จากเมื่อวาน >>>>>
http://pantip.com/topic/30807479
บ้านเงียบจังเว้ยเฮ้ย บ้านผีสิงหรือเปล่าเนี่ย ไปไหนกันหมดแล้ว วู้วววววววววว
วันนี้ขออนุญาตเปิดบ้านแทนน้องกุ้งเต้นฯซะหน่อย (ขอแย่งน้องเปิดบ้านวันเดียวพอนะ ตั้งแต่พันทิประบบใหม่เนี่ยผมยังไม่ได้ตั้งกระทู้เลย) รวมทั้งอยากโพสต์เรื่องบางเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ลงทุนเพิ่มเติมด้วย (มีน้องเลิฟบางคนในบ้านนี้แหละแวะมาเคาะประตูห้องผม)
เปิดบ้านทิ้งเอาไว้สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศของ SCB ครับ จะได้มีข้อมูลราคา NAV โดยประมาณการณ์คร่าวๆของกองต่างประเทศ โดยได้รับความอนุเคราะห์ข้อมูลจากพี่จุก พี่ใหญ่ใจดีของบ้าน
สำหรับพี่จุก ผมเองยังเล่นกองทุนต่างประเทศของ SCB อยู่นะพี่ ยังมีทั้งน้องซีและน้องออสครับ (อ้อ น้องออสขายทิ้งไปเมื่อวานแล้วครับ ได้โต๊ะจีนนครปฐมมาหนึ่งโต๊ะ แต่เดี๋ยวค่อยหาจังหวะเข้าใหม่) และต้องขอขอบคุณพี่จุกที่กรุณาสละเวลาโพสต์ตาราง NAV กองต่างประเทศให้ทุกวันครับ
สมาชิกเพื่อนๆประจำบ้านยุคดั้งเดิมตอนนี้ต่างก็หนีไปเล่นหุ้นรายตัวกันหมดแล้ว ผมเองก็ด้วย แต่ไม่มาก ราวๆ 25% ของพอร์ท (ที่ถืออยู่ตอนนี้เหลือแค่ 3+1 ตัวก็คือ BCP VIBHA EGCO (PTTGC มีกระจึ๋งนึง) ซึ่งสบายครับ เซ็ตต้องลงมาแถว 1000 - 1100 จุดนั่นแหละผมถึงอาจจะเข้าเพิ่ม) แต่ถ้าเทียบกับกองทุนแล้ว ผมลงทุนในกองทุนรวมทั้งของ SCB และบลจ.อื่นกับทองคำแท่งออนไลน์มากกว่าเยอะครับ
เคยมีน้องมาถามว่าทำไมผมยังคงเลือกลงทุนในกองทุนของ SCB อยู่ทั้งๆที่ผลประกอบการเมื่อเทียบกับกองทุนของบลจ.อื่นรวมทั้งเล่นหุ้นรายตัวอาจจะด้อยกว่า
อยากจะบอกว่า ผลประกอบการของแต่ละกองทุนนั้น เขาดูจากค่าเฉลี่ยทั้งปีหรือในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการลงทุนของผมคือ จังหวะในการเข้าลงทุนครับ ซึ่งถ้าคุณเข้าผิดจังหวะ ต่อให้กองดีมีผลประกอบการสูงแค่ไหน คุณก็ไปกินลมชมวิวบนดอยได้ (ใครที่ซื้อ B-Infra แถวๆ 30 บาท หรือ Hi-Div แถว 11-12 บาท ตอนนี้คงได้กินปุยเมฆจนอิ่ม)
อย่างกอง SCBDV ของผมมีค่า NAV เฉลี่ยอยู่ที่ 10.1216 บาท เซ็ตคงต้องลงมาแถว 1 พันจุดมั๊ง ผมถึงต้องคิดและตัดสินใจว่าจะขายทิ้งหรือว่าเข้าเพิ่ม หรืออย่างการเลือกลงทุนในกองทุนแบบ passive income อย่างกองดัชนี SET หรือ SET50 ของ SCB ก็เพราะว่าค่าธรรมเนียมของ SCB ต่ำมากเมื่อเทียบกองประเภทเดียวกันของบลจ.อื่น เวลาที่ทำการซื้อขายได้ก็ดีกว่า คาดการณ์ตลาดได้ง่ายกว่า รวมทั้งราคา NAV ก็ขึ้นลงตามตลาดชัดเจน ที่สำคัญมีพี่จุกเป็นกองหลังให้ผมได้เสมอเวลาที่ผมบุกตะลุยไปข้างหน้า ขอบคุณมากครับพี่
