ข้อมูลจากวิกิพีเดีย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B2
อีสา และ รวีช่วงโชติ เป็นนวนิยายชิ้นเอกของ สีฟ้า หรือ หม่อมหลวงศรีฟ้า มหาวรรณ ที่บรรจงถ่ายทอดเหตุการณ์ของยุคสมัยช่วงเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านชีวิตความเป็นอยู่ และเหตุการณ์ของบ้านเมืองได้อย่างสมจริง โดยมีฉากชีวิตของอีสานำพาบอกกล่าวเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง[1] ถูกนำมาสร้างเป็นละครครั้งแรกทางช่อง 4 บางขุนพรหม โดยผู้รับบทอีสาคนแรกคือ เมตตา รุ่งรัตน์ ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2517 ทางช่อง 4 บางขุนพรหม โดยผู้รับบทอีสา คือ เปียทิพย์ คุ้มวงศ์ ครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2525 ทางช่อง 9 โดยผู้รับบทอีสา คือ ลินดา ค้าธัญเจริญ ครั้งที่ 4 ในปี พ.ศ. 2531 ทางช่อง 7 โดยผู้รับบทอีสา คือ อภิรดี ภวภูตานนท์ ครั้งที่ 5 ในปี พ.ศ. 2541 โดยผู้รับบทอีสา คือ รชนีกร พันธุ์มณี และครั้งที่ 6 ในปี พ.ศ. 2557 ทางช่อง 5 โดยผู้รับบทอีสา คือ วรนุช ภิรมย์ภักดี
เรื่อง รวีช่วงโชติ ภาคต่อของเรื่องอีสา ได้กำเนิดขึ้นหลังจากละครอีสาที่นำแสดงโดย อภิรดี ภวภูตานนท์ นั้นโด่งดังมาก ประกอบกับมีผู้อ่านยังคาใจกับตอนจบของอีสาอยู่ ผู้เขียนจึงได้เขียนภาคต่อออกมา
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีสา เป็นเรื่องราวของ สา หรืออุษาเป็นลูกทาสที่เกิดและโตในวังของหม่อมเจ้าโชติช่วงงระวี รวีวาร ที่แม้จะมีการเลิกทาสแล้วแต่บรรดาทาสหลายคนซึ่งไม่มีที่จะไปก็ยังสมัครใจอยู่ใต้บารมีท่านเป็นสิบๆ คน สาเกิดมาไม่มีพ่อ และแม่ก็ตายหลังสาเกิดเพียงสองวัน สาจึงเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของป้าเจิม อดีตทาสที่อาวุโสสูงสุดในวัง เมื่อสาอายุได้สิบสองปีป้าเจิมก็พาสาไปฝากตัวไว้กับหม่อมนิ่มหม่อมน้อย ให้ช่วยฝึกหัดขัดเกลาจนสาเติบโตเป็นสาวแรกรุ่นที่เรียนรู้เรื่องของการวางตัวอย่างผู้ดี และยังได้หัดรำละครอีกด้วย สาแอบชื่นชมบูชาท่านชายมาตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยแรกรุ่นจนวันหนึ่ง เมื่อสาอายุได้สิบหกปี หม่อมทั้งสองก็”ถวายตัว”สาให้กับท่านชาย ธรรมชาติสอนให้สาเรียนรู้ที่จะมีจริตจก้านตามวัย ทำให้ท่านชายลุ่มหลงในตัวสามากกว่าหม่อมคนอื่น ๆ
แต่ถึงกระนั้นสาก็ยังไม่ได้รับการยกย่องให้เป็น“หม่อม”อย่างออกหน้าออกตา จนกระทั่งสาตั้งท้องและคลอดลูกชาย ซึ่งเป็นลูกชายคนแรกและคนเดียวของท่านชาย หม่อมพริ้มซึ่งเป็นหม่อมใหญ่ก็ได้โอบอุ้ม“คุณชาย”ไปเลี้ยงดูฟูมฟักเสมอลูกชายของตน ให้สาได้พบลูกบ้างเป็นครั้งคราวและเรียกลูกชายของตนเหมือนคนอื่นๆ ว่า“คุณชาย”
หลังจากนั้นไม่นาน ท่านชายก็สิ้นพระชนม์ลง และจำเพาะต้องมาสิ้นลงในคืนที่สาเพิ่ง“ถวายงาน”เสร็จ ฐานะของสาที่ทำท่าว่าจะดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งหลังจากคลอดลูกชายก็ดูเหมือนจะตกต่ำลงไป ด้วยข้อหา“กาลกิณี หรือผู้หญิงกินผัว”ที่แม้สาเองก็ไม่รู้ความหมาย
