และก็บังเอิญทำงานที่เดียวกับที่ ต. บอก ช่วยเช็กข้อมูลที่ ต. น้องให้มา สรุปได้ว่าเป็นข้อมูลปลอมทั้งหมด ที่ทำงานนั้นไม่มีคนชื่อ ต. ... ป้าเราเหวอมาก (ป้าเพิ่งจะเหวอเหรอคะค่ะ ?!) ป้าเลยติดต่อ ต. รัวๆๆๆๆๆ แต่ ต. หายไป กลาย คราวนี้ เป็นอีกคนรับสาย (คือป้าเราจำเสียง ต. ได้ค่ะ คุยกันบ่อยยิ่งกว่าลูก) โดยที่มี ต. คอยอยู่ข้างๆ เวลาป้าเราถามอะไร คนรับสายก็จะหันไปถาม ต. ก่อน ถามชื่อก็บอกว่าชื่ออีกชื่อแต่ยังที่ทำงานเดิม ซึ่งป้าเราให้เพื่อนคนเดิมไปเช็กก็ยังไม่เจอตัว
และแล้ว...
เบอร์ของ ต. ก็บล็อกเบอร์ของป้าเราค่ะ พอเอาเบอร์ใหม่ๆ โทรไป ต. ก็จะรับ รับเสร็จแล้วจะคุย อ้างไปเรื่อยๆ พอวางสาย ก็จะบล็อกเบอร์ทันที ทุกเบอร์ เป็นสิบเบอร์ ต. ก็ทำแบบนี้หมด วนเวียนอยู่แบบนี้เป็นสิบเบอร์
.
.
.
.
iPhone 5 หาย แต่ฉันได้คืน...
เกริ่นก่อนว่าเราเองเพิ่งรู้ว่าน้องชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) ทำไอโฟน 5 อายุไม่ถึงสองเดือนเต็มหายไปแล้วเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพราะป้าเราเพิ่งจะโทรมาปรึกษาเมื่อวันอาทิตย์ว่าให้ช่วยตามหาหน่อย จะทำยังไงได้บ้าง เพราะเค้าไม่มีความรู้ด้านนี้เลย จะให้ไปแจ้งความก็กลัวว่าจะได้เครื่องคืนตอนไอโฟน 10 ออกแล้ว เราก็เลยต้องสวมวิญญาณเป็นยอดนักสืบโคนัน ทำตัวเล็ก ใส่แว่น ปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชาย (ไม่ใช่!) ไปไล่ตามหาไอโฟน 5 ที่หายไป ฮ่าๆ
...เรื่องตรงนี้ คือเรื่องที่ป้าเล่าให้ฟังนะคะ...
เริ่มจากน้องชายเราทำไอโฟน 5 หายที่ห้างฯ แถวงามวงศ์วาน เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
(ข้อมูลการทำหาย เช่น หายได้ไง/เวลาไหน/ลืมวางไว้มั้ย ฯลฯ อันนี้เราไม่ทราบเลยนะ เพราะน้องชายเราคงกลัวโดนป้าเราดุที่ทำโทรศัพท์หาย ถามแต่ละทีเลยเล่าไม่ตรงกันสักรอบ -..-)
หลังจากที่น้องชายเรารู้ตัวว่าโทรศัพท์หายแล้ว คุณน้องก็กระหน่ำโทร.เข้าเครื่องรัวๆ จนสักพักมีคนรับสายเป็นผู้หญิง ปลายสายบอกว่าน้องเราโทรมาช้าเกินไป ตอนนี้เค้าขึ้นรถตู้กำลังจะกลับไปบ้านที่อยู่ต่างจังหวัดแล้ว แถมแบตเครื่องน้องเราก็กำลังจะหมด แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้โทรศัพท์คืน เดี๋ยวเค้าจะคืนโทรศัพท์ให้ โดยที่จะส่งคืน ระหว่างนี้ก็ให้น้องชายเราส่งเมสเซจที่อยู่ไปที่เบอร์เค้า น้องชายเราก็ส่งที่อยู่ไปให้เค้าเรียบร้อย ใจคิดว่าสบายล่ะกู ได้โทรศัพท์คืนแน่นอน
พอน้องชายเรากลับมาบ้าน น้องชายเราก็ได้ทำการสารภาพบาป บอกกับป้าว่าผมทำโทรศัพท์หาย แต่อย่าเพิ่งดุด่า เพราะนี่ผมโทรไปคุยกับเขามาแล้วเรียบร้อย เขาบอกจะส่งโทรศัพท์คืนให้ พอฟังจบป้าเราก็จัดการโทรไปคุยกับคนที่เก็บได้ (สมมติว่าชื่อ ต.) ต. บอกว่าจะส่งคืนให้แน่ๆ ค่ะ รอแป๊บนะคะ ป้าเราก็โอเค รอค่ะ รอ ป้าไว้ใจค่ะ (...)
