ตอนที่โพสรูปสามพันโบกลงในเฟสบุ๊คเพื่อนๆ ของเราจะถามว่าที่นี่ที่ไหนอ่ะประเทศไทยจริงๆเหรอ
ก็ใช่นะซินี่แหละประเทศไทย(อยากจะบอกว่าดิฉันไม่มีปัญญาไปประเทศอื่นหรอกกกกก)
สำหรับนักเที่ยวทั้งหลายคงรู้จักสถานที่นี้กันดีอยู่แล้ว แต่ยังมีคนไทยอีกๆหลายๆคนที่ยังไม่รู้จักที่สวยๆแบบนี้
คืออยากจะถ่ายทอดผ่ารีวิวให้ทุกคนได้เห็นว่าประเทศไทยยังมีที่สวยๆอีกเยอะ
ทริปนี้เริ่มจากความอยากจะไปดูทุ่งดอกไม้ที่น้ำตกสร้อยสวรรค์ จังหวัดอุบลราชธานีค่ะ
หลังจากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลว่าอุบลมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง
ก็เลยได้สถานที่เที่ยวเพิ่มเตอมมาอีกนิดหน่อย ได้แก่
สามพันโบก หาดหงส์ ทุ่งดอกไม้น้ำตกสร้อยสวรรค์ ผาชะนะได น้ำตกลงรู และซืนวานช๊อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ของอุบล
แต่เรามีเวลาแค่ 3 วัน 2 คืนค่ะ ขับรถก็ 10 ชั่วโมงล่ะ แล้วจะเที่ยวทันมั้ยเนี่ย
ทริปนี้เราเดินทางกันสี่คนค่ะ ค่าใช้จ่ายตกคนละ 2,000 บาท เราว่าถูกม๊าก คุ้มค่ากับการเดินทางครั้งนี้
เราออกจากกรุงเทพ 9.00 โมงค่ะ ขับรถตรงดิ่งไปอุบล ไปถึง บ้านสวนณัชชนา ที่พักของเราก็ประมาณ 20.00 ค่ะ
ตอนแรกกะว่าจะกางเต้นท์นอนริมแม่น้ำโขงแต่อาจารย์เรืองประทินบอกว่าสถานที่ยังไม่พร้อม....อดเลย
ก็เลยนอนห้องพักคืนละ 900 บาท นอนได้ 3 คน แต่เรายัดเข้าไปนอน 4 คนเลย แล้วก็เพิ่มค่าห้องไปค่ะ
แต่ก็นอนสบายนะคะไม่แออัดเพราะนอนแปบเดียวเท่านั้นแหละ
ตอนแรกไปถึงที่บ้านสวนณัชชนาก็เงียบๆค่ะ แต่พออาจารย์เรืองประทินกลับมา
แกก็พาแขกออกไปถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือกสอนเทคนิคถ่ายรูปให้อีกสนุกสนานกันไป อาจารย์ใจดีค่ะ อัธยาศัยดีมาก
ก่อนเข้านอนอาจารย์ก็นัดแนะเวลาค่ะบอกว่าเจอกันพรุ่งนี้เช้า ตีห้าครึ่ง

แล้วจะต้องตื่นกี่โมงล่ะเนี่ย
ตอนแรกก็คิดว่าตั้งนาฬิกาปลุกไว้อย่างนั่นล่ะถ้าตื่นไม่ไหวก็ไม่ไปหรอก ปรากฏว่าตอนเช้านาฬิกายังไม่ทันปลุกก็ตื่นซะแล้ว
เวลาเที่ยวนี่ขยันนักเวลาทำงานขยันแบบนี้บ้างมั้ยน๊าาาาา
อาจารย์บอกว่าจะพาไป "ผาวัดใจ" เคยได้ยลภาพจากรีวิวของคนอื่นมาบ้างแล้ว
รู้สึกตื่นเต้นอยากไปวัดใจจริงๆเล๊ยยยย ขับรถออกมาจากบ้านสวนณัชชนาแป๊บเดียวแป๊บเดียวจริงๆค่ะ คือใกล้มาก