หลังจากท่านชายสิ้น ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในวัง ทั้งด้านผู้คนที่แยกย้ายกันออกไปเป็นบางส่วน ทั้งด้านสภาพบ้านเรือนที่รายรอบวัง ในความเปลี่ยนแปลงนั้น สาก็ได้รู้จักกับสมศักดิ์ ชายหนุ่มรูปงามที่มีกิริยาท่าทีสุภาพอ่อนโยน สาหลงรักเขาโดยง่าย ด้วยวัยที่ยังเยาว์ และธรรมชาตในตัวอันลึกล้ำ แต่เป้าหมายของนายสมศักดิ์ไม่ได้อยู่ที่สา เขาเพียงอาศัยสาเพื่อเข้าถึงตัวคุณหญิงโสภาพรรณวดี ลูกสาววัยรุ่นของหม่อมพริ้มต่างหาก สานั้นชื่นชมนายสมศักดิ์จนถึงขั้นยอมตัวเป็นสะพานสื่อรักให้ แม้จะรู้ว่าผิดแต่เธอก็ทนแรงอ้อนวอนของนายสมศักดิ์ไม่ไหว ในที่สุดถึงกับพาคุณหญิงหนีตามนายสมศักดิ์ออกจากวัง ทั้ง ๆ ที่สาเองก็กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สองของท่านชายอยู่ด้วย
สาคลอดลูกคนที่สองเป็นผู้หญิง จึงยกให้เป็นลูกของคุณหญิงโสภาฯ กับนายสมศักดิ์ซึ่งคุณหญิงก็รักหนูน้อยมากเช่นกัน ตั้งชื่อให้ว่าโสภิตพิไล สานั้นลึกๆ รู้สึกผิดต่อคุณหญิงที่พาเธอมาตกต่ำจึงเฝ้าดูแลไม่ให้คุณหญิงต้องลำบาก แรกๆ ก็ดูเหมือนจะมีความสุขกันตามประสา แต่นานวันเข้า ทรัพย์สินที่คุณหญิงมีติดตัวมาเริ่มร่อยหรอ สาจึงออกหางานทำ และด้วยความที่เคยเป็นนางรำมาก่อน สาก็ได้งานแสดงละครเวทีกลายเป็นอุษาวดี – -นางละครผู้มีชื่อเสียงในเวลาไม่นาน
คุณหญิงโสภาฯ เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ และชืดชาในเรื่องบนเตียงจนนายสมศักดิ์เกิดความเบื่อหน่ายแม้จะยังรักคุณหญิงอยู่มาก แต่ความเห็นแก่ตัวมีมากกว่าวันหนึ่งนายสมศักดิ์ก็ย่องเข้าหาสาและได้เสียกัน สารู้สึกผิด แต่ด้วยแรงปรารถนาในใจก็ผลักดันให้สาดำดิ่งลงสู่ ห้วงแห่งดำกฤษณาอย่างยากที่จะถอนตัว จนวันหนึ่งคุณหญิงก็จับได้ และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันคุณหญิงก็หายตัวไปและเสียชีวิตด้วยการจมน้ำตายในเวลาต่อมา
หลังงานศพคุณหญิง สาตัดสินใจแต่งงานกับนายวิทย์ นักดนตรีหนุ่มที่มาติดพันเธออยู่ในช่วงนั้นเพื่อหนีบาปในใจที่ตามหลอกหลอน นายสมศักดิ์เสียใจมากจนกินเหล้าเมาและตกน้ำตายตามคุณหญิงไป สาอยู่กินกับนายวิทย์อย่างไม่ราบรื่นนักเพราะนายวิทย์นั้นต้องอาศัยอยู่กับพี่สาว ซึ่งไม่ยอมรับในตัวน้องสะใภ้อย่างสา ประกอบกับนายวิทย์เป็นนักดนตรีที่มีอารมณ์ศิลปินสูง ถึงเขาจะรักสามากแต่เขาก็ไม่เข้าใจในความต้องการของสาได้ดีเพียงพอ
ทำให้เมื่อวันหนึ่ง สาได้พบกับนายเซกิ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นและมีความสัมพันธ์กัน สาจึงตัดสินใจขอแยกทางกับนายวิทย์ เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ญี่ปุ่นแพ้สงคราม นายเซกิต้องกลับไปญิ่ปุ่น ก็ได้มอบมรดกเป็นเงินจำนวนมากให้กับสา
เวลาผ่านไป…อุษาส่งโสภิตพิไลเข้าเรียนในโรงเรียนประจำที่ดีที่สุด ส่วนตัวเธอใช้เงินที่ได้มาจากนายเซกิเปิดธุรกิจสถานบันเทิงโดยมีประธานหนุ่มรุ่นน้องที่กลายเป็นสามีลับๆ ของเธอด้วยเป็นผู้ช่วย อาชีพและชื่อเสียงของอุษามีผลกระทบต่อโสภิตไม่น้อย เมื่อโสภิตเรียนจบชั้นมัธยมปลายก็ออกจากโรงเรียนกลับมาอยู่ที่บ้าน เธอเรียกอุษาว่าป้า เพราะคิดว่าตัวเองเป็นลูกของคุณหญิงที่ตายจากไป และอุษาก็มีฐานะเป็นเพียงกึ่งญาติห่างๆ กึ่ง “ข้าเก่า”ของแม่เธอเท่านั้น
