สวัสดีครับ ก่อนจะไปไหน ต้องขออภัยที่ตั้งกระทู้วันศุกร์ ซึ่งอาจจะต้องมาต่อวันจันทร์ แต่ผมว่าวันนี้แหละ เป็นวันที่เหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะเริ่มคิดและเขียนเรื่องนี้มาได้ครบเดือนพอดี ถ้าไม่ตั้งกระทู้วันนี้ ก็คงไม่ได้ตั้งแล้วนะครับ ขออภัยมา ณ ที่นี้ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
-----
สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอบอกเล่า ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ก่อนนะครับ อาจจะยาวกว่าเรื่องการท่องเที่ยวซะด้วยซ้ำ แต่คงต้องเล่า เป็นการออกตัวไปในตัว (ถ้าอ่านแล้ว งง ให้อ่านใหม่อีกรอบนะครับ) เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อต้นปีจำวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ คุณแม่บ้านสุดที่รักของผมได้เดินทางไปทำธุระบางอย่างโดยสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ bangkok airways หลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าร่วมรายการบางอย่างผ่าน Facebook เพื่อให้ได้สิทธิบางอย่าง (ผมไม่ค้นรายละเอียดละนะครับ) หลังจากนั้นไม่นานก็มีจดหมายแจ้งมาว่า เธอได้รับรางวัลเป็นตั๋วฟรี ไป-กลับ กรุงเทพ-กระบี่ ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะเป็น 1 ใน 45 คน (อันเนื่องมาจากครบรอบ 45 ปี) จาก 4x,xxx คนที่เข้าร่วมรายการนี้ อื้อฮือ! กรี๊ดกันบ้านแทบแตก นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ครับ (ยังครับ ยังไม่หมด มันแค่เริ่ม ถ้าขี้เกียจอ่าน แนะนำให้ข้ามไปที่รูปแรกเลยนะครับ)
หลังจากรอยืนยันเรื่องรางวัลที่ได้ ก็วางแผนกันว่าจะเอายังไงกันต่อดี สรุปว่าเราจะไปกระบี่กันโดยต้องซื้อตั๋วเพิ่มอีก 3 ใบ อันได้แก่ ไป-กลับ กรุงเทพ-กระบี่ ของผม และไป-กลับ เชียงใหม่-กรุงเทพ ของเราสองคน (เราอยู่เชียงใหม่นะครับ) ลุยกันเลยไปที่ office ของ bangkok airways กันเลยละกัน พอเข้าไปสอบถาม (เล่าสั้นๆละกันนะครับ) หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรื่องตั๋วฟรีให้ ก็ได้ความว่า "พี่คะ ตั๋วนี้จะบินตอนไหนก็ได้ คือ เลือกเที่ยวบินได้เลย จัดลงให้ได้หมดค่ะ" อือฮึ "เพราะฉะนั้น พี่ไปจองตั๋วที่จะต้องซื้อเพิ่มก่อนดีกว่าไม๊คะ จะได้ไปพร้อมกันได้โดยไม่ต้องไปคนละเที่ยวบิน" เพราะถ้าลงตัวนี้ไปแล้ว ซื้อตั๋วเที่ยวนี้ไม่ได้ก็ต้องแยกกันไป ok งั้นเราไปจองตั๋ว 3 ใบกันก่อนเลย หุหุ จะได้ไปเที่ยวแล้ว
