กระทู้นี้ ขอแบบบ่นไปเรื่อย ๆ นะครับ ไม่อ้างข้อมูลอะไรแล้วกัน เพราะประมวลจากข่าวเรื่องเงินกับการจำนำข้าวในช่วงหลายวันนี้
เท่าที่ตามข่าวมา ก็สรุปได้ง่าย ๆ ว่า รัฐบาลมีปัญหาเรื่องการหาเงินมารับจำนำ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ ไม่สามารถระบายข้าวได้ตามที่พยายามโม้เอาไว้ จากเดิมเงินที่คาดว่าจะได้จากการขายข้าว เมื่อรวมกับเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจะค้ำประกันให้อีก 150,000 ล้านบาท นั้น จะพอสำหรับการรับจำนำข้าว 2 รอบ ปริมาณ 26 ล้านตัน เป็นเงิน 405,000 ล้านบาท
แต่พอเงินที่ได้จากการขายข้าว ไม่สามารถทำได้ตามนั้น ก็จะไปบีบบังคับให้ ธกส.ไปหาทางหาเงินมาเสริมเติมให้ได้เงินตามยอดเดิมให้ได้ ธกส.ก็ไม่รับมุข อย่างมากก็ยอมให้เบิกเกินบัญชีเล็กน้อยชั่วคราวแค่นั้น เพราะเท่าที่เป็นอยู่ ก็ใช้เงินของ ธกส.ไปแล้ว 90,000 ล้านบาทแล้ว
ซึ่งเมื่อมีปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้น รัฐบาลแทนที่จะห่วงใยกับชาวนาที่เกิดปัญหา ก็ยังไม่เห็นรัฐมนตรีคนไหน ออกมาให้ข่าวในเชิงจะช่วยเหลือชาวนาที่เจอปัญหา มีแต่กระทรวงพาณิชย์ ออกมาให้ข่าว ในแนวที่ว่า เมื่อมีภัยแล้ง ก็ทำให้ผลผลิตข้าวน้อยลง ทำให้รอบแรก จากที่คาดการณ์ไว้ จะมีข้าวมาจำนำ 15 ล้านตัน ก็เหลือประมาณ 11 ล้านตัน เท่านั้น และรอบสอง ที่เดิมคาดว่าจะมีข้าวมาจำนำ 11 ล้านตัน ตอนนี้ก็คาดใหม่ว่าจะเหลือข้าวมาจำนำเพียง 6-7 ล้านตัน
ปริมาณข้าวที่ลดไปประมาณ 7 ล้านตัน ก็ทำให้มีความต้องการเงินในการรับจำนำลดลงไปประมาณ 100,000 ล้านบาท เหลือไม่เกิน 300,000 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า จากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ควรจะขายข้าวให้ได้เงิน 260,000 ล้านบาท ก็มีภาระหาเงินมาเพิ่มเพียง 150,000 ล้านบาท หรือลดลงไปถึง 110,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ ก็ยังมีเงินพอรับจำนำ
ดังนั้นตอนนี้ข่าวที่ออกมา ก็ดูเหมือนจะไปแนวนี้ คือ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินที่จะนำไปรับจำนำแล้ว ไม่ต้องกู้เพิ่ม ไม่ต้องดึงสภาพคล่องของธกส.มาเพิ่ม ไม่ต้องลดราคารับจำนำ ฯลฯ
แต่ความช่วยเหลือที่จะมีไปถึงเจ้าของข้าว ที่รัฐอ้างว่าเสียหายจากภัยแล้ง ถึง 7 ล้านตันนั้น กลับไม่มีการพูดถึงจากหน่วยงานใดเลย (ตามข่าวนะครับ )