ก่อนจะเดินไปผาวัดใจเราก็เจอแสงทไวไลท์....ไทยลูกทุ่งแบบนี้ก่อน คุ้มค่ากับการตื่นตีห้าค่ะ (-_-)zzz
ในแม่น้ำยามเช้าขณะที่เรายังเมาขี้ตาอยู่นั้น เรือของชาวบ้านออกหาปลาแต่เช้ากันแล้ว
และขณะที่เรากรี๊ดกร๊าดกับวิวสวยๆแบบนี้
ชาวบ้านเค้าคงชินกับวิวแบบนี้ต่างจากเราที่ต้องออกเดินทางไกลแสนไกลเพื่อแสวงหาความสวยงามแบบนี้
และได้มีความสุขกับการนั่งชมพระอาทิตย์ยามเช้าบางคนเห็นวิวแบบนี้ก็ไม่รู้สึกอะไรนะค่ะแต่สำหรับเรารู้สึกมีความสุขมาก
อาจารย์เรียกแขกกรุ๊ปของเราชวนให้มากระโดดกันหน่อยเดี๋ยวอาจารย์ถ่ายรูปให้
ก็เลยจัดให้กระโดดซะแผ่นหินแทบแตก5555 (^0^)
นี่แหละจ้า "ผาวัดใจ" ไม่ค่อยสูงนะค่ะแต่ขาสั่น
นั่งไปฮัมเพลงวัดใจของซิลลี่ฟูลไปด้วย...เกี่ยวกันมั้ยถามจริง
นี่คือไกด์เด็กน้อยของเราในวันนี้เอาเรือมารับพวกเราแล้ว
บางคนไปผาวัดใจอาจจะกลับไปที่พักก่อนแล้วค่อยไปสามพันโบกตอนสาย
แต่เราอยากไปต่อเลยอาจารย์ก็เลยโทรเรียกเรือมารับที่ผาวัดใจเลยค่ะ
นั่งเรือมาสักพักก็ถึงแว้วววว ค๊า สามพันโบก
วันนี้คนค่อนข้างน้อยแต่ดีค่ะชอบ แต่แดดค่อนข้างแรงขนาดยังไม่เจ็ดโมงเช้าเลย
นี่คือสระมรกต สระมรกตไม่ได้มีแต่ที่กระบี่นะค่ะที่สามพันโบกก็มี
น้ำน่าเล่นมากเหมือนเป็นสระว่ายน้ำเลยแต่น้องๆไกด์ตัวน้อยเค้าบอกเห็นอย่างนี้มันลึกนะเพ่
โธ่ คิดว่าเราจะกลัวเหรอ......ก็กลัวนะซิคร๊าบใครลงก็บ้าแล้ว
รูปที่สามพันโบกค่อนข้างน้อยเพราะแดดมันร้อนมาก (เปล่าหรอกถ่ายมาแล้วแต่ทุเรศเกินกว่าจะเอามาลง 555)
นี่ไกด์ตัวน้อย (น้อยรึเปล่า) พาเที่ยวสามพันโบกของเราค่ะ
แวะมาเช็คอิน โบก "มิกกี้เม้าส์" สุดฮิตซะหน่อย แต่โบกมิกกี้ฟองเยอะไปหน่อยน่ะมีใครมาฉิ้งฉ่องไว้ป่ะเนี่ย
เสร็จกิจที่สามพันโบกก็นั่งเรือไปหาดหงส์ต่อเลย ตอนไปนี่ประมาณ 7 โมงกว่าๆ
แต่อยากจะบอกว่าร้อน! ร้อน! และร้อนมาก แนะนำว่าควรพกอุปกรณ์กันความร้อนไปด้วย
ตอนแรกกะว่าจะไม่ลงเพราะร้อนเหลือแต่พอเห็นหาดหงส์แล้วก็คิดว่าลงดีกว่าไปถ่ายรูปแอ๊บหลอกเพื่อนว่าไปทะเลซาฮ่าร่ามา

ข้อดีของแดดจัดๆก็คือถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยดีค่ะ *อย่าลืมใส่เสื้อผ้าสีสดๆไปนะค่ะจะได้ถ่ายรูปออกมาสวยๆ
เหมือนทะเลทรายเลยถ้ามีอูฐจะเวิร์คมาก...ถ้าไปคราวหน้าเช่าอูฐจากเขาดินวนาไปด้วยดีกว่า