เราสรุปกันว่าจะเดินทางช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะน่าจะเคลียทุกอย่างได้พร้อมที่สุดแล้ว ตกลงได้วันที่ 21-25 พ.ค. 56 จัดแจงซื้อตั๋วกัน ผมเองก็ไม่ค่อยจะสันทัดเรื่องบินๆ เพราะเกิดมาก็เคยบินแค่สองเที่ยว (เด็กดอยครับ) การจองตั๋วก็จะมีการหาตั๋วที่เป็นโปรโมชั่น ซึ่งก็จะมีช่วงให้จองเป็นเวลา คุณแม่บ้านผมจัดการได้หมดครับ แต่นอกจากเรื่องตั๋วเครื่องบินแล้วเรายังต้องเตรียมเรื่องอื่นๆอีกเพียบ ตัวหลักๆเลยครับ สัตว์เลี้ยง และต้นไม้ที่บ้านครับ ที่บ้านเราเลี้ยงแมวทั้งหมด 9 ตัว เป็นแมว in door 7 ตัว out door 2 ตัว พวกในบ้านไม่ได้ออกนอกบ้านอยู่แล้ว ให้น้องแม่บ้านมาช่วยดูแล เก็บกวาด เติมข้าว เติมน้ำ เก็บอึ ส่วนเจ้าสองตัวนอกบ้าน ปล่อยไว้ไม่ได้ครับ สองตัวนี้กลางคืนต้องเก็บเข้ากรง เช้าก็ปล่อย เพราะกลัวว่าจะไปตีกับชาวบ้าน (แมวบ้านอื่น) และยังต้องมีการเติมน้ำเกลือทุกวันอีก 1 ตัว เพราะงั้นไปนอนโรงแรมซะเลย (ต้นยางสัตวแพทย์ ที่แสนดีของเรา) อ่อ ยังไม่หมด ในบ้านจะมีอีก 1 ตัวที่เข้ากับชาวบ้านเค้าไม่ค่อยได้ อยู่เขตกักกันพิเศษ (มีห้องส่วนตัว) เกรงว่าระหว่างที่เราไม่อยู่อาจมีการข้ามเขตของแมวๆ จัดให้นอนโรงแรมอีก 1 ตัวครับ จบแผนแมวไปแผนต้นไม้กันต่อ (มันจะยาวไปไม๊ครับ ข้ามได้นะครับ) ต้นไม้ของคุณแม่บ้านจะเป็นพวกเฟิร์นครับ ต้องดูแลเรื่องน้ำให้ดี ความชื้นต้องได้ สาดน้ำก็ไม่ได้ เพราะกิ่งมันจะรับน้ำหนักน้ำไม่ไหว และโน้มลงสู้พื้นในที่สุด แผนการจัดระบบให้น้ำจึงเริ่มขึ้น (ก่อนหน้านั้นเคยซื้อระบบให้น้ำ เป็นท่อพีอีพร้อมหัวจ่ายมาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ติดตั้ง) เราจึงเริ่มติดตั้งระบบให้น้ำแบบหยด และหัวสเปรย์ ให้กับต้นไม้ที่บ้าน ทำไปศึกษาไปนะครับ มันไม่ง่ายเท่าไหร่ สรุปว่าเสร็จไปบางส่วน ผมถือว่า 40% ที่เหลือให้น้องแม่บ้านถือสายยางรดเอาได้ จบเรื่องการเตรียมตัวเบื้องต้น (เหนื่อยเนาะ)
หลังจากจองตั๋วไม่ฟรีแล้ว เราก็ต้องไปเอาตั๋วฟรียัดลงไปในเที่ยวบินเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็คลิกๆๆ เรียบร้อยดี เป็นที่ทราบกันดีนะครับว่าตั๋วเครื่องบินฟรี มันไม่ฟรี ต้องจ่ายส่วนเพิ่มเติม เช่น ภาษีสนามบิน ฯลฯ น้องเค้าก็คลิกๆๆ "ค่าภาษีสนามบิน ค่าออกตั๋ว และฟูเอลชาร์จ (น่าจะเรียกประมาณนี้นะ) เป็นเงินทั้งสิ้น 1,9xx.xx บาทค่ะ" หา! เท่าไหร่นะ พันเก้ากว่าๆ ตาแทบทะลุออกมา ตั๋วฟรีจ่ายเพิ่มถูกกว่าตั๋วโปรฯที่ลงทุนซื้อเอง 30 บาท ผ่าง! ของถูกไม่มีดี