และจริง ๆ แล้ว ผมเชื่อว่า ภัยแล้ง ไม่ได้ทำให้ข้าวเสียหายมากขนาดนั้น และถึงแม้เสียหายมากขนาดนั้น ก็ไม่ทำให้ยอดรับจำนำข้าว ลดลงเหลือรวมไม่เกิน 18 ล้านตันแบบนี้แน่นอน
เพราะจากปีที่แล้ว มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม พื้นที่นาเสียหายเกือบ 10 ล้านไร่ ข้าวเสียหายไป 7-8 ล้านตัน แต่ทั้งปีก็ยังมีข้าวมาเข้าโครงการจำนำ ถึง 21 ล้านตัน
ดังนั้น ถ้าปีนี้เจอภัยแล้งเสียหายไป 7 ล้านตัน (ก็คงเท่ากับที่ปีก่อนเสียหายเพราะน้ำท่วม) ก็น่าจะมีข้าวมาเข้าโครงการไม่ต่ำกว่า 21 ล้านตันเหมือนเดิม
หรือเงินของรัฐบาลก็ยังขาดอีกสำหรับข้าว 3 ล้านตันอยู่ดี
แต่ตอนนี้รัฐบาล สรุปตัวเลขแล้วว่า ปีนี้จะรับจำนำข้าวโดยใช้เงินไม่เกิน 3 แสนล้านบาท แล้วก็พยายามหาข้ออ้างต่าง ๆ มาเพื่อที่จะทำให้มีข้าวมาเข้าโครงการรับจำนำน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ยอมประชุม กขช. เพื่อกำหนดเกณฑ์การรับจำนำรอบใหม่ การไม่ยอมเปิดพื้นที่ว่าง ให้ชาวนาสามารถนำข้าวไปจำนำได้ ทำให้ตัวเลขการจำนำข้าว แทบไม่ขยับเลย ในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่สองเดือนนี้ พื้นที่เก็บเกี่ยวอยู่บริเวณใกล้ ๆ กรุงเทพแล้ว ก็น่าจะมีข้าวปริมาณไม่น้อย ที่จะเข้าโครงการรับจำนำ และคงไม่เสียหายเพราะภัยแล้งแน่ ๆ
ก็เดาได้อย่างเดียวคือ เกี่ยวแล้วจำนำไม่ได้ ก็ต้องขายไปให้โรงสี ทำให้ตัวเลขยอดรวมจำนำ ไม่ขยับ ทำให้ความเดือดร้อนเรื่องเงินที่ต้องจ่ายผ่อนคลายลงไป
และรอบใหม่ เมื่อประชุมช้า อาจจะเปิดโครงการช้า ก็จะมีผลให้ชาวนาที่เก็บเกี่ยวได้เร็ว แต่ไม่สามารถจำนำได้ ก็ต้องขายไปก่อน ก็ทำให้ยอดรวมข้าวเข้าโครงการลดลง ตามที่รัฐบาลตั้งความหวังไว้
สรุปคือ การสร้างวาทกรรมภัยแล้งทำให้ข้าวมีน้อย เลยจำนำน้อย เป็นแค่มุขเอาตัวรอดของรัฐบาล ที่ไม่มีปัญญารับจำนำทุกเมล็ดได้ ก็เลยต้องหาทางเลี่ยง ดึงเวลาทุกขั้นตอนทำให้ชาวนาทนรอไม่ไหว ทำให้ชาวนาที่อยากจะจำนำ แต่รอไม่ได้ ต้องขายให้คนซื้อคนอื่นไป ลดภาระการรับจำนำของรัฐบาลให้มากที่สุด
ผมเลยคิดว่า ถ้าเรื่องที่ผมบ่นมาเป็นเรื่องจริง ก็เป็นการเอาตัวรอดแบบไร้ความรับผิดชอบมากที่สุด มีปัญหาไม่แก้ปัญหา แต่หนีปัญหา ให้ชาวนาไปแก้ปัญหาเอง
ออกตัวส่งท้ายอีกครั้ง กระทู้นี้ไม่มีข้อมูลอ้างอิง ประมวลผลจากข่าวในช่วงหลายวันนี้ แล้วมามโนภาพเอา ก็หวังว่า คงไม่ใช่อย่างผมคิด