ปิดท้ายสามพันโบกด้วยภาพนี้นะค่ะ
กลับจากสามพันโบกเราก็ทานอาหารเช้าที่บ้านสวนณัฐชนา
ทานเสร็จเราก็เก็บของเดินทางไปที่น้ำตกสร้อยสวรรค์ต่อกันเลยค่ะ จะได้ไปดูทุ่งดอกไม้ดังที่ตั้งใจไว้
พอถึงน้ำตกแล้วต้องเดินขึ้นไปด้านบนของน้ำตกแต่น้ำค่อนข้างจะแห้งแล้วค่ะ
ต้องปีนป่ายกันนิดนึง เพราะทางที่เค้ามีให้ดันไม่เดินแต่ไปเดินขึ้นมาจากทางน้ำตก
เดินสวนขึ้นไปก็เจอเด็กพวกนี้เล่นน้ำอยู่กระโดดลงมาจากหน้าผาเห็นแล้วเสี๊ยวเสียวค่ะเพราะมันสู๊งสูง

บ่อน้ำข้างล่างเล็กนิดเดียวเอง
จากที่เราปีนขึ้นมามันทะลุไปทุ่งดอกไม้ได้นะค่ะตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าจะได้แต่ถามน้องๆพวกนี้เค้าก็บอกว่าเดินไปได้ก็เลยลองไปดู
ขึ้นมาก็เจอทุ่งดอกไม้ทุ่ง 1 ค่ะ
สำหรับใครหวังว่าจะเจอทุ่งดอกไม้ดอกใหญ่ๆบานสะพรั่งความจริงมันไม่ใช่นะค่ะ
มันจะเป็นทุ่งดอกไม้ดอกเล็กๆที่อยู่รวมกันเป็นจำนวนมากเป็นทุ่งกว้างเลยค่ะ
แต่ไม่ได้ผิดหวังนะค่ะเพราะมันสวยค่ะเราชอบบวกกับฟ้าใสๆยิ่งสวยไปใหญ่
แต่อากาศที่นี่ร้อนมากค่ะเรามาถึงตอนบ่ายโมงแดดนี่แผดเผาสุดๆกรุณาเตรียมอุปกรณ์ป้องกันแดดมาด้วยนะค่ะ
ย้ำว่าร้อนจริงนะค่ะทำเอาหน้ามืดได้เลย ก็เลยถ่ายรูปได้ไม่มากเหมือนเดิม
อันนี้ดอกสีม่วงเข้มชื่อว่า "ดอกดุสิตา"
ส่วนอันนี้สีม่วงอ่อน "ดอกหงอนนาค"
"หญ้าน้ำค้าง" สีแดงสวยเหมือนมีน้ำค้างเกาะตลอดเวลาคงเป็นที่มาของชื่อนี้
อันนี้ไม่รู้ค่ะใครรู้ก็ช่วยบอกทีนะค่ะ
ส่วนอันนี้น่าจะเป็นหญ้ารากหอม เมื่อถอนขึ้นมาแล้วดมๆ จะได้กลิ่นที่รากนะคะ
แต่ถ้าไปเที่ยวอย่าดึงขึ้นมาดมกันนะคะขอแช่งล่วงหน้าใครดึงขอให้จู้ดๆ
ประมาณบ่ายสามเราก็ออกจากน้ำตกสร้อยสวรรค์มุ่งหน้าไปผาชะนะได
ใครจะไปค้างคืนที่ผาชะนะไดเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม ให้พร้อมนะค่ะเพราะข้างบนไม่มีร้านขายอะไรเลย
ไม่มีเลยจริงๆถ้าไม่เตรียมไปอดแน่ค่ะ
ทางขึ้นผาชะนะไดค่อนข้างลำบากค่ะเหมือนขับรถบนลานหิน ภูมิประเทศแปลกดีค่ะ
ไปเที่ยวมาไม่เคยมีที่ไหนต้องขับรถบนลานหินแแบบนี้เลย
แนะนำให้ใช้รถ 4WD นะค่ะ และคนขับก็ควรมีประสบการณ์ด้วยค่ะ ทางไม้ยากแต่ลำบากนิดหน่อย
เส้นทางขึ้นผาชะนะได เริ่มจากสุดถนนราดยางตรงปากทางเข้าวัดถ้ำปาฏิหารย์
