จดหมายเปิดผนึกถึง เหล่า ส.ส.ทุกๆท่านของพรรคเพื่อไทย

ท่าน ส.ส.ผู้มีเกียรติทุกๆท่านครับ การที่พวกท่านพยายามช่วยกันผลักดัน พรบ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง แม้จะอ้างเพื่อความปรองดอง อ้างเพื่อให้ประเทศได้เดินหน้าต่อก็ตาม แต่การกระทำเช่นนี้ บอกตามตรง มันไม่สง่างามเลยสักนิด แล้วอย่างนี้มันจะต่างอะไรกับการตั้งรัฐบาลในค่ายทหารที่พวกเรารังเกียจกันล่ะครับ

ผมเข้าใจดีครับว่า ทุกๆท่านมีความจำเป็นจะต้องเอาใจคุณทักษิณ เพราะบุคลากรแถวหนึ่ง แถวสองล้วนพ้นบ่วงกรรม ตัวจริงกำลังจะกลับมา ดังนั้นพวกท่านจำเป็นต้องเร่งทำผลงานให้เป็นที่ประทับใจคุณทักษิณ เผื่อจะมีบุญมีคุณต่อกัน ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

แต่ท่าน ส.ส.ครับ พวกท่านเคยมองอีกมุมหรือไม่ครับ ทำไมพวกท่านจึงได้รับเลือกเข้ามาตั้ง 256 เสียง จนเกินกึ่งหนึ่ง จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ นั่นเป็นเพราะคนส่วนใหญ่อยากให้พวกท่านเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่หาเสียงไว้ และสิ่งสำคัญ ประชาชนอยากให้พวกท่านเข้ามาชำระคดีประวัติศาสตร์แห่งการสังหารหมู่คนไทยด้วยกัน

แล้วดูสิ่งที่พวกท่านกำลังทำสิครับ เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญกลับไม่กล้าดันสุดซอย ทั้งที่มีอำนาจ แต่เรื่องนิรโทษกรรม ที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมเฉพาะนักโทษการเมืองที่ไม่รวมแกนนำกับผู้สั่งการ แล้วพวกท่านกลับมาดันซะสุดซอยอย่างนี้ ไม่คิดว่าเป็นการทรยศประชาชนอย่างนั้นหรือครับ แบบนี้มันจะต่างอะไรกับกลุ่มงูเห่าล่ะครับท่าน ส.ส.

จริงอยู่ คุณทักษิณเป็นผู้ที่ถูกกระทำด้วยความอยุติธรรม เรื่องนี้คนส่วนใหญ่ที่มีสามัญสำนึก ล้วนแต่ทราบดีทั้งสิ้น ล้วนแต่อยากให้สังคมคืนความยุติธรรมให้กับท่าน แต่การคืนความยุติธรรม ไม่ใช่แค่การนำท่านกลับบ้านเท่านั้น มันต้องคืนศักดิ์ศรีที่ท่านถูกปรักปรำมาตลอดหลายปีด้วย แล้วพวกท่านกลับพยายามที่จะนำผู้ต้องหาฆ่าประชาชนมากมายมาแลกการได้กลับบ้านของคุณทักษิณแค่นั้นหรือครับ

ท่านส.ส.ครับ ตลอดการต่อสู้ของคนเสื้อแดง มันเป็นการต่อสู้เพื่อให้ประเทศได้ประชาธิปไตย เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน และเหนือสิ่งใดเป็นการต่อสู้ เพื่อแสดงให้เหล่าอำมาตย์ได้รับรู้ว่า ประชาชนคนเสื้อแดงไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างอีกต่อไป ตอนนั้นพวกท่านไปหลบกันที่ไหนกันครับ