วันหนึ่งโชคชะตาบันดาลให้อุษาได้พบกับคุณชายรวีช่วงโชติ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้พิพากษาหนุ่มที่เพิ่งสำเร็จการศึกษามาจากเมืองนอก อาจจะด้วยความผูกพันทางสายเลือดที่ทำให้หม่อมราชวงศ์หนุ่มรู้สึกดีกับอุษา ถึงแม้ใคร ๆ จะเล่าลือถึงอดีตและเบื้องหลังของสาวใหญ่ผู้นี้ในทางไม่ดีนักก็ตาม หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเขามีใจให้กับอุษาเสียแล้ว รวมทั้งโสภิตพิไล ซึ่งรู้สึกขัดใจขัดตาต่อผู้เป็นป้ามาแต่ต้น
โสภิตพิไลเกิดความรู้สึกอยากจะท้าทายผู้เป็นป้าจึงพาตัวเข้าไปพัวพันกับทั้งคุณชายรวีช่วงโชติและนายประธาน นั่นทำให้อุษายิ่งร้อนรนด้วยเกรงว่าโสภิตกับคุณชาย ลูกชาย-หญิงของเธอเอง จะชอบพอกันขึ้นมาจริงๆ วันหนึ่งก็เกิดเหตุ โสภิตพิไลถูกนายประธานปลุกปล้ำ อุษาเข้าขัดขวางและยิงนายประธานตาย อุษากลายเป็นผู้ต้องหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา เพราะเธอไม่ต้องการให้โสภิตต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่โสภิตทนเห็นอุษาต้องมารับโทษเพราะปกป้องเธอไม่ได้จึงมาเป็นพยานในศาลและขอให้คุณชายรวีช่วงโชติช่วยในด้านกฏหมายด้วยอุษาจึงพ้นผิดจากคดี แต่อุษาไม่อาจเลี่ยงพ้นผลกรรมของตัวเอง เมื่อเสร็จสิ้นคดีหม่อมพริ้มก็ให้รับโสภิตพิไลซึ่งท่านเข้าใจว่าเป็นลูกสาวของคุณหญิงโสภาเข้าไปอยู่ในบ้าน
โสภิตเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่ออุษาเพราะคิดว่าอุษาปิดบังชาติกำเนิดของตน เธอคิดว่าการที่เธอเข้าไปเป็นพยานให้อุษาจนพ้นข้อกล่าวหานั้นเป็นการตอบแทนบุญคุณที่อุษาเลี้ยงดูเธอมาอย่างเพียงพอแล้ว นับแต่นี้เธอก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอุษาอีกต่อไป อีสาจึงไปต่อรองกับหม่อมพริ้ม ให้รับโสภิตเป็นหลาน ในที่สุดหม่อมพริ้มก็ยอม แต่หม่อมพริ้มได้เล่าเรื่องราวของอีสาในอดีตให้ชายระวีฟัง ชายระวีจึงเริ่มออกห่างอีสา เมื่อชายระวีรับโสภิตไปแล้วก็ไม่ค่อยได้มาเยี่ยม ทำให้อีสาคิดมาก อีสามีแต่ความทุกข์ระทมใจ พยายามจะฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ อีสาได้ไปหายายเจิม ผู้ที่เลี้ยงอีสาในยามเด็ก ยายเจิมดุด่าอีสา อีสาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เรื่องโสภิตเป็นลูกของตน และสั่งไม่ให้ยายเจิมบอกใคร อีสาคิดว่าชายระวีกับโสภิต คงจะรังเกียจตนมาก จึงตัดสินใจบวชชี หม่อมพริ้มได้พาลูกทั้งสองของอีสามากราบอีสา และไม่ได้บอกความจริงให้ทั้งสองได้ทราบ
รายชื่อนักแสดง
สถานีออกอากาศ :ช่อง 5
ผู้จัดละคร: / ผู้ผลิต เอ็กแซ็กท์ / ซีเนริโอ
ผู้กำกับการแสดง: สันต์ ศรีแก้วหล่อ
บทโทรทัศน์: ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
อีสา / อุษาวดี: วรนุช ภิรมย์ภักดี
ม.ร.ว.รวีช่วงโชติ: นิธิดล ป้อมสุวรรณ
ม.ร.ว.โสภาพรรณวดี: (หญิงโสภา) เต็มฟ้า กฤษณายุธ