เป็นระยะทางประมาณ 15 กิโล แต่ใช้เวลา เกือบ 2 ชั่วโมง
แต่ในที่สุดเราก็มาถึง กางเต้นท์เตรียมตัวนอนหนาวดูดาวคืนนี้
พอขึ้นไปตะลึงนิดหน่อยโอ้โหคนเยอะจัง เห็นทางขึ้นทุระกันดารไม่คิดว่าจะมีคนขึ้นมาเยอะขนาดนี้
พอท้องฟ้าเริ่มมืดดาวก็เต็มท้องฟ้าเลยค่ะแต่เสียดายอากาศไม่ค่อยหนาวเลย
ถุงนงถุงนอนเสื้อหนาวขนไปเต็มที่ไม่ได้ใช้เลย
ถ่ายภาพดาวมาได้แค่นี้นะค่ะถ่ายไม่เป็นค่ะ
คืนนี้เราพยายามจะรีบเข้านอนเพื่อจะได้ตื่นแต่เช้าไปดูแสงแรกของประเทศไทยกัน
"พรุ่งนี้เช้าพระอาทิตย์ที่ผาชะนะไดเวลาหกจุดสามศูนย์นอ" ใครเคยฟังวิทยุแล้วได้ยินประโยคนี้บ้างค่ะ
พรุ่งนี้เช้าเราาจะตามเสียงนั่นไปดูขอจริงกันค่ะ
โดยส่วนตัวเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดจะชอบรอดูตอนพระอาทิตย์ตกกับตอนพระอาทิตย์ขึ้นมากๆ
ขนาดปกติเป็นคนขี้เกียจตื่นมากแต่เพื่อจะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นนี่แทบไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุกเลยค่ะ
สงสารแต่เพื่อนร่วมทริปที่ต้องมาแหกขี้ตาดูกับเราด้วย แต่เชื่อเถอะน่ามันสวยจริงๆอยากให้เห็นของดีๆกัน
[CR] ♥....เที่ยวอุบล ชมทุ่งดอกไม้ ไปสามพันโบก นอนผาชะนะได ไถลไป"ซืนวาน"....♥
ก็ใช่นะซินี่แหละประเทศไทย(อยากจะบอกว่าดิฉันไม่มีปัญญาไปประเทศอื่นหรอกกกกก)
สำหรับนักเที่ยวทั้งหลายคงรู้จักสถานที่นี้กันดีอยู่แล้ว แต่ยังมีคนไทยอีกๆหลายๆคนที่ยังไม่รู้จักที่สวยๆแบบนี้
คืออยากจะถ่ายทอดผ่ารีวิวให้ทุกคนได้เห็นว่าประเทศไทยยังมีที่สวยๆอีกเยอะ
ทริปนี้เริ่มจากความอยากจะไปดูทุ่งดอกไม้ที่น้ำตกสร้อยสวรรค์ จังหวัดอุบลราชธานีค่ะ
หลังจากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลว่าอุบลมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง
ก็เลยได้สถานที่เที่ยวเพิ่มเตอมมาอีกนิดหน่อย ได้แก่
สามพันโบก หาดหงส์ ทุ่งดอกไม้น้ำตกสร้อยสวรรค์ ผาชะนะได น้ำตกลงรู และซืนวานช๊อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ของอุบล
แต่เรามีเวลาแค่ 3 วัน 2 คืนค่ะ ขับรถก็ 10 ชั่วโมงล่ะ แล้วจะเที่ยวทันมั้ยเนี่ย
ทริปนี้เราเดินทางกันสี่คนค่ะ ค่าใช้จ่ายตกคนละ 2,000 บาท เราว่าถูกม๊าก คุ้มค่ากับการเดินทางครั้งนี้
