เรื่องมันมีอยู่ว่า
“พันโทแพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธุ์ศรี” ซึ่งผมก็พอรู้จักแก่เลาๆว่าเป็นหนึ่งใน
หัวหมู่ทะลวงฟันเรื่องทวงคืนพลังงาน / ปตท และเป็นที่ปรึกษาของพรรคการเมืองใหม่พรรคหนึ่งคือ
“พรรคพลังงานไทย”
https://www.facebook.com/EnergyTH
ท่านตั้งข้อสงสัยในเพจของท่านถึงรายได้ของบริษัทหนึ่งในเครือ ปตท คือ PTTGC โดยได้ให้ลิ้งค์ไว้เพื่อให้ไปตรวจสอบรายละเอียด
http://www.facebook.com/kamolpan.cheewapansri/posts/10152415448477281
เมื่อผมคลิ้กไปตามลิ้งค์ที่ท่านให้มาก็พบว่าถ้อยแถลงของท่านนั้นเป็นจริงดังว่าดังรูป
กล่าวคือ
PTTGC มีรายได้เมื่อปี 2554 แค่ 106,775 ล้านบาท ไหงปี 2555 มันเพิ่มมาเป็น 572,017 ล้านบาท ปีเดียวเพิ่มขึ้นตั้งเกือบ 5 เท่าแน่ะ แหมๆ อย่างนี้มันเอารัดเอาเปรียบขูดรีดคนไทยแท้ๆทีเดียวเชียว
ผมลองเปรียบเทียบ
ผลตอบแทนของปี 2554 คือ 2,113 / 106,775 คิดเป็น 1.98% (จิ๊บจ๊อยมาก) และของปี 2555 คือ 34,001 / 572,017 คิดเป็น 5.94% (ถือว่าโอเคแต่ก็ยังน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น)
กลับมาที่พันโทแพทย์หญิงฯ กันต่อ ท่านก็สรุปชี้นำทันทีว่าเห็นไหมล่ะฉันบอกแล้วว่ามันโกง มันขูดรีดประชาชน พวกทุนสามานย์เอ๊ย
แต่ตัวผมเองซึ่งมีความสงสัยกลุ่มนี้ โดยเฉพาะพวกหัวหมู่ทะลวงฟันทั้งหลาย ที่ไม่ได้โง่
“แต่ชอบพูดความจริงไม่หมด” ว่า การที่บริษัทๆหนึ่งจะมีรายได้เพิ่มในปีเดียวกว่า 5 เท่า มันย่อมเป็นเรื่องไม่ปกติอยู่แล้ว (ขนาดโง่ๆ เกรียนอินเตอร์เน็ต อย่างผมยังคิดได้ ทำไหมคนระดับพันโทแพทย์หญิงจะคิดไม่ได้?) ก็เลยสืบหา
“ความไม่ปกติ” ดังกล่าวด้วยตนเอง จนมาเจอเนื้อข่าวในลิ้งค์ของตลาดหลักทรัพย์ ตามที่พันโทแพทย์หญิงท่านให้มาดังรูป
เพื่อความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น ผมจึง Double check ข้อมูลกับอากู๋อีกครั้งด้วยการ search หาข่าวการควบรวมดังกล่าว เพราะไม่แน่ว่า
“ตลาดหลักทรัพย์อาจจะโดนทักษิณซื้อไปแล้วก็ได้ อย่าได้ไว้ใจมันเชียวทักษิณเนี่ย” ก็มาเจอข่าวนี้
http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=89004&catid=101&Itemid=440
ผมก็เลยได้บทสรุปให้กับตัวเองครับว่า
“ความไม่ปกติ” ในรายได้ของ PTTGC ที่เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่านั้นมันเกิดจากการ
“ควบรวม” กิจการนี่เอง
แต่บทสรุปที่สำคัญกว่าและยังคงเป็นไปในแนวทางเดิม สำหรับพวกหัวหมู่ทะลวงฟันเรื่องทวงคืนพลังงาน / ปตท นั่นก็คือ
“การพูดความจริงไม่หมดเพื่อชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความแตกแยก” นั่นเอง
ก็ฝากถึงพันโทแพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธุ์ศรีด้วยนะครับว่า
เป็นถึงที่ปรึกษาพรรคพลังงานไทย และร่วมกันก่อตั้งชื่อพรรคขึ้นมาเพื่อสื่อถึงภารกิจหลักของพรรคขนาดนี้ หัดศึกษาข้อมูลเรื่องพลังงานให้เข้าใจถ่องแท้บ้างนะครับ ไม่ใช่เอาแต่โจมตีฝ่ายตรงข้ามเพื่อสร้างมวลชนของตนเองด้วยวิธีการแบบนี้ เพราะถ้าคุณยังทำแบบนี้อีก เราก็คงได้แค่พรรคการเมืองน้ำเน่าแบบเดิมๆเพิ่มมาอีก 1 พรรคเท่านั้นเอง
บ่องตง อย่างนี้ ผมไม่ปลื้มครับ
ปล. ถ้าผมเข้าใจผิดอย่างไร และเพื่อนสมาชิกท่านไหนมีข้อมูลเชิงลึกมากกว่าแค่ seach Google อย่างผมจะอธิบายเพิ่มเติม ก็ต้องขอรบกวนด้วยครับ ถ้าผมผิดก็พร้อมยอมรับผิดครับ
ปล2 พอดีไปอ่านความคิดเห็นใน FB แล้วเจอท่านนี้มาอธิบายเพิ่มเติมก็ถือว่าเคลียร์ความเข้าใจได้ดีทีเดียวครับ
เรื่องข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์คงไม่เกินระดับสติปัญญาของพันโทแพทย์หญิงหรอกมั้งครับ?
