หลักฐานโม่งผู้ฮุบดอนสวรรค์มาแล้ว.. ใครหนอมาดูกัน

ดอนสวรรค์ถือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนหวงแหน สงฆ์ใดลักทรัพย์แผ่นดิน น่าจะเข้าอาบัติข้อนี้

ปาราชิกอาบัติ พึงมีแก่ภิกษุผู้ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยอาการ ๕ อย่างคือ
ทรัพย์อันผู้อื่นหวงแหน ๑
มีความสำคัญว่าทรัพย์อันผู้อื่นหวงแหน ๑
ทรัพย์มีค่ามากได้ราคา ๕ มาสก หรือเกินกว่า ๕ มาสก ๑
ไถยจิตปรากฏขึ้น ๑ (คือ มีจิตที่คิดจะขโมย)
ภิกษุลูบคลำต้องอาบัติทุกกฎ ทำให้ไหวต้องอาบัติถุลลัจจัย ให้เคลื่อนจากฐานต้องอาบัติปาราชิก ๑.

ล่าสุดกระบวนการเพื่อออกโฉนดดอนสวรรค์ยังไม่หยุด เราจึงจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณชนเพื่อเป็นการเตือนว่า เราพร้อมทุกรูปแบบในการสู้กับท่าน ไม่ควรเดือดร้อนสงครามตัวแทน

เริ่มจากใบเสร็จกันก่อนนะครับ



พระมหาสมพรองค์นี้เป็นใคร ถึงกำลังจะเป็นว่าที่เจ้าอาวาสดอนสวรรค์?...

คำตอบ... ท่านเป็นมหา ป.ธ.9 จากวัดพระธรรมกาย สำเร็จเมื่อปี 2547 ปัจจุบันก็ยังสังกัดวัดพระธรรมกายอยู่ และเป็นทีมงานเครือข่ายคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ V-Star รุ่นแรก

แล้วทำไมท่านถึงจะมาดูแลดอนสวรรค์?

คำตอบ... เพราะก่อนเป็นว่าที่เจ้าอาวาสกลางปี 2554 ในช่วงปี 2553 สกลนครมีการตักบาตรหมื่นรูป และโครงการบวชแสนรูปครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่โครงการดังกล่าวเข้าไปใช้งานดอนสวรรค์จนถึงปีที่แล้ว 2555 ... กิจกรรมเหล่านี้แสดงถึงเจตนาของผู้ที่ต้องการนำดอนสวรรค์ไปใช้ประโยชน์

ก็แล้วขอใช้พื้นที่ดอนสวรรค์เฉยๆ ไม่ได้หรือ? ทำไมต้องมีวัดกลางหนองหาร ทำไมต้องมีนำร่องวัดร้างเป็นวัดรุ่งฉลองปีพุทธชยันตี?

คำตอบ... ก็เพราะมูลนิธิศึกษาธรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมในเครือข่ายโม่ง พยายามขอเช่าพื้นที่ดอนสวรรค์ 80 ไร่ เป็นเวลา 30 ปี.. แต่ไม่สำเร็จ

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ.. กลางปี 54 มีการตั้งว่าที่เจ้าอาวาสดังกล่าว จากนั้นเจ้าคณะภาค 8 ก็ยื่นเรื่องผ่านคณะกรรมาธิการศาสนาฯ ในช่วงพฤศจิกายนปีเดียวกัน ก่อนที่จะเป็นอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาวัดร้างฯ ที่มีประธานคือท่านประกอบ มีเลขานุการฯ คือท่านลีลาวดี และที่ปรึกษาคือว่าที่เจ้าอาวาสองค์นี้ ... เป้าหมายดำเนินการที่เรารับทราบข่าวกัน ก็คือความพยายามออกโฉนดที่ดินอย่างผิดกฎหมายตลอดปี 2555 จนเป็นเหตุให้ผู้ว่าฯ จังหวัดสกลนคร ขอเพิกถอนการออกโฉนด และขอเพิกถอนทะเบียนวัดร้าง

แต่กระบวนการคงไว้ซึ่งทะเบียนวัดร้างและพยายามออกโฉนดยังไม่ยุติ... คุณลีลาวดี ประชุมอนุกรรมาธิการฯ และแถลงว่า เรื่องนี้มหาสมพรรู้ดีที่สุด แต่วัดพระธรรมกาย ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของสงฆ์กับประชาชนในจังหวัดสกลนครทะเลาะกันเอง!! (สอดคล้องกับแถลงการของประชาสัมพันธ์วัด พระสนิทวงศ์)

คณะอนุกรรมาธิการฯ ยังพยายามดันเรื่องนี้ต่ออีกหลายเดือน จนกระทั่งประธานได้อนุญาตให้ตัวแทนกลุ่มรักษาดอนสวรรค์ฯ ได้เข้าไปให้ข้อมูลในการประชุมอนุกรรมาธิการฯ 8 ม.ค.56 ซึ่งต่อมาเป็นเหตุให้ยุบคณะอนุกรรมาธิการฯ ดังกล่าว และโอนเรื่องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการต่อ