เล่นกองทุนดัชนี ผมว่าเล่นง่ายนะครับ สำหรับผมก็แค่ดูว่า RSI < 30 รวมทั้ง MACD กำลังตัดขึ้น (กราฟ day) แค่นี้ผมก็เข้าหนักๆเต็มแมกซ์ (เฉลี่ยเผื่อไว้ซัก 3-5 ไม้ เอาเฉพาะวันที่ RSI < 35) จากนั้นก็รอคอยจน RSI > 60 ก็ค่อยทยอยปล่อยออกเรื่อยๆจนหมด (เฉลี่ยประมาณ 3-5 ไม้ โดยปล่อยเฉพาะวันที่ดัชนีน่าจะเขียวแต่ RSI ต้องเกิน 60) จากนั้นก็คอยเวลาที่ RSI มันตัดลงมาต่ำกว่า 30 ก็ค่อยทำอย่างนี้อีก วนเวียนไปมาอย่างนี้แหละครับ ในแต่ละปีก็ได้หลายรอบอยู่นะครับ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ คุณอดทนรอได้หรือเปล่า เพราะมันอาจกินเวลาหลายๆเดือนในช่วงที่ตลาดกระทิงซึ่ง RSI มันอาจจะไม่ลงไปแตะที่ค่า 30 เลย แล้วถ้าคุณใจไม่เย็นพอ คุณก็อาจมือคันเผลอไปกดซื้อในตอนที่ดัชนีขึ้นไปสูงมากแล้ว ก็ทำให้คุณได้ทัวร์ฟรีไปนั่งชมวิวบนดอยสูงหรือนอนหนาวได้ครับ
สำหรับผมแล้ว ข้อดีอีกอย่างของการลงทุนในกองทุนก็คือ คุณสามารถซื้อกองทุนในวงเงินสูงเท่าไหร่ก็ได้ แถมเวลาจะขายก็ไม่ต้องค่อยๆรินขาย ไม่ต้องมาคอยลุ้น bid offer จับคู่กันเหมือนกับซื้อหุ้นรายตัว ซึ่งมันสะดวกสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเฝ้าจอทั้งวันอย่างผมครับ
ใครว่าเล่นกองทุนรวยไม่ได้ ผมนี่แหละจะทำให้ดูว่า เล่นกองทุนก็สามารถเป็นอิสรภาพทางการเงินได้เช่นเดียวกับเล่นหุ้น
ทุนดั้งเดิมของผมราวๆ 7 แสนบาทเมื่อปี 52 สมัยตอนที่คุณอู้ด(ทองเนื้อเก้า)เปิดบ้าน SCB Mutual Fund ใหม่ๆ (มีเติมเงินเพิ่มบ้างเป็นระยะ) ตอนนี้พอร์ทลงทุนของผมทุกด้านมีเจ็ดหลักเกือบกลางๆแล้วครับ และส่วนใหญ่ก็ได้กำไรมาจากกองทุนซะด้วย (ใกล้ได้นั่งกระดิกเท้าเหมือนดร.นิเวศน์มั่งแระ)
ถ้าคุณมีแนวทางการลงทุนที่ชัดเจนและมั่นคงในแนวทางของคุณ เชื่อในสัญชาติญาณตัวเองและลงทุนด้วยสมองไม่ใช่ด้วยหู เข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังลงทุนอยู่ ติดตามข่าวสารรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอยู่เสมอ ตัดขาดทุนให้เป็นและถูกจังหวะ รวมทั้งไม่ละโมบโลภมากจนเกินพอดี(อันนี้สำคัญ) ผมเชื่อว่าซักวันหนึ่งเราก็ต้องมีอิสรภาพทางการเงินได้เช่นกันครับ
ก็ขออวยพรให้ทุกท่านที่ทนอ่านถึงตรงนี้ประสบความสำเร็จในการลงทุน สู้ๆเพื่ออิสรภาพทางการเงินไปด้วยกันครับ