https://www.facebook.com/EnergyTH
ท่านตั้งข้อสงสัยในเพจของท่านถึงรายได้ของบริษัทหนึ่งในเครือ ปตท คือ PTTGC โดยได้ให้ลิ้งค์ไว้เพื่อให้ไปตรวจสอบรายละเอียด
http://www.facebook.com/kamolpan.cheewapansri/posts/10152415448477281
เมื่อผมคลิ้กไปตามลิ้งค์ที่ท่านให้มาก็พบว่าถ้อยแถลงของท่านนั้นเป็นจริงดังว่าดังรูป
กล่าวคือ PTTGC มีรายได้เมื่อปี 2554 แค่ 106,775 ล้านบาท ไหงปี 2555 มันเพิ่มมาเป็น 572,017 ล้านบาท ปีเดียวเพิ่มขึ้นตั้งเกือบ 5 เท่าแน่ะ แหมๆ อย่างนี้มันเอารัดเอาเปรียบขูดรีดคนไทยแท้ๆทีเดียวเชียว
ผมลองเปรียบเทียบผลตอบแทนของปี 2554 คือ 2,113 / 106,775 คิดเป็น 1.98% (จิ๊บจ๊อยมาก) และของปี 2555 คือ 34,001 / 572,017 คิดเป็น 5.94% (ถือว่าโอเคแต่ก็ยังน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น)
กลับมาที่พันโทแพทย์หญิงฯ กันต่อ ท่านก็สรุปชี้นำทันทีว่าเห็นไหมล่ะฉันบอกแล้วว่ามันโกง มันขูดรีดประชาชน พวกทุนสามานย์เอ๊ย
แต่ตัวผมเองซึ่งมีความสงสัยกลุ่มนี้ โดยเฉพาะพวกหัวหมู่ทะลวงฟันทั้งหลาย ที่ไม่ได้โง่ “แต่ชอบพูดความจริงไม่หมด” ว่า การที่บริษัทๆหนึ่งจะมีรายได้เพิ่มในปีเดียวกว่า 5 เท่า มันย่อมเป็นเรื่องไม่ปกติอยู่แล้ว (ขนาดโง่ๆ เกรียนอินเตอร์เน็ต อย่างผมยังคิดได้ ทำไหมคนระดับพันโทแพทย์หญิงจะคิดไม่ได้?) ก็เลยสืบหา “ความไม่ปกติ” ดังกล่าวด้วยตนเอง จนมาเจอเนื้อข่าวในลิ้งค์ของตลาดหลักทรัพย์ ตามที่พันโทแพทย์หญิงท่านให้มาดังรูป
เพื่อความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น ผมจึง Double check ข้อมูลกับอากู๋อีกครั้งด้วยการ search หาข่าวการควบรวมดังกล่าว เพราะไม่แน่ว่า “ตลาดหลักทรัพย์อาจจะโดนทักษิณซื้อไปแล้วก็ได้ อย่าได้ไว้ใจมันเชียวทักษิณเนี่ย” ก็มาเจอข่าวนี้
http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=89004&catid=101&Itemid=440
ผมก็เลยได้บทสรุปให้กับตัวเองครับว่า “ความไม่ปกติ” ในรายได้ของ PTTGC ที่เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่านั้นมันเกิดจากการ “ควบรวม” กิจการนี่เอง
แต่บทสรุปที่สำคัญกว่าและยังคงเป็นไปในแนวทางเดิม สำหรับพวกหัวหมู่ทะลวงฟันเรื่องทวงคืนพลังงาน / ปตท นั่นก็คือ “การพูดความจริงไม่หมดเพื่อชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความแตกแยก” นั่นเอง
ก็ฝากถึงพันโทแพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธุ์ศรีด้วยนะครับว่า เป็นถึงที่ปรึกษาพรรคพลังงานไทย และร่วมกันก่อตั้งชื่อพรรคขึ้นมาเพื่อสื่อถึงภารกิจหลักของพรรคขนาดนี้ หัดศึกษาข้อมูลเรื่องพลังงานให้เข้าใจถ่องแท้บ้างนะครับ ไม่ใช่เอาแต่โจมตีฝ่ายตรงข้ามเพื่อสร้างมวลชนของตนเองด้วยวิธีการแบบนี้ เพราะถ้าคุณยังทำแบบนี้อีก เราก็คงได้แค่พรรคการเมืองน้ำเน่าแบบเดิมๆเพิ่มมาอีก 1 พรรคเท่านั้นเอง
บ่องตง อย่างนี้ ผมไม่ปลื้มครับ
ปล. ถ้าผมเข้าใจผิดอย่างไร และเพื่อนสมาชิกท่านไหนมีข้อมูลเชิงลึกมากกว่าแค่ seach Google อย่างผมจะอธิบายเพิ่มเติม ก็ต้องขอรบกวนด้วยครับ ถ้าผมผิดก็พร้อมยอมรับผิดครับ
ปล2 พอดีไปอ่านความคิดเห็นใน FB แล้วเจอท่านนี้มาอธิบายเพิ่มเติมก็ถือว่าเคลียร์ความเข้าใจได้ดีทีเดียวครับ