ของฟรีไม่มีในโลก โอ้แม่จ้าว คุณพระช่วย พ่อจ๋าแม่จ๋า ไม่มีใครช่วยอะไรได้อีกแล้ว ตั๋วไม่ฟรีเปลี่ยนชื่อไม่ได้ ยกเลิกไม่ได้ ย้ายไม่ได้ ทำไรไม่ได้แล้ว ต้องไปจริงๆแล้วครับ หลังจากการดีใจที่ได้ตั๋วฟรีไปพักใหญ่ ก็เป็นเรื่องเครียดไปอีกพักใหญ่เลยทีเดียวเชียวครับ ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรกก็คงไม่ไปแล้วครับ (จริงๆเค้าคงเช็คให้ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่เราก็ไม่ได้ให้เค้าเช็คให้) สรุปว่า ต้องไปตามแผนครับ
** คุ้มมากๆ บอกว่าแจกตั๋วฟรี แต่ไม่ฟรี ได้ขายตั๋วอีก 3 ใบ เจ๋งโพด
ร่ายมาซะยาว มาถึงแผนการเดินทางกันเลยดีกว่าครับ (แม่บ้านสุดที่รักผมทำการบ้านมาเยอะมากๆ นี่จึงเป็นอีกเหตผลนึงที่มาเขียนเรื่องนี้ เพื่อเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ที่ให้เรามาเช่นกันนะครับ) เราเลือกที่พัก ที่เที่ยว แล้วก็จัดตารางเวลาอีกทีนะครับ ก็ได้เป็นประมาณนี้
ออกเชียงใหม่เช้า 21 ถึงกระบี่ก่อนเที่ยง เช่ารถ 1 คัน วันนี้ขับรถเล่น ในแผนมี สุสานหอย ติดต่อทัวร์เกาะ เข้าที่พักทับแขกซันเซท (จองไว้ตั้งแต่เชียงใหม่ นอน 2 คืน)
22 เที่ยวเกาะห้อง
23 ย้ายไป Red ginger เที่ยวสี่เกาะ Dinner sunset 4 เกาะ
24 ย้ายไป ชานชเล เที่ยวป่าพรุท่าปอม น้ำตกร้อน สระมรกต เขาขนาบน้ำ หาอาหารทะเลกิน
25 เก็บของ กินอีกนิดหน่อย แล้วก็กลับบ้าน
[CR] ลุยกระบี่ ต้นฤดูมรสุม กับตั๋วบินฟรี ที่เป็นแรงผลักดัน
-----
สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอบอกเล่า ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ก่อนนะครับ อาจจะยาวกว่าเรื่องการท่องเที่ยวซะด้วยซ้ำ แต่คงต้องเล่า เป็นการออกตัวไปในตัว (ถ้าอ่านแล้ว งง ให้อ่านใหม่อีกรอบนะครับ) เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อต้นปีจำวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ คุณแม่บ้านสุดที่รักของผมได้เดินทางไปทำธุระบางอย่างโดยสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ bangkok airways หลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าร่วมรายการบางอย่างผ่าน Facebook เพื่อให้ได้สิทธิบางอย่าง (ผมไม่ค้นรายละเอียดละนะครับ) หลังจากนั้นไม่นานก็มีจดหมายแจ้งมาว่า เธอได้รับรางวัลเป็นตั๋วฟรี ไป-กลับ กรุงเทพ-กระบี่ ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะเป็น 1 ใน 45 คน (อันเนื่องมาจากครบรอบ 45 ปี) จาก 4x,xxx คนที่เข้าร่วมรายการนี้ อื้อฮือ! กรี๊ดกันบ้านแทบแตก นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ครับ (ยังครับ ยังไม่หมด มันแค่เริ่ม ถ้าขี้เกียจอ่าน แนะนำให้ข้ามไปที่รูปแรกเลยนะครับ)