@@@ SCB MUTUAL FUND AND GOLD & SILVER , STOCK INVESTMENT @@@ วันพุธที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ @@@
บ้านเงียบจังเว้ยเฮ้ย บ้านผีสิงหรือเปล่าเนี่ย ไปไหนกันหมดแล้ว วู้วววววววววว
วันนี้ขออนุญาตเปิดบ้านแทนน้องกุ้งเต้นฯซะหน่อย (ขอแย่งน้องเปิดบ้านวันเดียวพอนะ ตั้งแต่พันทิประบบใหม่เนี่ยผมยังไม่ได้ตั้งกระทู้เลย) รวมทั้งอยากโพสต์เรื่องบางเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ลงทุนเพิ่มเติมด้วย (มีน้องเลิฟบางคนในบ้านนี้แหละแวะมาเคาะประตูห้องผม)
เปิดบ้านทิ้งเอาไว้สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศของ SCB ครับ จะได้มีข้อมูลราคา NAV โดยประมาณการณ์คร่าวๆของกองต่างประเทศ โดยได้รับความอนุเคราะห์ข้อมูลจากพี่จุก พี่ใหญ่ใจดีของบ้าน
สำหรับพี่จุก ผมเองยังเล่นกองทุนต่างประเทศของ SCB อยู่นะพี่ ยังมีทั้งน้องซีและน้องออสครับ (อ้อ น้องออสขายทิ้งไปเมื่อวานแล้วครับ ได้โต๊ะจีนนครปฐมมาหนึ่งโต๊ะ แต่เดี๋ยวค่อยหาจังหวะเข้าใหม่) และต้องขอขอบคุณพี่จุกที่กรุณาสละเวลาโพสต์ตาราง NAV กองต่างประเทศให้ทุกวันครับ
สมาชิกเพื่อนๆประจำบ้านยุคดั้งเดิมตอนนี้ต่างก็หนีไปเล่นหุ้นรายตัวกันหมดแล้ว ผมเองก็ด้วย แต่ไม่มาก ราวๆ 25% ของพอร์ท (ที่ถืออยู่ตอนนี้เหลือแค่ 3+1 ตัวก็คือ BCP VIBHA EGCO (PTTGC มีกระจึ๋งนึง) ซึ่งสบายครับ เซ็ตต้องลงมาแถว 1000 - 1100 จุดนั่นแหละผมถึงอาจจะเข้าเพิ่ม) แต่ถ้าเทียบกับกองทุนแล้ว ผมลงทุนในกองทุนรวมทั้งของ SCB และบลจ.อื่นกับทองคำแท่งออนไลน์มากกว่าเยอะครับ
เคยมีน้องมาถามว่าทำไมผมยังคงเลือกลงทุนในกองทุนของ SCB อยู่ทั้งๆที่ผลประกอบการเมื่อเทียบกับกองทุนของบลจ.อื่นรวมทั้งเล่นหุ้นรายตัวอาจจะด้อยกว่า
อยากจะบอกว่า ผลประกอบการของแต่ละกองทุนนั้น เขาดูจากค่าเฉลี่ยทั้งปีหรือในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการลงทุนของผมคือ จังหวะในการเข้าลงทุนครับ ซึ่งถ้าคุณเข้าผิดจังหวะ ต่อให้กองดีมีผลประกอบการสูงแค่ไหน คุณก็ไปกินลมชมวิวบนดอยได้ (ใครที่ซื้อ B-Infra แถวๆ 30 บาท หรือ Hi-Div แถว 11-12 บาท ตอนนี้คงได้กินปุยเมฆจนอิ่ม)
อย่างกอง SCBDV ของผมมีค่า NAV เฉลี่ยอยู่ที่ 10.1216 บาท เซ็ตคงต้องลงมาแถว 1 พันจุดมั๊ง ผมถึงต้องคิดและตัดสินใจว่าจะขายทิ้งหรือว่าเข้าเพิ่ม หรืออย่างการเลือกลงทุนในกองทุนแบบ passive income อย่างกองดัชนี SET หรือ SET50 ของ SCB ก็เพราะว่าค่าธรรมเนียมของ SCB ต่ำมากเมื่อเทียบกองประเภทเดียวกันของบลจ.อื่น เวลาที่ทำการซื้อขายได้ก็ดีกว่า คาดการณ์ตลาดได้ง่ายกว่า รวมทั้งราคา NAV ก็ขึ้นลงตามตลาดชัดเจน ที่สำคัญมีพี่จุกเป็นกองหลังให้ผมได้เสมอเวลาที่ผมบุกตะลุยไปข้างหน้า ขอบคุณมากครับพี่