หญิงโสภิตภิไล: มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ
สมศักดิ์: ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์
หม่อมพริ้ม: สินจัย เปล่งพานิช
ใจสว่าง: ภัณฑิลา ปานสิริธนาโชติ
ยายเจิม: รัญญา ศิยานนท์
บัว: อริศรา วงษ์ชาลี
ท่านชายโชติช่วงรวี รวีวาร: ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์
วิทย์: กันต์ดนย์ อะคาซาน
ประธาน: ปฏิภาณ ปฐวีกานต์
เซกิ: ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา
หม่อมลำดวน: ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
หม่อมนิ่ม: ลักขณา วัธนวงส์ศิริ
TEASER อีสา รวีช่วงโชติ
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีสา และ รวีช่วงโชติ เป็นนวนิยายชิ้นเอกของ สีฟ้า หรือ หม่อมหลวงศรีฟ้า มหาวรรณ ที่บรรจงถ่ายทอดเหตุการณ์ของยุคสมัยช่วงเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านชีวิตความเป็นอยู่ และเหตุการณ์ของบ้านเมืองได้อย่างสมจริง โดยมีฉากชีวิตของอีสานำพาบอกกล่าวเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง[1] ถูกนำมาสร้างเป็นละครครั้งแรกทางช่อง 4 บางขุนพรหม โดยผู้รับบทอีสาคนแรกคือ เมตตา รุ่งรัตน์ ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2517 ทางช่อง 4 บางขุนพรหม โดยผู้รับบทอีสา คือ เปียทิพย์ คุ้มวงศ์ ครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2525 ทางช่อง 9 โดยผู้รับบทอีสา คือ ลินดา ค้าธัญเจริญ ครั้งที่ 4 ในปี พ.ศ. 2531 ทางช่อง 7 โดยผู้รับบทอีสา คือ อภิรดี ภวภูตานนท์ ครั้งที่ 5 ในปี พ.ศ. 2541 โดยผู้รับบทอีสา คือ รชนีกร พันธุ์มณี และครั้งที่ 6 ในปี พ.ศ. 2557 ทางช่อง 5 โดยผู้รับบทอีสา คือ วรนุช ภิรมย์ภักดี
เรื่อง รวีช่วงโชติ ภาคต่อของเรื่องอีสา ได้กำเนิดขึ้นหลังจากละครอีสาที่นำแสดงโดย อภิรดี ภวภูตานนท์ นั้นโด่งดังมาก ประกอบกับมีผู้อ่านยังคาใจกับตอนจบของอีสาอยู่ ผู้เขียนจึงได้เขียนภาคต่อออกมา
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายชื่อนักแสดง
สถานีออกอากาศ :ช่อง 5
ผู้จัดละคร: / ผู้ผลิต เอ็กแซ็กท์ / ซีเนริโอ
ผู้กำกับการแสดง: สันต์ ศรีแก้วหล่อ
บทโทรทัศน์: ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
อีสา / อุษาวดี: วรนุช ภิรมย์ภักดี
ม.ร.ว.รวีช่วงโชติ: นิธิดล ป้อมสุวรรณ
ม.ร.ว.โสภาพรรณวดี: (หญิงโสภา) เต็มฟ้า กฤษณายุธ
หญิงโสภิตภิไล: มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ
สมศักดิ์: ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์
หม่อมพริ้ม: สินจัย เปล่งพานิช
ใจสว่าง: ภัณฑิลา ปานสิริธนาโชติ
ยายเจิม: รัญญา ศิยานนท์
บัว: อริศรา วงษ์ชาลี
ท่านชายโชติช่วงรวี รวีวาร: ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์
วิทย์: กันต์ดนย์ อะคาซาน
ประธาน: ปฏิภาณ ปฐวีกานต์
เซกิ: ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา
หม่อมลำดวน: ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
หม่อมนิ่ม: ลักขณา วัธนวงส์ศิริ