หลังจากรอยืนยันเรื่องรางวัลที่ได้ ก็วางแผนกันว่าจะเอายังไงกันต่อดี สรุปว่าเราจะไปกระบี่กันโดยต้องซื้อตั๋วเพิ่มอีก 3 ใบ อันได้แก่ ไป-กลับ กรุงเทพ-กระบี่ ของผม และไป-กลับ เชียงใหม่-กรุงเทพ ของเราสองคน (เราอยู่เชียงใหม่นะครับ) ลุยกันเลยไปที่ office ของ bangkok airways กันเลยละกัน พอเข้าไปสอบถาม (เล่าสั้นๆละกันนะครับ) หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรื่องตั๋วฟรีให้ ก็ได้ความว่า "พี่คะ ตั๋วนี้จะบินตอนไหนก็ได้ คือ เลือกเที่ยวบินได้เลย จัดลงให้ได้หมดค่ะ" อือฮึ "เพราะฉะนั้น พี่ไปจองตั๋วที่จะต้องซื้อเพิ่มก่อนดีกว่าไม๊คะ จะได้ไปพร้อมกันได้โดยไม่ต้องไปคนละเที่ยวบิน" เพราะถ้าลงตัวนี้ไปแล้ว ซื้อตั๋วเที่ยวนี้ไม่ได้ก็ต้องแยกกันไป ok งั้นเราไปจองตั๋ว 3 ใบกันก่อนเลย หุหุ จะได้ไปเที่ยวแล้ว
เราสรุปกันว่าจะเดินทางช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะน่าจะเคลียทุกอย่างได้พร้อมที่สุดแล้ว ตกลงได้วันที่ 21-25 พ.ค. 56 จัดแจงซื้อตั๋วกัน ผมเองก็ไม่ค่อยจะสันทัดเรื่องบินๆ เพราะเกิดมาก็เคยบินแค่สองเที่ยว (เด็กดอยครับ) การจองตั๋วก็จะมีการหาตั๋วที่เป็นโปรโมชั่น ซึ่งก็จะมีช่วงให้จองเป็นเวลา คุณแม่บ้านผมจัดการได้หมดครับ แต่นอกจากเรื่องตั๋วเครื่องบินแล้วเรายังต้องเตรียมเรื่องอื่นๆอีกเพียบ ตัวหลักๆเลยครับ สัตว์เลี้ยง และต้นไม้ที่บ้านครับ ที่บ้านเราเลี้ยงแมวทั้งหมด 9 ตัว เป็นแมว in door 7 ตัว out door 2 ตัว พวกในบ้านไม่ได้ออกนอกบ้านอยู่แล้ว ให้น้องแม่บ้านมาช่วยดูแล เก็บกวาด เติมข้าว เติมน้ำ เก็บอึ ส่วนเจ้าสองตัวนอกบ้าน ปล่อยไว้ไม่ได้ครับ สองตัวนี้กลางคืนต้องเก็บเข้ากรง เช้าก็ปล่อย เพราะกลัวว่าจะไปตีกับชาวบ้าน (แมวบ้านอื่น) และยังต้องมีการเติมน้ำเกลือทุกวันอีก 1 ตัว เพราะงั้นไปนอนโรงแรมซะเลย (ต้นยางสัตวแพทย์ ที่แสนดีของเรา) อ่อ ยังไม่หมด ในบ้านจะมีอีก 1 ตัวที่เข้ากับชาวบ้านเค้าไม่ค่อยได้ อยู่เขตกักกันพิเศษ (มีห้องส่วนตัว) เกรงว่าระหว่างที่เราไม่อยู่อาจมีการข้ามเขตของแมวๆ จัดให้นอนโรงแรมอีก 1 ตัวครับ จบแผนแมวไปแผนต้นไม้กันต่อ (มันจะยาวไปไม๊ครับ ข้ามได้นะครับ) ต้นไม้ของคุณแม่บ้านจะเป็นพวกเฟิร์นครับ ต้องดูแลเรื่องน้ำให้ดี ความชื้นต้องได้ สาดน้ำก็ไม่ได้ เพราะกิ่งมันจะรับน้ำหนักน้ำไม่ไหว และโน้มลงสู้พื้นในที่สุด แผนการจัดระบบให้น้ำจึงเริ่มขึ้น (ก่อนหน้านั้นเคยซื้อระบบให้น้ำ เป็นท่อพีอีพร้อมหัวจ่ายมาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ติดตั้ง) เราจึงเริ่มติดตั้งระบบให้น้ำแบบหยด และหัวสเปรย์ ให้กับต้นไม้ที่บ้าน ทำไปศึกษาไปนะครับ มันไม่ง่ายเท่าไหร่ สรุปว่าเสร็จไปบางส่วน ผมถือว่า 40% ที่เหลือให้น้องแม่บ้านถือสายยางรดเอาได้ จบเรื่องการเตรียมตัวเบื้องต้น (เหนื่อยเนาะ)
หลังจากจองตั๋วไม่ฟรีแล้ว เราก็ต้องไปเอาตั๋วฟรียัดลงไปในเที่ยวบินเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็คลิกๆๆ เรียบร้อยดี เป็นที่ทราบกันดีนะครับว่าตั๋วเครื่องบินฟรี มันไม่ฟรี ต้องจ่ายส่วนเพิ่มเติม เช่น ภาษีสนามบิน ฯลฯ น้องเค้าก็คลิกๆๆ "ค่าภาษีสนามบิน ค่าออกตั๋ว และฟูเอลชาร์จ (น่าจะเรียกประมาณนี้นะ) เป็นเงินทั้งสิ้น 1,9xx.xx บาทค่ะ" หา! เท่าไหร่นะ พันเก้ากว่าๆ ตาแทบทะลุออกมา ตั๋วฟรีจ่ายเพิ่มถูกกว่าตั๋วโปรฯที่ลงทุนซื้อเอง 30 บาท ผ่าง! ของถูกไม่มีดี ของฟรีไม่มีในโลก โอ้แม่จ้าว คุณพระช่วย พ่อจ๋าแม่จ๋า ไม่มีใครช่วยอะไรได้อีกแล้ว ตั๋วไม่ฟรีเปลี่ยนชื่อไม่ได้ ยกเลิกไม่ได้ ย้ายไม่ได้ ทำไรไม่ได้แล้ว ต้องไปจริงๆแล้วครับ หลังจากการดีใจที่ได้ตั๋วฟรีไปพักใหญ่ ก็เป็นเรื่องเครียดไปอีกพักใหญ่เลยทีเดียวเชียวครับ ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรกก็คงไม่ไปแล้วครับ (จริงๆเค้าคงเช็คให้ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่เราก็ไม่ได้ให้เค้าเช็คให้) สรุปว่า ต้องไปตามแผนครับ
** คุ้มมากๆ บอกว่าแจกตั๋วฟรี แต่ไม่ฟรี ได้ขายตั๋วอีก 3 ใบ เจ๋งโพด
ร่ายมาซะยาว มาถึงแผนการเดินทางกันเลยดีกว่าครับ (แม่บ้านสุดที่รักผมทำการบ้านมาเยอะมากๆ นี่จึงเป็นอีกเหตผลนึงที่มาเขียนเรื่องนี้ เพื่อเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ที่ให้เรามาเช่นกันนะครับ) เราเลือกที่พัก ที่เที่ยว แล้วก็จัดตารางเวลาอีกทีนะครับ ก็ได้เป็นประมาณนี้
ออกเชียงใหม่เช้า 21 ถึงกระบี่ก่อนเที่ยง เช่ารถ 1 คัน วันนี้ขับรถเล่น ในแผนมี สุสานหอย ติดต่อทัวร์เกาะ เข้าที่พักทับแขกซันเซท (จองไว้ตั้งแต่เชียงใหม่ นอน 2 คืน)
22 เที่ยวเกาะห้อง
23 ย้ายไป Red ginger เที่ยวสี่เกาะ Dinner sunset 4 เกาะ
24 ย้ายไป ชานชเล เที่ยวป่าพรุท่าปอม น้ำตกร้อน สระมรกต เขาขนาบน้ำ หาอาหารทะเลกิน
25 เก็บของ กินอีกนิดหน่อย แล้วก็กลับบ้าน