หลังจากที่ธอร์ต่อสู้เพื่อนำความสงบมาสู่จักรวาล จนในที่สุดโลกทั้ง 9 ก็เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความสงบสุข แต่ก็ยังมีชนเผ่าโบราณอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่มาตั้งแต่ครั้งที่แสงสว่างยังไม่ก่อกำเนิด ซึ่งนำโดยมาเลคิธ ผู้เคียดแค้นแสงสว่างในจักรวาล และพยายามที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้จักรวาลเข้าสู่ความมืดมิดอีกครั้ง แต่เขากลับถูกชาวแอสการ์ดเข้ามาขัดขวางแผนการณ์ของเขาเมื่อครั้งอดีตจนล้มเหลว
กลับมาคราวนี้ เขาได้ดำเนินแผนการณ์เมื่อครั้งอดีตอีกรอบ เพื่อทำให้จักรวาลเข้าสู่ความมืดมิดอีกครั้ง โดยเข้าเผชิญหน้ากับโอดินและธอร์ ทำให้ธอร์ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยอันตราย เพื่อปกป้องโลกทั้ง 9 รวมไปถึงเจน ฟอสเตอร์ หญิงสาวนักวิทยาศาสตร์ชาวมนุษย์ให้รอดพ้นจากหายนะในครั้งนี้ให้จงได้
สำหรับธอร์ในภาคนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่าจะมีการอ้างอิงถึงเนื้อเรื่องในภาคแรกอยู่บ้าง โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ ดังนั้นถ้าใครไม่เคยดูภาคแรก แล้วมาดูภาคนี้เลย อาจจะงงๆมึนๆในช่วงแรกอยู่บ้าง แต่ดูไปเรื่อยๆก็สามารถทำความเข้าใจเองได้ไม่ยากครับ
โดยในภาคนี้ ค่อนข้างที่จะมีครบรส ทั้งแอคชั่น ดราม่า ไซไฟ ใช้สมอง และตลก ซึ่งธีมหนังหลักๆ จะเป็นแนวมาร์เวลยุคนี้ คือ เน้นดราม่าผสมแอคชั่น มีเนื้อเรื่องแน่นๆ เก็บรายละเอียดทุกจุด ทุกอย่างมีเหตุที่มาที่ไป ซึ่งบางอย่างหนังจะไม่ได้เฉลยตรงๆ ต้องมานั่งคิดหาคำตอบเอง (ชอบๆ)
ส่วนเนื้อเรื่องและการเล่าเรื่องก็ทำได้ดี เข้าใจง่าย ตื่นเต้นและให้ลุ้นตามได้ตลอดทั้งเรื่อง ฉากแอคชั่นก็อลังการเว่อร์เหมือนยอดมนุษย์ตีกัน ภาพสวย เอฟเฟคเยี่ยม เสียงดี ถึงจะไม่ยิ่งใหญ่อลังการเท่า The Avengers และดูสั้นไปนิดก็เถอะ แต่โดยรวมก็ยังถือว่ามันส์ได้ใจ
นอกจากหนังเรื่องนี้จะเป็นธีมดราม่า+แอคชั่นแล้ว จุดที่โดดเด่นอีกจุดของเรื่องนี้ก็คือ มุขตลกครับ เล่นมุขกันกระจาย เรียกเสียงฮาได้ตลอดเวลาอ่ะ (เล่นจนแอบงงว่า เอ๊ะ หรือเรามาดูหนังตลกหรือเปล่า 55+) และอีกจุดนึงก็คือ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้มีการนำเอฟเฟค 3D ทะลุจอมาเล่นก็เถอะ แต่ก็ทำให้ดูแล้วได้มิติของหนังดีครับ ถ้าใครมีโอกาสให้ลองดูแบบ 3D ก็ดีนะ
บอกเลยว่า ห้ามพลาด!! สำหรับหนังเรื่องนี้ ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่มีครบรส ทั้งสนุก ลุ้น ตื่นเต้น มันส์ ซึ้ง เศร้า ไม่แพ้ภาคแรก แต่เน้นเอาฮามากขึ้น เนื้อเรื่องแน่นดี หนังจบแบบมีคำถามค้างคา แต่พอมานั่งคิดกลับมีคำตอบให้ครบอยู่แล้วในตัว และที่สำคัญ มีอีก 2 ฉากหลัง End Credit ที่ไม่ควรพลาด มีหลายคนโดนหลอก ออกไปทันทีที่หนังจบ แถมยังมีอีกกลุ่มที่ออกไปหลัง End Credit ช่วงแรก แนะนำว่าให้อยู่จนจบจริงๆนะครับ
9/10