ท่าน ส.ส.ครับ ตอนที่คนเสื้อแดงถูกกระทำด้วยความโหดเหี้ยม ตายกันเป็นร้อย บาดเจ็บอีกร่วมสองพัน ติดคุกกันอีกมายมาย นี่ยังไม่รวมถึงครอบครัวของคนเหล่านั้น ซึ่งรวมกันแล้วต้องมีกันเป็นหมื่น ตอนนั้นพวกท่านเคยออกมาช่วยเหลืออะไรพวกเขาบ้าง แล้วมาถึงตอนนี้ พวกท่านกลับยังเรียกให้พวกเขาเสียสละ ไม่แน่ใจว่า พวกท่านต้องการให้ประชาชนเสียสละให้กับพวกท่านอีกเท่าไรกัน ถึงจะพอใจพวกท่าน

ถ้าแม้นครอบครัวพวกท่าน ญาติสนิทมิตรสหายของพวกท่าน มีรวมอยู่ใน 90 กว่าศพ หรือ รวมอยู่กับผู้บาดเจ็บเกือบสองพันเหล่านั้นล่ะก้อ พวกท่านออกมาเรียกร้องให้ประชาชนเสียสละพร้อมกับพวกท่าน อย่างนี้สิครับ จึงเป็นการเรียกร้องอย่างชอบธรรม เป็นการเรียกร้องเพื่อเห็นแก้บ้านเมืองอย่างแท้จริง

แต่พวกท่านนอกจากไม่เคยเสียสละอะไรให้กับประชาชนแล้ว กลับทำตรงข้ามเสียอีก นอกจากไม่ทำหน้าที่ที่ประชาชนมอบให้แล้ว ยังทำให้ประชาชนเสียความรู้สึกอีกต่างหาก นี่หรือครับคือตัวแทนของประชาชน


แม้กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญขยายขอบเขตอำนาจ จนเข้ามาแทรกแซงการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร พวกท่านกลับพากันหัวหด ไม่กล้าดันทุรัง เพียงเพราะกลัวต้องตกเก้าอี้ แต่เรื่องการหนุน พรบ.ฉบับทำร้ายจิตใจประชาชน พวกท่านกลับหนุนกันถ้วนหน้า มันช่างโหดร้ายกับประชาชนเหลือเกินนะครับ

ไม่รู้ว่าพวกท่านโง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่ จึงคิดว่า การรีเซทประเทศไทยให้เป็นศูนย์จะสามารถสร้างความปรองดอง ป๊าดโธ่ นี่ไม่ใช่ความขัดแย้งเพราะเห็นต่างทางความคิดนะครับ แต่เป็นการช่วงชิงในเกมอำนาจต่างหากครับ ตราบใดที่พวกนั้นไม่ได้อำนาจ ประเทศไม่มีทางปรองดองกันได้หรอกครับ ขอบอก

เพราะต้องการอำนาจ พวกนั้นถึงกับยอมให้กองทัพเข้ามายึดอำนาจ
เพราะต้องการอำนาจ พวกนั้นถึงกับยอมให้มีการยึดทำเนียบ บุกเอ็นบีที และปิดสนามบิน
เพราะต้องการอำนาจ พวกนั้นถึงกับยอมให้มีการร่างรัฐธรรมนูญที่ทำให้รัฐบาลอ่อนแอ
เพราะต้องการอำนาจ พวกนั้นถึงกับยอมใช้กระบวนการยุติธรรมแบบสองมาตรฐาน
และเพราะต้องการอำนาจ พวกนั้นถึงกับยอมให้อาวุธสงครามกับผู้ชุมนุมที่มีแต่มือเปล่า

คนพวกนี้เมื่อกล้าทำกันขนาดนี้ นั่นย่อมหมายถึงพวกนั้นรู้ดีว่า กฎหมายคงทำอะไรพวกเขาไม่ได้ ดังนั้นจะนิรโทษหรือไม่ พวกนั้นคิดเสมอมาว่า มันไม่ได้ประโยชน์ แล้วอย่างนี้มันจะช่วยกันปรองดองได้อย่างไร นอกจากช่วยให้คุณทักษิณได้กลับบ้านและสร้างความร้าวรานใจให้กับคนสนับสนุนพวกท่านเท่านั้นเอง