สำนักพุทธชาติฯ ก็เข้มแข็งเหลือหลาย.. มีคำสั่งวันที่ 27 ก.พ.56 ให้ผู้ว่าฯ สั่งสำนักพุทธฯ จังหวัดสกลนคร หารือกับคณะสงฆ์ เพื่อชี้แจงประชาชนจังหวัดสกลนคร... คำสั่งนี้ถือเป็นการสั่งให้คนสกลนครทะเลาะกันเอง.. สมราคาองค์กรพุทธฯ ที่ใหญ่ที่สุดในบ้านเราจริงๆ

กลุ่มรักษาดอนสวรรค์ฯ (รดส.) จึงเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนได้ 2 หมื่นกว่าชื่อ (พร้อมลุยตามกฎหมาย) และเข้าเยี่ยมเยือนสำนักพุทธชาติฯ ที่พุทธมณฑลในวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา.. ผลการเจรจาก็คือ สำนักพุทธชาติฯ ท่านรับปากเราในการทบทวนการรับรองทะเบียนวัดร้างเมื่อปี 2547 ที่ดำเนินการโดยมิชอบ และจะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมที่สกลนคร รวมทั้งต่อมาได้ยกเลิกหนังสือฉบับวันที่ 27 ก.พ.56 (แต่ที่จริงหนังสือฉบับนี้แม้ไม่ยกเลิกก็ไม่มีผลบังคับใช้แต่อย่างใด เมื่อผลการสำรวจจากสำนักศิลปากรที่ 8 ออกมาว่าไม่มีสิ่งใดชี้ชัดว่ามีวัดโบราณอยู่บนดอนสวรรค์)

พวกเราดีใจนะครับที่ท่านมาตามนัดหลังวิสาขบูชา.. แต่ท่านไม่จริงใจ... ออกข่าวว่าท่านเป็นตัวกลางระหว่างกลุ่มผู้ประสงค์มีวัดและไม่มีวัดในดอนสวรรค์ รวมทั้งเพิ่งมาบอกว่า 31 พ.ค. 56 ท่านจะยื่นให้กฤษฎีกาตีความ ก่อนส่งข้อมูลทั้งหมดให้คณะกรรมการกลั่นกรองเพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมต่อไป

หนังสือที่ขอใช้บริการกฤษฎีกาตีความนั้น ยื่นไปตั้งแต่ 22 เมษายน 2556 ที่ท่านรับปากจะแก้ปัญหาแต่ต้องหลังวิสาขบูชา (3 สัปดาห์ถัดมา) ก็คือเพื่อยืดเวลาให้กฤษฎีกาตีความ รวมทั้งลงพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อฝั่งท่านเท่านั้น

เนื้อหาที่ยื่นให้กฤษฎีกาตีความก็น่าเกลียดอย่างยิ่ง... สรุปได้ว่า ท่านมีหลักฐาน 1,2,3 สรุปว่าเป็นวัด แต่อยากให้กฤษฎีกาตีความว่าเป็นวัดประเภทใดตามพระราชบัญญัติใด... ล๊อกคำตอบเสียจนลืมไปว่าคำถามแบบนี้แสดงความเขลาอย่างยิ่ง... เพราะถ้าหากท่านรู้ว่ามันเป็นวัดก็ควรระบุได้เองว่าเป็นวัดประเภทใดตามกฎหมายใด หากท่านบอกไม่รู้ประเภทและการอ้างอิงกฎหมายแล้ว ย่อมแสดงให้เห็นว่าที่ท่านสรุปนั้นเป็นการมั่วเอาเองทั้งสิ้น

เมื่อเป็นเช่นนี้... ที่สกลนครจึงรู้แน่ชัดว่าท่านเป็นอย่างไร... ในวันที่ 31 พ.ค.56 เราจึงยกระดับประกาศตัวพร้อม อบจ. และเทศบาลนครสกลนครว่าเราจะสู้กับท่าน และแม้ว่า สส.สกลนครบางท่านจะร่วมมือกับท่านอย่างชัดเจน และ สส.สกลนครเกือบทุกท่านวางเฉยเรื่องนี้ แต่เราจะไม่อยู่เฉยแน่นอน รวมถึง รศ.ดร.เอกพร รักความสุข ที่ประกาศพร้อมกลับมาเป็นนักการเมืองเพื่อรักษาแผ่นดินนี้ไว้แม้ไม่มีพรรคการเมืองสังกัด... แน่นอนว่าตอนนี้พวกเรากำลังเดินสายชี้แจงมวลชนทั้งจังหวัดอยู่

เหตุการณ์เหล่านี้... เปรียบเสมือนองค์กรพุทธขาใหญ่ของเราร่วมมือกับคณะสงฆ์บางส่วนเพื่อลักทรัพย์แผ่นดิน แถมยังเตรียมชงเรื่องไปให้ระดับมหาเถรสมาคมรับประกันเสียอีกว่าการลักทรัพย์แผ่นดินครั้งนี้เป็นการถูกต้อง... เป็นบาปของศาสนาและแผ่นดินจริงๆ

สำหรับแผนภาพด้านล่าง... เพื่อความเข้าใจนะครับว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ศาสนาพุทธ การเมืองท้องถิ่น จังหวัดสกลนคร
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่