เราออกจากกรุงเทพ 9.00 โมงค่ะ ขับรถตรงดิ่งไปอุบล ไปถึง บ้านสวนณัชชนา ที่พักของเราก็ประมาณ 20.00 ค่ะ
ตอนแรกกะว่าจะกางเต้นท์นอนริมแม่น้ำโขงแต่อาจารย์เรืองประทินบอกว่าสถานที่ยังไม่พร้อม....อดเลย
ก็เลยนอนห้องพักคืนละ 900 บาท นอนได้ 3 คน แต่เรายัดเข้าไปนอน 4 คนเลย แล้วก็เพิ่มค่าห้องไปค่ะ
แต่ก็นอนสบายนะคะไม่แออัดเพราะนอนแปบเดียวเท่านั้นแหละ
ตอนแรกไปถึงที่บ้านสวนณัชชนาก็เงียบๆค่ะ แต่พออาจารย์เรืองประทินกลับมา
แกก็พาแขกออกไปถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือกสอนเทคนิคถ่ายรูปให้อีกสนุกสนานกันไป อาจารย์ใจดีค่ะ อัธยาศัยดีมาก
ก่อนเข้านอนอาจารย์ก็นัดแนะเวลาค่ะบอกว่าเจอกันพรุ่งนี้เช้า ตีห้าครึ่ง
ตอนแรกก็คิดว่าตั้งนาฬิกาปลุกไว้อย่างนั่นล่ะถ้าตื่นไม่ไหวก็ไม่ไปหรอก ปรากฏว่าตอนเช้านาฬิกายังไม่ทันปลุกก็ตื่นซะแล้ว
เวลาเที่ยวนี่ขยันนักเวลาทำงานขยันแบบนี้บ้างมั้ยน๊าาาาา
อาจารย์บอกว่าจะพาไป "ผาวัดใจ" เคยได้ยลภาพจากรีวิวของคนอื่นมาบ้างแล้ว
รู้สึกตื่นเต้นอยากไปวัดใจจริงๆเล๊ยยยย ขับรถออกมาจากบ้านสวนณัชชนาแป๊บเดียวแป๊บเดียวจริงๆค่ะ คือใกล้มาก
ก่อนจะเดินไปผาวัดใจเราก็เจอแสงทไวไลท์....ไทยลูกทุ่งแบบนี้ก่อน คุ้มค่ากับการตื่นตีห้าค่ะ (-_-)zzz
ในแม่น้ำยามเช้าขณะที่เรายังเมาขี้ตาอยู่นั้น เรือของชาวบ้านออกหาปลาแต่เช้ากันแล้ว
และขณะที่เรากรี๊ดกร๊าดกับวิวสวยๆแบบนี้
ชาวบ้านเค้าคงชินกับวิวแบบนี้ต่างจากเราที่ต้องออกเดินทางไกลแสนไกลเพื่อแสวงหาความสวยงามแบบนี้
และได้มีความสุขกับการนั่งชมพระอาทิตย์ยามเช้าบางคนเห็นวิวแบบนี้ก็ไม่รู้สึกอะไรนะค่ะแต่สำหรับเรารู้สึกมีความสุขมาก
อาจารย์เรียกแขกกรุ๊ปของเราชวนให้มากระโดดกันหน่อยเดี๋ยวอาจารย์ถ่ายรูปให้
ก็เลยจัดให้กระโดดซะแผ่นหินแทบแตก5555 (^0^)
นี่แหละจ้า "ผาวัดใจ" ไม่ค่อยสูงนะค่ะแต่ขาสั่น
นั่งไปฮัมเพลงวัดใจของซิลลี่ฟูลไปด้วย...เกี่ยวกันมั้ยถามจริง
นี่คือไกด์เด็กน้อยของเราในวันนี้เอาเรือมารับพวกเราแล้ว
บางคนไปผาวัดใจอาจจะกลับไปที่พักก่อนแล้วค่อยไปสามพันโบกตอนสาย
แต่เราอยากไปต่อเลยอาจารย์ก็เลยโทรเรียกเรือมารับที่ผาวัดใจเลยค่ะ
นั่งเรือมาสักพักก็ถึงแว้วววว ค๊า สามพันโบก
วันนี้คนค่อนข้างน้อยแต่ดีค่ะชอบ แต่แดดค่อนข้างแรงขนาดยังไม่เจ็ดโมงเช้าเลย