รัฐบาลโล่งอก ภัยแล้งทำให้มีข้าวมาจำนำน้อย
เท่าที่ตามข่าวมา ก็สรุปได้ง่าย ๆ ว่า รัฐบาลมีปัญหาเรื่องการหาเงินมารับจำนำ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ ไม่สามารถระบายข้าวได้ตามที่พยายามโม้เอาไว้ จากเดิมเงินที่คาดว่าจะได้จากการขายข้าว เมื่อรวมกับเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจะค้ำประกันให้อีก 150,000 ล้านบาท นั้น จะพอสำหรับการรับจำนำข้าว 2 รอบ ปริมาณ 26 ล้านตัน เป็นเงิน 405,000 ล้านบาท
แต่พอเงินที่ได้จากการขายข้าว ไม่สามารถทำได้ตามนั้น ก็จะไปบีบบังคับให้ ธกส.ไปหาทางหาเงินมาเสริมเติมให้ได้เงินตามยอดเดิมให้ได้ ธกส.ก็ไม่รับมุข อย่างมากก็ยอมให้เบิกเกินบัญชีเล็กน้อยชั่วคราวแค่นั้น เพราะเท่าที่เป็นอยู่ ก็ใช้เงินของ ธกส.ไปแล้ว 90,000 ล้านบาทแล้ว
ซึ่งเมื่อมีปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้น รัฐบาลแทนที่จะห่วงใยกับชาวนาที่เกิดปัญหา ก็ยังไม่เห็นรัฐมนตรีคนไหน ออกมาให้ข่าวในเชิงจะช่วยเหลือชาวนาที่เจอปัญหา มีแต่กระทรวงพาณิชย์ ออกมาให้ข่าว ในแนวที่ว่า เมื่อมีภัยแล้ง ก็ทำให้ผลผลิตข้าวน้อยลง ทำให้รอบแรก จากที่คาดการณ์ไว้ จะมีข้าวมาจำนำ 15 ล้านตัน ก็เหลือประมาณ 11 ล้านตัน เท่านั้น และรอบสอง ที่เดิมคาดว่าจะมีข้าวมาจำนำ 11 ล้านตัน ตอนนี้ก็คาดใหม่ว่าจะเหลือข้าวมาจำนำเพียง 6-7 ล้านตัน
ปริมาณข้าวที่ลดไปประมาณ 7 ล้านตัน ก็ทำให้มีความต้องการเงินในการรับจำนำลดลงไปประมาณ 100,000 ล้านบาท เหลือไม่เกิน 300,000 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า จากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ควรจะขายข้าวให้ได้เงิน 260,000 ล้านบาท ก็มีภาระหาเงินมาเพิ่มเพียง 150,000 ล้านบาท หรือลดลงไปถึง 110,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ ก็ยังมีเงินพอรับจำนำ
ดังนั้นตอนนี้ข่าวที่ออกมา ก็ดูเหมือนจะไปแนวนี้ คือ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินที่จะนำไปรับจำนำแล้ว ไม่ต้องกู้เพิ่ม ไม่ต้องดึงสภาพคล่องของธกส.มาเพิ่ม ไม่ต้องลดราคารับจำนำ ฯลฯ
แต่ความช่วยเหลือที่จะมีไปถึงเจ้าของข้าว ที่รัฐอ้างว่าเสียหายจากภัยแล้ง ถึง 7 ล้านตันนั้น กลับไม่มีการพูดถึงจากหน่วยงานใดเลย (ตามข่าวนะครับ )