Thor: The Dark World : ธอร์: โลกาทมิฬ (ไม่สปอยล์)
หลังจากที่ธอร์ต่อสู้เพื่อนำความสงบมาสู่จักรวาล จนในที่สุดโลกทั้ง 9 ก็เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความสงบสุข แต่ก็ยังมีชนเผ่าโบราณอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่มาตั้งแต่ครั้งที่แสงสว่างยังไม่ก่อกำเนิด ซึ่งนำโดยมาเลคิธ ผู้เคียดแค้นแสงสว่างในจักรวาล และพยายามที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้จักรวาลเข้าสู่ความมืดมิดอีกครั้ง แต่เขากลับถูกชาวแอสการ์ดเข้ามาขัดขวางแผนการณ์ของเขาเมื่อครั้งอดีตจนล้มเหลว
กลับมาคราวนี้ เขาได้ดำเนินแผนการณ์เมื่อครั้งอดีตอีกรอบ เพื่อทำให้จักรวาลเข้าสู่ความมืดมิดอีกครั้ง โดยเข้าเผชิญหน้ากับโอดินและธอร์ ทำให้ธอร์ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยอันตราย เพื่อปกป้องโลกทั้ง 9 รวมไปถึงเจน ฟอสเตอร์ หญิงสาวนักวิทยาศาสตร์ชาวมนุษย์ให้รอดพ้นจากหายนะในครั้งนี้ให้จงได้
สำหรับธอร์ในภาคนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่าจะมีการอ้างอิงถึงเนื้อเรื่องในภาคแรกอยู่บ้าง โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ ดังนั้นถ้าใครไม่เคยดูภาคแรก แล้วมาดูภาคนี้เลย อาจจะงงๆมึนๆในช่วงแรกอยู่บ้าง แต่ดูไปเรื่อยๆก็สามารถทำความเข้าใจเองได้ไม่ยากครับ
โดยในภาคนี้ ค่อนข้างที่จะมีครบรส ทั้งแอคชั่น ดราม่า ไซไฟ ใช้สมอง และตลก ซึ่งธีมหนังหลักๆ จะเป็นแนวมาร์เวลยุคนี้ คือ เน้นดราม่าผสมแอคชั่น มีเนื้อเรื่องแน่นๆ เก็บรายละเอียดทุกจุด ทุกอย่างมีเหตุที่มาที่ไป ซึ่งบางอย่างหนังจะไม่ได้เฉลยตรงๆ ต้องมานั่งคิดหาคำตอบเอง (ชอบๆ)
ส่วนเนื้อเรื่องและการเล่าเรื่องก็ทำได้ดี เข้าใจง่าย ตื่นเต้นและให้ลุ้นตามได้ตลอดทั้งเรื่อง ฉากแอคชั่นก็อลังการเว่อร์เหมือนยอดมนุษย์ตีกัน ภาพสวย เอฟเฟคเยี่ยม เสียงดี ถึงจะไม่ยิ่งใหญ่อลังการเท่า The Avengers และดูสั้นไปนิดก็เถอะ แต่โดยรวมก็ยังถือว่ามันส์ได้ใจ
นอกจากหนังเรื่องนี้จะเป็นธีมดราม่า+แอคชั่นแล้ว จุดที่โดดเด่นอีกจุดของเรื่องนี้ก็คือ มุขตลกครับ เล่นมุขกันกระจาย เรียกเสียงฮาได้ตลอดเวลาอ่ะ (เล่นจนแอบงงว่า เอ๊ะ หรือเรามาดูหนังตลกหรือเปล่า 55+) และอีกจุดนึงก็คือ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้มีการนำเอฟเฟค 3D ทะลุจอมาเล่นก็เถอะ แต่ก็ทำให้ดูแล้วได้มิติของหนังดีครับ ถ้าใครมีโอกาสให้ลองดูแบบ 3D ก็ดีนะ
บอกเลยว่า ห้ามพลาด!! สำหรับหนังเรื่องนี้ ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่มีครบรส ทั้งสนุก ลุ้น ตื่นเต้น มันส์ ซึ้ง เศร้า ไม่แพ้ภาคแรก แต่เน้นเอาฮามากขึ้น เนื้อเรื่องแน่นดี หนังจบแบบมีคำถามค้างคา แต่พอมานั่งคิดกลับมีคำตอบให้ครบอยู่แล้วในตัว และที่สำคัญ มีอีก 2 ฉากหลัง End Credit ที่ไม่ควรพลาด มีหลายคนโดนหลอก ออกไปทันทีที่หนังจบ แถมยังมีอีกกลุ่มที่ออกไปหลัง End Credit ช่วงแรก แนะนำว่าให้อยู่จนจบจริงๆนะครับ