ผ่านไป 1 อาทิตย์ หลังจากคุยกันเรียบร้อยทางนี้ก็เกาะรั้วรอพัสดุจากทางนั้นทุกวัน จนถ้าไปบุกไปรษณีย์ได้คงไปแล้ว ทว่าผ่านไป 1 อาทิตย์ก็ยังไร้วี่แววว ป้าเราเลยโทรไปตามอีกรอบ ต. ก็ยืนยันกับป้าเราว่าส่งคืนแล้วจริงๆ นะคะ แต่... ฝากเพื่อนส่งค่ะ (อ้าว?!) ต. ก็บอกจะตามให้นะคะ นั่น นี่ โน่น... ช่วงนี้ป้าเราก็โทรตามถี่ๆๆ น้อง ต. ก็บอกเหตุผลต่างๆ นานามากมาย ป้าเราถามชื่อ ที่อยู่ ที่ทำงานทุกอย่างไว้ ต. ก็บอกหมดทุกอย่าง บลาๆๆ ป้าเราก็เชื่อใจ เห็นว่ารับสาย เห็นว่าได้พูดคุย น้องเค้าคงจะคืนให้ ป้าไว้ใจค่ะ ป้าไว้ใจ (...)
จนเวลาล่วงเลยไปเข้าอาทิตย์ที่ 3 ป้าเราร้อนใจมาก (ซึ่งรู้ร้อนตัวช้าไปมั้ยคะขุ่นป้าขา...) ป้าเราเลยลองให้คนรู้จักที่อยู่จังหวัดเดียวกับ ต. และก็บังเอิญทำงานที่เดียวกับที่ ต. บอก ช่วยเช็กข้อมูลที่ ต. น้องให้มา สรุปได้ว่าเป็นข้อมูลปลอมทั้งหมด ที่ทำงานนั้นไม่มีคนชื่อ ต. ... ป้าเราเหวอมาก (ป้าเพิ่งจะเหวอเหรอคะค่ะ ?!) ป้าเลยติดต่อ ต. รัวๆๆๆๆๆ แต่ ต. หายไป กลาย คราวนี้ เป็นอีกคนรับสาย (คือป้าเราจำเสียง ต. ได้ค่ะ คุยกันบ่อยยิ่งกว่าลูก) โดยที่มี ต. คอยอยู่ข้างๆ เวลาป้าเราถามอะไร คนรับสายก็จะหันไปถาม ต. ก่อน ถามชื่อก็บอกว่าชื่ออีกชื่อแต่ยังที่ทำงานเดิม ซึ่งป้าเราให้เพื่อนคนเดิมไปเช็กก็ยังไม่เจอตัว
และแล้ว...
เบอร์ของ ต. ก็บล็อกเบอร์ของป้าเราค่ะ พอเอาเบอร์ใหม่ๆ โทรไป ต. ก็จะรับ รับเสร็จแล้วจะคุย อ้างไปเรื่อยๆ พอวางสาย ก็จะบล็อกเบอร์ทันที ทุกเบอร์ เป็นสิบเบอร์ ต. ก็ทำแบบนี้หมด วนเวียนอยู่แบบนี้เป็นสิบเบอร์
.
.
.
.