นี่คือสระมรกต สระมรกตไม่ได้มีแต่ที่กระบี่นะค่ะที่สามพันโบกก็มี
น้ำน่าเล่นมากเหมือนเป็นสระว่ายน้ำเลยแต่น้องๆไกด์ตัวน้อยเค้าบอกเห็นอย่างนี้มันลึกนะเพ่
โธ่ คิดว่าเราจะกลัวเหรอ......ก็กลัวนะซิคร๊าบใครลงก็บ้าแล้ว
รูปที่สามพันโบกค่อนข้างน้อยเพราะแดดมันร้อนมาก (เปล่าหรอกถ่ายมาแล้วแต่ทุเรศเกินกว่าจะเอามาลง 555)
นี่ไกด์ตัวน้อย (น้อยรึเปล่า) พาเที่ยวสามพันโบกของเราค่ะ
แวะมาเช็คอิน โบก "มิกกี้เม้าส์" สุดฮิตซะหน่อย แต่โบกมิกกี้ฟองเยอะไปหน่อยน่ะมีใครมาฉิ้งฉ่องไว้ป่ะเนี่ย
เสร็จกิจที่สามพันโบกก็นั่งเรือไปหาดหงส์ต่อเลย ตอนไปนี่ประมาณ 7 โมงกว่าๆ
แต่อยากจะบอกว่าร้อน! ร้อน! และร้อนมาก แนะนำว่าควรพกอุปกรณ์กันความร้อนไปด้วย
ตอนแรกกะว่าจะไม่ลงเพราะร้อนเหลือแต่พอเห็นหาดหงส์แล้วก็คิดว่าลงดีกว่าไปถ่ายรูปแอ๊บหลอกเพื่อนว่าไปทะเลซาฮ่าร่ามา
ข้อดีของแดดจัดๆก็คือถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยดีค่ะ *อย่าลืมใส่เสื้อผ้าสีสดๆไปนะค่ะจะได้ถ่ายรูปออกมาสวยๆ
เหมือนทะเลทรายเลยถ้ามีอูฐจะเวิร์คมาก...ถ้าไปคราวหน้าเช่าอูฐจากเขาดินวนาไปด้วยดีกว่า
ปิดท้ายสามพันโบกด้วยภาพนี้นะค่ะ
กลับจากสามพันโบกเราก็ทานอาหารเช้าที่บ้านสวนณัฐชนา
ทานเสร็จเราก็เก็บของเดินทางไปที่น้ำตกสร้อยสวรรค์ต่อกันเลยค่ะ จะได้ไปดูทุ่งดอกไม้ดังที่ตั้งใจไว้
พอถึงน้ำตกแล้วต้องเดินขึ้นไปด้านบนของน้ำตกแต่น้ำค่อนข้างจะแห้งแล้วค่ะ
ต้องปีนป่ายกันนิดนึง เพราะทางที่เค้ามีให้ดันไม่เดินแต่ไปเดินขึ้นมาจากทางน้ำตก
เดินสวนขึ้นไปก็เจอเด็กพวกนี้เล่นน้ำอยู่กระโดดลงมาจากหน้าผาเห็นแล้วเสี๊ยวเสียวค่ะเพราะมันสู๊งสูง
บ่อน้ำข้างล่างเล็กนิดเดียวเอง
จากที่เราปีนขึ้นมามันทะลุไปทุ่งดอกไม้ได้นะค่ะตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าจะได้แต่ถามน้องๆพวกนี้เค้าก็บอกว่าเดินไปได้ก็เลยลองไปดู
ขึ้นมาก็เจอทุ่งดอกไม้ทุ่ง 1 ค่ะ
สำหรับใครหวังว่าจะเจอทุ่งดอกไม้ดอกใหญ่ๆบานสะพรั่งความจริงมันไม่ใช่นะค่ะ
มันจะเป็นทุ่งดอกไม้ดอกเล็กๆที่อยู่รวมกันเป็นจำนวนมากเป็นทุ่งกว้างเลยค่ะ
แต่ไม่ได้ผิดหวังนะค่ะเพราะมันสวยค่ะเราชอบบวกกับฟ้าใสๆยิ่งสวยไปใหญ่
แต่อากาศที่นี่ร้อนมากค่ะเรามาถึงตอนบ่ายโมงแดดนี่แผดเผาสุดๆกรุณาเตรียมอุปกรณ์ป้องกันแดดมาด้วยนะค่ะ