เล่นกองทุนดัชนี ผมว่าเล่นง่ายนะครับ สำหรับผมก็แค่ดูว่า RSI < 30 รวมทั้ง MACD กำลังตัดขึ้น (กราฟ day) แค่นี้ผมก็เข้าหนักๆเต็มแมกซ์ (เฉลี่ยเผื่อไว้ซัก 3-5 ไม้ เอาเฉพาะวันที่ RSI < 35) จากนั้นก็รอคอยจน RSI > 60 ก็ค่อยทยอยปล่อยออกเรื่อยๆจนหมด (เฉลี่ยประมาณ 3-5 ไม้ โดยปล่อยเฉพาะวันที่ดัชนีน่าจะเขียวแต่ RSI ต้องเกิน 60) จากนั้นก็คอยเวลาที่ RSI มันตัดลงมาต่ำกว่า 30 ก็ค่อยทำอย่างนี้อีก วนเวียนไปมาอย่างนี้แหละครับ ในแต่ละปีก็ได้หลายรอบอยู่นะครับ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ คุณอดทนรอได้หรือเปล่า เพราะมันอาจกินเวลาหลายๆเดือนในช่วงที่ตลาดกระทิงซึ่ง RSI มันอาจจะไม่ลงไปแตะที่ค่า 30 เลย แล้วถ้าคุณใจไม่เย็นพอ คุณก็อาจมือคันเผลอไปกดซื้อในตอนที่ดัชนีขึ้นไปสูงมากแล้ว ก็ทำให้คุณได้ทัวร์ฟรีไปนั่งชมวิวบนดอยสูงหรือนอนหนาวได้ครับ
สำหรับผมแล้ว ข้อดีอีกอย่างของการลงทุนในกองทุนก็คือ คุณสามารถซื้อกองทุนในวงเงินสูงเท่าไหร่ก็ได้ แถมเวลาจะขายก็ไม่ต้องค่อยๆรินขาย ไม่ต้องมาคอยลุ้น bid offer จับคู่กันเหมือนกับซื้อหุ้นรายตัว ซึ่งมันสะดวกสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเฝ้าจอทั้งวันอย่างผมครับ
ใครว่าเล่นกองทุนรวยไม่ได้ ผมนี่แหละจะทำให้ดูว่า เล่นกองทุนก็สามารถเป็นอิสรภาพทางการเงินได้เช่นเดียวกับเล่นหุ้น
ทุนดั้งเดิมของผมราวๆ 7 แสนบาทเมื่อปี 52 สมัยตอนที่คุณอู้ด(ทองเนื้อเก้า)เปิดบ้าน SCB Mutual Fund ใหม่ๆ (มีเติมเงินเพิ่มบ้างเป็นระยะ) ตอนนี้พอร์ทลงทุนของผมทุกด้านมีเจ็ดหลักเกือบกลางๆแล้วครับ และส่วนใหญ่ก็ได้กำไรมาจากกองทุนซะด้วย (ใกล้ได้นั่งกระดิกเท้าเหมือนดร.นิเวศน์มั่งแระ)
ถ้าคุณมีแนวทางการลงทุนที่ชัดเจนและมั่นคงในแนวทางของคุณ เชื่อในสัญชาติญาณตัวเองและลงทุนด้วยสมองไม่ใช่ด้วยหู เข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังลงทุนอยู่ ติดตามข่าวสารรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอยู่เสมอ ตัดขาดทุนให้เป็นและถูกจังหวะ รวมทั้งไม่ละโมบโลภมากจนเกินพอดี(อันนี้สำคัญ) ผมเชื่อว่าซักวันหนึ่งเราก็ต้องมีอิสรภาพทางการเงินได้เช่นกันครับ
ก็ขออวยพรให้ทุกท่านที่ทนอ่านถึงตรงนี้ประสบความสำเร็จในการลงทุน สู้ๆเพื่ออิสรภาพทางการเงินไปด้วยกันครับ