และจริง ๆ แล้ว ผมเชื่อว่า ภัยแล้ง ไม่ได้ทำให้ข้าวเสียหายมากขนาดนั้น และถึงแม้เสียหายมากขนาดนั้น ก็ไม่ทำให้ยอดรับจำนำข้าว ลดลงเหลือรวมไม่เกิน 18 ล้านตันแบบนี้แน่นอน
เพราะจากปีที่แล้ว มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม พื้นที่นาเสียหายเกือบ 10 ล้านไร่ ข้าวเสียหายไป 7-8 ล้านตัน แต่ทั้งปีก็ยังมีข้าวมาเข้าโครงการจำนำ ถึง 21 ล้านตัน
ดังนั้น ถ้าปีนี้เจอภัยแล้งเสียหายไป 7 ล้านตัน (ก็คงเท่ากับที่ปีก่อนเสียหายเพราะน้ำท่วม) ก็น่าจะมีข้าวมาเข้าโครงการไม่ต่ำกว่า 21 ล้านตันเหมือนเดิม
หรือเงินของรัฐบาลก็ยังขาดอีกสำหรับข้าว 3 ล้านตันอยู่ดี
แต่ตอนนี้รัฐบาล สรุปตัวเลขแล้วว่า ปีนี้จะรับจำนำข้าวโดยใช้เงินไม่เกิน 3 แสนล้านบาท แล้วก็พยายามหาข้ออ้างต่าง ๆ มาเพื่อที่จะทำให้มีข้าวมาเข้าโครงการรับจำนำน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ยอมประชุม กขช. เพื่อกำหนดเกณฑ์การรับจำนำรอบใหม่ การไม่ยอมเปิดพื้นที่ว่าง ให้ชาวนาสามารถนำข้าวไปจำนำได้ ทำให้ตัวเลขการจำนำข้าว แทบไม่ขยับเลย ในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่สองเดือนนี้ พื้นที่เก็บเกี่ยวอยู่บริเวณใกล้ ๆ กรุงเทพแล้ว ก็น่าจะมีข้าวปริมาณไม่น้อย ที่จะเข้าโครงการรับจำนำ และคงไม่เสียหายเพราะภัยแล้งแน่ ๆ
ก็เดาได้อย่างเดียวคือ เกี่ยวแล้วจำนำไม่ได้ ก็ต้องขายไปให้โรงสี ทำให้ตัวเลขยอดรวมจำนำ ไม่ขยับ ทำให้ความเดือดร้อนเรื่องเงินที่ต้องจ่ายผ่อนคลายลงไป
และรอบใหม่ เมื่อประชุมช้า อาจจะเปิดโครงการช้า ก็จะมีผลให้ชาวนาที่เก็บเกี่ยวได้เร็ว แต่ไม่สามารถจำนำได้ ก็ต้องขายไปก่อน ก็ทำให้ยอดรวมข้าวเข้าโครงการลดลง ตามที่รัฐบาลตั้งความหวังไว้
สรุปคือ การสร้างวาทกรรมภัยแล้งทำให้ข้าวมีน้อย เลยจำนำน้อย เป็นแค่มุขเอาตัวรอดของรัฐบาล ที่ไม่มีปัญญารับจำนำทุกเมล็ดได้ ก็เลยต้องหาทางเลี่ยง ดึงเวลาทุกขั้นตอนทำให้ชาวนาทนรอไม่ไหว ทำให้ชาวนาที่อยากจะจำนำ แต่รอไม่ได้ ต้องขายให้คนซื้อคนอื่นไป ลดภาระการรับจำนำของรัฐบาลให้มากที่สุด
ผมเลยคิดว่า ถ้าเรื่องที่ผมบ่นมาเป็นเรื่องจริง ก็เป็นการเอาตัวรอดแบบไร้ความรับผิดชอบมากที่สุด มีปัญหาไม่แก้ปัญหา แต่หนีปัญหา ให้ชาวนาไปแก้ปัญหาเอง
ออกตัวส่งท้ายอีกครั้ง กระทู้นี้ไม่มีข้อมูลอ้างอิง ประมวลผลจากข่าวในช่วงหลายวันนี้ แล้วมามโนภาพเอา ก็หวังว่า คงไม่ใช่อย่างผมคิด