ย้ำว่าร้อนจริงนะค่ะทำเอาหน้ามืดได้เลย ก็เลยถ่ายรูปได้ไม่มากเหมือนเดิม
อันนี้ดอกสีม่วงเข้มชื่อว่า "ดอกดุสิตา"
ส่วนอันนี้สีม่วงอ่อน "ดอกหงอนนาค"
"หญ้าน้ำค้าง" สีแดงสวยเหมือนมีน้ำค้างเกาะตลอดเวลาคงเป็นที่มาของชื่อนี้
อันนี้ไม่รู้ค่ะใครรู้ก็ช่วยบอกทีนะค่ะ
ส่วนอันนี้น่าจะเป็นหญ้ารากหอม เมื่อถอนขึ้นมาแล้วดมๆ จะได้กลิ่นที่รากนะคะ
แต่ถ้าไปเที่ยวอย่าดึงขึ้นมาดมกันนะคะขอแช่งล่วงหน้าใครดึงขอให้จู้ดๆ
ประมาณบ่ายสามเราก็ออกจากน้ำตกสร้อยสวรรค์มุ่งหน้าไปผาชะนะได
ใครจะไปค้างคืนที่ผาชะนะไดเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม ให้พร้อมนะค่ะเพราะข้างบนไม่มีร้านขายอะไรเลย
ไม่มีเลยจริงๆถ้าไม่เตรียมไปอดแน่ค่ะ
ทางขึ้นผาชะนะไดค่อนข้างลำบากค่ะเหมือนขับรถบนลานหิน ภูมิประเทศแปลกดีค่ะ
ไปเที่ยวมาไม่เคยมีที่ไหนต้องขับรถบนลานหินแแบบนี้เลย
แนะนำให้ใช้รถ 4WD นะค่ะ และคนขับก็ควรมีประสบการณ์ด้วยค่ะ ทางไม้ยากแต่ลำบากนิดหน่อย
เส้นทางขึ้นผาชะนะได เริ่มจากสุดถนนราดยางตรงปากทางเข้าวัดถ้ำปาฏิหารย์
เป็นระยะทางประมาณ 15 กิโล แต่ใช้เวลา เกือบ 2 ชั่วโมง
แต่ในที่สุดเราก็มาถึง กางเต้นท์เตรียมตัวนอนหนาวดูดาวคืนนี้
พอขึ้นไปตะลึงนิดหน่อยโอ้โหคนเยอะจัง เห็นทางขึ้นทุระกันดารไม่คิดว่าจะมีคนขึ้นมาเยอะขนาดนี้
พอท้องฟ้าเริ่มมืดดาวก็เต็มท้องฟ้าเลยค่ะแต่เสียดายอากาศไม่ค่อยหนาวเลย
ถุงนงถุงนอนเสื้อหนาวขนไปเต็มที่ไม่ได้ใช้เลย
ถ่ายภาพดาวมาได้แค่นี้นะค่ะถ่ายไม่เป็นค่ะ
คืนนี้เราพยายามจะรีบเข้านอนเพื่อจะได้ตื่นแต่เช้าไปดูแสงแรกของประเทศไทยกัน
"พรุ่งนี้เช้าพระอาทิตย์ที่ผาชะนะไดเวลาหกจุดสามศูนย์นอ" ใครเคยฟังวิทยุแล้วได้ยินประโยคนี้บ้างค่ะ
พรุ่งนี้เช้าเราาจะตามเสียงนั่นไปดูขอจริงกันค่ะ
โดยส่วนตัวเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดจะชอบรอดูตอนพระอาทิตย์ตกกับตอนพระอาทิตย์ขึ้นมากๆ
ขนาดปกติเป็นคนขี้เกียจตื่นมากแต่เพื่อจะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นนี่แทบไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุกเลยค่ะ
สงสารแต่เพื่อนร่วมทริปที่ต้องมาแหกขี้ตาดูกับเราด้วย แต่เชื่อเถอะน่ามันสวยจริงๆอยากให้เห็นของดีๆกัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น