เมื่อปรองดองไม่ได้ ประเทศก็เดินหน้าต่อไม่ไหว และตราบใดที่ประชาชนยังขัดแย้งกันอย่างนี้ นั่นหมายถึงต่อให้คุณทักษิณได้กลับบ้าน ก็ต้องอยู่อย่างหวาดผวา ก็จะให้อยู่อย่างมีความสุขได้อย่างไรกัน ในเมื่อในประเทศนี้ยังมีคนเกลียดท่านอีกมากมาย จริงไหมครับ

และผลเสียที่จะตามมา นั่นคือ ประชาชนที่เคยเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้พวกท่านมาตลอด กำลังจะถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกท่านเอง

การยึดอำนาจไม่สามารถทำลายกำแพงนี้ได้
การตั้งข้อหาคุณทักษิณก็ไม่สามารถทำลายกำแพงนี้ได้
การไม่รอลงอาญาคุณทักษิณก็ไม่สามารถทำลายกำแพงนี้ได้
การเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อเอาเปรียบก็ไม่สามารถทำลายกำแพงนี้ได้
การใช้ความรุนแรงก็ไม่สามารถทำลายกำแพงนี้ได้

เพราะกำแพงนี้มันเป็นกำแพงมนุษย์ที่เปี่ยมด้วยศรัทธา แต่กำลังจะพังทลายลงด้วยการทำลายความศรัทธานั้น จากพวกท่านเอง รู้กันบ้างไหมครับ

เจ้าความศรัทธานี่ก็แปลก ถ้ามีความศรัทธาแล้ว ทุกคนก็พร้อมจะทำอะไรให้ได้ทั้งสิ้น นี่แหละครับที่คุณทักษิณสามารถยืนหยัดอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ แต่ตราบใดที่ความศรัทธาสูญสิ้น คุณทักษิณก็ไม่มีอะไรผิดแผกแตกต่างไปจากคุณอภิสิทธิ์ ที่ห่วงตัวเองมากกว่าห่วงประชาชน

และเมื่อถึงวันนั้น การเลือกตั้งก็จะไม่ใช่ของตายอีกต่อไป เพราะการเมืองไทยในเวลานี้ ผู้ชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง ใช่ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามประเพณีปฏิบัติเสียเมื่อไหร่ล่ะครับ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยถ้าไม่ได้เสียงเกินครึ่ง ก็อย่าหวังจะได้เป็นรัฐบาลเลยครับ เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล พวกท่านก็คงได้แต่เก้าอี้เงาจากคุณทักษิณเท่านั้นเอง

ดังนั้นผมจึงอยากบอกพวกท่านว่า ถอย พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยนี้เถิดครับ เอาฉบับของคุณวรชัยที่นิรโทษกรรมเฉพาะนักโทษการเมืองทุกสีก่อนเถิดครับ ช่วยกันเอานักโทษการเมืองออกจากคุกโดยเร็ว สำหรับคุณทักษิณปล่อยให้ท่านรอไปอีกหน่อยก็ได้นะครับ

แล้วให้คนเสื้อแดงและประชาชนที่รักประชาธิปไตยช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ ปราศจากอำนาจนอกระบบมาแทรกแซง แล้วปล่อยให้คดีความดำเนินไปตามครรลองของมัน

สำหรับพรรคเพื่อไทยก็ทำตามนโยบายที่หาเสียง อย่าปล่อยให้มีการทุจริตกันอย่างโจ๋งครึ่ม แล้วช่วยกันผลักดันให้นายกฯยิ่งลักษณ์บริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้

แล้ววันหนึ่งเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เมื่อนั้นคุณทักษิณก็จะได้กลับบ้านอย่างเท่ห์ๆสมความตั้งใจ ขอแค่มีความอดทนและยืนเคียงข้างประชาชนด้วยใจจริง

และเมื่อไหร่ประชาชนตาสว่างกันทั้งประเทศ ตราบนั้นคุณทักษิณอาจได้เป็น “รัฐบุรุษ”อีกคนของประเทศไทยก็ได้ ใครจะรู้